|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ไทใหญ่,วัด,การพัฒนา,ผู้ด้อยโอกาส,แรงงานต่างชาติ,เชียงใหม่ |
Author |
นิมิต นพรัตน์ |
Title |
การพัฒนาศักยภาพของวัดในการสร้างระบบสวัสดิการแก่ผู้ด้อยโอกาส: กรณีศึกษา วัดป่าเป้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ไทใหญ่ ไต คนไต,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
29 |
Year |
2545 |
Source |
รายงานการวิจัยย่อย ชุดโครงการ การพัฒนาระบบสวัสดิการสำหรับคนจนและคนด้อยโอกาสในสังคมไทย สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย |
Abstract |
รายงานวิจัยนี้ศึกษาการจัดระบบสวัสดิการหรือกิจกรรมของวัดป่าเป้าแก่ผู้ด้อยโอกาส โดยวัดได้ร่วมมือกับศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงใหม่ จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้ด้อยโอกาสที่เข้ามารับบริการส่วนใหญ่เป็นคนไทใหญ่จากประเทศพม่าเข้ามาขายแรงงาน คนเหล่านี้อยากมีความรู้ภาษาไทยเพิ่มขึ้น สามารถอ่านภาษาไทยได้ เพื่อจะได้นำความรู้ไปพัฒนาอาชีพ หรือเปลี่ยนงานมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผู้ศึกษาเห็นว่า วัดควรปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับอาชีพของผู้เรียน เพื่อว่าผู้เรียนจะได้มีโอกาสมากขึ้นในตลาดแรงงาน สามารถพึ่งตนเองได้ในกรณีที่ต้องการประกอบอาชีพอิสระ และหลีกเลี่ยงการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง (บทคัดย่อ) |
|
Focus |
ศึกษากิจกรรมของวัดป่าเป้าแก่ผู้ด้อยโอกาสที่มาพึ่งพิงวัด (หน้า 3) |
|
Theoretical Issues |
ผู้เขียนกล่าวว่าใช้แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นกรอบในการศึกษาบทบาทของพระสงฆ์ วัด และผู้ที่เข้ามาพึ่งพาอาศัยวัด เพื่อร่วมกันเสนอแนวทางการจัดสวัสดิการด้านต่างๆ ให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาพึ่งพิงวัด (หน้า 16) แต่ในรายงานวิจัยย่อยแนวคิดนี้ยังไม่ชัดเจน |
|
Ethnic Group in the Focus |
ผู้เขียนไม่ได้ระบุกลุ่มชาติพันธุ์ชัดเจน แต่จากรายงานการวิจัยกล่าวถึง กลุ่มไทใหญ่จากประเทศพม่าที่เข้ามาทำงานในเชียงใหม่มากกว่ากลุ่มอื่น (หน้า 17, 20-23) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ไม่มีรายละเอียดมากนักกล่าวแต่เพียงว่า ชุมชนรอบวัดป่าเป้า เป็นชุมชนคนไทใหญ่ที่เข้ามาตั้งรกรากในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 (หน้า 25) แต่ปัจจุบันคนในชุมชนย้ายไปที่อื่นบริเวณที่เป็นชุมชนดั้งเดิมได้เปลี่ยนไปเป็นย่านธุรกิจแทน (หน้า 17) |
|
Settlement Pattern |
แรงงานไทใหญ่พักอยู่ในห้องเช่า หรือหอพักกับไทใหญ่ด้วยกันอยู่บริเวณรอบๆ วัด และย่านสันติธรรม (หน้า 17, 27) |
|
Demography |
กล่าวแต่เพียงว่า ชุมชนวัดป่าเป้ามีทั้งหมดจำนวน 317 ครัวเรือน ไม่มีรายละเอียดอื่น (หน้า 19) |
|
Economy |
จากการเก็บข้อมูลพบว่า แรงงานอพยพไทใหญ่เข้ามาอาศัยในเชียงใหม่ เพื่อประกอบอาชีพขายแรงงาน ได้แก่ พนักงานโรงแรม พนักงานคาราโอเกะ แม่บ้าน บริกร ขายบริการทางเพศ เป็นต้น รายได้ต่อเดือนต่างกันตามแต่ละอาชีพ ตั้งแต่ 2,500 บาท 3,000 บาท และรายได้ไม่แน่นอน ผลการศึกษาปัญหาที่พบในการประกอบอาชีพของแรงงานอพยพไทใหญ่ เช่น ไม่รู้ภาษาไทย ได้รับค่าแรงไม่เป็นธรรมจากนายจ้าง ปัญหาทางสุขภาพจิตใจจากความหวาดกลัวระแวงไม่ไว้ใจคนไทใหญ่ด้วยกันเอง เจ้าหน้าที่รัฐ นายจ้างคนไทย เพราะถูกหลอกลวง ใช้วาจาข่มขู่ ปัญหาชู้สาว หรือล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งชาวไทใหญ่มักหาทางออกด้วยการหันหน้าเข้าหาปรึกษาพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง และพระสงฆ์ได้แนะนำให้ชาวไทใหญ่ยึดหลักธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการดำรงชีวิต และปัญหาสุขภาพร่างกาย เช่น ปัญหาไม่มีใครดูแลยามเจ็บหนัก เงินค่ารักษาพยาบาล ความรู้เรื่องสุขภาพและการดูแล จึงทำให้ต้องซื้อยารับประทานเองโดยขาดความรู้ บางคนเมื่อเจ็บป่วยก็ได้รับสิทธิจากบัตรประกันสังคม หรือนายจ้างพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล (หน้า 20-24) |
|
Political Organization |
ความสัมพันธ์ของแรงงานไทใหญ่กับรัฐไทย พบว่า แรงงานอพยพไทใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวไม่มีสัญชาติ (หน้า 17) จากการให้ความช่วยเหลือของพระวัดป่าเป้าต่อแรงงานอพยพไทใหญ่เฉพาะผู้ที่มีใบสีเขียว ทำให้ทราบว่า เป็นกลุ่มแรงงานอพยพไทใหญ่ถูกกฎหมาย และทำประกันสังคมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของรัฐไทย (หน้า 18) อย่างไรก็ตาม ในรายงานวิจัยมีการกล่าวถึง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยในการจับกุมแรงงานไทใหญ่ผิดกฎหมาย เช่น อาชญากรรม ขโมย ปัญหายาเสพติด ลักลอบขายแรงงาน (หน้า 17, 20) ขณะเดียวกันก็มีการกล่าวถึง ชาวไทใหญ่เองก็ได้รับความไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐในการใช้อำนาจทางกฎหมายที่ไม่ถูกต้อง เช่น ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ การข่มขู่ ขูดรีดเงิน (หน้า 20, 27) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
วัดป่าเป้ากับการพัฒนา พบว่า วัดตั้งมูลนิธิวัดป่าเป้าขึ้นเพื่อจัดหลักสูตรให้การศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร่วมกับการศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงใหม่แก่ผู้สนใจโดยเฉพาะแรงงานไทใหญ่ ปัจจุบันวัดประสบปัญหาเงินค่าใช้จ่ายไม่พอจ้างครู ขาดเงินสนับสนุนจากรัฐและเอกชน ขาดอุปกรณ์การเรียนการสอน ไม่สามารถเปิดสอนวิชาชีพเพิ่มเติม เช่น ภาษาอังกฤษ การโรงแรม ตามความต้องการของผู้เรียนได้ และปัญหาด้านเวลาในการประกอบอาชีพที่อาจทำให้เรียนไม่จบหลักสูตร (หน้า 18, 25-26) รวมทั้งทัศนคติคนภายนอกที่มีต่อวัด คือ ชาวเชียงใหม่มองว่าวัดดังกล่าวเป็นวัดของชาวพม่า เนื่องจากผู้ที่เข้ามาพึ่งพิงวัดในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทใหญ่ และมองว่าวัดเป็นแหล่งมั่วสุมแรงงานไทใหญ่ที่ก่อปัญหายาเสพติด และอาชญากรรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐ และนักหนังสือพิมพ์ก็มีมุมมองต่อวัดนี้เช่นเดียวกัน (หน้า 17,20, 25) |
|
|