|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
เย้า,ระบบการแต่งงาน,ครอบครัว,การสืบวงศ์ตระกูล,ภาคเหนือ |
Author |
Chob Kacha-Ananda |
Title |
Le Système de la Famille Yao |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาฝรั่งเศส |
Ethnic Identity |
อิ้วเมี่ยน เมี่ยน,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
|
Total Pages |
8 |
Year |
2515 |
Source |
Journal of Siam Society, volume 60, part 1 p. 187-194 |
Abstract |
ผู้เขียนศึกษาระบบโครงสร้างครอบครัว การสืบวงศ์ตระกูลของชาติพันธุ์เย้าที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยมีการพูดถึงประเพณีการเลือกคู่ครอง การแต่งงาน การเลือกสืบวงศ์ตระกูลในลูกหลาน ค่านิยมในเรื่องบุตรนอกสมรสกับแรงงานที่เพิ่มขึ้น และชีวิตสมรสหลังการแต่งงาน โดยผู้เขียนกังวลถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม จารีตประเพณีดั้งเดิมจะเปลี่ยนแปลงไปในสังคมเย้าด้วยการติดต่อสัมพันธ์กับสังคมเมืองและการศึกษาเรียนรู้ที่เกิดขึ้น (หน้า 193) |
|
Focus |
ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นถึงระบบครอบครัวดั้งเดิมของเย้า วัฒนธรรมการสืบวงศ์ตระกูล โครงสร้างครอบครัว การแต่งงาน แต่เมื่อเริ่มติดต่อกับโลกภายนอก โดยเฉพาะกับสังคมและวัฒนธรรมไทยที่ใหญ่กว่า สังคมเย้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ผู้เขียนได้ตระหนักถึง เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ค่อย ๆ จางหายไป (หน้า 93) |
|
Ethnic Group in the Focus |
เย้าซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเชื้อชาติมองโกลและอาศัยอยู่ ในประเทศไทย (หน้า 187) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
เย้าถูกจัดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับม้ง ในกลุ่มภาษาเหมียว-เย้า (หน้า 187) |
|
History of the Group and Community |
เย้าเคยอาศัยรอบๆ ทะเลสาบตุงติงในประเทศจีน อพยพลงมาทางใต้ของมณฑลกวางตุ้ง มณฑลเกียงซี มณฑลกวางเจา และมณฑลยูนนาน เย้าไม่ยอมเข้าร่วมกับจีน ทำให้เย้าค่อย ๆ อพยพลงมาทางใต้ของประเทศลาวและประเทศไทย (หน้า 188-189) |
|
Settlement Pattern |
เย้าชอบตั้งถิ่นฐานตามทางลาดเชิงเขาหรือตามหุบเขาใกล้ทางน้ำ ในระดับความสูงประมาณ 900-1200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตัวบ้านสร้างชั้นเดียวติดพื้นดิน ผนังทำด้วยไม้แผ่นหรือไม้ไผ่ และใช้ใบหวายมุงหลังคา (หน้า 189) |
|
Demography |
ประชากรเย้าในประเทศไทย จากการคาดการณ์ของนาย กอร์ดอน ยัง ในปี พ.ศ. 2504 มีจำนวน 10,200 คน แต่จากการสำรวจขององค์การสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. 2511 มีจำนวน 16,110 คน (หน้า 189) |
|
Economy |
ผู้เขียนได้พูดถึงการเพาะปลูกแบบไร่เลื่อนลอย เช่น การปลูกข้าว ข้าวโพด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปลูกฝิ่นที่เคยเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของกลุ่ม (หน้า 189) |
|
Social Organization |
ในเรื่องโครงสร้างทางสังคม ระบบวงศ์ตระกูลของเย้าซึ่งมีอิทธิพลต่อการจัดระเบียบกลุ่มสังคม โดยผู้เขียนได้อธิบายออกมาเป็นประเด็น ดังนี้ เรื่องชีวิตคู่ โดยปกติผู้ชายเย้าจะมีภรรยาคนเดียว แต่ถ้ามีภรรยาหลายคนก็ทำได้โดยที่สามีต้องสามารถเลี้ยงดูให้ความสุขแก่ทุก ๆ คน (หน้า 189-190) เรื่องการเลือกคู่สมรส เย้านิยมสมรสกับคนในเผ่าเดียวกันแต่ต่างวงศ์ตระกูล การแต่งงานกับญาติพี่น้องร่วมบิดามารดาหรือลูกของพี่หรือน้องถือเป็นข้อห้าม แต่ก็มีบางกรณีที่ชายสูงอายุแต่งงานกับคนในเครือญาติ โดยต้องจ่ายเงินแก่แขกที่มาร่วมงานเหมือนกับเป็นการจ่ายสำหรับเรื่องที่น่าอาย (หน้า 190) ในเรื่องการสืบวงศ์ตระกูล ผู้เขียนได้แยกออกมา 2 ประเด็นหลัก 1) เย้าสืบทอดวงศ์ตระกูลทางฝ่ายชายเป็นหลักและย้ายเข้าไปอยู่บ้านฝ่ายชาย ถ้าฝ่ายชายแต่งงานไปอยู่บ้านผู้หญิงก็ยังคงใช้วงศ์ตระกูลฝ่ายชาย แต่ในทางกลับกัน ฝ่ายหญิงต้องนับถือวงศ์ตระกูลฝ่ายชาย ถึงแม้ว่าสามีจะสิ้นชีวิตหรือหย่าจากกัน นอกจากจะมีสามีใหม่ (หน้า 191) เมื่อครอบครัวขยายใหญ่ขึ้นเพราะลูกชายทุกคนนำภรรยามาอยู่ในบ้านเดียวกัน ครอบครัวลูกชายคนโตต้องย้ายออกไปตั้งบ้านใหม่ ซึ่งคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมโครงสร้างครอบครัวสมัยใหม่ (หน้า 193) 2) การสืบวงศ์ตระกูลทางฝ่ายหญิงสามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ถ้าครอบครัวไหนมีบุตรสาวคนเดียว ฝ่ายชายและลูกที่จะเกิดต้องมาเข้ากับทางตระกูลฝ่ายหญิง หรือในกรณีที่ฝ่ายชายไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าสินสอด ต้องทำงานให้ครอบครัวฝ่ายหญิงจนครบจำนวนจึงจะกลับมาสืบวงศ์ตระกูลของตนได้ เย้านิยมขอเด็กผู้ชายจากเผ่าอื่นมาเป็นบุตรบุญธรรมด้วย (หน้า 191) ในประเด็นที่เกี่ยวกับลูกหลาน ผู้เขียนได้อธิบายเกี่ยวกับวัฒนธรรมการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ผู้หญิงเย้าจะหลับนอนกับผู้ชายที่พอใจได้ การตั้งครรภ์ก่อนสมรสถือเป็นเรื่องดี เพราะเด็กที่เกิดมาเป็นเหมือนแรงงานช่วยเหลือพ่อแม่ ถ้ามีการสมรสกับสามีใหม่ ต้องจ่ายเงินสินสอดเพิ่มขึ้นเป็นค่าตัวเด็กด้วย (หน้า 191-192) |
|
Belief System |
ผู้เขียนชี้ว่าเย้ามีความเชื่อในเรื่องจิตวิญญาณของบรรพชน โดยหลังจากงานแต่งงาน มีประเพณีที่ฝ่ายหญิงต้องแสร้งเดินออกจากประตูทางเข้าของบ้านฝ่ายชายหรือเรียกว่า ประตูผี เพื่อแสดงถึงการหมดพันธะกับบรรพบุรุษหรือวงศ์ตระกูลของฝ่ายหญิง (หน้า 192) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ในเรื่องการธำรงชาติพันธุ์ ผู้เขียนอธิบายว่า โดยปกติผู้ชายเย้านิยมแต่งงานกับผู้หญิงในเผ่าเดียวกันเพื่อการคงอยู่ของชาติพันธุ์ แต่สำหรับผู้หญิงจะไม่ค่อยตระหนักในเรื่องนี้ จึงสามารถพบเห็นการแต่งงานกับคนจีนหรือคนจีนฮ่อ (หน้า 190) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ผู้เขียนได้วางประเด็นความเปลี่ยนแปลงในสังคมเย้า จากการติดต่อกับผู้คนและกับวัฒนธรรมไทย เกิดความไม่ชอบใจในรูปแบบการดำเนินชีวิตดั้งเดิมของตนเอง จะเห็นได้จากเครื่องแต่งกาย วัสดุเครื่องใช้ หรือจารีตประเพณี (หน้า 193) |
|
Map/Illustration |
ผู้เขียนได้ใช้รูปภูมิศาสตร์แสดงลักษณะทางที่ตั้งของกลุ่มประชากรชาติพันธุ์เย้าทางตอนเหนือของประเทศไทย (หน้า 188) |
|
|