สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject มอญ,ที่อยู่อาศัย,ความเชื่อ,ภาคกลาง
Author นภดล ฐิติพงษ์พาณิช
Title รูปแบบการอยู่อาศัยชุมชนไทยเชื้อสายมอญบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text -
Ethnic Identity ม้ง, Language and Linguistic Affiliations ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic)
Location of
Documents
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
(เอกสารฉบับเต็ม)
Total Pages 150 Year 2545
Source หลักสูตรปริญญาเคหพัฒนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคหการ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract

จากการวิจัยนี้สรุปได้ว่ารูปแบบการอยู่อาศัยของชุมชนไทยเชื้อสายมอญบางกระดี่มีลักษณะที่สำคัญคือ 1. รูปแบบการอยู่อาศัย ชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญบางกระดี่ มีรูปแบบการอยู่อาศัยที่มีการขยายตัวเกิดเป็นกลุ่มบ้านจนกระทั่งเป็นชุมชน โดยมีปัจจัยสำคัญอยู่ที่ระบบเครือญาติ 2. องค์ประกอบของเรือนและการจัดพื้นที่ใช้สอยที่อยู่อาศัย มาจากความเชื่อเรื่องการนับถือผีบรรพบุรุษ และความเชื่อเรื่องทิศซึ่งเป็นการกำหนดรูปแบบการอยู่อาศัย องค์ประกอบของเรือน การปลูกสร้างเรือน และการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในเรือน 3. การเปลี่ยนแปลงการใช้สอยพื้นที่อยู่อาศัย เกิดจากการเป็นครอบครัวขยาย โดยความสัมพันธ์ทางเครือญาติ และการนับถือผีบรรพบุรุษเป็นสิ่งกำหนดการวางผังพื้นที่ใช้สอย (หน้า 131-136)

Focus

เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบที่อยู่อาศัย กับการอยู่อาศัยของชาวไทยเชื้อสายมอญชุมชนบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (หน้า 2)

Theoretical Issues

ไม่ได้ระบุ

Ethnic Group in the Focus

หมู่บ้านชาวไทยเชื้อชายมอญบางกระดี่ ที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งคลองสนามชัย ซึ่งประกอบด้วย หมู่ที่ 2, 8 และ 9 บนถนนบางขุนเทียน ที่เป็นถนนสายรองเชื่อมต่อจากถนนพระราม 2 หรือที่รู้จักกันดีในนามถนนธนบุรี-ปากท่อ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (หน้า 30)

Language and Linguistic Affiliations

ไม่ได้ระบุ

Study Period (Data Collection)

ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2545 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 รวมการใช้เวลาในการวิจัยทั้งสิ้น 1 ปี 2 เดือน (หน้า 24)

History of the Group and Community

เนื่องจากบริเวณหมู่บ้านบางกระดี่ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีสภาพเป็นป่าชายเลน อุดมไปด้วยป่าจาก และมีคลองสนามชัยซึ่งเป็นคลองที่ทอดยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพมหานคร ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ และไปสิ้นสุดที่อ่าวไทย ซึ่งสามารถใช้เป็นเส้นทางคมนาคมไปยังมหาชัย และกรุงเทพมหานครได้ จึงทำให้บรรพบุรุษของชาวไทยเชื้อชายมอญแห่งนี้อพยพมาจากมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และคลองสุนัขหอนเพื่อมาจับจองแหล่งทำมาหากิน นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่อพยพมาจากปากเกร็ด ที่มีอาชีพส่วนใหญ่ในการขายฟืนและการเย็บจาก อีกทั้งชาวมอญจากบริเวณใกล้เคียง เช่น บางไส้ไก่ คลองบางหลวง และปากลัด เป็นต้น ที่อพยพมาอยู่รวมกันเกิดเป็นชุมชนใหญ่ในเวลาต่อมา (หน้า 30)

