สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู,เศรษฐกิจ,สังคม,วัฒนธรรม,ชุมชนประมง,ปัตตานี
Author วัฒนา สุกัณศิล
Title สภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของชุมชนประมงรอบอ่าวปัตตานี : การเปลี่ยนแปลงปัญหาและการปรับตัว
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม, Language and Linguistic Affiliations ออสโตรเนเชี่ยน
Location of
Documents
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 73 Year 2544
Source ศูนย์วิจัยมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
Abstract

กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของชุมชนประมงกรณีศึกษาสองแห่งคือ บ้านตาปาเซ(ชื่อสมมุติ) อำเภอยะหริ่ง และบ้านตือปีตาโละ(ชื่อสมมติ) อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่รอบอ่าวปัตตานี ที่แต่เดิมคนในหมู่บ้านทั้งสองทำอาชีพประมงเป็นอาชีพหลัก กระทั่งเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านประมง จึงทำให้สัตว์น้ำลดปริมาณลงเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ชาวประมงที่ทำประมงชายฝั่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากจนได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเมื่อจับปลาได้น้อยลง ในภายหลังได้หันไปทำงานอื่นเป็นอาชีพเสริมเช่น รับจ้าง แปรรูปสัตว์น้ำ ค้าขาย ทำนาเกลือและอื่นๆ

Focus

ศึกษาสภาพการเปลี่ยนแปลงระบบการผลิต การขยายตัวของระบบเศรษฐกิจเชิงพานิชย์ การเปลี่ยนแปลงด้านเท็คโนโลยี่ บทบาทและนโยบายของรัฐ ผลกระทบ ปัญหาและการปรับตัวของชุมชนประมงรอบอ่าวปัตตานี (หน้า3)

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

มุสลิม บ้านตาปาเซ(ชื่อสมมุติ) อำเภอยะหริ่งและบ้านตือปีตาโละ(ชื่อสมมติ) อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี (หน้า 4)

Language and Linguistic Affiliations

ไม่มีข้อมูล

Study Period (Data Collection)

ระบุแต่เพียงว่าใช้ระยะเวลาในการทำงาน 18 เดือน (หน้า 4)

History of the Group and Community

ประวัติชุมชน หมู่บ้านที่ตั้งบริเวณรอบอ่าวปัตตานีอยู่มาเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วอายุคน สำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมของชุมชนนั้นเกิดจากการพัฒนาซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่หนึ่งก่อนปี พ.ศ.2500 ช่วงที่ สองอยู่ช่วงพ.ศ.2500-2520 กับช่วงที่สามคือหลัง พ.ศ.2520 เป็นต้นมา (หน้า 25) ซึ่งก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของชุมชนนั้น ชุมชนรอบอ่าวยังทำการผลิตแบบยังชีพและยังต้องติดต่อกับคนในชุมชนอื่นเนื่องจากไม่สามารถผลิตข้าว พืชผักผลไม้รวมทั้งสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ได้ ดังนั้นชุมชนประมงชายฝั่งจึงมีลักษณะเป็นชุมชนเครือข่าย ที่มีการติดต่อกันมาเนิ่นนาน (หน้า 27)

Settlement Pattern

ไม่มี

Demography

กรณีศึกษามีทั้งหมด 180 ครัวเรือน ประกอบด้วย บ้านตาปาเซ(ชื่อสมมุติ) อำเภอยะหริ่ง 50 ครัวเรือน (ทั้งหมดมี 240 ครัวเรือน)มีประชากร 318 คน และบ้านตือปีตาโละ(ชื่อสมมติ) อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 130 ครัวเรือน (จากทั้งหมด 386 ครัวเรือน) มีประชากร 805 คน (หน้า 4,5)

