สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),ยาเสพติด,ยาบ้า,แม่ฮ่องสอน
Author สารภี ศิลา, บุญชนะ ทองแสน, อิฐศักดิ์ ศรีสุโข
Title การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ไม่ใช่ฝิ่นในชุมชนชาวเขากรณีศึกษา: การใช้สารเสพติดประเภทยาม้าในชุมชนกะเหรี่ยงเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text -
Ethnic Identity ปกาเกอะญอ, Language and Linguistic Affiliations จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan)
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 64 Year 2534
Source สถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการพัฒนาเขตพื้นที่สูงไทย-ออสเตรเลีย
Abstract

          รายงานนี้เป็นการศึกษาการแพร่ระบาดยาบ้าในชุมชนกะเหรี่ยงเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยเปรียบเทียบกับหมู่บ้านแม่โถ ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ผลการวิจัยบ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของยาบ้าเกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจระบบใหม่ที่ผูกพันกับตลาดนอกหมู่บ้าน การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจจากแบบพึ่งตนเองมาสู่ระบบเศรษฐกิจแบบใหม่เป็นปัจจัยที่ทำให้กะเหรี่ยงรับยาบ้าเข้ามาใช้ในวิถีชีวิต (บทคัดย่อ) การหันมาปลูกกะหล่ำปลีเป็นพืชเศรษฐกิจหลักปีละ 3 ครั้ง ทำให้ต้องการแรงงานจำนวนมากในการผลิตทั้งในช่วงการเตรียมดิน เพาะกล้า และเก็บผลผลิต (หน้า 39-40) ทั้งนี้คณะวิจัยเห็นว่า ความต้องการเงินรายได้เพิ่ม และการขาดความรู้เกี่ยวกับยาบ้า การเข้าถึงแหล่งขายยาบ้าได้ง่าย รวมทั้งนิสัยบุคลิกภาพของกลุ่มชาติพันธุ์เป็นสาเหตุหลักของการใช้ยาบ้า ส่วนการแก้ไขการแพร่ระบาดนั้น คณะวิจัยเห็นว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 4 กระทรวงหลักต้องร่วมมือกันให้ความรู้แก่ชุมชน (บทคัดย่อ)

Focus

          ศึกษาการแพร่ระบาด สาเหตุ ความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติตัวของกะเหรี่ยงเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ต่อการเสพทั้งในกลุ่มผู้เสพและไม่เสพ โดยเน้นศึกษากลุ่มเยาวชนและวัยแรงงานทั้งเพศหญิงและเพศชายที่ออกไปรับจ้างขายแรงงานนอกหมู่บ้านตามฤดูกาลต่างๆ (หน้า 2)

Theoretical Issues

          กรอบแนวคิดของการวิจัยนี้มองว่า ชาวเขามีพฤติกรรมการใช้ยาตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ภายใต้องค์ประกอบทางวัฒนธรรมหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของตน พวกเขาให้ความหมาย หรือมีปฏิกิริยาต่การใช้ยาบางชนิด สังคมจะกำหนดว่าใครควรเป็นผู้ใช้ยาภายใต้เงื่อนไขใด (หน้า 4)

Ethnic Group in the Focus

          ศึกษากะเหรี่ยงในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเขตพื้นที่โครงการพัฒนาที่สูงไทย-ออสเตรเลีย โดยเน้นกลุ่มเยาวชน และวัยแรงงานทั้งเพศชายและเพศหญิงที่ออกไปรับจ้างขายแรงงานนอกหมู่บ้าน (หน้า 2)

Language and Linguistic Affiliations

          ไม่มี

Study Period (Data Collection)

          ผู้เขียนแบ่งช่วงเวลาของการศึกษาวิจัย คือ 1-15 ธันวาคม 2533 ศึกษาข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง 16 ธันวาคม 2533 -15 กุมภาพันธ์ 2534 เก็บข้อมูลภาคสนาม และ16 กุมภาพันธ์-28 กุมภาพันธ์ 2534 วิเคราะห์ เก็บข้อมูลเพิ่มเติม และเขียนรายงานวิจัย (หน้า 3)