Settlement Pattern

ชาวไทยเชื้อชายมอญบางกระดี่นี้ จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการอยู่อาศัยที่ประกอบด้วยข้อห้ามคำสั่งสอนของคนมอญโบราณที่สืบทอดต่อกันมาปรากฏอยู่ในคัมภีร์ใบลาน การปลูกเรือนใหม่ต้องมีเกณฑ์ที่ถูกโฉลกหลายประการ เริ่มตั้งแต่การเลือกเวลาที่จะลงมือปลูก การเลือกตำแหน่งที่จะปลูก ขุดเสาเรือน ตั้งเสาเรือน การเลือกขนาดส่วนประกอบของเรือน กิจกรรมข้างต้นเหล่านั้น ล้วนต้องได้รักการปรึกษาผู้อาวุโสในชุมชน สมภารเจ้าวัด และช่างปลูกเรือนที่มีความรู้ในการกำหนดวันและพิธีการปลูกเรือน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆ ที่กำหนดไว้ในตำราการปลูกเรือน ซึ่งสืบทอดและปฏิบัติต่อกันมา เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับครอบครัวอีกด้วย สำหรับการปลูกเรือนของชาวมอญบางกระดี่นี้ จะมีเสาเรือนอยู่ 3 ต้น ที่สำคัญคือ 1. “เสาพระ” เป็นเสาสำหรับที่ตั้งบูชาพระพุทธรูป ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเรือน 2. “เสาผีบรรพบุรุษ หรือเสาตัวผู้” ถือเป็นเสาเอก เป็นที่ตั้งของปาโหนก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผีบรรพบุรุษของตระกูล ในส่วนเรือนของญาติที่ถือผีบรรพบุรุษของตระกูลเดียวกัน จะผูกผ้าสีแดงและมีการปิดทองที่เสาแสดงถึงการเป็นที่สถิตของผีบรรพบุรุษ 3. “เสาตัวเมีย” เป็นเสาที่จะถูกตั้งคู่กับเสาผีบรรพบุรุษในการปลูกเรือน (หน้า 54 – 57) มอญบางกระดี่ให้ความสำคัญกับความเชื่อในการปลูกสร้างเรือนคือ การจัดให้พระพุทธรูปอยู่ที่เสาแรกของเรือนนอน เสาผีบรรพบุรุษอยู่ที่เสาสองของเรือนนอน การปลูกเรือนโดยดูทิศทางของจั่วหลังคาเรือน ให้อยู่ทางทิศตะวันออก-ตะวันตก (ตามทิศทางพระอาทิตย์) การถือทิศหัวนอนต้องหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันออกเท่านั้น เช่นเดียวกันกับบันไดกำหนดทิศทางขึ้นให้อยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันออก ในเรือนที่ปลูกสร้างใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักกับการยกระดับพื้นที่นอนให้สูงกว่าระดับพื้นห้องอื่น โดยรูปแบบการอยู่อาศัยของมอญบางกระดี่จะมีลักษณะการขยายตัวเกิดเป็นกลุ่มบ้านจนกระทั้งเป็นชุมชน โดยมีปัจจัยจากระบบเครือญาติ และมีการนับถือบรรพบุรุษในตระกูลเดียวกัน ในชุมชนมอญบางกระดี่จะมีความสัมพันธ์ทางสังคมในระดับเครือญาติมาก โดยมีความสัมพันธ์จากทางสายเลือดหรือการสืบเชื้อสายซึ่งคือการนับถือบรรพบุรุษเดียวกัน และการแต่งงานหรือเกี่ยวดองกัน คือ การที่บุคคลหนึ่งเป็นญาติกับอีกคนหนึ่งเพราะเป็นลูกหลาน หรือเป็นสะใภ้ เป็นต้น ครอบครัวที่แยกออกมาก็มีรูปแบบครอบครัวคือ เป็นครอบครัวเดี่ยว และครอบครัวขยายข้างฝ่ายชายซึ่งหมายถึงการที่ผู้หญิงเข้ามาอยู่กับครอบครัวของสามี และครอบครัวขยายข้างฝ่ายหญิงคือที่ฝ่ายชายไปอยู่กับครอบครัวของภรรยา และการขยายครอบครัวโดยการออกไปปลูกเรือนซึ่ง อยู่ใกล้กับเรือนของพ่อแม่หลังเดิม จนเกิดเป็นกลุ่มเรือน แต่ก็มีประชาการบางกลุ่มที่แยกครอบครัวไปนอกชุมชนเพราะ เมื่อประชากรในชุมชนมากขึ้นที่ดินในบริเวณบ้านเดิมของพ่อแม่มีจำกัด สมาชิกของกลุ่มเครือญาติจำเป็นต้องจะกระจายกันมีที่อยู่อาศัยในบริเวณอื่นต่อไป ทำให้เกิดการแยกออกไปนอกชุมชนบางกระดี่ ส่วนการนับถือว่าเป็นบุคคลในเครือญาติเดียวกันจะมีการกำหนดด้วยสัญลักษณ์คือ “ป่าโหนก” ที่ต้องคอยดูแลรักษาให้ดี เพื่อความเป็นสุขของคนในตระกูล (หน้า59-130)