Economy

เศรษฐกิจ ประชากรในพื้นที่กรณีศึกษา ทำอาชีพประมงและอาชีพอื่นด้วยเช่น สวนมะพร้าว นาเกลือ นาข้าว นากุ้ง และแปรรูปสัตว์น้ำได้แก่ น้ำบูดู ข้าวเกรียบปลา กะปิ กุ้งแห้งและอื่นๆ (หน้า 23, 32) ทั้งนี้ในพื้นที่ศึกษาเมื่อก่อนส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงเป็นหลัก แต่เมื่อสัตว์น้ำลดปริมาณลงจึงทำให้คนในชุมชนหันไปทำอาชีพอื่นเสริมเพื่อเป็นรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว สำหรับหมู่บ้านปาตาปาเซ ทำอาชีพประมง 32 ครัวเรือหรือ 66 % ของครัวเรือนทั้งหมด ส่วนหมู่บ้านตือปีตาโละทำงานหลายอย่างเช่น ทำประมงและงานอื่นเสริม 45 ครัวเรือนหรือ 35 %ของจำนวนครัวเรือน ส่วนอีก 13 ครัวเรือนทำประมงเป็นอาชีพเสริมและอาชีพอื่นเป็นงานหลัก เช่น รับจ้าง 5 ครัวเรือน ทำนาเกลือ 6 ครัวเรือน ค้าขาย 2 ครัวเรือน (หน้า 37) ปัญหาและทางเลือกในการจัดการทรัพยากร ชุมชนตือปีตาโละ แก้ปัญหาการขาดแคลนสัตว์น้ำในอ่าวปัตตานี โดยตั้งโครงการเพาะเลี้ยงหอยแครง โครงการนี้ได้ผลดีโดยให้ผลผลิตมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทในช่วงปี พ.ศ.2539 แม้โครงการจะได้ผลแต่ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมาเช่นต้องใช้พันธ์ลูกหอยมากขึ้นจึงทำให้เกิดการขาดแคลนพันธุ์หอย นอกจากนี้ยังทำให้ปริมาณหอยหนามมีจำนวนมากขึ้น (หน้า 51) ทำให้ชาวประมงที่ใช้อวนได้รับความเสียหายจากหอยหนาม และเกิดความขัดแย้งกับคนในชุมชนใกล้เคียง(หน้า 52) ชุมชนปาตาปาเซ จัดตั้งองค์กรและเครือข่ายการดูแลและจัดการทรัพยากรชายฝั่ง กับการใช้ประโยชน์ป่าชายเลนกับหน่วยงานของทางราชการโดยคนในชุมชนได้มีความพยายามที่จะตั้งองค์กรเพื้อดูแลป่าชายเลนที่มีเนื้อที่ประมาณ 375 ไร่ หลังจากที่คนในชุมชนได้ใช้เป็นแหล่งจับปลารวมทั้งเป็นแหล่งสัมปทานป่าเผาถ่านจึงทำให้ป่าเสื่อมโทรมตามวันเวลา สำหรับความคิดเรื่องการตั้งองค์กรเพื่อดูแลป่าชายเลนที่เหลือได้เกิดขึ้นหลังจากที่ พ.ศ.2533 – 2536 ทางการได้เข้ามาใช้พื้นที่ป่าชายเลนกว่า 100 ไร่ เพื่อจัดตั้งสถานีประมงเพาะเลี้ยงชายฝั่งและประกาศพื้นที่ป่าชายเลนเป็นเขตป่าสงวน สำหรับการจัดตั้งองค์กรเพื่อดูแลทรัพยากรชายฝั่งนั้น ส่งผลให้คนในชุมชนมีความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรชายฝั่งปัญหาเรือประมงอวนรุนอวนราก ที่เข้ามาหาปลาในพื้นที่อ่าวปัตตานี (หน้า 52)

Social Organization

ชุมชนกรณีศึกษา คนในชุมชนทั้งสองหมู่บ้านมีความผูกพันกับการทำประมงมาเนิ่นนาน (หน้า 4) มีความสามัคคีเนื่องจากตามหลักศาสนาและประเพณีต่างๆนั้น มุ่งให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลและแบ่งปันต่อกัน ดังนั้นจึงช่วยลดช่องว่างทางฐานะทำให้คนในชุมชนอยู่อย่างสงบสุข (หน้า 27,28)

