|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มุสลิมเชื้อสายมาเลย์,นามสกุล,นนทบุรี |
Author |
อาภรณ์ คูประเสริฐวงศ์ |
Title |
นามสกุลคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์: กรณีศึกษาที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไม่ระบุ |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
(เอกสารฉบับเต็ม) |
Total Pages |
120 |
Year |
2544 |
Source |
หลักสูตรปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร |
Abstract |
จากการศึกษานามสกุลคนไทยมุสลิมเชื้อสายมุสลิมที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีสรุปได้ว่า คนไทยมุสลิมกลุ่มนี้ใช้ภาษาในการตั้งนามสกุลที่หลากหลาย โดยนิยมตั้งเป็นภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตหรือประสมกับภาษาไทยมากที่สุด รองลงมา คือ ภาษาไทย ภาษาอาหรับ ภาษามลายู และภาษาอื่นๆ มีจำนวนพยางค์ตั้งแต่ 2-7 พยางค์ โดยนิยมจำนวน 2 พยางค์มากที่สุด รองลงมา คือ 3 พยางค์ 4 พยางค์ และ 5-7 พยางค์ ตามลำดับ ความหมายที่นิยมนำมาตั้งนามสกุลมากที่สุดมีทั้งความหมายที่เป็นรูปธรรม นามธรรม และคุณลักษณะ ความหมายที่นิยมนำมาตั้งเป็นนามสกุลมากที่สุด คือ ความหมายแสดงเครือญาติ หรือเชื้อสาย รองลงมา คือ ความหมายที่แสดงความเป็นสิริมงคล ความสงบสุข และความหมายที่เป็นชื่อของศาสดา หรือชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ความหมายที่นิยมนำมาตั้งเป็นนามสกุลน้อยที่สุด คือ ความหมายที่เกี่ยวกับอาชีพ และความหมายเกี่ยวกับความเชื่อ ได้แก่ เทพ วิญญาณ ความฝัน สำหรับวิธีการตั้งนามสกุลคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์จำแนกได้ 3 กลุ่ม คือ นามสกุลที่ใช้มาตั้งแต่มีพระราชบัญญัติขนานนามนามสกุลที่ตั้งขึ้นใหม่ และนามสกุลที่เปลี่ยนมาจากนามสกุลเดิม โดยอาจมีเค้าทางเสียงแต่ไม่คงความหมาย และนามสกุลที่ตั้งขึ้นใหม่โดยไม่คงเสียงแต่คงความหมาย ค่านิยมที่สะท้อนให้เห็นจากการตั้งนามสกุลของคนไทยมุสลิมกลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ค่านิยมเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องสาสนาอิสลาม ค่านิยมในเรื่องความเชื่ออื่นๆ เช่น เทพ วิญญาณ ความฝัน ค่านิยมในการแสดงความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เชื้อสาย และตระกูล และค่านิยมที่แสดงความสัมพันธ์กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หน้า ง, 73-76 ) |
|
Focus |
ศึกษานามสกุลคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์ที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จำนวน 490 นามสกุล อันได้แก่ โครงสร้างของนามสกุล จำนวนพยางค์ ความหมาย วิธีตั้งนามสกุล และค่านิยมที่สะท้อนได้จากนามสกุลของคนไทยมุสลิมกลุ่มนี้ (หน้า ง, 73) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ผู้เขียนสนใจศึกษานามสกุลคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์ที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่และมีจำนวนชาวไทยมุสลิมมากที่สุดในภาคกลาง (หน้า 3, 28) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
คนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์ ที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้อพยพมาจากจังหวัดปัตตานีในสมัยรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 3 เนื่องมาจากผลของสงครามและการสู้รบกันตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวคือ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาถยกกองทัพไปปราบพม่าทางภาคใต้ แล้วเลยไปตีหัวเมืองปัตตานี พระองค์จึงให้ชาวมุสลิมปัตตานีไปตั้งถิ่นฐานที่บ้านท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อประมาณ 2329 โดยโต๊ะกีวังกะมาเป็นบรรพบุรุษคนแรกของมุสลิมที่บ้านท่าอิฐ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงอ้อมเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพไปปราบกบฏหัวเมืองทางใต้อีกครั้ง และได้ตีเมืองไทรบุรี ทำให้ชาวเมืองไทรบุรีร่วมเดินทางมากับกองทัพด้วย พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านท่าอิฐอีกครั้ง (หน้า 3, 25-26) |
|
Social Organization |
ผู้เขียนกล่าวว่าลักษณะครอบครัวคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ สมาชิกต่างช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ผู้น้อยจะได้รับการปลูกฝังให้เชื่อฟัง กตัญญูต่อผู้ใหญ่ และรักครอบครัว ซึ่งความสัมพันธ์ในครอบครัว และเครือญาติดังกล่าวนี้ ทำให้คนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์นิยมนำความหมายที่แสดงความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เชื้อสาย และตระกูลมาตั้งเป็นนามสกุลมากที่สุด เช่น ใช้คำว่า จู จิ๊ ซู เด๊ะ นิ ขึ้นต้นนามสกุลแล้วตามด้วยชื่อคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเคารพนบนอบ มีสัมมาคารวะผู้ที่ควรนับถือ หรือผู้สูงอายุคนไทยมุสลิมเชื่อสายมาเลย์ (หน้า 66-67) |
|
Belief System |
คนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์นับถือศาสนาอิสลาม และถือว่าศาสนาอิสลามเป็นธรรมนูญแห่งชีวิตของคนมุสลิมทุกคน ดังนั้นคนไทยมุสลิมกลุ่มนี้จะปฏิบัติตามหลักปฏิบัติของศาสนาอย่างเคร่งครัด เพื่อที่องค์อัลลอฮ (ซุปฮาฯ) จะประทานสิ่งที่ดีให้ ความเชื่อทางศาสนาดังกล่าวทำให้คนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์นิยมตั้งนามสกุลเป็นภาษามลายู ภาษาอาหรับ และชื่อที่ตั้งตามบุคคลสำคัญในศาสนา สำหรับค่านิยมอื่นๆ ปรากฏในคนไทยมุสลิมกลุ่มนี้ ได้แก่ ค่านิยมในเรื่องความเชื่อเรื่องเทพ วิญญาณ ความฝัน คนไทยมุสลิมกลุ่มนี้จึงนิยมตั้งนามสกุลที่สะท้อนให้เห็นความเชื่อดังกล่าว ค่านิยมในการแสดงความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เชื้อสาย และตระกูล ดังนั้นคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์จึงนิยมนำความหมายที่แสดงความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เชื้อสาย และตระกูลมาตั้งเป็นนามสกุล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผูกพันของสถาบันครอบครัวคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์ได้เป็นอย่างดี และค่านิยมที่แสดงความสัมพันธ์กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนำธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น ชื่อสถานที่ ชื่อสัตว์ ชื่อพืช ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือสิ่งของเครื่องใช้และยานพาหนะ มาตั้งเป็นนามสกุลค่านิยมข้อนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยมุสลิมกลุ่มนี้ได้ประเมินสิ่งที่อยู่รอบตัวว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ และยังให้คุณค่าแก่สิ่งเหล่านั้นในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หรือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิต จึงถือเอาชื่อเหล่านั้นมาตั้งเป็นมงคลนาม(หน้า ง, 59-76) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ชุมชนของคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์มีความเป็นอยู่ระหว่างวัฒนธรรม 2 วัฒนธรรม คือ วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมอิสลาม ดังนั้นจึงมีการรับค่านิยมบางประการของวัฒนธรรมอื่นมาปะปนกับวัฒนธรรมของตนอย่างหลีกลี่ยงไม่ได้ เช่น เมื่อมีการแต่งงานข้ามชาติระหว่างคนจีนกับคนไทยมุสลิม ก็นิยมตั้งนามสกุลเป็นภาษาจีน หรือเมื่อคนไทยมุสลิมมีการติดต่อกับคนไทย ก็นิยมนำภาษาบาลีและภาษาสันสฤตมาตั้งเป็นนามสกุลเหมือนคนไทย เพราะถือว่าภาษาทั้งสองนี้เป็นภาษาสูง มีความไพเราะ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้แก่ผู้สืบสายราชวงศ์จักรี ข้าราชการต่าง ๆ ตลอดจน ข้าราชการในระดับต่างๆ ที่ทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานนามสกุล นอกจากนี้ยังนำเอาภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตประสมกับภาษาไทยสำหรับตั้งนามสกุลด้วย (หน้า 37-38, 41, 59) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ภายหลังที่มีพระราชบัญญัติขนานนามสกุลขึ้นเพื่อบังคับให้คนไทยทุกคนต้องมีนามสกุล คนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์กลุ่มนี้จึงได้เอาชื่อที่ตัดให้สั้น และไม่ใช้ชื่อเต็มในภาษาอาหรับมาตั้งเป็นนามสกุล แต่หันมาใช้ภาษาอื่นๆ ในการตั้งนามสกุลแทน เช่น ภาษาบาลีกับภาษาสันสกฤต ภาษาบาลีสันสกฤตปนกับภาษาไทย ภาษาไทย เป็นต้น ซึ่งการใช้ภาษาในการตั้งนามสกุลที่หลากหลายนี้เป็นผลมาจากการที่ได้รับการศึกษามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมของคนต่างชาติและเกิดการแต่งงานข้ามศาสนา ทำให้เกิดการยอมรับนามสกุลของอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น (หน้า 31-35, 79,129, 133,136-137,148,158,164 ) |
|
Map/Illustration |
ผู้เขียนใช้ตารางเพื่อสรุปข้อมูลต่างๆ เช่น โครงสร้างของนามสกุล จำนวนพยางค์ ความหมาย วิธีตั้งนามสกุล และค่านิยมที่สะท้อนได้จากนามสกุล ทำให้เข้าใจนามสกุลของคนไทยมุสลิมเชื้อสายมาเลย์กลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น |
|
|