Demography

ข้อมูลสถิติชุมชนบางกระดี่ ในปี พ.ศ. 2543 พบว่า หมู่ที่ 2 มีความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่มากที่สุด เพราะในปัจจุบัน มีการสร้างหอพัก เพื่อรับรองให้กับผู้ที่ทำงานในโรงงานในพื้นที่ได้เข้าพักอาศัย (หน้า 43)

Economy

อาชีพดั้งเดิมเริ่มแรกของชาวมอญบางกระดี่ส่วนใหญ่คือการทำนา ครั้นเมื่อหมดฤดูทำนา ชาวบ้านต่างพากันเริ่มเปลี่ยนอาชีพมาเป็นเย็บจาก และตัดฟืนขาย เนื่องจากบริเวณชุมชนนี้มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่เอื้ออำนวย และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปรายได้จากการเย็บจากตัดฟืน เริ่มไม่พอยังชีพ ต่างจึงเริ่มหันมาประกอบอาชีพอื่นๆ เพิ่มเติม ได้แก่ การทำวังกุ้ง วังปลา รวมไปถึงค้าขาย รับราชการ และทำงานโรงงาน หรือ บริษัทเอกชน เป็นต้น เนื่องด้วยการพัฒนาทางกายภาพของพื้นที่รอบชุมชน เช่นเริ่มจากการขยายปรับปรุงถนนบางกระดี่ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและโรงงานในพื้นที่ นั่นเอง ที่ทำให้วิถีการใช้ชีวิตเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง (หน้า 43-47)

Social Organization

ไม่ได้ระบุ

Political Organization

ไม่ได้ระบุ

Belief System

“อะโหนก” หรือ “ปาโหนก” ที่แปลว่าพ่อปู่ หรือบรรพบุรุษนั้น ชาวมอญบางกระดี่จะให้ความเคารพและนับถือมาก โดยจะมีสัญลักษณ์อยู่ที่เสาเอกของเรือน และปาโหนก หรือผีบรรพบุรุษนั้น ในแต่ละครัวเรือนก็จะมีการปฏิบัติต่อผีบรรพบุรุษแต่ละประเภทแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของปาโหนกของตระกูลนั้นๆ นอกจากนี้ปาโหนกของชาวมอญบางกระดี่จะอยู่กับลูกชายคนเล็กเท่านั้น เว้นแต่กรณีที่มีลูกชายคนเดียวก็อนุโลมได้ หรือถ้าไม่มีลูกชาย ปาโหนกก็จะต้องอยู่กับญาติพี่น้องที่เป็นตระกูลเดียวกัน และในรอบหนึ่งปีนั้น จะมีการเซ่นบูชาปาโหนก 1 ครั้ง โดยส่วนใหญ่มักจะทำพิธีหลังสงกรานต์ สำหรับสิ่งของที่เป็นตัวแทนปาโหนก ได้แก่ กระบุงหรือหีบที่ใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ซึ่งสิ่งของทุกอย่างที่ถือว่าเป็นของปาโหนกนั้น จะต้องหมั่นดูแลรักษาให้ดี ไม่ให้ผุพัง มิเช่นนั้นจากความเชื่อแล้วจะทำให้เกิดความเจ็บป่วย และมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในครอบครัว ในเรื่องของภาชนะใส่อาหารนั้น บางเรือนมีความเชื่อว่าควรใช้ภาชนะที่ปากงุ้ม เช่น พานทรงขอบสูง เป็นต้น ทั้งนี้เพราะเชื่อกันว่าจะมีกินมีใช้ไม่รั่วไหล (หน้า 49-51)

