|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มอญ,ขุนนาง,อยุธยา |
Author |
อภิเชฏฐ์ จั่นเที่ยง |
Title |
บทบาทขุนนางมอญในสมัยอยุธยาระหว่าง พ.ศ. 2127 ถึง 2310 |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มอญ รมัน รามัญ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
247 |
Year |
2540 |
Source |
หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต วิชาเอกประวัติศาสตร์ไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร |
Abstract |
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชนชาติมอญซึ่งอพยพเข้ามาในอาณาจักรอยุธยาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช พ.ศ.2127 ถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พ.ศ.2301 การที่ชนชาติมอญอพยพเข้ามาเนื่องจากสงครามระหว่างมอญกับพม่า พระมหากษัตริย์ของอยุธยาโปรดให้ไปตั้งถิ่นฐานตามที่ต่างๆและให้อยู่ดูแลควบคุมกันเอง โดยเน้นศึกษาบทบาทขุนนางมอญทั้งทางด้านทหารและพลเรือนปรากฏว่ามีขุนนางมอญและขุนนางเชื้อสายมอญที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ขณะนั้น ดังปรากฏบทบาทขุนนางมอญในกองทหารหน้า ทหารเรือ ทหารม้า ทหารอาทมาต และขุนนางมอญยังมีบทบาทด้านพลเรือนด้วยดังจะเห็นได้จากมีขุนนางไทยเชื้อสายมอญได้รับตำแหน่งสำคัญ เช่น ออกญาโกษาธิบดีเหล็ก และออกญาโกษาธิบดีปาน และยังปรากฏว่าขุนนางมอญมีเกี่ยวข้องในการแย่งชิงอำนาจราชบัลังก์หลายครั้งและขุนนางมอญยังร่วมก่อกบฏอีกหลายครั้งด้วยกัน ขุนนางมอญจึงมีบทบาทความสำคัญต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรและราชบัลลังก์ในขณะนั้นอย่างมาก |
|
Focus |
ศึกษาบทบาทของขุนนางมอญในด้านพลเรือน ด้านการทหารและบทบาททางการเมืองในสมัยอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ.2127 - 2310 โดยศึกษาจากเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ศึกษาชุมชนมอญในพระนครศรีอยุธยาประกอบด้วย |
|
Theoretical Issues |
ผู้เขียนได้ศึกษาจากเอกสารทางประวัติศาสตร์ในสมัยอยุธยาทั้งเอกสารของไทยและต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าในสมัยอยุธยาในระหว่างปี พ.ศ.2127ถึง พ.ศ.2310 มีชาวต่างชาติเข้ามารับราชการในอาณาจักรอยุธยาหลายชาติด้วยกัน เช่น จีน ญี่ปุ่น เปอร์เชียน รวมทั้งมอญด้วย ผู้เขียนสันนิษฐานว่าขุนนางมอญน่าจะมีเป็นจำนวนมากและมีบทบาทในวงการราชการทั้งทางด้านทหารและพลเรือนเพราะปรากฏชื่อในตำแหน่งสำคัญๆ เช่น ออกญาจักรีมอญ ออกญา โกษาธิบดี (เหล็ก) ออกญาโกษาธิบดี (ปาน) ผู้เขียนจึงศึกษาบทบาทของขุนนางมอญในสมัยอยุธยา โดยมีข้อสมมุติฐานว่าขุนนางมอญมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่อาณาจักรอยุธยา โดยมีการศึกษาชุมชนมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอาณาจักรอยุธยาประกอบด้วยเพื่อให้มองเห็นภาพของขุนนางมอญได้ชัดเจนขึ้น |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์มอญในสมัยอยุธยาชึ่งอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนในอาณาจักรอยุธยา |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
ระบุระยะเวลาในการศึกษาเชิงประวัติศาสตร์ไว้ระหว่างปี พ.ศ.2127 ถึง พ.ศ.2310 |
|
History of the Group and Community |
จากหลักฐานทางเอกสารของทั้งไทยและต่างประเทศปรากฏว่าในสมัยอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ.2127 สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาจนถึง พ.ศ. 2301 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มอญจำนวนหนึ่งได้อพยพเข้ามาอยู่ในอาณาจักรอยุธยา เนื่องจากปัญหาการสู้รบระหว่างมอญกับพม่า การสู้รบกับพม่าได้ก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่มอญโดยทั่วไป เนื่องจากเมื่อพม่าเป็นฝ่ายชนะจะปกครองมอญอย่างกดขี่ มอญส่วนหนึ่งจึงพากันอพยพไปยังดินแดนอื่นซึ่งส่วนหนึ่งได้เข้ามายังอาณาจักรอยุธยา การอพยพของมอญเข้ามานั้นมีด้วยกันหลายครั้ง เมื่อมอญเหล่านั้นเข้ามาในอยุธยาพระมหากษัตริย์ทรงอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ทั้งในเกาะเมืองและนอกเกาะเมืองอยุธยา การอพยพครั้งแรกในสมัยพระมหาธรรมราชา พ.ศ.2127 ปรากฏว่าให้ไปอยู่บริเวณบ้านใหม่มะขามหย่อง ครั้งที่2 พ.ศ.2136 ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งที่ 3 พ.ศ.2142 ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2175 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2201 ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดเกล้าฯให้ไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านสามโคก วัดตองปุ ชานพระนครด้านทิศเหนือและแถวคลองคูจามชานพระนครด้านทิศใต้ ครั้งที่ 6 - 8 ระหว่าง พ.ศ.2290 - 2301 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (หน้า75-76) มอญเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็นชุมชนที่ยังคงรักษาความเป็นชุมชนมอญไว้ได้ โดยมีการดูแลปกครองกันเองเมื่อมีความขัดแย้งในชุมชนก็จะตัดสินกันเอง โดยมีมอญบางส่วนได้เข้ารับราชการทำหน้าที่ทั้งทางด้านการทหารและพลเรือนดังปรากฏบทบาทของมอญ เช่น บทบาทด้านการทหาร ผู้เขียนเสนอว่าระหว่าง พ.ศ.2127-พ.ศ.2310 ขุนนางมอญมีบทบาทสำคัญกว่ากองทหารต่างชาติอื่นๆ โดยมีส่วนสำคัญในการรบกับพม่าหลายครั้ง โดยการรบกับจะทำหน้าที่เป็นหน่วยรบ ทหารรักษาพระองค์และหน่วยลาดตระเวน ส่วนบทบาทด้านพลเรือนได้แก่ ออกญาโกษาธิบดี (เหล็ก) และออกญาโกษาธิบดี (ปาน) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จด้านเจรจาทางการทูต นอกจากนี้ยังปรากฏว่าขุนนางมอญเข้าไปมีส่วนร่วมในการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองหลายครั้ง และมีการก่อกบฏหลายครั้ง ขุนนางมอญจึงมีบทบาทสำคัญในด้านความมั่นคงของราชอาณาจักรอยุธยาและมีบทบาทสำคัญต่อมาในสมัยธนบุรี |
|
Settlement Pattern |
จากพงศาวดารชุมชนมอญในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งอาจแบ่งลักษณะการตั้งถิ่นฐานหลักๆ ได้เป็น 2 แบบ คือ ชุมชนมอญภายในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาและชุมชนภายนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยชุมชนภายในเกาะเมือง ได้แก่ ชุมชนพระมหาเถรคันฉ่องซึ่งอยู่แถบวัดนก ตำบลหัวแหลม และวัดค้างคาว ชุมชนของพญาเกียรติ พญาพระราม อยู่ระหว่างวัดขมิ้นและวัดขุนแสน ตำบลบ้านขมิ้น ชุมชนภายนอกเกาะเมืองตามลำดับรัชกาล ได้แก่ ชุมชนมอญสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา อยู่นอกเกาะเมืองทางทิศเหนือ คือชุมชนบ้านใหม่มะขามหย่อง ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มบริเวณทางแยกของแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำสัก ชุมชนมอญสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสันนิษฐานว่าอยู่แถบชานเมือง ชุมชนมอญสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสามโคก วัดตองปุชานพระนครด้านทิศเหนือและแถวคลองคูจามชานพระนครด้านทิศใต้ นอกจากนี้จากเอกสารอื่นยังปรากฏชุมชนมอญวัดพนัญเชิง ชุมชนมอญวัดโปรดสัตว์ หรือด่านขนอนบ้านตะนาวศรี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะเมืองไปประมาณ 2 กิโลเมตรอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ชุมชนมอญปากคลองขุนละครไชย ซึ่งเป็นคลองที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยา ชุนมอญนอกเกาะเมืองอยุธยาจะตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำมาบรรจบกันอาจเป็นชุมชนที่ทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามารุกรานพระนคร (หน้า32-45) |
|
Demography |
มีเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ระบุจำนวนมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอาณาจักรอยุธยาไว้ เรียงตามรัชกาล คือ พ.ศ.2136 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จำนวน หลายพัน พ.ศ.2201 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จำนวน 6,000 พ.ศ.2290 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จำนวน 400 พ.ศ.2300 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จำนวน 1,000 เศษ (หน้า75-76) |
|
Political Organization |
มอญที่อยู่ในอาณาจักรอยุธยาจะได้มีการดูแลควบคุมกันเองเมื่อมีความขัดแย้งกันภายในชุมชนก็ให้ตัดสินกันเอง ดังเช่นชาติอื่นๆ ที่เข้ามาในอยุธยา มีมอญบางส่วนได้มีส่วนในการปกครอง กล่าวคือ ได้เข้ารับราชการ ขุนนางมอญมีภาระหน้าที่ของความเป็นขุนนางเหมือนกับขุนนางไทยทั่วไป มอญได้เป็นขุนนางเนื่องจากความสามารถในการรบ ในขณะนั้นอยุธยาต้องสู้รบกับพม่า ซึ่งต่อมาก็มีขุนนางมอญเข้ารับราชการโดยทำหน้าที่ทั้งด้านทหารและพลเรือน 1.บทบาทขุนนางมอญด้านการทหาร ปรากฏในกองทหารหน้าหรือเรียกว่าทหารเดินหน้า ทหารมอญน่าจะเข้าร่วมกับกองทัพอยุธยารบกับพม่าตั้งแต่สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา ซึ่งผู้เขียนสันนิษฐานว่าขุนนางมอญมีส่วนสำคัญในการรบกับพม่าหลายครั้ง ซึ่งมีปรากฏชื่อขุนนางมอญชั้นผู้ใหญ่คือสมิงพระราม นอกจากนี้เหตุการณ์การสู้รบหลายครั้งที่น่าจะเป็นหน้าที่ของขุนนางมอญแม้จะไม่ระบุชื่อเช่นการส่งทหารไปตีเมืองทวายและเมืองตะนาวศรีซึ่งเป็นหัวเมืองมอญ เนื่องจากขุนนางมอญมีความชำนาญในพื้นที่มากกว่า (หน้า 53-57) บทบาทขุนนางมอญด้านทหารเรือ โดยทำหน้าที่ในการควบคุมไพร่หลวงซึ่งเป็นฝีพายเรือพระที่นั่งซึ่งมีฝีพายมอญปรากฏในบันทึกของเดอ ลาลูแบร์ นอกจากนี้การเก็บเรือพระที่นั่งและโรงเรือกระบวนต่างๆไว้ในโรงที่อยูที่วัดตองปุซึ่งเป็นวัดของชุมชนมอญ(หน้า58-63) บทบาทขุนนางมอญด้านทหารม้า สมัยสมเด็จพระนารายณ์มีขุนนางมอญเป็นทหารม้า สังกัดกรมพระอัศวราชขวา(หน้า64) บทบาททหารมอญด้านทหารอาทมาต ทำหน้าที่สืบข่าวสอดแนมข้าศึก(หน้า64-65) 2.บทบาทด้านพลเรือน ได้แก่ ออกญาโกษาธิบดีเหล็ก เป็นขุนนางเชื้อสายมอญทางฝ่ายบิดา ออกญาโกษาธิบดีปาน เป็นน้องชายของออกญาโกษาธิบดีเหล็กซึ่งได้รับยกย่องว่าประสบความสำเร็จด้านเจรจาทางการฑูต ในสมัยพระเจ้าเสือขุนนางเชื้อสายมอญมีอิทธิพลอยู่ในกรมพระคลัง(หน้า 67-71) นอกจากนี้ยังมีขุนนางมอญบทบาทในการเมือง โดยในสมัยอยุธยาช่วงพ.ศ.2171 - 2301 มีการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองถึง 8 ครั้ง ในการช่วงชิงอำนาจแต่ละครั้งจะมีขุนนางมอญร่วมอยู่ด้วย (หน้า81-95) และยังปรากฏว่าขุนนางมอญมีส่วนร่วมในการก่อกบฏด้วยกันหลายครั้ง เช่น กบฏพระธรรมเถียร กบฏมอญโพธิ์สามต้น กบฏมอญเขานางบวช กบฏสุกี้พระนายกอง(หน้า100-105) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
นอกจากบทบาทของขุนนางมอญในสมัยอยุธยาแล้วผู้เขียนยังกล่าวถึงภาพรวมของการปกครองในสมัยอยุธยา ตำแหน่งและสายการบังคับบัญชาที่ปรากฏในกฎหมายตราสามดวง |
|
Map/Illustration |
ภาพที่ 1 แผนภูมิแสดงการบังคับบัญชาขุนนางมอญ(22) ภาพที่ 2 แผนภูมิแสดงการบังคับบัญชาของขุนนางมอญในระดับกรม กรมดั้งทองขวา(24) ภาพที่ 3 แผนภูมิแสดงการบังคับบัญชาของขุนนางมอญในระดับกรม กรมดาบสองมือกลาง(25) ภาพที่ 4 แผนภูมิแสดงการบังคับบัญชาของขุนนางมอญในระดับกรม กรมดั้งทองซ้าย(26) ภาพที่ 5 แผนภูมแสดงการเปรียบเทียบสายการบังคับบัญชากองทัพอยุธยากับกองทหารมอญ(28) ภาพที่ 6 แผนภูมิแสดงสายงานการบังคับบัญชาขุนนางมอญที่ปรากฏในกฎหมายตราสามดวง(30) ภาพที่ 7 แผนภูมิแสดงการบังคับบัญชาขุนนางมอญสมัยอยุธยา(46) ภาพที่ 8 ภาพฝีพายมอญ(Pegaucurs)(61) ภาพที่ 9 ภาพเรือในสมัยอยุธยา (62) แผนที่ 1 แสดงที่อยู่ของมอญสมัยอยุธยาระหว่างพ.ศ.2127-2310 (34) แผนที่ 2 แสดงที่อยู่ของมอญและแม่น้ำเจ้าพระยาจากปากน้ำไปจนถึงกรุงศรีอยุธยา(41) แผนที่ 3 แสดงที่อยู่ของPeguans(พะโค)และที่อยู่ของชาวต่างชาติรอบๆ เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา(43) |
|
Text Analyst |
รุ่งทิวา กลางทัพ |
Date of Report |
04 ต.ค. 2567 |
TAG |
มอญ, ขุนนาง, อยุธยา, |
Translator |
- |
|