|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),ยาเสพติด,ยาบ้า,แม่ฮ่องสอน |
Author |
สารภี ศิลา, บุญชนะ ทองแสน, อิฐศักดิ์ ศรีสุโข |
Title |
การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ไม่ใช่ฝิ่นในชุมชนชาวเขากรณีศึกษา: การใช้สารเสพติดประเภทยาม้าในชุมชนกะเหรี่ยงเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
ปกาเกอะญอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
64 |
Year |
2534 |
Source |
สถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการพัฒนาเขตพื้นที่สูงไทย-ออสเตรเลีย |
Abstract |
รายงานนี้เป็นการศึกษาการแพร่ระบาดยาบ้าในชุมชนกะเหรี่ยงเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยเปรียบเทียบกับหมู่บ้านแม่โถ ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ผลการวิจัยบ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของยาบ้าเกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจระบบใหม่ที่ผูกพันกับตลาดนอกหมู่บ้าน การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจจากแบบพึ่งตนเองมาสู่ระบบเศรษฐกิจแบบใหม่เป็นปัจจัยที่ทำให้กะเหรี่ยงรับยาบ้าเข้ามาใช้ในวิถีชีวิต (บทคัดย่อ) การหันมาปลูกกะหล่ำปลีเป็นพืชเศรษฐกิจหลักปีละ 3 ครั้ง ทำให้ต้องการแรงงานจำนวนมากในการผลิตทั้งในช่วงการเตรียมดิน เพาะกล้า และเก็บผลผลิต (หน้า 39-40) ทั้งนี้คณะวิจัยเห็นว่า ความต้องการเงินรายได้เพิ่ม และการขาดความรู้เกี่ยวกับยาบ้า การเข้าถึงแหล่งขายยาบ้าได้ง่าย รวมทั้งนิสัยบุคลิกภาพของกลุ่มชาติพันธุ์เป็นสาเหตุหลักของการใช้ยาบ้า ส่วนการแก้ไขการแพร่ระบาดนั้น คณะวิจัยเห็นว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 4 กระทรวงหลักต้องร่วมมือกันให้ความรู้แก่ชุมชน (บทคัดย่อ) |
|
Focus |
ศึกษาการแพร่ระบาด สาเหตุ ความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติตัวของกะเหรี่ยงเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ต่อการเสพทั้งในกลุ่มผู้เสพและไม่เสพ โดยเน้นศึกษากลุ่มเยาวชนและวัยแรงงานทั้งเพศหญิงและเพศชายที่ออกไปรับจ้างขายแรงงานนอกหมู่บ้านตามฤดูกาลต่างๆ (หน้า 2) |
|
Theoretical Issues |
กรอบแนวคิดของการวิจัยนี้มองว่า ชาวเขามีพฤติกรรมการใช้ยาตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ภายใต้องค์ประกอบทางวัฒนธรรมหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของตน พวกเขาให้ความหมาย หรือมีปฏิกิริยาต่การใช้ยาบางชนิด สังคมจะกำหนดว่าใครควรเป็นผู้ใช้ยาภายใต้เงื่อนไขใด (หน้า 4) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ศึกษากะเหรี่ยงในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเขตพื้นที่โครงการพัฒนาที่สูงไทย-ออสเตรเลีย โดยเน้นกลุ่มเยาวชน และวัยแรงงานทั้งเพศชายและเพศหญิงที่ออกไปรับจ้างขายแรงงานนอกหมู่บ้าน (หน้า 2) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
ผู้เขียนแบ่งช่วงเวลาของการศึกษาวิจัย คือ 1-15 ธันวาคม 2533 ศึกษาข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง 16 ธันวาคม 2533 -15 กุมภาพันธ์ 2534 เก็บข้อมูลภาคสนาม และ16 กุมภาพันธ์-28 กุมภาพันธ์ 2534 วิเคราะห์ เก็บข้อมูลเพิ่มเติม และเขียนรายงานวิจัย (หน้า 3) |
|
History of the Group and Community |
