|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มอญ,วัฒนธรรม,ภาษาศาสตร์,การตั้งชื่อ,กาญจนบุรี |
Author |
นริศรา โฉมศิริ |
Title |
การศึกษาบริบททางภาษาศาสตร์และวัฒนธรรมของชื่อชาวมอญ กรณีศึกษาชาวมอญ บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
-
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
129 |
Year |
2547 |
Source |
หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล |
Abstract |
ภาษาที่ใช้ในการตั้งชื่อ นอกจากใช้ภาษามอญแล้ว ยังใช้ภาษาพม่า ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ตลอดจนพบว่ามีการประสมภาษาในการตั้งชื่อ นอกจากนี้ มอญเพศหญิงกลุ่มอายุที่ 3 มีชื่อเป็นภาษามอญมากที่สุด ส่วนเพศชายกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไปจะมีชื่อเป็นภาษาพม่ามากที่สุด มอญเพศหญิงและเพศชาย กลุ่มอายุ 1-10 ปีมีชื่อเป็นภาษาไทยมากที่สุด ในเรื่องโครงสร้างทางภาษาของชื่อพบว่า ชื่อของมอญในกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไปมีจำนวนพยางค์และการสร้างคำที่ซับซ้อนน้อยกว่าชื่อของคนกลุ่มอายุน้อยเพศเดียวกัน ทางด้านที่มาและความหมายของชื่อแสดงให้เห็นถึงค่านิยม ความเชื่อและวิถีชีวิตของมอญ ส่วนใหญ่ชื่อเพศชายมีความหมายถึง ความรักชาติ ชัยชนะ ส่วนชื่อเพศหญิงมีความหมายเกี่ยวกับความสวยงาม สำหรับเรื่องการเปลี่ยนชื่อของมอญพบว่ามาจากเหตุผลทางสังคมมากที่สุด |
|
Focus |
ศึกษาบริบททางภาษาศาสตร์และวัฒนธรรมในการตั้งชื่อของคนมอญ กรณีศึกษามอญ บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ครอบคลุมประเด็นต่างๆคือ ภาษาที่ใช้ในการตั้งชื่อ โครงสร้างทางภาษาของชื่อ ที่มาและความหมายในการตั้งชื่อที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและวัฒนธรรมของมอญ รวมทั้งการเปลี่ยนชื่อและคุณสมบัติของผู้ที่ตั้งชื่อให้ได้ |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ภาษามอญ จัดอยู่ในสายโมนิค เป็นสายหนึ่งใน 12 สายของภาษาตระกูลมอญ เขมร ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มตะวันออกเฉียงใต้ ภาษามอญมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน ลักษณะประโยคเรียงลำดับในแบบ ประธาน - กิริยา - กรรม มีลักษณะเด่น 2 ลักษณะปนกันอยู่คือ ลักษณะของภาษาคำโดดและภาษาคำติดต่อ และใช้ลักษณะน้ำเสียง 2 ประเภท คือ "Head Register" เป็นการออกเสียงด้วยเสียงที่ชัดเจนและระดับเสียงค่อนข้างสูง ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือ "Chest Register" เป็นการออกเสียงต่ำทุ้มและมีลมหายใจแทรก โดยเป็นเสียงที่มีความก้องกังวานและมีลม โครงสร้างพยางค์ในภาษามอญประกอบด้วยหน่วยเสียงพยัญชนะอย่างน้อย 1 หน่วยเสียงและเสียงสระ 1 หน่วยเสียง พยางค์จึงมีส่วนประกอบอย่างน้อย 2 หน่วยเสียง ลักษณะคำในภาษามอญประกอบขึ้นด้วยเสียงและความหมาย สามารถจำแนกได้เป็น คำเดี่ยว คำประสมและคำผสาน (หน้า 28,37 -40)
ชื่อของมอญในบริบททางภาษาศาสตร์ มอญบ้านวังกะใช้ภาษาในการตั้งชื่อมากกว่า 1 ภาษา นอกจากจะใช้ภาษามอญแล้ว ยังใช้ภาษาพม่า ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ชื่อภาษามอญ ไม่ว่าจะเป็นมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานหรือลูกหลานมอญที่เกิดที่บ้านวังกะก็ตาม ส่วนใหญ่จะมีชื่อเป็นภาษามอญและไม่ว่าเพศชายหรือเพศหญิง ส่วนใหญ่แล้วจะมีชื่อที่มีคำว่า (MON) ที่แปลว่ามอญ ประกอบอยู่ในชื่อของตน โดยมอญเพศหญิงในกลุ่มอายุที่ 3 (อายุ 26-45 ปี) จะมีชื่อเป็นภาษามอญมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 39.0 ส่วนเพศชายกลุ่มอายุที่ 3 (อายุ 26-45 ปี) พบว่ามีการนำภาษามอญมาใช้ในการตั้งชื่อมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 35.0
ชื่อภาษาพม่า มอญเพศหญิงและเพศชายในกลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1- 10 ปี) มีการนำภาษาพม่ามาใช้น้อยที่สุด เพศหญิงและเพศชายในกลุ่มอายุที่ 4 (อายุ 46 ปีขึ้นไป) มีการนำภาษาพม่ามาใช้มากที่สุด (ร้อยละ 41.0 และ 40.0 ตามลำดับ) ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะคนกลุ่มอายุที่ 4 ทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานมาจากพม่าหรือเกิดที่ประเทศไทยและมาอยู่ที่หมู่บ้านวังกะเป็นรุ่นแรก จึงใช้ภาษาพม่าในการตั้งชื่อ
ชื่อภาษาไทย มอญบ้านวังกะทั้งเพศหญิงและชายทุกกลุ่มอายุ จะมีชื่อที่ 2 ที่ใช้ภาษาไทยในการตั้งชื่อ โดยเฉพาะมอญในกลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1-10 ปี) ส่วนใหญ่จะมีชื่อเป็นภาษาไทยตั้งแต่เกิดเพราะพ่อแม่ต้องการให้ลูกกลมกลืนกับคนไทย นอกจากนี้ยังพบชื่อภาษาอังกฤษในมอญกลุ่มอายุที่ 1 ( 1-10 ปี) ชื่อภาษาอังกฤษที่พบส่วนใหญ่จะเป็นชื่อเกี่ยวกับผลไม้ต่างประเทศ เช่น แอปเปิ้ล เชอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบการตั้งชื่อแบบประสมภาษาคือการใช้ภาษาต่างชาติมารวมกัน ส่วนใหญ่เป็นการประสมระหว่างภาษามอญกับภาษาพม่า โดยเป็นชื่อเฉพาะบุคคล อีกด้วย
โครงสร้างภาษาในชื่อมอญบ้านวังกะ ส่วนใหญ่เป็นชื่อที่มีพยางค์ตั้งแต่ 1- 4 พยางค์ ชื่อ 2 พยางค์พบมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 45.0 ชื่อที่มีพยางค์เดียวคิดเป็นร้อยละ 33.0 โดยพยัญชนะที่อยู่ในตำแหน่งต้นอาจเป็นพยัญชนะต้นเดี่ยวหรือพยัญชนะควบกล้ำก็ได้ ส่วนพยัญชนะท้ายจะเป็นพยัญชนะเสียงเดียวเสมอ (หน้า 42-49) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
มอญบ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มอญกลุ่มแรกเริ่มอพยพเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 40 ครอบครัวในช่วง พ.ศ. 2492 (ค.ศ.1949) กลุ่มที่ 2 เข้ามาราวเดือน มีนาคม พ.ศ.2493 และกลุ่มที่ 3 เข้ามาราวเดือนมีนาคม พ.ศ. 2494 สมทบกับพวกที่เข้ามา 2 กลุ่มแรกรวมได้ประมาณ 60 ครอบครัว โดยเดินทางเข้ามาทางด่านพระเจดีย์ 3 องค์และทางแม่น้ำบีคลี่ มารวมตัวอยู่ที่บ้านนิเถะ กิ่งอำเภอสังขละบุรี มอญเหล่านี้เดินทางมาจากเมาะกะเนียง เจ้าคะเลและเมาะละแหม่ง (หน้า 10) |
|
Settlement Pattern |
ลักษณะบ้านของมอญบ้านวังกะ สร้างด้วยไม้ไผ่และใบหญ้าแฝกแห้ง ยกพื้นสูงเนื่องจากอยู่ติดน้ำ บ้านมอญทุกหลังต้องมีหิ้งพระยื่นออกมานอกตัวบ้าน (หน้า 14) |
|
Demography |
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ มอญที่อาศัยอยู่ที่บ้านวังกะ ในช่วงปี พ.ศ. 2545-2546 จำแนกเป็น 4 กลุ่มอายุ กลุ่มที่ 1 (1-10 ปี) กลุ่มที่ 2 (11-25 ปี) กลุ่มที่ 3 (26-45 ปี) กลุ่มที่ 4 (45 ปีขึ้นไป) รวมได้จำนวน 1,600 ชื่อ โดยสุ่มเป็นชื่อ เพศชาย 800 ชื่อและเพศหญิง 800 ชื่อ (หน้า ง)
บ้านวังกะ ปัจจุบัน มีประชากรประมาณ 1,000 กว่าครัวเรือน มอญส่วนใหญ่ (ร้อยละ 90) อพยพมาจากหมู่บ้านต่างๆ ในอำเภอเมืองเย ในเมืองเมาะละแหม่ง ในรัฐมอญ ประเทศพม่า นอกจากนี้ยังมีผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า เชื้อสายมอญ (บัตรสีชมพู) ที่เข้ามาในประเทศไทยก่อน พ.ศ. 2519 อีกประมาณ 3,400 คน และเข้ามาในประเทศไทยหลัง พ.ศ. 2519 (บัตรสีส้ม) จำนวน 9,675 คน ร้อยละ 70 เป็นคนเชื้อสายมอญ ที่เหลือเป็นคนเชื้อชาติพม่าและกะเหรี่ยงตั้งถิ่นฐานกระจัดกระจายอยู่เกือบทุกหมู่บ้านในเขตอำเภอสังขละบุรี (หน้า 11 - 12)
รวมแล้วในหมู่บ้านวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีมอญอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน (หน้า 42) |
|
Social Organization |
มอญบ้านวังกะนับว่ามีฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับชนชาติอื่นในหมู่บ้านเดียวกัน เพราะมอญบ้านวังกะมีความขยันในการทำมาหากิน เป็นสังคมที่รักความสงบ และรักพวกพ้อง (หน้า 14) |
|
Political Organization |
บ้านวังกะ ใช้รูปแบบการปกครองท้องถิ่นเหมือนหมู่บ้านไทยทั่วไป มีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแลและมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีก 4 คน โดยแยกออกเป็นฝ่ายปกครอง 2 คนและฝ่ายปราบปราม 2 คน ภายในหมู่บ้านมีการแบ่งกลุ่มการปกครองออกเป็นคุ้ม จำนวน 28 คุ้ม มีสมาชิกคุ้มละ 20 หลังคาเรือน โดยมีหัวหน้าคุ้มและรองหัวหน้าคุ้มคอยดูแล โดยลูกบ้านแต่ละคุ้มจะเป็นผู้เลือกและเป็นผู้ปลดออกจากตำแหน่งได้ ในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือเรื่องใดๆเกิดขึ้น ลูกบ้านจะแจ้งหัวหน้าคุ้มให้ช่วยไกล่เกลี่ยและตัดสิน หากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะส่งเรื่องไปยังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและผู้ใหญ่บ้าน ตามลำดับ (หน้า 13) |
|
Belief System |
มอญบ้านวังกะมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา โดยมีหลวงพ่ออุตตมะแห่งวัดวังก์วิเวการาม เป็นศูนย์รวมจิตใจของมอญ ผู้ใหญ่หรือคนแก่เมื่อเดินเข้าสู่ปากทางเข้าวัดหรือในเขตบริเวณวัดจะถอดรองเท้าออก เพราะเชื่อว่าหากใส่รองเท้าเข้าวัดจะทำให้ตนและศาสนาเสื่อมลงและจะเป็นบาปติดตัว และจะไม่พูดเสียงดังหยาบคาย ไม่เป็นสิริมงคล นอกจากนี้ มอญยังนิยมตักบาตรพระทุกเช้าอีกด้วย (หน้า 14-15)
ความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งชื่อมอญ เช่น การตั้งชื่อตามพิธี "โจกะปู้" ของมอญบ้านวังกะ เป็นพิธีเกี่ยวกับการดูฤกษ์ยามในการตั้งชื่อให้เด็กตามตำราการตั้งชื่อ โดยมีญาติพี่น้องหรือผู้มีความรู้เป็นผู้ประกอบพิธี มีการนิมนต์พระมาตักบาตรที่บ้าน ถ้าเด็กไม่แข็งแรงก็จะขายให้พระเพื่อเป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ จากนั้นพระจะตั้งชื่อให้แล้วพระจะฝากให้พ่อแม่เด็กเลี้ยงต่อ นอกจากตำราการตั้งชื่อแล้วยังมีความเชื่อในเรื่องดวงชะตาโดยการนำอักษรประจำวันเกิดมาตั้งชื่อเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย (หน้า 80 - 81) การตั้งชื่อเด็กยังมีความสัมพันธ์กับรูปลักษณ์และลักษณะนิสัยของเจ้าของชื่อ การตั้งชื่อตามสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่า มอญให้ความสำคัญเรื่องเหตุการณ์และช่วงเวลาที่เด็กเกิดอีกด้วย
ความหมายของชื่อมอญบ้านวังกะ สามารถจำแนกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ ชื่อที่มีความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติ คุณธรรม ค่านิยมและชื่อที่มีความหมายถึงวิถีชีวิตของมอญ ชื่อมอญเพศชายส่วนใหญ่มีความหมายถึงความรักชาติและรักแผ่นดิน (หน้า 103)
การเปลี่ยนชื่อและการมีชื่อที่ 2 การเปลี่ยนชื่อของบุคคลส่วนใหญ่จะเปลี่ยนจากภาษาต่างชาติ เช่นภาษามอญหรือภาษาพม่า มาเป็นภาษาไทยหรือใช้ชื่อที่ 2 เป็นภาษาไทย ทั้งนี้เป็นเพราะเพื่อความสะดวกแก่การเรียก และเพื่อความกลมกลืนกับคนไทย นอกจากนี้การเปลี่ยนชื่อยังมีเหตุผลมาจากสังคมอีกด้วย เช่น เนื่องจากชื่อของเด็กที่ตั้งให้ตั้งแต่แรกอาจมีความหมายไม่ดีและใช้เรียกชื่อเด็กเท่านั้น ดังนั้นเมื่อโตขึ้นจึงมีการตั้งชื่อให้ใหม่ ทั้งนี้ชื่อที่ 2 จะเป็นภาษาอะไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับบุคคลที่ตั้งชื่อให้เด็ก ผู้ที่ตั้งชื่อ ส่วนใหญ่ร้อยละ 90.0 คือพ่อแม่เด็ก รองลงมาคือ บรรพบุรุษหรือคนในครอบครัวและพระภิกษุสงฆ์ หมอตำแย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้อาวุโสในหมู่บ้านเป็นผู้ตั้งชื่อให้ ส่วนผู้ที่ตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อให้มอญเป็นชื่อที่ 2 นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ทางอำเภอเป็นผู้ตั้งให้ (หน้า 104 -106) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
วิถีชีวิตของมอญมักจะอาศัยใกล้กับแหล่งน้ำ (หน้า 14)
มอญในกลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1-10 ปี) ส่วนใหญ่จะมีชื่อเป็นภาษาไทยตั้งแต่เกิดเพราะพ่อแม่ต้องการให้ลูกกลมกลืนกับคนไทย(หน้า 56) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ปัจจุบันการตั้งชื่อตามพิธี "โจกะปู้" ของมอญบ้านวังกะ ไม่ค่อยนิยมจัดทำแล้ว(หน้า 81) |
|
Map/Illustration |
ตาราง
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1-10 ปี) (หน้า 43)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 2 (อายุ 11-25 ปี) (หน้า 44-45)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 3 (อายุ 26-45 ปี) (หน้า45-46)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 4 (อายุ 46 ปีขึ้นไป) (หน้า 46-47)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศชายกลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1-10 ปี) (หน้า 47)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศชาย กลุ่มอายุที่ 2 (อายุ 11-25 ปี) (หน้า 48)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศชาย กลุ่มอายุที่ 3 (อายุ 26-45 ปี) (หน้า 49)
- ตัวอย่างชื่อภาษามอญ เพศชาย กลุ่มอายุที่ 4 (อายุ 46 ปีขึ้นไป) (หน้า 49-50)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1-10 ปี) (หน้า 51)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 2 (อายุ 11- 25 ปี) (หน้า 51 - 52)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 3 (อายุ 26-45 ปี) (หน้า52 - 53)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศหญิง กลุ่มอายุที่ 4 (อายุ 46 ปีขึ้นไป) (หน้า 53)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศชายกลุ่มอายุที่ 1 (อายุ 1-10 ปี) ( หน้า 53)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศชาย กลุ่มอายุที่ 2 (อายุ 11-25 ปี) (หน้า 54)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศชาย กลุ่มอายุที่ 3 (อายุ 26-45 ปี) (หน้า 54)
- ตัวอย่างชื่อภาษาพม่า เพศชาย กลุ่มอายุที่ 4 (อายุ 46 ปีขึ้นไป) (หน้า55)
- ตารางแสดงความถี่ภาษาที่ใช้ในการตั้งชื่อของมอญ บ้านวังกะ แบ่งตามอายุ(หน้า 58)
- จำนวนพยางค์ชื่อมอญบ้านวังกะ กลุ่มอายุ 1-10 ปี (หน้า 77)
- จำนวนพยางค์ชื่อมอญบ้านวังกะ กลุ่มอายุ 11-25 ปี (หน้า77)
- จำนวนพยางค์ชื่อมอญบ้านวังกะ กลุ่มอายุ 26-45 ปี (หน้า 78)
- จำนวนพยางค์ชื่อมอญบ้านวังกะ กลุ่มอายุ 46 ปีขึ้นไป (หน้า 78)
- ตารางแสดงความหมายของชื่อมอญ บ้านวังกะ ที่มีการแบ่งตามเพศและอายุ (หน้า 94) |
|
|