Political Organization

ประชาชนที่อยู่ในชุมชนปาตาปาเซ ได้ร่วมกันจัดตั้งองค์กรและเครือข่ายการดูแลและจัดการทรัพยากรชายฝั่ง กับการใช้ประโยชน์ป่าชายเลนกับหน่วยงานของทางราชการ ในการจัดตั้งองค์กรเพื่อดูแลทรัพยากรชายฝั่งนั้น ส่งผลให้คนในชุมชนมีความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรชายฝั่งในเรื่องปัญหาเรือประมงอวนรุนอวนลาก (หน้า 52) ซึ่งในอดีตไม่มีการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่อ่าวปัตตานี จึงทำให้มีการหาปลาด้วยเรืออวนรุนเป็นจำนวนมาก หลังจากที่คนในชุมชนบ้านปาตาปาเซร่วมกับหมู่บ้านใกล้เคียงในตำบลแหลมโพธิ์ ได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐจริงจังต่อการแก้ปัญหาเรืออวนรุน จึงทำให้การรุกล้ำของเรืออวนรุนลดน้อยลงตามลำดับ (หน้า 53)

Belief System

คนในชุมชนมีความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคนที่มีหน้าที่สำคัญคนหนึ่งคือ ยาแฆ ซึ่งเป็นผู้ชำนาญด้านการทำประมง โดยมีความสามารถในหลายๆด้านเช่นรู้แหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำ รู้เรื่องคาถาที่ช่วยป้องกันอันตรายต่างๆ เมื่อออกเรือไปหาปลาในทะเล รวมทั้งมีความรู้ด้านการประกอบพิธีกรรมด้านความเชื่อ ”ยาแฆ” นั้นเป็นผู้มีบทบาทหน้าที่สำคัญในชุมชนประมงบางครั้งคนที่มาทำหน้าที่นี้ก็อาจเป็นเจ้าของเรือประมง ทั้งนี้คนในชุมชนเชื่อว่าธรรมชาติเป็นของส่วนรวม การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรส่วนหนึ่งถูกจำกัด เพราะเชื่อว่าธรรมชาติและทะเลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา (หน้า 27,28)

Education and Socialization

บ้านตาปาเซ(ชื่อสมมุติ) อำเภอยะหริ่ง กลุ่มตัวอย่างมี 50 คน แบ่งตามระดับการศึกษาได้ดังนี้ เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 และต่ำกว่า 33 คน ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 คน มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย 1 คน และไม่ได้เรียนหนังสือ 8 คน บ้านตือปีตาโละ(ชื่อสมมติ) อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี กลุ่มตัวอย่างมี 130 คน จำแนกได้ดังนี้ เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 และต่ำกว่า 45 คน ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 38 คน มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย 22 คน และไม่ได้เรียนหนังสืออีก 14 คน (ตารางหน้า 5)

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

เรือประมง ภายหลังการขยายตัวของการทำประมงเชิงพานิชย์ทำให้ชาวประมงต้องปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประมงให้ทันสมัยซึ่งจากการสำรวจเมื่อ พ.ศ.2528 ในกลุ่มชาวประมงชายฝั่งซึ่งเป็นกลุ่มชาวประมงขนาดใหญ่ที่สุดจะใช้เรือประมงขนาดเล็กติดเครื่องยนต์เป็นจำนวนมาก (หน้า 37) ทำให้เรือประมงที่ใช้แรงพายลดลง พ.ศ. 2528 จังหวัดปัตตานี เมื่อเปรียบเทียบจำนวนครัวเรือนและเรือพบว่า ใน 3000 ครัวเรือนมีเรือ 3,225 ลำ แบ่งเป็นเรือประมงขนาดเล็กติดเครื่องยนต์ 2,300 ลำ (ในจำนวนนี้พื้นที่อำเภอเมืองกับอำเภอยะหริ่งมี 1,482 ลำ) เรือพาณิชย์ 522 ลำ เรือแจว 360 ลำ (หน้า 38) การแข่งขันด้านเทคโนโลยีทำให้ชาวประมงพื้นบ้านจับปลายากขึ้นเพราะมีการแย่งชิงด้านการจับปลาสูง สำหรับจำนวนเรือแจวนั้นใน พ.ศ 2528 เหลือเพียง 200 กว่าลำ และในหมู่บ้านปาตาปาเซ พบว่ามีชาวประมงเป็นเจ้าของเรือพาย 10 ครัวเรือน ส่วนบ้านตือปีตาโละมีเรือพาย 2 ถึง 3 ครัวเรือน ขณะที่ต้นศตวรรษ 2500 ครัวเรือนชุมชนรอบอ่าวมีเรือพายเกือบทุกครัวเรือน (หน้า 39)

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มี

Social Cultural and Identity Change

การเปลี่ยนแปลงของชุมชนประมงรอบอ่าวปัตตานี ด้านการประมงของชุมชนรอบอ่าวปัตตานีเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์ ที่ทันสมัย จึงทำให้สัตว์น้ำลดจำนวนลงเป็นจำนวนมาก ชาวประมงที่ยากจนได้รับความเดือดร้อนเพราะจับปลาได้ยากขึ้น (หน้า 33)

Other Issues

ไม่มี

Map/Illustration

ตาราง สัดส่วนการผลิตของประมงขนาดเล็กในเอเซียบางประเทศ (หน้า 2) เศรษฐกิจและสังคมของบ้านปาตาปาเซและบ้านตือปีตาโละ (หน้า 5) ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ ปี 2503-2536(หน้า 11) ปริมาณและมูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำปี 2512-2537 (หน้า 12) จำนวนและประเภทครัวเรือนและเรือประมงปี 2510, 2528,2533(หน้า 13) ผลผลิตสัตว์น้ำของเครื่องประมงแต่ละประเภทปี 2516-2534 (หน้า 14) ผลผลิตของเรือประมงอวนลาก (หน้า 16) สัตว์น้ำทะเลที่จับได้แยกตามชนิดและมูลค่า ปี 2528,2530,2533 (หน้า 16) สัตว์น้ำที่จับโดยชาวประมงขนาดเล็ก ปี 2514,2528-2529 (หน้า 17) การใช้เรือประมง ปี 2528,2533 (หน้า 19) ครัวเรือนประมงพาณิชย์แยกตามขนาดเรือ ปี 2528,2533 (หน้า 20) ตำบล หมู่บ้านและประชากรรอบอ่าวปัตตานี ปี 2524,2537(หน้า 22) ครัวเรือนประมงในชุมชนรอบอ่าว ปี 2524,2537 (หน้า 23) เครื่องมือประมง (หน้า 24) การทำประมง นาข้าว นาเกลือ (หน้า 26) ครัวเรือนและเรือประมง ปี 2510,2519 (หน้า 30) ประเภทสัตว์น้ำในอ่าวปัตตานี (หน้า 33) ปัญหาและการเปลี่ยนแปลงสัตว์น้ำที่จับได้ (หน้า 33) อาชีพของชุมชนประมงรอบอ่าวปัตตานี ปี 2529,2537 (หน้า 35) อาชีพและการเปลี่ยนแปลงอาชีพบ้านปาตาปาเซ,บ้านตือปีตาโละ (หน้า 34) เรือประมงในปัตตานี ปี 2528 (หน้า 36) เรือและเครื่องมือประมง ปี 2528 (หน้า 36) อายุการใช้งานและต้นทุนของเครื่องมือประมง (หน้า 37) ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ (หน้า 38) ราคาเครื่องมือ ปี 2528,2535-2536(หน้า 39) อาชีพและทรัพย์สินของครัวเรือนบ้านปาตาปาเซ,บ้านตือปีตาโละ (หน้า 41,45) อุตสาหกรรมต่อเนื่องประมงจังหวัดปัตตานี (หน้า 44) เรืออวนรุนอวนลากที่ถูกจับในจังหวัดปัตตานี ปี 2535-2538 (หน้า 50) ภาพ วิธีการจัดการทรัพยากรโดยรัฐ,จัดการทรัพยากรร่วมกัน (หน้า 70)

Text Analyst ภูมิชาย คชมิตร Date of Report 27 พ.ค. 2562
TAG ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู, เศรษฐกิจ, สังคม, วัฒนธรรม, ชุมชนประมง, ปัตตานี, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง