|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาหู่,ที่อยู่อาศัย,โครงการพัฒนาดอยตุง,เชียงราย |
Author |
ปรัชวิกร มาสมบูรณ์ |
Title |
ลักษณะที่อยู่อาศัยของชาวเขาในโครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
148 |
Year |
2545 |
Source |
หลักสูตรปริญญาเคหพัฒนาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเคหการ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract |
การศึกษาลักษณะที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าลาหู่ ในโครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย มีการศึกษาถึงพัฒนาการของที่อยู่อาศัยของชาวเขา ลักษณะที่อยู่อาศัยของชาวเขาในปัจจุบัน และปัญหาด้านที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าลาหู่ในปัจจุบันเพื่อการวางแผนแก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัย โดยจากการศึกษาพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเรือน 9 รูปแบบได้แก่ - เรือนดั้งเดิม ยกพื้นเตี้ยแบบครัวอยู่ในตัวเรือน - เรือนดั้งเดิม ยกพื้นเตี้ยแบบครัวอยู่ติดกับตัวเรือน - เรือนดั้งเดิม ยกพื้นเตี้ยแบบเพิ่มห้องนอน - เรือนดั้งเดิม แบบแยกครอบครัวใหม่ - เรือนประยุกต์ ยกพื้นแบบใช้ชานหน้าเรือนเป็นทางเชื่อมสู่ห้องครัว - เรือนประยุกต์ ยกพื้นแบบแยกห้องครัวต่างหาก - เรือนประยุกต์ ติดพื้นแบบแยกครัวติดด้านหลังเรือน - เรือนประยุกต์ ติดพื้นแบบแยกครัวติดด้านหน้าเรือน - เรือนใหม่ 2 ชั้น จากรูปแบบเรือนทั้งหมด เรือนของผู้สูงอายุยังคงชานหน้าเรือนไว้ เรือนที่สร้างใหม่มีการสร้างห้องเก็บของเป็นองค์ประกอบใหม่ที่สร้างขึ้นเป็นอันดับแรก การขยายครัวของเรือนได้เพิ่มส่วนครัวและห้องนอนลูก การเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการออกไปทำงานนอกพื้นที่ การเงินดีขึ้นเรือนจึงมีความถาวรมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีความเชื่อในพื้นที่อยู่ คือ ห้ามหันจั่วเรือนตรงกัน การแยกเรือนของครอบครัวที่แต่งงานต้องสร้างเรือนติดพื้น และการรักษาลานประกอบพิธีกรรมไว้ โดยผลจากการศึกษาได้ข้อเสนอแนะที่นำไปวางแผนการอยู่อาศัยได้ คือ เพิ่มนโยบายแบ่งแปลงที่ดินสำหรับการขออนุญาตปลูกสร้างเรือนใหม่ ไม่ให้ปลูกในที่ดินแปลงเดิมเพราะจะทำให้แออัด การกำหนดระยะห่างระหว่างเขตที่ดินไปถึงเรือนอยู่อาศัย การหาวัสดุใหม่ที่สามารถแทนวัสดุธรรมชาติเดิมแทนการใช้วัสดุสมัยใหม่ตามท้องตลาด เพื่อให้เรือนเกิดลักษณะเฉพาะถิ่น |
|
Focus |
ศึกษาพัฒนาการที่อยู่อาศัย ครอบคลุมมิติต่างๆ เช่น ลักษณะที่อยู่อาศัย การอยู่อาศัย และปัญหาด้านที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าลาหู่ในปัจจุบัน ในโครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อการวางแผนตลอดจนการแก้ปัญหาของที่อยู่อาศัย |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ลาหู่มีต้นกำเนิดในมณฑลยูนานทางตอนใต้ของประเทศจีน ถูกชาวจีนขับไล่ลงทางใต้ เพราะชาวจีนว่าลาหู่เป็นคนป่าเถื่อน ก่อความวุ่นวาย ลาหู่ส่วนใหญ่เข้าประเทศไทยจากรัฐฉานประเทศพม่าและประเทศลาว การแบ่งกลุ่มของเผ่าลาหู่ในประเทศไทยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือลาหู่นะ ลาหู่ยี ลาหู่เฌเล และลาหู่สี หมู่บ้านมูเซอลาบาเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอแดง (ลาหู่ยี) ที่อพยพมาจากประเทศพม่าประมาณ 100 ปีมาแล้ว และได้อพยพไปเรื่อยๆ ตามความเหมาะสมของพื้นที่ทำมาหากิน โดยในอดีตหมู่บ้านมูเซอลาบาแบ่งเป็น 2 กลุ่มบ้าน คือ บ้านลาบานอก กับบ้านลาบาในอยู่ห่างกัน 2 กิโลเมตร ต่อมาเมื่อมีโครงการพัฒนาดอยตุงทางคณะกรรมการจึงได้จัดระบบประชากร โดยย้ายบ้านลาบาใน 48 หลังคาเรือน เนื่องจากอุปสรรคและปัญหาของกลุ่มบ้านขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายยากแก่การปกครอง โดยย้ายในวันที่ 25 มีนาคม 2532 เสร็จเมื่อปลายเดือน ธันวาคม 2532 ปัจจุบันเป็นบ้านที่ถูกต้องตามกฏหมาย ที่อยู่ในโครงการพัฒนาดอยตุง (หน้า44-45) |
|
Settlement Pattern |
หมู่บ้านมูเซอลาบาโดยเฉลี่ยในอดีตจะมีบ้าน 5-20 หลังคาเรือน เพื่อสะดวกเวลาเคลื่อนย้ายหาที่อยู่ใหม่ และมีองค์ประกอบของชุมชนซึ่งประกอบด้วย บ้านหัวหน้าหมู่บ้าน ผู้นำศาสนา หมอผี ช่างตีเหล็ก และบ้านของลูกบ้าน โดยต้องมีพื้นที่ว่างเป็นลานเต้นรำ หรือลานประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (จะคึกื่อ) (หน้า46) |
|
Demography |
หมู่บ้านมูเซอลาบามีประชากร 58 หลังคาเรือน 88 ครอบครัว เป็นชาย 136 คน หญิง 155 คน รวมทั้งสิ้น 291 คน ราษฎรส่วนใหญ่ได้สัญชาติไทย 97% และเป็นชาวเขาเผ่าลาหู่ (หน้า46) |
|
Economy |
แต่เดิมชาวบ้านลาบามีรายได้จากอาชีพเกษตรกร การค้าขาย การหาของป่าขาย ต่อมาเมื่อความอุดมสมบูรณ์ของป่าหมดไป ชาวบ้านจึงประกอบอาชีพรับจ้างตามหน่วยงานรัฐและเอกชน นอกจากนี้ชาวบ้านยังเลี้ยงหมูและไก่เพื่อเป็นอาหารตามเทศกาล บางบ้านเลี้ยงไว้มากก็ขายได้ เมื่อขายได้ก็หาลูกหมูมาเลี้ยงใหม่ โดยลาหู่ที่หมู่บ้านมูเซอลาบา มีรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลต่อปี 17,009 บาท (ข้อมูลสำรวจระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2543 - 31 มีนาคม 2544) รายได้จากการประกอบอาชีพประกอบด้วย อาชีพรับจ้างในพื้นที่ 2,094,500 บาท รับจ้างนอกพื้นที่ 1,341,120 บาท จากเกษตรกรรมในพื้นที่ 91,444 บาท จากเกษตรกรรมนอกพื้นที่ 459,200 บาท การค้าขายในพื้นที่ 120,000 บาท การค้าขายนอกพื้นที่ 120,000 บาท จากการเลี้ยงสัตว์ 207,500 บาท จากหัตถกรรม 18,000 บาท เงินที่ส่งมาจากนอกพื้นที่ 62,000 บาท และอื่นๆ 435,800 บาท รวมเป็นเงิน 4,949,564 บาท (หน้า48) |
|
Social Organization |
ระบบสังคมสามารถแบ่งตามพฤติกรรมการอยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าลาหู่ในปัจจุบันแบ่งได้ 2 ประเภท 1.ชาวบ้านที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน มีหน้าที่หาเงินให้ครอบครัว ไม่ต้องรับผิดชอบงานบ้าน ประกอบด้วย ชาวบ้านที่ทำงานในพื้นที่รอบหมู่บ้าน ออกไปทำงานช่วงเช้ากลับมาในช่วงเย็น และชาวบ้านที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่ นานๆ ครั้งหรือช่วงเวลามีงานประจำเผ่าจึงจะกลับ 2. ชาวบ้านที่ออกไปทำงานนอกบ้านเป็นบางเวลา ส่วนมากจะเป็นชาวบ้านที่มีอายุมากไม่สามารถออกไปใช้แรงงานได้ |
|
Belief System |
ความเชื่อของลาหู่มีอิทธิพลต่อการสร้างที่พักอาศัย โดยใช้ความเชื่อมาเป็นแนวคิดในการวางผังเรือนแต่ละหลังภายในหมู่บ้าน การปลูกเรือน จนถึงการกำหนดองค์ประกอบของชุมชน ได้แก่ ความเชื่อเรื่องเรือนแต่ละหลังห้ามหันหน้าจั่วตรงกัน จะทำให้เกิดความเจ็บป่วยภายในบ้าน หมู่บ้านต้องมีพื้นที่ว่างเป็นลานเต้นรำ หรือลานประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (จะคึกื่อ) องค์ประกอบชุมชนประกอบด้วย บ้านหัวหน้าหมู่บ้าน ผู้นำศาสนา หมอผี ช่างตีเหล็ก และบ้านของลูกบ้านจึงจะเป็นหมู่บ้าน จึงเป็นหมู่บ้านที่สมบูรณ์ เป็นต้น และเนื่องจากลาหู่มีการย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ ในอดีตจะสร้างหมู่บ้านละ 5-20 หลังคาเรือนเพื่อสามารถเคลื่อนย้ายหาที่อยู่ใหม่ได้สะดวก และการปลูกเรือนต้องสร้างให้เสร็จภายในวันเดียว คู่แต่งงานที่แยกครอบครัวต้องสร้างเรือนหลังแรกเป็นเรือนติดพื้นดิน นอกจากนี้ยังมีการแสดงตำแหน่งเรือนแต่ละหลัง คือ มีการปักธงหางว่าวไว้ที่ตัวเรือนเพื่อแสดงถึงตำแหน่งของผู้อยู่อาศัยในเรือนนั้น เช่น ตำแหน่งหัวหน้า หมู่บ้านหรือหมอผี (หน้า 46 , 60 ,67) นอกจากนี้ลาหู่ยังมีประเพณีพิธีกรรม เช่น ประเพณีตรุษจีน กินข้าวใหม่ ปีใหม่ ออกพรรษา และเข้าพรรษา (หน้า 47) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
สถาปัตยกรรม เรือนลาหู่แบบดั้งเดิมสร้างด้วยวัสดุที่หาได้จากธรรมชาติ ตามความเชื่อเรือนห้ามหันจั่วเรือนชนกัน มีการปักธงหางว่าวเพื่อแสดงถึงสถานะทางสังคมองผู้อยู่อาศัยในเรือนนั้น ภายในเรือนมีหิ้งบรรพบุรุษอยู่ภายในห้องนอนของผู้เฒ่าห้ามคนอื่นจับต้อง ภายในเรือนประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ชานเรือนสำหรับพักผ่อนและเก็บภาชนะใส่น้ำ ส่วนครัวสำหรับทำอาหารและกินอาหาร ส่วนนอนสำหรับสำหรับเก็บเสื้อผ้าและของมีค่าต่างๆ ภายนอกเรือนในส่วนใต้ถุนไว้เก็บฟืน เลี้ยงสัตว์ เก็บเรื่องมือสำหรับการประกอบอาชีพ โดยเรือนแต่เดิมมีลักษณะการอยู่อาศัยแบบพึ่งพากัน จึงไม่มีรั้ว ในหมู่บ้านจะมีเรือนลูกบ้านประมาณ 20 หลังคาเรือน เพื่อสามารถย้ายถิ่นฐานได้สะดวกรวดเร็ว ไม่มีไฟฟ้า ห้องน้ำ ห้องส้วมโดยชาวบ้านจะอาบน้ำที่ลำห้วยใกล้หมู่บ้านและขับถ่ายในป่า (หน้า 59-60) ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเรือนภายในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2532-2545 โดยมีการเปลี่ยนแปลงเป็นช่วงระยะเวลาได้แก่ ช่วงปี พ.ศ.2532 - 2536 เกิดเรือนประยุกต์ถาวรชั้นเดียวยกใต้ถุนสูงหลังคามุงกระเบื้องขึ้นเป็นครั้งแรก เริ่มมีการแยกส่วนครัวออกจากเรือนนอน ที่เหลือเป็นเรือนดั้งเดิมวัสดุไม่ถาวร และมีเรือนแบบติดพื้นทั้งหลังที่เกิดจากการแยกครอบครัว ช่วงปี พ.ศ.2537 มีเรือนวัสดุถาวรเพิ่มเป็น 3 หลัง มีเรือน 2 ชั้นหลังแรก มีห้องน้ำ - ห้องส้วม 50 หลัง พ.ศ.2538 มีการสร้างบ้านหลังที่ 2 ขึ้นภายในที่ดินเดียวกัน พ.ศ.2539 มีการรื้อถอนบ้านเป็นหลังแรกเนื่องจากผู้อยู่ย้ายถิ่นฐาน มีเรือน 2 หลังเปลี่ยนแปลงเป็นเรือนแบบกึ่งถาวร การสร้างเรือนวัสดุถาวรติดพื้นทั้งหลังมีเพิ่ม 1 หลัง เรือนที่ไม่มีห้องน้ำ -ห้องส้วมเหลือ 1 หลัง พ.ศ. 2540 - 2544 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรื้อถอนหลังคา เปลี่ยนวัสดุเรือนเป็นแบบกึ่งถาวรและแบบถาวร การแยกห้องครัวออกจากเรือนนอน ปลูกบ้านเพิ่มในพื้นที่แปลงเดียวกัน พ.ศ. 2545 มีการย้ายแปลงที่ดินมาอยู่แปลงใหม่ในหมู่บ้านเดิม และมีการแยกเรือนของครอบครัวใหม่ออกจากเรือนเดิมที่สร้างเรือนตามความเชื่อขึ้นอีก 2 หลัง (หน้า63) จากการศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเรือนทำให้สามารถสรุปการวางผังเรือนที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ 1. เรือนดั้งเดิมแบ่งได้ 4 รูปแบบ แบบครัวอยู่ในตัวเรือน แบบครัวอยู่ติดกับตัวเรือน แบบเพิ่มห้องนอน แยกครอบครัวใหม่ 2. เรือนประยุกต์แบ่งได้ 4 รูปแบบ แบบเรือนยกพื้นใช้ชานเป็นทางเชื่อมสู่ห้องครัว แบบเรือนยกพื้นแยกห้องครัวต่างหาก แบบเรือนติดพื้นทั้งหลัง แบบเรือนติดพื้นทั้งหลัง แยกครัวอยู่ด้านหน้าเรือน 3. เรือนใหม่ 2 ชั้น (หน้า68) การแต่งกาย การแต่งกายของชาวเขาเผ่าลาหู่แตกต่างกันตามลาหู่เผ่าต่างๆ ที่พบในประเทศไทยมี 4 เผ่าได้แก่ ลาหู่นะ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำมีลายปัก ลาหู่ยี ผู้หญิงของกลุ่มนี้จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดง ลาหู่เฌเล แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำไม่ปักลาย ลาหู่สี ผู้หญิงจะสวมเสื้อและกระโปรงสันๆ แทนเสื้อคลุมและกางเกงขายาว (หน้า 7-9) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ชาวเขาเกิดปัญหาประชากรเพิ่มมากขึ้น เมื่อชาวเขาหยุดการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน มีอาชีพมั่นคงกว่าการทำไร่เลื่อนลอย มีการสร้างเรือนใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยสร้างในพื้นที่ว่างของที่ดินแปลงเดิม หรือต่อเติมจากเรือนเดิม ได้แก่ ห้องเก็บของ ห้องครัวและห้องนอน โดยจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ได้แก่ ปัญหาการขาดแคลนวัสดุธรรมชาติที่ใช้ในการก่อสร้างหรือซ่อมแซมเรือน รวมถึงวัสดุที่ไม่ค่อยคงทน ปัญหาการขาดแคลนทุนทรัพย์ในการซื้อวัสดุที่มีตามท้องตลาด ขาดเงินจ้างแรงงานสร้างและซ่อมเรือน ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น ปัญหาความไม่ปลอดภัยในทรัพย์สินของคนในหมู่บ้าน เนื่องจากสังคมที่เปลี่ยนไป ปัญหาราคาค่าจ้างดูดส้วมราคาสูง ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้บริการได้ ปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้องบ่อย เนื่องจากกระแสลมตามธรรมชาติ โดยปัญหา 5 ใน 6 ข้อเป็นปัญหาเกี่ยวเนื่องกันโดยเกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจการเงินของชาวบ้าน (หน้า 123) |
|
Map/Illustration |
แผนที่ - ผังหมู่บ้านทั่วไปของชาวเขาเผ่าลาหู่ (หน้า11) - แผนที่ประเทศไทยแสดงตำแหน่งที่ตั้งจังหวัดเชียงราย (หน้า39) - จังหวัดเชียงราย แสดงเขตเทือกเขาและที่ราบ (หน้า40) - การแบ่งเขตอำเภอในจังหวัดเชียงราย (หน้า41) - ตำแหน่งของอำเภอแม่ฟ้าหลวง และที่ตั้งหมู่บ้านมูเซอลาบา (หน้า42) - หมู่บ้านมูเซอลาบาก่อนผู้วิจัยทำการสำรวจรายแปลง (หน้า43) - หมู่บ้านที่สำรวจใหม่ (หน้า57) - ตำแหน่งของเรือนดั้งเดิม ประยุกต์ และเรือนใหม่ (หน้า65) - ตำแหน่งของเรือนถาวน กึ่งถาวร และไม่ถาวร (หน้า66) - การใช้ประโยชน์ของที่ดินในแต่ละแปลง (หน้า93) ภาพ - เครื่องแต่งกายลาหู่นะ (หน้า8) - เครื่องแต่งกายลาหู่ยี (หน้า8) - เครื่องแต่งกายลาหู่เฌเล (หน้า9) - เครื่องแต่งกายลาหู่สี (หน้า9) - ผังเรือนและรูปด้านทั่วไปของชาวเขาเผ่าลาหู่ (หน้า12) - ผังแสดงประโยชน์ใช้สอยเฉพาะอย่าง (หน้า21) - ผังแสดงแยกเฉพาะส่วนตามประโยชน์ใช้สอย (หน้า21) - ผังแสดงการจัดรวมความสัมพันธ์ของประโยชน์ใช้สอย (หน้า22) - ผังแสดงความสัมพันธ์ของกลุ่มประโยชน์ใช้สอยกับที่ว่างใกล้เคียง (หน้า22) - เปรียบเทียบลักษณะที่ว่างภายในและภายนอก (หน้า22) - การรวมประเภทลักษณะการใช้งานของที่ว่างในอาคารพักอาศัย (หน้า23) - การล้อมรั้วบ้าน (หน้า24) - การปลูกต้นไม้ล้อมบริเวณ (หน้า24) - การใช้แผงกั้นผสมกับแนวต้นไม้ปิดล้อมที่ว่าง (หน้า24) - การใช้ต้นไม้และตัวอาคารปิดล้อมที่ว่าง (หน้า25) - การใช้กลุ่มอาคารย่อยปิดล้อมที่ว่าง (หน้า25) - น.ส.นานู อภิเสริมสกุล (ล่ามของผู้วิจัย) (หน้า36) - หัวหน้าหมู่บ้านคนปัจจุบันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน (หน้า44) - งานประเพณีปีใหม่ชาวมูเซอ (หน้า47) - งานประเพณีกินข้าวใหม่ชาวมูเซอ (หน้า47) - พื้นที่การเกษตรกรรมของชาวบ้าน (หน้า48) - การรับจ้างกาแฟ (หน้า48) - อาชีพป้องกันไฟป่า (หน้า48) - สถานีควบคุมไฟป่า (หน้า51) - บริเวณสถานีควบคุมไฟป่า ห่างจากหมู่บ้าน 5 กม. (หน้า51) - ศูนย์สัตว์ป่า (หน้า51) - บริเวณศูนย์สัตว์ป่า ห่างจากหมู่บ้าน 1 กม. (หน้า51) - ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย (หน้า51) - บริเวณศูนย์วิจัยพืชเชียงราย ห่างจากหมู่บ้าน 7 กม. (หน้า51) - บริเวณโครงการดอยตุงห่างจากหมู่บ้าน 8.5 กม. (หน้า52) - บริเวณประตูหมูบ้านมูเซอลาบา (หน้า52) - พื้นที่เกษตรของชาวบ้าน (หน้า52) - ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กสายหลัก (หน้า52) - ถนนสายหลักปูอิฐบล็อกคอนกรีตของศูนย์เร่งรัดพัฒนา (รพช.) (หน้า52) - ทางเดินย่อยเข้าแต่ละหลังคาเรือน (หน้า52) - ศูนย์แจ้งข่าวสาธารณะสุข (หน้า53) - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (หน้า53) - ร้านค้าชุมชนและลานหมู่บ้าน เวลา 11.30 น. (หน้า53) - บริเวณร้านค้าช่วงเย็น เวลา 17.20 น. (หน้า53) - โรงเรียนศูนย์การศึกษาชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านมูเซอลาบา (ศศช.) (หน้า53) - ธนาคารข้าวประจำหมู่บ้าน (หน้า53) - เรือนประยุกต์วัสดุถาวรชั้นเดียวติดพื้นทั้งหลัง (หน้า54) - เรือนประยุกต์วัสดุถาวรชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง (หน้า54) - เรือนดั้งเดิมวัสดุกึ่งถาวรชั้นเดียวยกใต้ถุนเตี้ย (หน้า55) - เรือนดั้งเดิมวัสดุไม่ถาวรชั้นเดียวยกใต้ถุนเตี้ย (หน้า55) - เรือนประยุกต์วัสดุกึ่งถาวรชั้นเดียวติดพื้นทั้งหลัง (หน้า55) - เรือนประยุกต์วัสดุกึ่งถาวรชั้นเดียวยกใต้ถุนเตี้ย (หน้า55) - เรือนประยุกต์วัสดุกึ่งถาวรชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง (หน้า55) - เรือนใหม่วัสดุถาวร 2 ชั้น (หน้า55) - หลังคาเรือนที่ผู้อยู่อาศัยทำงานนอกพื้นที่ (หน้า56) - หลังคาเรือนว่าง (หน้า56) - เรือนตามความเชื่อที่สร้างใหม่จากการแยกครอบครัว (หน้า56) - รูปแบบและลักษณะภายในเรือนแบบดั้งเดิม - เรือนถาวรหลังแรกของหมู่บ้าน (หน้า61) - ลักษณะเรือนที่มีอยู่เป็นส่วนใหญ่ของหมู่บ้าน (หน้า 61) - หลังคาเรือนแรก ในพื้นที่แปลงเดียวกัน (หน้า61) - เรือนที่คู่แต่งงานแยกออกมาปลูกใหม่ตามความเชื่อดั้งเดิม (หน้า62) - ผังลักษณะการดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่ (หน้า71) - ผังลักษณะการดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่ (หน้า75) - ผังลักษณะการดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่ไม่ต้องออกจากบ้าน (หน้า76) - ลานหมู่บ้านหรือลานประกอบพิธีกรรม (หน้า86) - รั้วบ้านสำหรับตากผ่า (หน้า86) - การขนไม้ไผ่จากป่าเพื่อนำมาสร้างเรือน (หน้า86) - เตรียมไม้ไผ่เพื่อซ่อมแซมส่วนพื้นและผนัง (หน้า86) - ยามว่างชาวบ้านมานั่งคุยกันบริเวณลานกลาง (หน้า86) - ยามว่างใช้เวลาในการจักสาน (หน้า86) - บริเวณหน้าบ้านสำหรับพักผ่อน (หน้า87) - หญ้าคาที่แม่เฒ่าเตรียมไว้ซ่อมเรือน (หน้า87) - ต้นกล้วยที่แบกมาเพื่อเป็นอาหารหมู (หน้า87) - การเฉือนต้นกล้วยเพื่อนำมาทำเป็นอาหารหมู (หน้า87) - การขนวัสดุสมัยใหม่ที่นำมาสร้างเรือน (หน้า87) - บริเวณลานซักล้าง (หน้า87) - กินอาหารกลางวันแบบชาวบ้าน (หน้า88) - ครัวแยกจากเรือนนอน มีทั้งเตาแก๊สและเตาฟืน (หน้า88) - ชาวบ้านช่วยกันเหลาตอกเพื่อเตรียมสร้างเรือน (หน้า88) - เรือนที่เจ้าบ้านไปทำงานนอกพื้นที่ (หน้า88) - หลังคาทรงจั่วของลาหู่ที่มีการต่อเติมกันสาดหญ้าคา (หน้า91) - เรือนแบบสมัยใหม่ ที่มีการต่อเติมผ้าใบกันสาด (หน้า91) - รั้วไม้ไผ่ (หน้า92) - ตัวเรือนขนาดเล็ก (หลังคาเรือนที่ 7) (หน้า94) - ตัวเรือนขนาดกลาง (หลังคาเรือนที่ 37) (หน้า94) - ตัวเรือนขนาดใหญ่ (หลังคาเรือนที่ 39) (หน้า94) - โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กต่อกับเสาไม้จริง (หน้า95) - โครงสร้างลำต้นของต้นไม้ขนาดต่างๆ (หน้า95) - พื้นฟากปูเสื่อทอและผนังฟาก (หน้า96) - พื้นไม้แปรรูปปูเสื่อทอและผนังไม้แปรรูป (หน้า96) - ผนังฟากลวดลายต่างๆที่ใช้เป็นผนัง (หน้า96) - ฝ้าไม้ไผ่ (หน้า97) - ฝ้ายิบซั่มบอร์ด (หน้า97) - พื้น ผนัง และประตูไม้ธรรมชาติ (หน้า97) - ประตูไม้แปรรูปและม่านบังสายตา (หน้า97) - ผนังไม้แปรรูปและหน้าต่างกรอบไม้ - บานไม้ (หน้า98) - หน้าต่างกรอบไม้ - บานกระจก ที่มีการติดเหล็กดัด (หน้า98) - ไม้จริงตีเว้นร่องเพื่อระบายควันไฟภายในครัว (หน้า98) - ฟูกนอนเพื่อให้ได้รับความอบอุ่นจากเตาฟืนภายในครัว (หน้า98) - ครัวผนังก่ออิฐบล็อก หลังคากระเบื้อง (หน้า99) - ครัวผนังฟาก หลังคาหญ้าคา (หน้า99) - ผังพื้นห้องน้ำ - ห้องส้วม ที่มีการใช้งานอยูในหมู่บ้าน (หน้า99) - ห้องน้ำ - ห้องส้วมของหลังคาเรือนที่ 8 มีผู้มาใช้ร่วมมากที่สุดรวม 3 หลัง (หน้า100) - ห้องน้ำ - ห้องส้วมผนังฟากหลังคาสังกะสี (หน้า100) - ห้องน้ำ - ห้องส้วมผนังอิฐบล็อกฉาบปูนหลังคากระเบื้อง (หน้า100) - บันไดของเรือนทีมีผู้เฒ่าและเด็กจะมีแผ่นไม้รองกันตก (หน้า100) - พื้นที่ชานบางส่วนสำหรับล้างจานหรือเก็บภาชนะเก็บน้ำ (หน้า101) - ชั้นเก็บของเหนือเตาฟืน (หน้า102) - ห้องเก็บของของเรือนใหม่ 2 ชั้น (หน้า102) - ส่วนชานหน้าบ้านเพื่อรองรับแขก (หน้า103) - ส่วนนอกและส่วนพักผ่อนของเรือนแบบดั้งเดิม (หน้า103) - หิ้งบูชาทั่วไป (หน้า104) - ห้องทำพิธีของหมอผี (หน้า104) - แสดงเรือนที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งทิศทางของเรือนไปจากเรือนเดิม เนื่องจากเกิดการเจ็บป่วย (หน้า107) - ปัญหาหลังคารั่ว (หน้า108) - ปัญหาวัสดุมุงหลังคาและพื้นหมดสภาพ (หน้า108) - ผนังเรือนใช้แผ่นพลาสติกมาแทนผนังส่วนที่ชำรุด (หน้า109) - ผนังห้องน้ำใช้ตาข่ายมาช่วยบังสายตา (หน้า109) - ฟากผนังสานที่ซื้อมาจากหมู่บ้านอื่น (หน้า109) - หญ้าคาที่ชาวบ้านไปเกี่ยวมาเอง (หน้า109) - ชาวบ้านช่วยกันก่อสร้างเรือนให้แม่เฒ่า (หน้า110) - เรือนใหม่ที่จ้างผู้รับเหมาพื้นราบมาก่อสร้าง (หน้า110) - ข้าวเปลือกที่เก็บไว้รอการจำหน่ายแต่ยุ้งฉางเก็บไม่พอ (หน้า111) - ยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกตั้งอยู่บนเรือนเนื่องจากรอบเรือนไม่มีพื้นที่สร้าง (หน้า111) - ทางระบายน้ำทิ้ง (หน้า111) - การขยายตัวของเรือนในอดีตกับปัจจุบัน (หน้า115) - กระบวนการพัฒนาเรือนจากอดีตถึงปัจจุบัน (หน้า116) - ผังแสดงสาระสังเขปของพัฒนาการที่อยู่อาศัย (หน้า122) - ตาราง - การแบ่งกลุ่มชนเผ่าลาหู่ (หน้า8) - ช่วงเวลาการลงพื้นที่ภาคสนามของผู้วิจัย (หน้า37) - การสรุปการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเรือนในช่วงปี พ.ศ.2532 - 2545 (หน้า63) - ลักษณะของชาวบ้าน รายได้เฉลี่ย จำนวนสมาชิก และประเพณีเรือน (หน้า84) - ลักษณะการทำงานกับที่อยู่อาศัย (หน้า85) - การวิเคราะห์พฤติกรรมของชาวบ้าน (หน้า89) - ส่วนประกอบของเรือนแต่ละประเภท (หน้า105) - วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเรือน (หน้า115) - เปรียบเทียบความเชื่อดั้งเดิมกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน (หน้า117) แผนภูมิ - ขนาดพื้นที่เฉลี่ยต่อแปลงของแต่ละหมู่บ้านในโครงการฯ (หน้า2) - แผนภูมิอัตราการเกิด - ตาย รวมในช่วงปี พ.ศ. 2535 - 2543 (หน้า2) - ขนาดที่ดินแต่ละแปลงในหมู่บ้านปี พ.ศ. 2544 (หน้า49) - จำนวนสมาชิกในแต่ละครัวเรือน (หน้า49) - รายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ยปี 2539 - 2544 (หน้า50) - สัดส่วนการประกอบอาชีพปี 2544 (หน้า50) - กราฟเปรียบเทียบภาพรวมการเลือกใช้วัสดุในการสร้างเรือน (หน้า120) |
|
|