|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,เครื่องดนตรี,ค่ง,เชียงใหม่ |
Author |
วสันต์ชาย อิ่มโอษฐ์ |
Title |
เค่ง เครื่องดนตรีของชนเผ่าม้ง |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
171 |
Year |
2543 |
Source |
หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาดนตรี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล |
Abstract |
ม้งถือว่าเค่งเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญที่สุด โดยเชื่อว่าสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ ใช้เป่าในพิธีกรรมทางความเชื่อ ได้แก่ ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย จึงมีพิธีศพถือว่าเป็นพิธีสำคัญที่สุด ความเชื่อในเรื่องการปกป้องรักษา จึงมีพิธีซื้อ ความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่จึงมีพิธี "ตจอผลี่" ความเชื่อเรื่องลางบอกเหตุร้าย จึงมีพิธีทำบุญฆ่าวัวให้วิญญาณผู้ตาย มีเพลงเป่าในเวลาเช้า เที่ยงและเย็น ห้ามเป่าปนกันหรือเป่าเล่น ห้ามสตรีเป่าเค่งในงานศพ ใช้เค่งเป่าเพื่อความบันเทิง การเกี้ยวพาราสี เป็นเพื่อนขณะเดินทางและในวาระพิเศษต่างๆได้ ม้งถือว่าพระแม่เจ้าคือบรมครูทางวิชาเป่าเค่ง
เค่งเป็นเครื่องดนตรีตระกูลเครื่องลม (Aerophones) ลิ้นเดียว (Single Reed) ระบบเสียงของเค่งมี 6 เสียง จากการวิเคราะห์ระบบเสียงเค่งทั้ง 12 ขนาด พบว่า ค่าความยาวโดยเปรียบเทียบเสียงแต่ละท่อของเค่งทั้ง 12 ขนาด มีความยืดหยุ่นไม่คงที่ เสียงเค่งทั้งหมดมี 6 เสียง มีลักษณะคล้ายกับบันไดเสียงสากลแบบ 5 เสียง (Pentatonic)โดยมีเสียงที่ 1 กับเสียงที่ 6 ห่างกัน 1 Octave ปัจจุบัน เค่ง เป็นเครื่องดนตรีที่ยังคงรักษาระบบเสียงแบบดั้งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าชีวิตประจำวันของนายเล่าต๋า แซ่เฒ่า จะคลุกคลีกับสังคมโลกสมัยใหม่ที่มีการตั้งเสียงดนตรีอย่างสากล แบบ Equal Temperament ก็ตาม |
|
Focus |
ศึกษาลักษณะทางกายภาพของเค่งและบทบาทที่มีในความเชื่อและพิธีกรรมของม้ง ตลอดจนวิเคราะห์ระบบเสียงของเค่ง |
|
Ethnic Group in the Focus |
"ม้งเขียว" หรือ "ม้งตจั๊ว" (หน้า 30) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้งไม่มีตัวหนังสือเป็นของตนเอง ดังนั้นเค่งจึงเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนภาษาหนังสือ (หน้า 74) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ม้งมีถิ่นฐานเดิมอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน (หน้า 30) |
|
Settlement Pattern |
ม้งเป็นชนเผ่าที่ชอบตั้งบ้านเรือนอยู่บนดอยสูง (หน้า 130) |
|
Demography |
ม้งเขียวในหมู่ที่ 2 ตำบลแม่แดด อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีประชากรประมาณ 1,000 คน รวม 70 หลังคาเรือน (หน้า 30) |
|
Belief System |
ม้งมีความเชื่อที่ผูกพันกับเรื่องของวิญญาณในแง่ว่ามีผีต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอยู่ตามท้องฟ้า แม่น้ำ ภูเขา ลำห้วย ต้นไม้ ไร่นา ในหมู่บ้านและในบ้านเรือน คอยคุ้มครอง ปกปักรักษาให้ปลอดภัย โดยมีการจำแนกผีออกเป็น 2 ประเภทคือ
- ผีฝ่ายดี เป็นผีที่คอยปกป้องดูแลและอำนวยพรให้มีความสุข เช่น ผีฟ้า (เหยอะ เซ้า) ม้งเชื่อว่าเป็นผีดีผู้ทรงอำนาจสูงสุดเป็นเจ้าของสรวงสวรรค์ นอกจากนี้ยังมี ผีหมู่บ้าน (ตรงเซ้ง) เป็นผีที่คุ้มครองหมู่บ้าน ผีบ้านผีเรือน (ดลั้งตเจ๋) เชื่อว่าเป็นผีบรรพบุรุษ เป็นผู้ปกปักรักษาคนในบ้านให้ปลอดภัยมีความสุข ผีประตูหน้าบ้าน อยู่แนวเดียวกับเสากลางบ้าน คอยดูแลความปกติสุข ปกป้องไม่ให้เงินทองรั่วไหลออกนอกบ้าน
- ผีฝ่ายร้าย ได้แก่ ผีไร่ ผีน้ำ ผีต้นไม้และผีป่า เป็นต้น ผีเหล่านี้จะปฏิบัติตามคำสั่งของผีฟ้า เพราะผีฟ้าเป็นผู้บัญญัติจารีตประเพณีไว้ ผีประเภทนี้มีลักษณะดุร้าย มักก่อให้เกิดภัยพิบัติแก่มนุษย์ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของม้ง ต้องใช้เค่งบรรเลง เพราะถือว่าเค่งเป็นเครื่องดนตรีสำคัญประจำเผ่าตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จะใช้บรรเลงในพิธีสำคัญ โดยมีข้อห้ามสำหรับเพศหญิงมิให้เป่าเค่งในงานศพเด็ดขาด (หน้า 31-32)
บทบาทของเค่งในวิถีชีวิต
ใช้เป่าเพื่อความบันเทิง มีเจตนาเพื่อเกี้ยวพาราสีและเป็นเพื่อนยามเดินป่าคนเดียว แต่การเป่าในเวลากลางวันและกลางคืนจะมีเนื้อหาต่างกัน นอกจากนี้เค่งยังถูกเป่าในวาระพิเศษต่างๆ เช่น การทักทายครั้งแรกที่พบกัน แสดงความชื่นชมยินดี การกล่าวสวัสดี (ซินซึซือปุ) เป่าเค่งเพื่อทักทาย และแสดงการต้อนรับด้วยความเต็มใจ การปลอบประโลมใจลูกกำพร้า (ยู่ตุ่งยู่กี๊) แสดงให้รู้ว่าพ่อเฒ่ายังรักเหมือนลูกหลานอยู่ และเมื่อเดินทางจากที่ไกลๆ มาเยี่ยม (คิคลิ) จะเป่าเค่งเพื่อแสดงความมีน้ำใจบ่งบอกให้ทราบว่ายังเคารพและรำลึกถึงอยู่เสมอ เป็นต้น
บทบาทของเค่งในพิธีกรรมทางความเชื่อ
- พิธีศพ เนื่องจากม้งไม่มีวัดหรือฌาปนสถาน เค่งจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรม
ในพิธีศพ เมื่อมีคนตายจะต้องรีบเป่าเค่งก่อนเพื่อเป็นการนำวิญญาณ ม้งมีความเชื่อว่าเค่งสามารถใช้สื่อสารกับวิญญาณผู้ตายได้ ในระหว่างงานศพก่อนการรับประทานอาหารทุกมื้อและเวลาเที่ยงคืนต้องเป่าเค่ง ตีกลองพร้อมกับยิงปืน 3 นัดทุกคืนจนกว่าจะเสร็จงาน บทเพลงต่างๆที่เป่าในงานศพจะใช้เป่าเล่นไม่ได้เด็ดขาด
- พิธีซื้อ เมื่อตายได้ 13 วันต้องทำพิธีซื้อเพื่อเชิญวิญญาณของผู้ตายให้มาเอาของหรือเครื่องใช้ส่วนตัวและช่วยดูแลปกป้องลูกหลาน ในพิธีจะใช้เค่งเป่าตั้งแต่บ้านของผู้ตายจนถึงหลุมฝังศพ หลังจากทำพิธีบริเวณหลุมฝังศพเสร็จ จะเป่าเค่งเพื่อนำวิญญาณของผู้ตายกลับไปสิงสถิตอยู่บนคานหรือขื่อภายในบ้าน
- พิธีตจอผลี่ เป็นพิธีสำคัญรองจากพิธีศพ เป็นพิธีปล่อยวิญญาณผู้ตายให้ไปเกิดใหม่ จัดขึ้นหลังจากจัดพิธีซื้อแล้วประมาณ 1 เดือนหรือ 1 ปีแล้วแต่ความพร้อมของญาติผู้ตาย ในพิธีจะมีการตั้งเครื่องสังเวย ตลอดพิธีจะมีการเป่าเค่ง ตีกลอง เป็นเพลงหลายประเภท รวม 4 ช่วงคือ เพลงแรก (จังผลี่) เป็นการเป่าเค่งเพื่อเชิญวิญญาณผู้ตายให้กลับมาร่วมพิธี เพลงฆ่าบูชา (เค่งจ่า) เป็นเพลงที่ 2 เป่าเพื่อบอกให้วิญญาณผู้ตายมารับเครื่องเซ่นสังเวย เพลงจัดเตรียมอาหาร (โอ๊ดสุด) เป็นเพลงที่ 3 เป่าเพื่อบอกวิญญาณผู้ตายว่า ได้จัดเตรียมอาหารใส่จานไว้แล้ว เพลงสุดท้ายคือเพลงตจอผลี่ เป่าเพื่อให้ดวงวิญญาณผู้ตายกลับไปยังที่พำนักอาศัย ตอนท้ายของพิธีจะมีการเสี่ยงกระด้ง (ดว๋อ ว้าง) เพื่อเสี่ยงทายว่าวิญญาณของผู้ตายไปเกิดแล้วหรือยัง
- พิธีทำบุญฆ่าวัวให้วิญญาณผู้ตาย (อัวญู่ดลั๊ง) กระทำเมื่อมีสิ่งผิดปกติเข้ามาในบ้าน เช่น นก งูหรือจักจั่น หรือมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในครอบครัว เช่น มีคนเจ็บป่วย มีสัตว์ส่งเสียงร้องในบ้าน เป็นต้น ม้งถือเป็นลางบอกเหตุ ต้องรีบปรึกษาหมอผีให้ทำนายและติดต่อกับวิญญาณบรรพบุรุษ หากทำนายว่าต้องทำบุญด้วยการฆ่าวัวเพื่อเซ่นสังเวย ลูกหลานจะต้องจัดพิธีพร้อมกับการเป่าเค่งและตีกลอง เค่งเป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวที่สามารถติดต่อสื่อสารและนำทางให้ดวงวิญญาณของผู้ตายได้ (หน้า 33-35) การต่อเพลงสำหรับเป่าในงานศพ ต้องทำในป่านอกหมู่บ้าน ห้ามผู้อื่นเป่าเค่งเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อใช้งานเสร็จต้องแขวนให้เรียบร้อยและห้ามนำไปเป่าเล่นเด็ดขาด (หน้า 40)
ม้งเชื่อว่า ทุกครอบครัวมีผีประจำแซ่สกุลที่ต้องเลี้ยงไว้ หากครอบครัวใดไม่มีหมอผีคอยเลี้ยงผีประจำแซ่สกุล เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ผีแซ่สกุลขาดที่พักอาศัย จะย้อนกลับมาเลือกบุคคลที่เหมาะสมในสกุลเพื่อเป็นหมอผี หมอผีเข้าทรงถือเป็นหมอผีขั้นสูง สามารถประกอบพิธีกรรมได้ทุกอย่าง เนื่องจากถูกคัดเลือกโดยผี เวลาประกอบพิธีจะใช้ผ้าดำปิดตา ม้งจึงเรียกว่า "หมอผีตาดำ" (เน้งขอหมั่วดลู้)
- พิธีเรียกขวัญ (ฮูผลี่) ม้งมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมามีขวัญอยู่บนศีรษะจนวันตาย เมื่อเกิดความกลัวหรือตกใจสุดขีด ขวัญจะบินหนีหรืออาจถูกผีร้ายมาชิง จึงทำให้เจ็บป่วยและตายในที่สุด ดังนั้น จึงต้องทำพิธีเรียกขวัญตรงบริเวณที่เกิดเหตุ เพราะเชื่อว่ามีขวัญตกหล่นอยู่ที่นั่น ในพิธีจะมีการฆ่าไก่เพื่อเซ่นสังเวยเพื่อให้ผีเอาวิญญาณของไก่ไปแทน
- พิธีทำบน (ฝีเหย่ง) และแก้บน (เป้าเหย่ง) เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นอันตรายหรือมีผู้ป่วยหนัก ม้งจะทำพิธีบน เพื่อขอความช่วยเหลือจากผีที่ตนเชื่อถือ เช่น ผีบรรพบุรุษ หากถึงกำหนดแก้บนแล้วไม่ทำตามสัญญาผีจะทำอันตรายให้ล้มป่วยและสิ้นชีวิตได้ ปัจจุบันม้งนิยมทำบนกับผีบรรพบุรุษด้วยหมูเพื่อขอความคุ้มครองและจะแก้บนในช่วงวันขึ้นปีใหม่ของทุกปี
- พิธีตั้งชื่อเป็นผู้ใหญ่ (ตี่ เบ ฮเหล่า) เมื่อมีเด็กเกิดใหม่จะต้องประกอบพิธีทำขวัญและตั้งชื่อ (ฮูผลี่ ตี่เบ) การตั้งชื่อจะใช้คำมงคลเพียงพยางค์เดียว เด็กชายเมื่อโตขึ้นแต่งงานมีครอบครัวแล้วจะต้องทำพิธีตั้งชื่อเป็นผู้ใหญ่ (ตี่ เบ ฮเหล่า) พิธีนี้จะเติมคำที่มีความหมายเป็นมงคลพยางค์เดียวหน้าชื่อเดิม (หน้า 38-40) |
|
Education and Socialization |
การเรียนเพลงที่ใช้บรรเลงในงานศพจะต้องไปเรียนกันนอกหมู่บ้านหรือตามชายป่า
(หน้า 32) |
|
Health and Medicine |
พิธีรักษาโรคด้วยหมอผี (อัวเน้ง) ม้งเชื่อว่าการเจ็บป่วย เกิดจากการกระทำของภูตผีรวมทั้งวิญญาณของบรรพบุรุษ หมอผี (เน้ง) จะเป็นผู้ตรวจดูและทำนายว่าเกิดจากสาเหตุใด เมื่อทราบสาเหตุแล้ว จะต้องเชิญหมอผีมาทำพิธีเพื่อเซ่นสังเวยเพื่อเป็นการเอาเนื้อและวิญญาณของสัตว์ไปแลกแทนเพื่อให้ภูตผีไว้ชีวิตแก่ผู้ป่วยให้กลับคืนมา
พิธีรักษาโรคจนกลายเป็นหมอผีเข้าทรง (อัวเน้งขอหมั่วดลู้) ม้งเชื่อว่า หมอผีเข้าทรงส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นหมอผี แต่เกิดจากการถูกผีบังคับเข้าสิงให้ล้มป่วย เมื่อรู้ตัวว่าถูกผีเลือกให้เป็นหมอผี จะต้องไปแสดงตนกับหมอผีที่ตนเคารพนับถือเรียกว่า "หมอผีครู" เพื่อสอบถามว่าควรปฏิบัติอย่างไร พิธีรักษาโรคโดยหมอผีเรียน (อัวเน้งขอหมั่วเดล้อ) เป็นหมอผีที่เรียนรู้พิธีกรรมต่างๆจากหมอผีคนอื่น สามารถประกอบพิธีขั้นพื้นฐานได้ ม้งเรียกว่า "หมอผีตาเปล่า" เพราะผีไม่ได้มาเข้าทรงคัดเลือก (หน้า 38) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
เค่งเป็นเครื่องดนตรีที่จัดอยู่ในตระกูลเครื่องลม (Aero phones) ลิ้นเดียว (Single Reed) เค่งสร้างจากไม้ไผ่ มีลักษณะเป็นท่อ เกิดเสียงโดยการเป่าลมกระทบลิ้นโลหะ (Reed) เค่งมีลักษณะทางกายภาพ อยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นท่อเสียงเรียกว่า ลำเค่ง (ดี๋เค่ง) ซึ่งมีทั้งหมด 6 ลำเสียบอยู่บนตัวเค่งข้างละ 3 ลำ ทำด้วยไม้ไผ่ และส่วนที่สองเป็นท่อเป่า เรียกว่าตัวเค่ง(เต๊าเค่ง) ลักษณะคล้ายน้ำเต้า ทำด้วยไม้เนื้ออ่อน เรียกว่า "ดง ดล๋า" (คือไม้ทัพพีหรือช้อนกินข้าว) และไม้ "ตสีเปะ" มีอยู่ 2 ชนิดคือ ไม้ต้นสนและไม้ต้นเฟิร์น แต่ปัจจุบันไม้ทั้งสองชนิดหายาก จึงใช้ไม้ดู่ ไม้ซ้อ ไม้ยูคาหรือไม้สักแทน การทำจะใช้ไม้ชิ้นเดียวผ่ากลาง 2 ซีกเพื่อเจาะให้กลวง แล้วนำมาประกบกันให้สนิท รัดด้วยเปลือกไม้กำลังเสือโคร่ง ปัจจุบันจะใช้แผ่นเงิน ทองเหลืองหรือพลาสติกแทน ลำตัวสำหรับถือ เป็นกะเปาะ (เต๊า) เจาะรูตามแนวตั้งจำนวน 2 แถวๆ ละ 3 รู เพื่อใช้เสียบลำเค่ง ส่วนปลายเป็นท่อสำหรับเป่ามีลักษณะเรียวแหลมเซาะเป็นร่องตรงกลาง ปากเป่าหุ้มด้วยทองเหลืองเพื่อความคงทนสวยงาม ปลายกะเปาะเจาะรูเล็กๆ ไว้ระบายน้ำลาย ด้านขวามีลำเค่งพิเศษขนาดใหญ่ (ดี๋หลัว) ภายในบรรจุลิ้นเสียง (ไหลเค่ง) ทำจากทองเหลือ 3 ลิ้น ถือเป็นท่อหลักในการตั้งเสียง ส่วนอีก 5 ท่อคือดี๋ตือ ดี๋สุ ดี๋เค่ง ดี๋ไลและดี๋ปู เป็นท่อขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือทำจากไม้ไผ่ข้อยาวต่างกันตั้งแต่ 30 - 100 เซนติเมตร มีลิ้น(ไหลเค่ง) 1 ลิ้น ทำจากทองเหลือง นิยมดัดปลายให้งอขึ้นเพื่อความสวยงาม (หน้า 41-42,75,111,126)
จากการวิเคราะห์ระบบเสียงเค่งทั้ง 12 ขนาด พบว่า ค่าความยาวโดยเปรียบเทียบเสียงแต่ละท่อของเค่งทั้ง 12 ขนาด มีความยืดหยุ่นไม่คงที่ เสียงเค่งทั้งหมดมี 6 เสียง มีลักษณะคล้ายกับบันไดเสียงสากลแบบ 5 เสียง (Pentatonic) โดยมีเสียงที่ 1 กับเสียงที่ 6 ห่างกัน 1 Octave (หน้า 122,124) บันไดเสียงเค่งทั้ง 12 ขนาดมีความใกล้เคียงกับบันไดเสียง Pythagorean มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 58.33 (หน้า 131) |
|
Folklore |
ตำนานความเชื่อเกี่ยวกับเค่ง ในอดีตกาลมนุษย์มีความเป็นอมตะ เกิดมาแล้วไม่ตาย จึงรู้สึกเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ครั้นไปพบเสือสองตัวนอนตายเลยอยากตายเหมือนเสือ เมื่อไปกราบทูลผีฟ้า (เหยอะ เซ้า) ผีฟ้ายอมอนุญาตแต่มีข้อแม้ว่าต้องนำเค่งมาเป่าทำพิธีให้ศพของเสือสองตัวที่นอนตายนั้นก่อน มนุษย์จึงปฏิบัติตาม ตั้งแต่นั้นมามนุษย์จึงเกิดแล้วตายและใช้เค่งเป่าในพิธีศพด้วย (หน้า 35-36) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
แผนภูมิ
- แสดงค่าเซนระบบแบ่งเท่า (8,23)
- แสดงความชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (หน้า 31)
- แสดงความเชื่อและพิธีกรรม (36)
- แสดงขั้นตอนการเตรียมการ (หน้า45)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 1 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(80)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 2 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(83)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 3 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(85)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 4 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(88)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 5 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(90)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 6 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(93)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 7 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(96)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 8 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(98)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 9 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(101)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 10 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(104)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 11 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(106)
- แสดงค่าเสียงของเค่งตัวที่ 12 แตกต่างจากระบบ Equal Temperament(109)
- แสดงความเชื่อทำให้เกิดพิธีต่างๆ(128)
สารบัญกราฟ
- แสดงค่าเซนต์โดยเปรียบเทียบของท่อดี๋หลัวทั้ง 12 ท่อ(116-118)
สารบัญตาราง
- แสดงโน้ต ค่าความถี่ ค่าเซนระบบ Equal Temperament ในช่วง 1 ทบ(8)
- แสดงค่า Log ต่างๆ (13)
- แสดงขั้นคู่เสียงในระบบต่างๆ (13)
- แสดงโน้ต ค่าความถี่ ค่าเซนต์ระบบ Equal Temperament ใน 1 Octave(24)
- แสดงรายละเอียดขนาดของเค่งตัวที่ 1(52)
- แสดงผลการลบด้วยค่าเซนต์สูงสุด(78)
- แสดงระบบของเสียงเค่งตัวที่ 1 แตกต่างจากบันไดเสียง Equal Temperament (81)
- แสดงบันไดเสียงของเค่งตัวที่ 1(82)
- แสดงค่าความยาวโดยเปรียบเทียบของเค่งตัวที่ 2 (83)
- แสดงระบบของเสียงเค่งตัวที่ 2 ต่างจากบันไดเสียง Equal Temperament (84)
- แสดงค่าความถี่เสียงของเค่งตัวที่ 2 ต่างจากบันไดเสียง Equal Temperament (84)
- แสดงค่าเซนต์โดยเปรียบเทียบของเค่งตัวที่ 1 (112)
- แสดงความถี่เสียงของเค่งตัวที่ 1(112)
- แสดงรายละเอียดค่าเซนต์โดยเปรียบเทียบของเค่งทั้ง 12 ขนาด(123)
- แสดงช่วงความห่างของค่าเซนต์โดยเปรียบเทียบ(123)
- แสดงเสียงเค่งที่อยู่ในบันไดเสียงทั้ง 5 ระบบ(132)
- แสดงค่าใกล้เคียงกับบันไดเสียงทั้ง 5 ระบบ(140) |
|
|