History of the Group and Community

          ประวัติความเป็นมาเขตพื้นที่แม่สวรรค์ กลุ่มกะเหรี่ยงสะกอ และกลุ่มกะเหรี่ยงโปเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มแรกที่เข้ามาอาศัย และตั้งถิ่นฐานมากกว่า 60 ปี ในระยะแรกมีการดำรงชีวิตอยู่แบบย้ายถิ่นฐานไม่เป็นหลักแหล่ง เพราะสาเหตุด้านความเชื่อ และการหาพื้นที่ทำกิน ปัจจุบันกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งสองกลุ่มมีการตั้งถิ่นฐานเป็นที่ถาวรเนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ และการออกกฎระเบียบของรัฐ ส่วนกลุ่มคนเมือง แม้ว และจีนฮ่อ เป็นกลุ่มที่อพยพย้ายเข้ามาอยู่ในภายหลัง เนื่องจากแรงผลักดันทางเศรษฐกิจดังนี้ กลุ่มคนเมืองเข้ามาทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวกะเหรี่ยงมานานกว่า 20 ปี หรือการเข้ามาประกอบอาชีพเป็นคนสร้างทางให้กับกรมทางหลวงเป็นเวลานาน เมื่อเสร็จงานแล้วคนงานบางส่วนมีการตั้งรกราก และย้ายครอบครัวอพยพเข้ามาสมทบ ส่วนกลุ่มแม้วเริ่มเข้ามาในช่วงปี พ.ศ. 2519 เพียง 2 ครอบครัว เพื่อทำไร่ข้าวโพด และหันมาปลูกกะหล่ำปลีในเวลาต่อมา เพราะรายได้ดี และได้ชักชวนญาติพี่น้องเข้ามาอยู่ด้วย จากการเก็บข้อมูลพบว่าเพิ่มจำนวนเป็น 24 ครอบครัว และจีนฮ่อเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ลำดับต่อมาที่เข้ามาอาศัย และประกอบอาชีพขายของชำ และผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรในพื้นที่ในปี พ.ศ. 2527 จำนวน 1 ครอบครัว (หน้า 20-21)

Settlement Pattern

          ไม่มี

Demography

          ประชากรเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย ประกอบด้วยกะเหรี่ยง แม้ว คนเมือง และจีนฮ่อ รวม 40 หย่อมบ้าน 1,043 หลังคาเรือน ประชากร 4,702 คน แยกเป็นกะเหรี่ยงสะกอ 53.4 % กะเหรี่ยงโป 41.8 % และคนเมือง แม้ว จีนฮ่อ 4.8 % (หน้า 19) เขตหมู่บ้านแม่โถ ประกอบด้วยชาวแม้ว 100 หลังคาเรือน กะเหรี่ยง 50 หลังคาเรือน จีนฮ่อ และไทใหญ่ 25 หลังคาเรือน รวม 175 หลังคาเรือน (หน้า 26)