ประวัติความเป็นมาเขตพื้นที่แม่สวรรค์ กลุ่มกะเหรี่ยงสะกอ และกลุ่มกะเหรี่ยงโปเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มแรกที่เข้ามาอาศัย และตั้งถิ่นฐานมากกว่า 60 ปี ในระยะแรกมีการดำรงชีวิตอยู่แบบย้ายถิ่นฐานไม่เป็นหลักแหล่ง เพราะสาเหตุด้านความเชื่อ และการหาพื้นที่ทำกิน ปัจจุบันกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งสองกลุ่มมีการตั้งถิ่นฐานเป็นที่ถาวรเนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ และการออกกฎระเบียบของรัฐ ส่วนกลุ่มคนเมือง แม้ว และจีนฮ่อ เป็นกลุ่มที่อพยพย้ายเข้ามาอยู่ในภายหลัง เนื่องจากแรงผลักดันทางเศรษฐกิจดังนี้ กลุ่มคนเมืองเข้ามาทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวกะเหรี่ยงมานานกว่า 20 ปี หรือการเข้ามาประกอบอาชีพเป็นคนสร้างทางให้กับกรมทางหลวงเป็นเวลานาน เมื่อเสร็จงานแล้วคนงานบางส่วนมีการตั้งรกราก และย้ายครอบครัวอพยพเข้ามาสมทบ ส่วนกลุ่มแม้วเริ่มเข้ามาในช่วงปี พ.ศ. 2519 เพียง 2 ครอบครัว เพื่อทำไร่ข้าวโพด และหันมาปลูกกะหล่ำปลีในเวลาต่อมา เพราะรายได้ดี และได้ชักชวนญาติพี่น้องเข้ามาอยู่ด้วย จากการเก็บข้อมูลพบว่าเพิ่มจำนวนเป็น 24 ครอบครัว และจีนฮ่อเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ลำดับต่อมาที่เข้ามาอาศัย และประกอบอาชีพขายของชำ และผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรในพื้นที่ในปี พ.ศ. 2527 จำนวน 1 ครอบครัว (หน้า 20-21) |
|
Demography |
ประชากรเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ประกอบด้วยกะเหรี่ยง แม้ว คนเมือง และจีนฮ่อ รวม 40 หย่อมบ้าน 1,043 หลังคาเรือน ประชากร 4,702 คน แยกเป็นกะเหรี่ยงสะกอ 53.4 % กะเหรี่ยงโป 41.8 % และคนเมือง แม้ว จีนฮ่อ 4.8 % (หน้า 19) เขตหมู่บ้านแม่โถ ประกอบด้วยชาวแม้ว 100 หลังคาเรือน กะเหรี่ยง 50 หลังคาเรือน จีนฮ่อ และไทใหญ่ 25 หลังคาเรือน รวม 175 หลังคาเรือน (หน้า 26) |
|
Economy |
การเพาะปลูก การปลูกกะหล่ำปลีของกะเหรี่ยงสะกอและกะเหรี่ยงโปในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อยได้รับอิทธิพลจากการทำไร่กะหล่ำของคนเมืองบ้านแม่เหาะเหนือในปี พ.ศ. 2527 กะเหรี่ยงที่มีฐานะปานกลางมีไร่ปลูกกะหล่ำของตนเองเฉลี่ย 2 ไร่ ส่วนผู้มีฐานะค่อนข้างต่ำมักรับจ้างทำไร่กะหล่ำของผู้อื่นในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย และบ้านแม่โถ (หน้า 22) ส่วนกะเหรี่ยงบ้านแม่โถปลูกกะหล่ำตามแม้ว ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ปลูกในพ.ศ. 2527 โดยได้เมล็ดพันธุ์จากพ่อเลี้ยงบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูนที่มาซื้อกะหล่ำปลีบ้านแม่เหาะ และปลูกมากที่สุดใน พ.ศ. 2529 แต่ละครัวเรือนมีพื้นที่หมุนเวียนปลูกกะหล่ำปลีไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ ทำให้ชาวบ้านมีฐานะเศรษฐกิจดี (หน้า 26-27) การใช้แรงงาน ในพื้นที่แม่สวรรค์น้อย กะเหรี่ยงโปรับจ้างเหมางานโดยพักในไร่ ส่วนกลุ่มกะเหรี่ยงสะกอมีเงินทุนไม่มากจึงใช้การแลกเปลี่ยนแรงงานทำไร่แทน (หน้า 24-25) ส่วนที่บ้านแม่โถสามารถต่อรองค่าแรงกับนายจ้างที่สูงกว่าได้ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการผลิตอัตรากะหล่ำปลีสูง แรงงานกะเหรี่ยงที่ติดฝิ่นเป็นกลุ่มผูกขาดการรับจ้างในไร่ มักนำเงินค่าแรงมาซื้อฝิ่น (หน้า 28-29) การขายผลผลิตกะหล่ำปลี ในพื้นที่แม่สวรรค์น้อยขายให้คนนอกชุมชน คือ พ่อค้าคนกลางที่เป็นนายทุน โดยนำเงินค่าผลผลิตที่ได้หักกับหนี้ที่ยืมมาลงทุนทำไร่กะหล่ำ พ่อค้าคนกลางทั่วไป หรือการขายให้แหล่งรับซื้อด้วยตัวเองทำให้ได้ราคาสูงกว่า (หน้า 24-26) ส่วนบ้านแม่โถขายให้พ่อค้าคนกลางหรือแหล่งรับซื้อ ช่วงเวลาดังกล่าวมีกลุ่มจีนฮ่อ และไทยใหญ่มาเปิดร้านค้าและบริการต่างๆ ให้กับผู้เข้ามารับซื้อ และผู้ขับรถบรรทุกรับจ้างขนกะหล่ำปลีให้กับพ่อค้าคนกลาง (หน้า 27-28) |
|
Social Organization |
ความสัมพันธ์กับคนนอกชุมชนของกะเหรี่ยงในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย และบ้านแม่โถ ต่างมีความสัมพันธ์กับแม้วที่เป็นนายจ้าง เพราะเป็นนายทุน และเจ้าของไร่กะหล่ำปลีที่ตนเองเข้าไปรับจ้าง (หน้า 21-22) และกลุ่มคนขับรถรับจ้างบรรทุกกะหล่ำปลีที่เข้ามาพร้อมกับพ่อค้าคนกลางในช่วงการผลิตและเก็บเกี่ยว (หน้า 25-33) ซึ่งผู้เขียนพบว่า ผลจากชุมชนกะเหรี่ยงทั้งสองพื้นที่มีการปรับตัวเข้าหาระบบเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทางสังคมเชิงเศรษฐกิจระหว่างลูกจ้างกะเหรี่ยง นายทุน และผู้รับซื้อผลผลิต และการเปลี่ยนแปลงของชุมชนที่เกิดจากระบบเศรษฐกิจ คือ การเสพยาบ้าของกะเหรี่ยง โดยเฉพาะมีมากในกะเหรี่ยงบ้านแม่โถ โดยมีนายทุนและคนขับรถเป็นผู้แนะนำ สอน และนำยาบ้ามาให้แรงงานกะเหรี่ยงเสพระหว่างการทำงานในไร่ (หน้า 41-48) |
|
Belief System |
กะเหรี่ยงสะกอ และกะเหรี่ยงโปในพื้นที่ศึกษามีความเชื่อต่างกัน คือ กลุ่มกะเหรี่ยงสะกอ ปัจจุบันคนในชุมชนมีทั้งการยอมรับนับถือ และปฏิบัติตนตามประเพณีความเชื่อในศาสนาคริสต์ และการนับถือผีควบคู่ไปกับการนับถือศาสนาพุทธ ส่วนกะเหรี่ยงโปทุกครอบครัวยังคงมีความเชื่อ และให้การนับถือผีเป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะมีการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เข้ามาในชุมชนก็ตาม (หน้า 20-21) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
ทัศนคติของกะเหรี่ยงต่อยาบ้า ทราบว่าเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ช่วยให้ทำงานได้มาก แต่ไม่ทราบโทษที่มีต่อร่างกาย (หน้า 33) ผู้เขียนพบว่าอิทธิพลหรือสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อทัศนคติดังกล่าว ได้แก่ ความสมัครใจต่อการเสพยาบ้าของกะเหรี่ยง เพราะเชื่อว่าทำให้ทำงานได้มากก็ได้เงินมากช่วยนำความสุขสบายให้กับชีวิต มีแหล่งซื้อยาบ้าได้ง่ายในชุมชน ผู้เสพหรือนำยาบ้าเข้ามาในชุมชนที่เป็นนายจ้าง คนขับรถบรรทุก เพื่อน ญาติ ซึ่งกะเหรี่ยงมีปฏิสัมพันธ์ด้วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐมีน้อย และข้อจำกัดที่ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหายาบ้าได้ และนิสัยบุคลิกภาพขยันมีหัวการค้าของม้งที่เป็นนายทุน และกะเหรี่ยงนิสัยที่เป็นลูกจ้างนิสัยอ่อนน้อมต่อนายจ้างที่ส่งผลต่อการใช้ยาบ้า (หน้า 48-57) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
การแพร่ระบาดของยาบ้า ในพื้นที่แม่สวรรค์น้อยชาวบ้านรู้จักยาบ้าจากคนขับรถบรรทุกกะหล่ำที่เสพยา เมื่อปี พ.ศ. 2525 ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดของยาบ้าไม่มาก เพราะชาวบ้านมีเศรษฐกิจไม่ดีเห็นว่ายาบ้าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แหล่งจำหน่ายห่างไกล มีแรงงานเพียงพอ และเมื่อมีผู้เสพไม่มากชาวกะเหรี่ยงก็จะไม่เสพตาม กลุ่มผู้ใช้ยาบ้าเป็นเพียงผู้ทดลองเสพวัยรุ่นผู้ชาย และผู้เสพโดยไม่รู้ตัวที่เป็นแรงงานไร่กะหล่ำเนื่องจากนายจ้างแอบผสมน้ำให้กิน ส่วนกะเหรี่ยงโปผู้ชายวัยแรงงานที่เข้าไปรับจ้างทำงานในบ้านแม่โถเป็นกลุ่มที่เคยทดลอง และใช้ยาบ้า ส่วนพื้นที่บ้านแม่โถมีการแพร่ระบาดของยาบ้ามาก เพราะผู้ขายแรงงานมีฐานะยากจนต้องการเงิน มีการบอกและปฏิบัติต่อๆ กันถึงการใช้ยาบ้า นายจ้างเป็นผู้นำยาบ้ามาให้ลูกจ้างเสพ หาซื้อได้ง่าย และชาวบ้านเห็นข้อดีของยาบ้าที่ให้ผลเร็ว เพราะยังไม่เห็นโทษ (หน้า 30-32) |
|
|