|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลเวือะ,ภาษา,เรือน,ความเชื่อ,พิธีกรรม,วิถีชีวิต,การแต่งงาน,เศรษฐกิจ,การรักษาพยาบาล,ภาคเหนือ |
Author |
E. W. Hutchinson |
Title |
The Lawa in Northern Siam |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ลัวะ (ละเวือะ) ลเวือะ อเวือะ เลอเวือะ ลวะ ละว้า,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic) |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
23 |
Year |
2477 |
Source |
Journal of Siam Society, vol. XXVII part 2 |
Abstract |
ละว้าอาศัยอยู่ในพื้นที่สูงปลูกข้าว ปลูกผักผลไม้ หญิงและชายมีความเท่าเทียมกันในสังคม มีความเชื่อเรื่องภูตผี ผีที่ละว้าให้ความเคารพหลักคือ ผีบ้านผีเรือน ผีแร่ธาตุ ผีไร่นา มีการเซ่นสังเวยภูตผีด้วยกระทิง สุนัข และไก่ บ้านเรือนของละว้าปลูกสูงจากพื้นดิน มีห้องใหญ่เพียงห้องเดียว การแต่งงานฝ่ายชายจะพาฝ่ายหญิงเข้าบ้าน แต่เพราะพื้นที่ภายในบ้านมีอย่างจำกัดก็จะต้องย้ายครอบครัวของตนเองออกไป |
|
Focus |
ศึกษาละว้าเพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับภาษา ศาสนาความเชื่อ วัฒนธรรม (หน้า 153) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ศึกษาละว้าที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
จากตัวอย่างศัพท์ภาษาของละว้ามีราวๆ 125 คำ ประมาณ 68 คำมีความหมายเดียวกับภาษาว้า ภาษาละว้าเป็นอยู่ในตระกูลมอญ-เขมร และใกล้เคียงกับภาษาว้า (หน้า 173) และพบว่าจากตัวอย่างศัพท์ 425 คำที่ใช้เปรียบเทียบภาษาละว้าที่บ่อหลวงกับที่เวียงป่าเป้ามีร่วมกันเพียง 19 คำเท่านั้น ส่วนอีก 26 คำมีความใกล้เคียงกัน อาจเป็นไปได้ว่าละว้าบ่อหลวงและเวียงป่าเป้าจะพูดกันไม่รู้เรื่อง |
|
Study Period (Data Collection) |
เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1932 ผู้เขียนได้เข้าไปศึกษาชุมชนละว้าเหมืองแร่เหล็กละว้าที่จังหวัดเชียงใหม่ (หน้า 153) |
|
History of the Group and Community |
มีการกล่าวถึงแผ่นเงินจารึกด้วยตัวอักษรลาวพร้อมชื่อของหัวหน้าละว้าและบันทึกเรื่องราวความสัมพันธ์ของหัวหน้าลาวแห่งเชียงใหม่ แผ่นเงินนั้นถูกฝังอยู่ใต้ดินในบ่อหลวงมากว่า 20 ปี นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างละว้ากับเมืองเชียงใหม่ดังนี้ พระมหาเหมือนแห่งวัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ได้เล่าว่า เมื่อยังหนุ่มสมัยของเจ้าอินทวงศ์ ละว้ามาที่เชียงใหม่ทุกๆ ปีเพื่อนำเครื่องไหว้มาให้แก่หวหน้า หรือจากบันทึกของเจ้าดารารัศมี ได้บนทึกว่าคนลาวเคารพละว้าว่าเป็นบรรพบุรุษของเขาในสยามและมักเชิญมาที่บ้านในโอกาสพิเศษ และพระนางทรงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับแผ่นเงินแผ่นทองของละว้าด้วย นอกจากนี้ยังมีบันทึกทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ทั้งที่เป็นตำนานหรือพงศาวดาร เช่น บันทึกของลาวเกี่ยวกับเมืองเชียงใหม่ว่ามีกำเนิดจากละว้า หรือบันทึกของมหาเถระ Fa Bot ว่าละว้ามีถิ่นฐานบนดอยสุเทพ เชียงใหม่ ก่อนการมาถึงของคนไท