Education and Socialization

ไม่ได้ระบุ

Health and Medicine

ไม่ได้ระบุ

Art and Crafts (including Clothing Costume)

อาหารในพิธีกรรมเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ (ปาโหนก) ได้แก่ มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า เหล้าขาว กวาญหะโตนะห์ กวาญหะโตเจิญ กวาญป๊อก กวาญก๊อกแก กวาญอะลก กวาญอะลานกะกอ เต่าต้ม ไก่ต้ม ผลไม้ตามแต่จะหาได้ น้ำเปล่า 1 ขัน ซึ่งอาหารที่ใช้เซ่นไหว้ผีส่วนใหญ่จะคล้ายกัน เพียงแต่เน้นที่สัญลักษณ์ของตระกูลนั้นๆ ว่านับถือผีใด เช่น ผีเต่า ก็จะเซ่นด้วย เต่าต้ม เป็นต้น (หน้า 50-51)

Folklore

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาในเรื่องความเชื่อเรื่องผีของมอญว่า ในสมัยบรรพกาลมีเศรษฐีผู้หนึ่งมีภรรยา 2 คน ต่อมาภรรยาหลวงฆ่าลูกภรรยาน้อยตายเพราะความริษยา ทั้งสองคนจึงอาฆาตซึ่งกันและกันและกินลูกของอีกฝ่ายสลับกันไปแต่ละชาติ จนในที่สุดอีกฝ่ายหนึ่งได้เกิดเป็นผี อีกฝ่ายก็ได้เกิดเป็นมนุษย์และมีลูก ฝ่ายผีนั้นก็ไล่ตามมนุษย์เพื่อกินลูกของมนุษย์ ฝ่ายมุนษย์จึงหนีไปพึ่งพระพุทธองค์ที่ประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร พระพุทธองค์ทรงทราบถึงเรื่องราวความเป็นมาในอดีตชาติ จึงเทศนาให้นางผีนั้นได้เห็นโทษของการจองเวร และทำให้นางผีกับมนุษย์ได้ระงับการจองเวรต่อกัน ต่อมานางผีได้ไปอยู่กับนางมนุษย์และได้ช่วยเหลือนางมนุษย์ จนบังเกิดผลดีมีโภคทรัพย์มั่งคั่ง เป็นผลพลอยให้ข้าวปลาอาหาร พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ดีไปด้วย นี่จึงเป็นเหตุที่มาของการนับถือผีของมอญ (หน้า 48)

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

จากการศึกษาพบว่า แม้จะเริ่มมีความเจริญเข้ามาสู่ชุมชน แต่ก็ยังสามารถรักษาประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ และความสัมพันธ์เชิงเครือญาติภายในชุมชนได้อย่างดี (หน้า 47)

Social Cultural and Identity Change

เมื่อมีความเจริญเข้ามาพร้อมกับเส้นทางการสัญจรทางบก ก็เป็นจุดเริ่มให้พื้นที่ชุมชนนี้มีความเปลี่ยนแปลง อาทิเช่น ในเรื่องของการติดต่อกับชุมชนจากเดิมที่ใช้การสัญจรทางน้ำ ก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นการสัญจรทางบก เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วกว่า อีกทั้งในเรื่องการสร้างบ้านเรือน โดยแต่เดิมจะสร้างเรือนให้หน้าเข้าหาคลองนั้น ก็เริ่มเปลี่ยนมาเปิดรับเข้าสู่ด้านถนน เป็นต้น อีกทั้งยังพบว่ามีการสร้างบ้านเรือนใหม่เพิ่มขึ้นตามแนวของถนน มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรขยายตัวเข้ามาพัฒนาในพื้นที่นี้มากขึ้นอีกด้วย และพื้นที่บริเวณป่าจากต่างเริ่มถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย (หน้า 31 และ 42)

Other Issues

ไม่ได้ระบุ

Map/Illustration

ผู้วิจัยได้มีการนำเสนอข้อมูลด้วยการใช้แผนที่, ตาราง, แผนภูมิ และรูปภาพเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย แผนที่ : 1. ที่ตั้งพื้นที่ศึกษาและการแบ่งแขวงในเขตบางขุนเทียน (หน้า 5) 2. แสดงการแบ่งเขตปกครองในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 6) 3. แสดงโครงร่างการตั้งถิ่นฐานจากภาพถ่ายทางอากาศปีพ.ศ. 2496 (หน้า 32) 4. แสดงโครงร่างการตั้งถิ่นฐานจากภาพถ่ายทางอากาศปีพ.ศ. 2517 (หน้า 33) 5. แสดงโครงร่างการตั้งถิ่นฐานจากภาพถ่ายทางอากาศปีพ.ศ. 2539 (หน้า 34) 6. แสดงโครงร่างการตั้งถิ่นฐานจากภาพถ่ายทางอากาศปีพ.ศ. 2544 (หน้า 35) 7. แผนที่ชุมชนแสดงทางสัญจรในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 36) 8. แผนที่ชุมชนแสดงทางสัญจรในชุมชนบางกระดี่ และภาพจำลองลักษณะอาคารในชุมชน (หน้า 3) 9. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลลอยลาดในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 59) 10. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลลอยลาด (หน้า 60) 11. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลอุ่นสุดคลองในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 69) 12. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 70) 13. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลเปียมาลัยในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 79) 14. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลเปียมาลัย (หน้า 80) 15. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลสอนสำแดงในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 59) 16. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลสอนสำแดง (หน้า 89) 17. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลหัวใจเพ็ชรในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 97) 18. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 98) 19. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลก้อนดีในชุมชนบางกระดี่ (หน้า 107) 20. แสดงที่ตั้งของกลุ่มบ้านตระกูลก้อนดี (หน้า 108) ตาราง : 1. แสดงขั้นตอนและระยะเวลาในการวิจัย (หน้า 24) 2. ข้อมูลสถิติชุมชนบางกระดี่ วนปี 2543 (หน้า 43) 3. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลำดับเครือญาติ กับการเกิดกลุ่มบ้านและการเปลี่ยนแปลงของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลลอยลาด (หน้า 61) 4. องค์ประกอบเรือนของตระกูลลอยลาดกับความเชื่อ (หน้า 68) 5. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลำดับเครือญาติ กับการเกิดกลุ่มบ้านและการเปลี่ยนแปลงของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 71) 6. องค์ประกอบเรือนของตระกูลอุ่นสุดคลองกับความเชื่อ (หน้า 78) 7. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลำดับเครือญาติ กับการเกิดกลุ่มบ้านและการเปลี่ยนแปลงของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลเปียมาลัย (หน้า 81) 8. องค์ประกอบเรือนของตระกูลเปียมาลัยกับความเชื่อ (หน้า 87) 9. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลำดับเครือญาติ กับการเกิดกลุ่มบ้านและการเปลี่ยนแปลงของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลสอนสำแดง (หน้า 90) 10. องค์ประกอบเรือนของตระกูลสอนสำแดงกับความเชื่อ (หน้า 96) 11. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลำดับเครือญาติ กับการเกิดกลุ่มบ้านและการเปลี่ยนแปลงของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลใจเพ็ชร (หน้า 99) 12. องค์ประกอบเรือนของตระกูลใจเพ็ชรกับความเชื่อ (หน้า 106) 13. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลำดับเครือญาติ กับการเกิดกลุ่มบ้านและการเปลี่ยนแปลงของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลก้อนดี (หน้า 109) 14. องค์ประกอบเรือนของตระกูลก้อนดีกับความเชื่อ (หน้า 117) 15. สรุปรูปแบบการขยายครัวกับการเกิดกลุ่มบ้าน (หน้า 119) 16. สรุปองค์ประกอบของเรือนกับประเพณีความเชื่อ (หน้า 121) 17. สรุปการเปลี่ยนแปลงการจัดพื้นที่ใช้สอยของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลลอยลาด และตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 122) 18. สรุปการเปลี่ยนแปลงการจัดพื้นที่ใช้สอยของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลเปียมาลัย และตระกูลสอนสำแดง (หน้า 123) 19. สรุปการเปลี่ยนแปลงการจัดพื้นที่ใช้สอยของเรือนที่มีปาโหนกของตระกูลหัวใจเพ็ชร และตระกูลก้อนดี (หน้า 124) แผนภูมิ : 1. การดำเนินการวิจัย รูปแบบการอยู่อาศัยของชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (หน้า 27) 2. แสดงกรอบแนวคิดในการศึกษา (หน้า 29) 3. แสดงเครือญาติของตระกูลลอยลาด (หน้า 59) 4. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 1 ตระกูลลอยลาด (หน้า 62) 5. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 2 ตระกูลลอยลาด (หน้า 63) 6. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 3 ตระกูลลอยลาด (หน้า 66) 7. แสดงเครือญาติของตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 69) 8. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 1 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 72) 9. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 2 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 73) 10. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 3 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 74) 11. แสดงเครือญาติของตระกูลเปียมาลัย (หน้า 79) 12. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 1 ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 82) 13. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 2 ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 83) 14. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 3 ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 85) 15. แสดงเครือญาติของตระกูลสอนสำแดง (หน้า 88) 16. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 1 ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 91) 17. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 2 ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 92) 18. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 3 ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 93) 19. แสดงเครือญาติของตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 97) 20. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 1 ตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 100) 21. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 2 ตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 101) 22. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 3 ตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 103) 23. แสดงเครือญาติของตระกูลก้อนดี (หน้า 107) 24. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 1 ตระกูลก้อนดี (หน้า 110) 25. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 2 ตระกูลก้อนดี (หน้า 111) 26. ลำดับเครือญาติขั้นที่ 3 ตระกูลก้อนดี (หน้า 114) รูปภาพ : 1. ลักษณะการวางเรือนนอนตามความเชื่อเรื่องทิศ จากการวิจัยของเทิดศักดิ์ มหาเรือนทรง (หน้า 13) 2. ลักษณะการวางเรือนนอนตามความเชื่อเรื่องทิศ จากงานวิจัยการศึกษาชุมชนมอญ ในพื้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ (หน้า 15) 3. เพื่อนบ้านช่วยกันกวนกาละแมช่วงก่อนวันสงกรานต์ (หน้า 19) 4. เรือนที่ริมแม่น้ำสังขละ (หน้า 20) 5. ลักษณะเรือนที่ อ. สังขละ (หน้า 20) 6. เรือนไม้ที่ ต. สร้อยฟ้า (หน้า 20) 7. เรือนฝาปะกนที่ ต.สร้อยฟ้า (หน้า 21) 8. คลองสนามชัย (หน้า 38) 9. คลองบางกระดี่ (หน้า 39) 10. คอลงย่อย (หน้า 39) 11. ถนนบริเวณทางเข้าชุมชนปี พ.ศ. 2519 (หน้า 40) 12. สะพานหมู่บ้านในปี พ.ศ. 2519 (หน้า 41) 13. สะพานหมู่บ้านในปัจจุบัน (หน้า 41) 14. ถนนในหมู่บ้านหลังวัด (หน้า 41) 15. ทางเท้าสายหลัก ระหว่างหมู่ 8 และ 9 (หน้า 42) 16. แม่บ้านนั่งทำงานเย็บจากที่ใต้ถุนเรือน (หน้า 44) 17. โรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งริมถนนบางกระดี่ (หน้า 46) 18. สัญลักษณ์ผีบรรพบุรุษแบบที่ใส่ตะกร้าของตระกูลปานอู (หน้า 51) 19. เสาผีบรรพบุรุษของเรือนตระกูลสอนสำแดง (หน้า 52) 20. สัญลักษณ์ผีบรรพบุรุษแบบหีบไม้ของตระกูลลอยลาด (หน้า 52) 21. กระบอกน้ำ เป็นกระบอกไม้ไผ่สำหรับใส่น้ำ มี 6-12 กระบอก (หน้า 53) 22. ผ้านุ่งของผู้ชาย - หญิง 1 ผืน เสื้อแขนยาวสีขาวผ่าหน้าตลอด (หน้า 53) 23. แหวนกำไลข้อมือ (หน้า 53) 24. ตำราการปลูกเรือนที่แปลจากภาษามอญเป็นภาษาไทยของครอบครัวเตียเปิ้นเก็บรักษาไว้ (หน้า 54) 25. แสดงการนับเสาเอก (หน้า 56) 26. แสดงการนับเสาผีบรรบุรุษ เสาที่สองในแต่ละเรือนที่มีทิศจั่วเรือนต่างกัน (หน้า 57) 27. แสดงการขยายตัวของกลุ่มบ้านตระกูลลอยลาด (หน้า 61) 28. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 ตระกูลลอยลาด ปี พ.ศ. 2460 (หน้า 62) 29. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 ตระกูลลอยลาด ปี พ.ศ. 2545 (หน้า 63) 30. ภาพถ่ายรูปด้านทิศใต้เรือนหลังที่ 1 ตระกูลลอยลาดปี พ.ศ. 2545 (หน้า 64) 31. รูปตัดและรูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 1 ตระกูลลอยลาด ปีพ.ศ. 2545 (หน้า 64) 32. เรือนหลังที่ 2 ตระกูลลอยลาด (หน้า 65) 33. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 3 (เรือนของ EGO) ตระกูลลอยลาด (หน้า 66) 34. รูปตัดและรูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 3 (เรือนของ EGO) ตระกูลลอยลาด (หน้า 67) 35. รูปแสดงการจัดเสาพระ และเสาผีเรือนหลังที่ 3 (เรือนของ EGO) ตระกูลลอยลาด (หน้า 67) 36. แสดงการขยายตัวของกลุ่มบ้านตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 70) 37. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 ตระกูลอุ่นสุดคลอง ปี พ.ศ. 2465 (หน้า 72) 38. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 2 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 73) 39. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 3 (เรือนของ EGO ในปี พ.ศ. 2485) ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 73) 40. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 75) 41. รูปตัดและรูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 75) 42. แสดงการจัดห้องนอนภายในเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 76) 43. เรือนหลังที่ 3 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 76) 44. เรือนหลังที่ 4 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 77) 45. เรือนหลังที่ 5 และ 6 ตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 77) 46. แสดงการขยายตัวของกลุ่มบ้านตระกูลเปียมาลัย (หน้า 80) 47. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 ตระกูลเปียมาลัยปี พ.ศ. 2468 (หน้า 82) 48. เรือนหลังที่ 2 ของตระกูลเปียมาลัยที่ไปปลูกใกล้เรือนหลังที่ 1 (หน้า 83) 49. เรือนหลังที่ 3 ของตระกูลเปียมาลัยที่ไปปลูกใกล้เรือนหลังที่ 1 (หน้า 83) 50. เรือนหลังที่ 4 ของตระกูลเปียมาลัยที่ไปปลูกใกล้เรือนหลังที่ 1 (หน้า 84) 51. เรือนหลังที่ 5 ของตระกูลเปียมาลัยที่ไปปลูกใกล้เรือนหลังที่ 1 (หน้า 84) 52. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 85) 53. เรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 86) 54. รูปด้านทิศเหนือเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 86) 55. รูปตัดเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลเปียมาลัย (หน้า 86) 56. แสดงการขยายตัวของกลุ่มบ้านตระกูลสอนสำแดง (หน้า 91) 57. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 91) 58. เรือนหลังที่ 2 ของตระกูลสอนสำแดง (หน้า 92) 59. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 3 ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 92) 60. แผนผังพื้นชั้นล่างเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 93) 61. แผนผังพื้นชั้นบนเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 94) 62. รูปตัดเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 94) 63. รูปด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 94) 64. แสดงการจัดห้องนอนภายในเรือนหลังที่ 1 เรือนของ EGO ตระกูลสอนสำแดง (หน้า 95) 65. แสดงการขยายตัวของกลุ่มบ้านตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 98) 66. แผนผังเรือนหลังที่ 1 ตระกูลหัวใจเพ็ชร ปีพ.ศ. 2465 (หน้า 100) 67. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 2 ตระกูลหัวใจเพ็ชรที่ปลูกอยู่ข้างเคียง (หน้า 101) 68. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 3 ตระกูลหัวใจเพ็ชรที่ปลูกอยู่ข้างเคียง (หน้า 102) 69. แผนผังเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 103) 70. รูปตัดเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 104) 71. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 104) 72. รูปด้านทิศตะวันตกเรือนหลังที่ 4 ตระกูลหัวใจเพ็ชร ที่ปลูกใกล้เรือนหลังที่ 1 (หน้า 105) 73. รูปด้านทิศตะวันตกเรือนหลังที่ 5 ตระกูลหัวใจเพ็ชร ที่ปลูกใกล้เรือนหลังที่ 1 (หน้า 105) 74. แสดงการขยายตัวของกลุ่มบ้านตระกูลก้อนดี (หน้า 108) 75. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 ตระกูลก้อนดี ปี พ.ศ. 2462 (หน้า 110) 76. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 1 ตระกูลก้อนดี (หน้า 111) 77. รูปด้านทิศตะวันตกเรือนหลังที่ 2 ตระกูลก้อนดี (หน้า 111) 78. รูปด้านทิศเหนือเรือนหลังที่ 3 ตระกูลก้อนดีที่ปลูกอยู่ข้างเคียง (หน้า 112) 79. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 4 ตระกูลก้อนดีที่ปลูกอยู่ข้างเคียง (หน้า 112) 80. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 5 ตระกูลก้อนดีที่ปลูกอยู่ข้างเคียง (หน้า 113) 81. รูปด้านทิศตะวันออกเรือนหลังที่ 6 ตระกูลก้อนดีที่ปลูกอยู่ข้างเคียง (หน้า 113) 82. แผนผังพื้นชั้นล่าง และชั้นบนเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลก้อนดี (หน้า 114) 83. รูปตัดและรูปด้านทิศใต้เรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลก้อนดี (หน้า 115) 84. แสดงการจัดห้องนอนภายในเรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลก้อนดี (หน้า 115) 85. ภาพถ่ายบันไดทางขึ้นทางทิศใต้ (เรือนของ EGO) ตระกูลก้อนดี (หน้า 116) 86. ภาพถ่ายรูปด้านทิศใต้เรือนหลังที่ 1 (เรือนของ EGO) ตระกูลก้อนดี (หน้า 116) 87. แผนผังการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยพื้นชั้นล่างเรือนหลังที่ 3 (เรือนที่มีปาโหนก) ของตระกูลลอยลาด ตระกูลก้อนดี (หน้า 125) 88. แผนผังการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยพื้นชั้นล่าง (เรือนที่มีปาโหนก) ของตระกูลอุ่นสุดคลอง (หน้า 126) 89. แผนผังการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยพื้นชั้นล่างและชั้นบน (เรือนที่มีปาโหนก) ของตระกูลเปียมาลัย (หน้า 127) 90. แผนผังการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยพื้นชั้นล่าง (เรือนที่มีปาโหนก) ของตระกูลสอนสำแดง (หน้า 128) 91. แผนผังการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยพื้นชั้นล่างและชั้นบน (เรือนที่มีปาโหนก) ของตระกูลหัวใจเพ็ชร (หน้า 129) 92. แผนผังการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยพื้นชั้นล่าง (เรือนที่มีปาโหนก) ของ ตระกูลก้อนดี (หน้า 130)

Text Analyst สุพรรณิการ์ เอี่ยมแสนสุข Date of Report 28 มิ.ย 2560
TAG มอญ, ที่อยู่อาศัย, ความเชื่อ, ภาคกลาง, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง