|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,ความเชื่อ,พฤติกรรม,การดูแลบุตร,โรคติดเชื้อเฉียบพลัน,เชียงราย |
Author |
ปรัศนี ศรีวิชัย |
Title |
ความเชื่อและพฤติกรรมการดูแลบุตรอายุ 0-5 ปี เมื่อติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจ ของมารดาชาวเขาเผ่าม้ง ในหมู่บ้านพญาพิภักดิ์ ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
78 |
Year |
2540 |
Source |
หลักสูตรปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
ม้งมีแนวทางการดำเนินชีวิตตามค่านิยมและระบบความเชื่อของชนเผ่าซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ เช่น ภูตผี ในทางการแพทย์กระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการรักษา จะมีพิธีกรรมเหล่านี้เข้าไปผสมผสานอยู่ด้วย เช่น พิธีกรรมเรียกขวัญในเวลาเจ็บป่วย ซึ่งกระทำร่วมกับการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน ทำให้บางครั้งม้งขาดความเข้าใจในเรื่องโรคบางโรค เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หรือบางครั้งม้ง มีความเชื่อด้านสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง และมีพฤติกรรมในการดูแลรักษาทึ่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นอุปสรรคในการระวังป้องกันและดูแลรักษาเป็นอย่างมาก (หน้า 5‚ 67-78) |
|
Focus |
ศึกษาถึงความเชื่อและพฤติกรรมการดูแลบุตรอายุ 0-5 ปี และความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อและพฤติกรรมการดูแลบุตรอายุ 0-5 ปี เมื่อติดเชื้อเฉียบพลันของมารดาชาวเขาเผ่าม้ง |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์ในกรณีศึกษาครั้งนี้ คือชาวเขาเผ่าม้งในหมู่บ้านพญาพิภักดิ์ ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย ซึ่งอพยพมาจากจีนโดยเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความเชื่อและค่านิยมเป็นของตนเอง (หน้า 5) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้งที่ศึกษาส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 30-39 ปี อายุต่ำสุด 15 ปี และสูงสุด 47 ปี ส่วนใหญ่ไม่สามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ โดยสามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ และอ่านภาษาไทยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (หน้า 39-40) |
|
Study Period (Data Collection) |
เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมิถุนายน 2539 – มิถุนายน 2540 (หน้า 2) |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
ม้งเป็นชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งอพยพมาจากจีนโดยมีวิถีชีวิต ความเชื่อและค่านิยมเป็นของตนเอง เชื่อเรื่องผีและสิ่งศักดิ์สิทธิตามธรรมชาติ โดยศึกษาม้งในหมู่บ้านพญาพิภักดิ์ ตำบลยาง- ฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย (หน้า ง‚5) |
|
Demography |
ข้อมูลประชากรในกรณีศึกษานี้ คือประชากรชาวเขาเผ่าม้ง ในหมู่บ้านพญาพิภักดิ์ ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย จำนวน 75 คน ที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งเคยติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในระหว่างเดือนมิถุนายน 2539 – มิถุนายน 2540 (หน้า ง) |
|
Economy |
รายได้ของครอบครัว ครอบครัวส่วนใหญ่จะมีเงินเหลือใช้แต่ไม่เหลือเก็บ โดยเงินสำรองที่มีในขณะนั้นใช้ในการรักษาเมื่อสมาชิกในครอบครัวเจ็บป่วย ใช้เงินจากการกู้ยืม ซื้อของใช้อำนวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และรถยนต์ โดยมีประชาการบางส่วนที่ยังคงไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน (หน้า 40) |
|
Belief System |
ม้งมีแนวทางการดำเนินชีวิตตามค่านิยมและระบบความเชื่อของชนเผ่าซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติเช่น ภูตผี ซึ่งในทางการแพทย์แล้วกระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการรักษา จะมีพิธีกรรมเหล่านี้เข้าไปผสมผสานอยู่ด้วย เช่น พิธีกรรมเรียกขวัญในเวลาเจ็บป่วย ซึ่งกระทำร่วมกับการรักษา โดยแพทย์แผนปัจจุบัน (หน้า 5) ความเชื่อในด้านการรักษาโรค ม้งมีความเชื่อด้านการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคและความเชื่อด้านการรับรู้ประโยชน์ อุปสรรค์ในการป้องกันโรค และดูแลบุตรเมื่อติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจ แต่มีความเชื่อด้านการรับรู้ความรุนแรงของโรคและความเชื่อด้านแรงจูงใจในเรื่องสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง (หน้า 42) ประชากรมีความเชื่อถูกต้องว่าการที่เด็กมีไข้ ไอหายใจบ่อย อาจทำให้ขาดสารอาหารได้และอาจทำให้ชักได้โดยถ้าชักบ่อยๆ อาจทำให้สมองเสื่อมได้ เด็กที่มีไข้ ไอ หรือมีน้ำมูก ถ้าไม่ให้การดูแลที่ถูกต้องอาจทำให้อาการของเด็กรุนแรงขึ้น โดยสามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ไม่ควรปล่อยให้หายเอง เด็กที่มีไข้ ไอ หายใจหอบไม่สามารถรักษาให้หายเองได้ และถ้าอาการรุนแรงมากขึ้น อาจทำให้ตายได้ แต่อย่างไรก็ตามความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการเชื่อว่าเด็กที่มีไข ไอ หรือมีน้ำมูกนั้น จะไม่ทำให้เด็กมีอาการปวดหู มีน้ำหรือหนองไหลออกจากหูได้ นั้นยังไม่ถูกต้องนัก (หน้า 45) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
เมื่อม้งเจ็บป่วย การดูแลบำบัดรักษาความเจ็บป่วยจะขึ้นกับค่านิยม และประสบการณ์ที่เคยได้รับ นอกจากนี้ฐานะทางเศรษฐกิจ และระบบการให้บริการทางสาธารณสุข จะเป็นตัวกำหนดวิธีการรักษา ซึ่งหากผู้ป่วยเป็นเด็กผู้ที่ตัดสินใจคือ บิดา มารดา หรือบางครั้งอาจจะปรึกษากับผู้อาวุโส ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งการรักษาแบบแผนโบราณ และแผนปัจจุบัน หรือแม้แต่กระทั่งการใช้รูปแบบทางพิธีกรรมความเชื่อไปผสมผสาน ( หน้า 5 ) การดูแลบุตร บิดา-มารดา จะผู้ให้คำแนะนำในการดูแลบุตรทั้งในเวลาปกติและเวลาเจ็บป่วย (หน้า 41) ม้งส่วนใหญ่มีการดูแลบุตรที่ถูกต้องเมื่อมีอาการอุจจาระร่วง ไอ น้ำมูก และมีไข้ แต่การดูแลเมื่ออาเจียน การดูแลทั่วไปและการสังเกตอาการระหว่างการติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจ ยังไม่เหมาะสม โดยเมื่อบุตรมีไข้จะช่วยเหลือเบื้องต้นโดยการให้ดื่มน้ำมากๆ การเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกาย จมูกและปาก เพื่อให้อาการไข้ทุเลา แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็จะพาไปพบแพทย์ แต่ยังคงปรากฏการพาบุตรไปให้หมอผีรักษา การใส่เสื้อผ้าหนาๆ รวมถึงการซื้อยาลดไข้ซึ่งไม่ใช่ยาพาราเซตามอลให้บุตรรับประทาน (หน้า 50-58) ปัญหาของการดูแลบุตร เมื่อศึกษาถึงความเชื่อและพฤติกรรมการดูแลบุตรอายุ 0-5 ปี และความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อและพฤติกรรมการดูแลบุตรอายุ 0-5 ปี เมื่อติดเชื้อเฉียบพลันของมาดาชาวเขาเผ่าม้งแล้วพบว่า การดูแลบำบัดรักษาความเจ็บป่วยจะขึ้นกับค่านิยม ความเชื่อและประสบการณ์ที่เคยได้รับ นอกจากนี้ฐานะทางเศรษฐกิจ และระบบการให้บริการทางสาธารณสุข จะเป็นตัวกำหนดวิธีการรักษา ซึ่งบางครั้งความเชื่อดังกล่าว เช่น เรื่องภุตผีหรือวิธีการรักษาโดยใช้พิธีกรรมขัดหรือแย้งกับทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ทำให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง อันอาจเป็นอุปสรรคต่อการระวังป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาต่อการให้บริการทางสาธารณสุขอย่างมาก (หน้า ง‚ 5‚ 67-78) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
ผู้เขียนได้ใช้ตารางข้อมูลสถิติในการอธิบายข้อมูลต่างๆ ซึ่งได้จากการเก็บข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์ประมวล |
|
|