เมื่อคนไทพบเชียงใหม่ในช่วงพญามังรายก็ได้พบคนละว้าเข้ามาอยู่ก่อนแล้ว พญามังรายได้ติดต่อกับละว้าซึ่งต่อมาอพยพออกจากดอยสุเทพ ในบันทึก Suvana Khamdeng กล่วว่าผู้นำไทได้เปลี่ยนละว้าเชียงใหม่ให้เป็นพุทธจนได้รับภรรยาสองคนจากหัวหน้าละว้า หรือเรื่องขอหัวหน้าละว้าที่ชื่อ Vivo ที่ต้องการหลอกผีร้าย เวลานั้นละว้าและไทอยู่ใกล้กันจึงให้แลกเปลี่ยนเสื้อผ้าและเครื่องคลุมศีรษะ หากอ่านตำนานสิงหนวัตร จะกล่าวถึงสถานที่ที่มีแต่ละว้าติดริมแม่โขง 'K'on Kham' หัวหน้าหมู่บ้านละว้าต้องจ่ายค่าแผ่นดินให้กับผู้ครองผืนดินคนไทย พบหลักฐานการกล่าวถึงละว้าในเอกสารต่างๆ แต่ไม่มีประวัติศาสตร์ของคนละว้า (หน้า 169-172) |
|
Settlement Pattern |
บ้านของละว้าตั้งอยู่บนเสาประมาณ 3-4 ฟุต สัตว์เลี้ยงจะอยู่ใต้ถุนบ้าน (หน้า 155) แต่ละบ้านมีชานหน้าบ้าน ในบ้านจะมีห้องใหญ่ห้องเดียว ไม่มีห้องครัวจึงทำอาหารในห้องใหญ่ บางครั้งมีการสร้างหลายห้องในกรณีที่ลูกชายแต่งงานและพาภรรยาย้ายมาอยู่ บ้านละว้าทำด้วยไม้กระดานหลังคามุงจากเป็นจั่วแคบ ถ้าละว้าที่ไม่มีเงินจะสร้างบ้านด้วยไม้ไผ่ ละว้าเก็บข้าวไว้ในพื้นที่แยกจากตัวเรือน รอบๆ บ้านจะมีสวนเล็กๆ ปลูกยาสูบ ข้าวพูด ผลไม้ ดอกทานตะวัน ในหมู่บ้านไม่มีบ่อน้ำ และไม่มีแม่น้ำรอบๆ น้ำที่ใช้เป็นน้ำฝนที่กักเก็บไว้ (หน้า 156) |
|
Demography |
มีประชากรละว้า 350 คนใน 5 หมู่บ้านคือบ่อหลวง, Bo Sa'ngae, Bo Pak Wen, Bo Wang Kong และ Bo Na Fon ที่เป็นละว้าทั้งหมด ส่วนที่หมู่บ้าน Bo Sali และ Bo Kong Loi มีทั้งละว้าและลาว (หน้า 154) |
|
Economy |
ละว้าปลูกยาสูบ ผัก ข้าว และไม่ค่อยบริโภคเนื้อสัตว์มาก ใช้ควายไถนาและเลี้ยงสุนัข ไม่ค่อยพบหมูหรือแมว เมื่อ 40 ปีมาแล้วละว้าเคยมีช้างถึง 60 ตัวแต่ขายไปหมด ละว้าปลูกข้าวบนภูเขา (หน้า 162-164) ในฤดูแล้ง ละว้าจะไปเก็บแร่เหล็กที่พบได้ทั่วไปตามผิวดินแล้วนำมาถลุงเป็นโลหะ โดยใช้เตาอบดินเผาก่อเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งจะนำโลหะที่ได้มาทำเป็นเครื่องใช้ต่างๆ เช่นมีด ระฆัง (หน้า 164-165) |
|
Social Organization |
เมื่อแต่งงานผู้ชายจะพาผู้หญิงเข้าบ้านและอยู่ในห้องที่แยกเป็นส่วนตัวภายในบ้านของครอบครัว หากมีพี่หรือน้องชายแต่งงานเหมือนกันจะต้องย้ายออกไปหาบ้านของตัวเอง (หน้า 161) ครอบครัวละว้าเป็นแบบผัวเดียวเมียเดียว และแต่งงานกับญาติของตนไม่ได้ เมื่อแต่งงานแล้วชายและหญิงจะมีความเท่าเทียมกันในสังคม หย่ากันได้ หากมีปัญหากันก็จะไปปรึกษาหัวหน้าหมู่บ้าน หากใครทำผิดต้องจ่ายค่าปรับ คนหนุ่มสาวโดยทั่วไปมีอิสระในการมีความสัมพันธ์ ยกเว้นมีเพศสัมพันธ์ได้เฉพาะเมื่อแต่งงานเท่านั้น หากผู้ชายทำผิดจะต้องเสียค่าปรับ (หน้า 161) ถ้าหัวหน้าครอบครัวตาย ทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งจะตกเป็นของภรรยาของเขา และที่เหลือจะแบ่งให้กับลูกชายเท่าๆ กัน หากครอบครัวไม่มีลูกชายทรัพย์สินจะตกเป็นของลูกสาวหรือญาติของผู้ตาย (หน้า 161) |
|
Political Organization |
ละว้ามีหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยแก้ไขปัญหาขัดแย้งในหมู่บ้าน (หน้า 162) |
|
Belief System |
ก่อนสร้างบ้านเรือนจะฝังกล่องเล็กๆที่บรรจุเกลือและเมล็ดข้าว จำนวนของเมล็ดข้าวจะมีมากกว่าจำนวนผู้อาศัยเพราะรวมผีบ้านไว้ มีการปักไม้เล็กๆ 4 ไม้ไว้รอบกล่องที่ถูกฝัง (หน้า 155) ก่อนสร้างบ้านมีการโปรยข้าวหากเมล็ดข้าวกลายเป็นต้นกล้าจะหมายถึงสถานที่ดี และจะปล่อยให้วัวออกไปเดินในป่า (หน้า 161) ใกล้ทางเข้าบ้านแต่ละบ้านจะผูกดอกไม้ไว้ตรงบันได ละว้าเชื่อว่ามีผี 3 ประเภทผีบ้านผีเรือน P'i Huam, ผีไร่นา เรียกว่า "ผีที่" (P'i Ti )และผีเหมืองเรียกว่า "ผีแร่ (P'i Rae) เชื่อว่าผีเหล่านี้เป็นผีบรรพบุรุษหรือผีบุคคลสำคัญของละว้า มีบุคคลสำคัญของละว้า 5 คนที่ละว้าเชื่อว่ากลายมาเป็นผีเหมืองได้แก่ชื่อ Khun Ta, Khun Tong, ขุนหลวงวิลังคะ, Khun Kio Na Long และ Lam Chong Wong Pak Wen อีกผีหนึ่งคือ P'i Ra Mang เป็นผีที่คนเซ่นไหว้ในช่วงปีใหม่ มีP'i P'et, P'I Kien, P'I Koi และผี P'i Lok ในพื้นที่ป่าจะมีเพิง 3 แห่งที่สร้างเชื่อมกันและใช้เป็นที่ประกอบพิธีเซ่นสังเวย ทุกๆ 3-4 ปีจะมีการฆ่ากระทิงแดงและปีต่อไปจะเซ่นด้วยหมูตัวผู้สีดำ 1 ตัวและไก่แดง 2 ตัวทั้งตัวผู้และตัวเมีย ที่เหมืองทุกๆ 3 ปีในเดือนที่ 5 จะมีการเซ่นสังเวยผีด้วยกระทิงสีครีม (หน้า 158,159) ละว้าส่วนใหญ่จะผูกข้อมือด้วยเชือก และมีเสา "ผี" ในไร่นา หากมีคำถามกับภูตผีละว้าจะถามและหาคำตอบโดยการโยนเมล็ดข้าว หากนับแล้วลงเลข คู่หมายถึงดีหรือได้ คือผีอนุญาตให้ทำ หากลงท้ายด้วยเลขคู่หมายถึงการปฏิเสธ (หน้า 159) ในหมู่บ้านไม่มีหมอผีหรือผู้วิเศษ มีแต่คนเฒ่าคนแก่ที่รู้ว่าจะประกอบพิธีอย่างไร มีข้อห้ามของละว้าคือห้ามล่าแรด (หน้า 160) ละว้ามีพิธีกรรมในการแต่งงาน ก่อนแต่งงานทั้งหญิงและชายจะมีเพศสัมพันธ์กันก่อนที่บ้านของฝ่ายหญิง หลังจากนั้นพวกเขาจะหมูและไก่เพื่อใช้เซ่นผี 3-4 วันหลังจากนั้นจึงจัดพิธีขึ้นที่บ้านฝ่ายหญิง ที่หน้าบ้านฝ่ายหญิง ฝ่ายชายจะนำหมาแดงและฆ่าหมาแดงและเอาเครื่องใน ตัดหาง ตัดลิ้น เท้า เพื่อนำสิ่งเหล่านี้ไปถวายผีบ้าน จากนั้นทุกๆ คนจะเดินไปบ้านฝ่ายชายและวางดอกไม้ ธูป เทียนไว้ที่ศาลผีบ้าน ก่อนจะดื่มร่วมกัน แล้วจึงสาดเหล้าไปตามที่ต่างๆ ในบ้าน (หน้า 160) เมื่อมีการตายจะเก็บศพไว้ 3 คืนแล้วจึงเผา ก่อนเผามีการห่อศพด้วยผ้าไหม หากไม่มีเงินพออาจใช้ผ้าฝ้ายธรรมดา มีการใส่เหรียญไว้ในปากศพ เมื่อจะนำศพออกจากบ้านจะไม่นำผ่านบันได มีพระสงฆ์สวดศพ หากมีคนตายด้วยอุบัติเหตุ ศพจะถูกฝังแทนการเผา (หน้า 161-162) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
ละว้าทำอาหารในหม้อดินเผา ในอดีตละว้าใช้ไม่ไผ่บรรจุน้ำปัจจุบันใช้ถังโลหะและใช้ไม้ขีดไฟแทนการฝนหิน (หน้า 156) ละว้าแต่งกายคล้าวลาวและกะเหรี่ยง (หน้า 174) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
มีตารางที่บอกลักษณะทางกายภาพของละว้าโดยทั่วไป |
|
Text Analyst |
กฤษฎาภรณ์ อินทรวิเชียร |
Date of Report |
27 ก.ย. 2567 |
TAG |
ลเวือะ, ภาษา, เรือน, ความเชื่อ, พิธีกรรม, วิถีชีวิต, การแต่งงาน, เศรษฐกิจ, การรักษาพยาบาล, ภาคเหนือ, |
Translator |
- |
|