Economy

          การเพาะปลูก การปลูกกะหล่ำปลีของกะเหรี่ยงสะกอและกะเหรี่ยงโปในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อยได้รับอิทธิพลจากการทำไร่กะหล่ำของคนเมืองบ้านแม่เหาะเหนือในปี พ.ศ. 2527 กะเหรี่ยงที่มีฐานะปานกลางมีไร่ปลูกกะหล่ำของตนเองเฉลี่ย 2 ไร่ ส่วนผู้มีฐานะค่อนข้างต่ำมักรับจ้างทำไร่กะหล่ำของผู้อื่นในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย และบ้านแม่โถ (หน้า 22) ส่วนกะเหรี่ยงบ้านแม่โถปลูกกะหล่ำตามแม้ว ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ปลูกในพ.ศ. 2527 โดยได้เมล็ดพันธุ์จากพ่อเลี้ยงบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูนที่มาซื้อกะหล่ำปลีบ้านแม่เหาะ และปลูกมากที่สุดใน พ.ศ. 2529 แต่ละครัวเรือนมีพื้นที่หมุนเวียนปลูกกะหล่ำปลีไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ ทำให้ชาวบ้านมีฐานะเศรษฐกิจดี (หน้า 26-27) การใช้แรงงาน ในพื้นที่แม่สวรรค์น้อย กะเหรี่ยงโปรับจ้างเหมางานโดยพักในไร่ ส่วนกลุ่มกะเหรี่ยงสะกอมีเงินทุนไม่มากจึงใช้การแลกเปลี่ยนแรงงานทำไร่แทน (หน้า 24-25) ส่วนที่บ้านแม่โถสามารถต่อรองค่าแรงกับนายจ้างที่สูงกว่าได้ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการผลิตอัตรากะหล่ำปลีสูง แรงงานกะเหรี่ยงที่ติดฝิ่นเป็นกลุ่มผูกขาดการรับจ้างในไร่ มักนำเงินค่าแรงมาซื้อฝิ่น (หน้า 28-29) การขายผลผลิตกะหล่ำปลี ในพื้นที่แม่สวรรค์น้อยขายให้คนนอกชุมชน คือ พ่อค้าคนกลางที่เป็นนายทุน โดยนำเงินค่าผลผลิตที่ได้หักกับหนี้ที่ยืมมาลงทุนทำไร่กะหล่ำ พ่อค้าคนกลางทั่วไป หรือการขายให้แหล่งรับซื้อด้วยตัวเองทำให้ได้ราคาสูงกว่า (หน้า 24-26) ส่วนบ้านแม่โถขายให้พ่อค้าคนกลางหรือแหล่งรับซื้อ ช่วงเวลาดังกล่าวมีกลุ่มจีนฮ่อ และไทยใหญ่มาเปิดร้านค้าและบริการต่างๆ ให้กับผู้เข้ามารับซื้อ และผู้ขับรถบรรทุกรับจ้างขนกะหล่ำปลีให้กับพ่อค้าคนกลาง (หน้า 27-28)

Social Organization

          ความสัมพันธ์กับคนนอกชุมชนของกะเหรี่ยงในเขตพื้นที่แม่สวรรค์น้อย และบ้านแม่โถ ต่างมีความสัมพันธ์กับแม้วที่เป็นนายจ้าง เพราะเป็นนายทุน และเจ้าของไร่กะหล่ำปลีที่ตนเองเข้าไปรับจ้าง (หน้า 21-22) และกลุ่มคนขับรถรับจ้างบรรทุกกะหล่ำปลีที่เข้ามาพร้อมกับพ่อค้าคนกลางในช่วงการผลิตและเก็บเกี่ยว (หน้า 25-33) ซึ่งผู้เขียนพบว่า ผลจากชุมชนกะเหรี่ยงทั้งสองพื้นที่มีการปรับตัวเข้าหาระบบเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทางสังคมเชิงเศรษฐกิจระหว่างลูกจ้างกะเหรี่ยง นายทุน และผู้รับซื้อผลผลิต และการเปลี่ยนแปลงของชุมชนที่เกิดจากระบบเศรษฐกิจ คือ การเสพยาบ้าของกะเหรี่ยง โดยเฉพาะมีมากในกะเหรี่ยงบ้านแม่โถ โดยมีนายทุนและคนขับรถเป็นผู้แนะนำ สอน และนำยาบ้ามาให้แรงงานกะเหรี่ยงเสพระหว่างการทำงานในไร่ (หน้า 41-48)

Political Organization

          ไม่มี

Belief System

          กะเหรี่ยงสะกอ และกะเหรี่ยงโปในพื้นที่ศึกษามีความเชื่อต่างกัน คือ กลุ่มกะเหรี่ยงสะกอ ปัจจุบันคนในชุมชนมีทั้งการยอมรับนับถือ และปฏิบัติตนตามประเพณีความเชื่อในศาสนาคริสต์ และการนับถือผีควบคู่ไปกับการนับถือศาสนาพุทธ ส่วนกะเหรี่ยงโปทุกครอบครัวยังคงมีความเชื่อ และให้การนับถือผีเป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะมีการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เข้ามาในชุมชนก็ตาม (หน้า 20-21)

Education and Socialization

          ไม่มี

Health and Medicine

          ทัศนคติของกะเหรี่ยงต่อยาบ้า ทราบว่าเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ช่วยให้ทำงานได้มาก แต่ไม่ทราบโทษที่มีต่อร่างกาย (หน้า 33) ผู้เขียนพบว่าอิทธิพลหรือสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อทัศนคติดังกล่าว ได้แก่ ความสมัครใจต่อการเสพยาบ้าของกะเหรี่ยง เพราะเชื่อว่าทำให้ทำงานได้มากก็ได้เงินมากช่วยนำความสุขสบายให้กับชีวิต มีแหล่งซื้อยาบ้าได้ง่ายในชุมชน ผู้เสพหรือนำยาบ้าเข้ามาในชุมชนที่เป็นนายจ้าง คนขับรถบรรทุก เพื่อน ญาติ ซึ่งกะเหรี่ยงมีปฏิสัมพันธ์ด้วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐมีน้อย และข้อจำกัดที่ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหายาบ้าได้ และนิสัยบุคลิกภาพขยันมีหัวการค้าของม้งที่เป็นนายทุน และกะเหรี่ยงนิสัยที่เป็นลูกจ้างนิสัยอ่อนน้อมต่อนายจ้างที่ส่งผลต่อการใช้ยาบ้า (หน้า 48-57)

Art and Crafts (including Clothing Costume)

          ไม่มี

Folklore

          ไม่มี

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

          ไม่มี

Social Cultural and Identity Change

          ไม่มี

Other Issues

          การแพร่ระบาดของยาบ้า ในพื้นที่แม่สวรรค์น้อยชาวบ้านรู้จักยาบ้าจากคนขับรถบรรทุกกะหล่ำที่เสพยา เมื่อปี พ.ศ. 2525 ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดของยาบ้าไม่มาก เพราะชาวบ้านมีเศรษฐกิจไม่ดีเห็นว่ายาบ้าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แหล่งจำหน่ายห่างไกล มีแรงงานเพียงพอ และเมื่อมีผู้เสพไม่มากชาวกะเหรี่ยงก็จะไม่เสพตาม กลุ่มผู้ใช้ยาบ้าเป็นเพียงผู้ทดลองเสพวัยรุ่นผู้ชาย และผู้เสพโดยไม่รู้ตัวที่เป็นแรงงานไร่กะหล่ำเนื่องจากนายจ้างแอบผสมน้ำให้กิน ส่วนกะเหรี่ยงโปผู้ชายวัยแรงงานที่เข้าไปรับจ้างทำงานในบ้านแม่โถเป็นกลุ่มที่เคยทดลอง และใช้ยาบ้า ส่วนพื้นที่บ้านแม่โถมีการแพร่ระบาดของยาบ้ามาก เพราะผู้ขายแรงงานมีฐานะยากจนต้องการเงิน มีการบอกและปฏิบัติต่อๆ กันถึงการใช้ยาบ้า นายจ้างเป็นผู้นำยาบ้ามาให้ลูกจ้างเสพ หาซื้อได้ง่าย และชาวบ้านเห็นข้อดีของยาบ้าที่ให้ผลเร็ว เพราะยังไม่เห็นโทษ (หน้า 30-32)

Map/Illustration

          ไม่มี

Text Analyst รัตนา หาญสวัสดิ์ Date of Report 02 ต.ค. 2567
TAG ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), ยาเสพติด, ยาบ้า, แม่ฮ่องสอน, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง