สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ม้ง,สุขภาพ,งานวางแผนครอบครัว,เชียงใหม่
Author กรรณิการ์ มณีวรรณ
Title การศึกษารูปแบบการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของพ่อบ้านม้งในงานวางแผนครอบครัวและดูแลอนามัยการเจริญพันธุ์
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ม้ง, Language and Linguistic Affiliations ม้ง-เมี่ยน
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 54 Year 2543
Source ศูนย์พัฒนาอนามัยพื้นที่สูง กองวางแผนครอบครัวและประชากร กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
Abstract

ศูนย์พัฒนาอนามัยพื้นที่สูงศึกษาการวางแผนครอบครัวแบบมีส่วนร่วมของพ่อบ้านม้ง 48 คน ให้ความรู้เรื่องปัญหาประชากร การวางแผนครอบครัว และอนามัยการเจริญพันธุ์ มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างแนวร่วมโดยเขียนข้อกำหนดการปฏิบัติเพื่อปรับปรุงตนเองในการดำเนินชีวิต ดูแลสุขภาพ มีการสัมภาษณ์ สังเกต เสวนากลุ่ม พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงความรู้ ความเชื่อ การดูแลสุขภาพครอบครัวมากขึ้น มีการตัดสินใจร่วมโดยเสนอวิธีคุมกำเนิดให้แม่บ้านเลือก นำแม่บ้านไปตรวจสุขภาพประจำปี ดูแลลูก การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านได้ขอให้ศูนย์พัฒนาอนามัยพื้นที่สูง จัดอบรมหลักสูตรเดิมเน้นครอบครัวสุขสันต์ให้กับคู่สมรส 25 คู่ จากการอบรมสังเกต คู่สมรสสนใจซักถามปัญหาต่างๆ รูปแบบการมีส่วนร่วมจึงควรนำไปใช้เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการวางแผนครอบครัวและอนามัยเจริญพันธุ์ในพื้นที่ต่างๆ ประยุกต์ใช้กับโครงการอื่นที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของพ่อบ้านม้ง ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านอื่นต่อไป

Focus

การมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของพ่อบ้านม้ง ในงานวางแผนครอบครัวและการดูแลอนามัยการเจริญพันธุ์

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

ชาวเขาเผ่าม้ง

Language and Linguistic Affiliations

ภาษาม้งจะมีเสียงก้องมักเป็นคำโดดๆ มีการยืมคำศัพท์มาจากหลายชาติทั้ง ไทย ลาว จีน และชาติอื่นๆ ภาษาพูดจะมีความหมายคล้ายภาษาจีนทางตอนใต้ นอกจากนี้ม้งในแต่ละกลุ่มมีการใช้ภาษาแตกต่างกัน แต่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ (หน้า 7)

Study Period (Data Collection)

พ.ศ. 2543

History of the Group and Community

ม้ง หรือ แม้ว เป็นชาวเขาที่อยู่กระจัดกระจายตั้งแต่ตอนใต้ของจีน เวียดนาม ลาว ไทย ในประเทศไทยม้งเป็นเผ่าใหญ่อันดับ 2 อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ นักมานุษยวิทยาจัดชาวเขาเผ่าม้งอยู่ในกลุ่มภาษาจีน อาศัยในเทือกเขาสูง 1,000 -1,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล โดยม้งที่อยู่ในภาคเหนือของประเทศไทยแบ่งได้เป็น 3 เผ่า คือ ม้งดำ ม้งขาว และม้งกัวมะบะ ม้งดำแบ่งออกเป็น 3 สาขา คือ ม้งดอก ม้งลาย ม้งดำ การแบ่งจะแบ่งตามความแตกต่างทางภาษา ความแตกต่างของเครื่องแต่งกาย และชื่อที่เรียกตัวเอง (หน้า 1, 7)

Settlement Pattern

ม้งสร้างบ้านอยู่บนยอดภูเขาสูง เพราะม้งปลูกฝิ่น โดยจะปลูกบนที่สูงระดับตั้งแต่ 2,500 ฟุตขึ้นไป และต้องเป็นที่ ๆ หาแหล่งน้ำได้ง่าย หมู่บ้านม้งเฉลี่ยมีบ้าน 35 หลังคาเรือน สร้างแบบไม่มีระเบียบแบบแผน บ้านของหัวหน้าจะอยู่ตรงกลาง บ้านม้งมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นบ้านชั้นเดียวสร้างบนพื้นดิน รอบบ้านมีคูระบายน้ำ หลังคามุงด้วยหญ้า ฝาบ้านเป็นไม้ไผ่ ถ้ามีฐานะเป็นฝากระดาน ครอบครัวขนาดเล็กพ่อแม่จะมีห้องที่กั้นฝาของตนเอง ลูกชายจะมีห้องนอนของตนเอง ครอบครัวขนาดใหญ่ลูกชายที่แต่งงานมีครอบครัวจะมีห้องนอนแยกต่างหาก

Demography

ในประเทศไทย พ.ศ 2540 ม้งอาศัยอยู่ 13 จังหวัด 60 อำเภอ 266 หมู่บ้าน จัดตั้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติการปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 161 หมู่บ้าน และ 105 กลุ่มบ้าน มี 15,704 หลังคาเรือน ประชากร 126,300 คน ชาย 63,869 คน หญิง 62,431 คน กลุ่มที่ให้ข้อมูลคือ พ่อบ้านม้งจำนวน 48 คน ที่อยู่ใน 6 หมู่บ้านใน อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (หน้า 1)

Economy

ม้งมีความชำนาญในการทำไร่เลื่อนลอย (ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันว่าไร่ หมุนเวียน - ผู้ตรวจ) อาชีพหลัก คือ การปลูกฝิ่น โดยมากจะจำหน่าย ใช้บริโภคเพียงส่วนน้อย นอกจากนี้ยังมีการปลูกข้าวโพด และข้าว ข้าวโพดปลูกเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์และใช้เป็นอาหารยามขาดแคลน ข้าวจะปลูกไม่มากกินได้ไม่ถึงครึ่งปี สินค้าอื่นๆ ที่ไม่มีในหมู่บ้าน เช่น เกลือ ไฟฉาย ไม้ขีด ก็จะนำสิ่งของที่มีอยู่มาแลกกับพ่อค้าคนไทย บางครั้งก็เข้าป่าล่าสัตว์และหาของป่า เช่นหนังสัตว์ กล้วยไม้ น้ำผึ้ง หวาย เพื่อแลกกับสินค้าของคนไทย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นเองด้วยเช่นผ้าปัก สร้อยคอ สร้อยแขน และบ้านทุกหลังจะมีสัตว์เลี้ยง คือ หมู และไก่ ไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (หน้า 9)

Social Organization

ระบบสังคมเป็นระบบวงศ์ตระกูล หรือแซ่ โดยมี 11 วงศ์ตระกูล คือ ยัง ลี้ ซอง วัง เมา เก้า อู วู โล (เลา) คิม และยาง โดยจะสืบวงศ์ตระกูลทางฝ่ายผู้ชาย แต่ละวงศ์ตระกูลจะมีพิธีกรรมทางศาสนาของตนเอง ครอบครัวมีตั้งแต่ครอบครัวแรกเริ่มจนถึงครอบครัวขยายของญาติพี่น้องฝ่ายชาย โดยจำนวนสมาชิกในครอบครัวมีตั้งแต่ 2-30 คน ในครอบครัวมีชายอาวุโสเป็นผู้นำ เมื่อบุตรชายมีภรรยาต้องนำภรรยามาอยู่ด้วย ส่วนบุตรหญิงเมื่อแต่งงานต้องไปอยู่กับครอบครัวสามี เมื่อบิดามารดาสิ้นชีวิตลูกๆ จะแยกเรือนไป เรือนหลังเดิมให้บุตรชายคนหัวปี สมาชิกในครอบครัวจะมีความสัมพันธ์ในฐานะญาติ แต่ถ้าญาติคนใดสมรสไปแล้วความสัมพันธ์ในฐานะญาติจะสิ้นสุด การแต่งงานปกติผู้ชายจะมีภรรยาคนเดียว แต่การแต่งงานครั้งที่ 2 ก็ทำได้ การแต่งงานระหว่างคนในครอบครัวที่ใช้นามสกุลเดียวกันถูกห้าม พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่ลูกน้อง คือลูกสาวของพี่หรือน้องสาวของพ่อ และลูกสาวของพี่หรือน้องชายของแม่ ผู้ชายม้งถือว่าการสมรส คือ การหาแรงงานเพิ่มโดยฝ่ายชายต้องไปสู่ขอกับบิดามารดาฝ่ายหญิง บิดามารดาฝ่ายหญิงจะตั้งค่าตัว เมื่อฝ่ายชายนำเงินไปให้สตรีนั้นจะเป็นภรรยาของตนทันทีโดยไม่ต้องคำนึงถึงความพอใจของสตรี สตรีมีครรภ์จะมีค่าตัวสูงกว่าสตรีไม่มีครรภ์ ถือว่าฝ่ายชายได้เปรียบที่ได้ลูกในท้องไปด้วย ผู้หญิงที่แข็งแรงขยันทำงานมักจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายมากกว่าผู้หญิงสวย ก่อนแต่งงานผู้หญิงม้งจะมีอิสระทางเพศสามารถหลับนอนกับผู้ชายคนไหนที่พอใจก็ได้ โดยไม่ต้องกลัวตั้งครรภ์ เพราะเมื่อตั้งครรภ์จะมีค่าตัวที่สูงขึ้น แต่หลังแต่งงานต้องซื่อสัตย์ต่อสามี (หน้า 8-9) จะมีการละเล่นโยนบอลในงานปีใหม่ เพื่อให้หนุ่มสาวได้เลือกคู่อย่างอิสระและถูกต้องตามประเพณี (หน้า 37)

Political Organization

ที่มาของอำนาจการปกครองมาจากจารีตประเพณี ซึ่งผีฟ้าเป็นผู้บัญญัติขึ้น โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่เป็นผู้จดจำมาตั้งขึ้น เพราะม้งไม่มีภาษาหนังสือ ลักษณะการปกครองหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านมักเป็นผู้อาวุโสของวงศ์ตระกูล เมื่อได้รับเลือกตั้งแล้วจะดำรงตำแหน่งไปจนสิ้นสภาพ (ตายหรือลาออก) หรือที่ประชุมหมู่บ้านมีมติให้ลาออก หน้าที่ของหัวหน้าหมู่บ้าน คือ คอยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างหมู่บ้าน ดูแลรักษาทางด้านบนเขาให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย คอยอพยพลูกบ้านไปให้พ้นหมู่บ้านเมื่อเกิดการสู้รบ ดำเนินการประชุมกำหนดนโยบายของหมู่บ้านตลอดจนควบคุมการดำเนินงานของสมาชิกในหมู่บ้าน สตรีสามารถประชุมเพื่อรับฟังข่าวสารหรือข้อกำหนดต่างๆ แต่ไม่มีสิทธิในการออกเสียงที่ประชุม (หน้า 7)

Belief System

ม้งมีความเชื่อเรื่องผี เชื่อว่าผีอาศัยตามต้นไม้ ภูเขา หรือตามไร่นา โดย "หมอผี" มีอำนาจเหนือธรรมชาติ ใกล้ชิดกับผีในแบบที่คนธรรมดาทำไม่ได้ โดยจะได้อำนาจจากผีที่สิงอยู่ในตัว หมอผีแต่ละคนมีอำนาจไม่เท่ากัน โดยถ้าปฏิเสธการช่วยเหลือชาวบ้านคนใด ชาวบ้านก็จะต้องไปหาหมอผีคนอื่น ๆ (หน้า 10)

Education and Socialization

ไม่มีข้อมูล

Health and Medicine

ม้งเป็นพวกรักสะอาด สุขภาพดี ไม่กินหมาก โรคที่พบเป็นประจำ ได้แก่ ไข้มาลาเรีย และโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร (หน้า 8)

Art and Crafts (including Clothing Costume)

การแต่งกายของม้ง ม้งแต่ละเผ่าจะแต่งกายต่างกัน ม้งน้ำเงินจะสวมกระโปรงจีนที่มีพื้นเป็นสีน้ำเงินและมีลวดลายสีต่าง ๆ และมีผ้ากันเปื้อนสีดำอยู่ข้างหน้า ม้งขาวจะนุ่งกางเกงสีน้ำเงิน มีผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินและสีดำทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ผู้หญิงม้งทั้งสองเผ่าจะใส่คอเสื้อปักลวดลายเหมือนกัน แต่ของม้งขาวจะใหญ่กว่าม้งน้ำเงิน ผู้หญิงม้งขาวจะใส่ผ้าโพกผมทุกวัน ผู้หญิงม้งทั้งสองเผ่าจะใส่ผ้าพันแข้งหรือผ้าคลุมรองเท้าสีน้ำเงิน ดำและขาว ม้งขาวจะมีผ้าคาดเอวถัก ม้งน้ำเงินจะเป็นสีแดง ม้งน้ำเงินจะเกล้าผมสูงไม่ใส่ผ้าโพกผมนอกจากเวลามีงานฉลอง ผู้หญิงทั้งสองเผ่าจะใส่ห่วงที่คอ ซึ่งทำด้วยเงิน พวกม้งขาวผู้ชายก็จะใส่ด้วย (หน้า 7)

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มีข้อมูล

Social Cultural and Identity Change

ประชากรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ ไม่มีที่ทำกิน ครอบครัวยากจน สุขภาพจิตไม่ดี ที่ดินเสื่อมสภาพ มีขยะมากขึ้น รายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว อาหารไม่พอกิน เด็กขาดสารอาหาร เกิดความขัดแย้งในครอบครัว ทำลายทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น เกิดปัญหาสังคมในหมู่บ้าน การสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ไม่ทั่วถึง (หน้า 38)

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

การวางแผนครอบครัวอย่างมีส่วนร่วมของพ่อบ้านม้ง จำนวนพ่อบ้านม้งที่อยู่จนสิ้นสุดโครงการมีจำนวน 30 คน ใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมใน 5 หมู่บ้าน ของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กิจกรรมที่เป็นผลเกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชน คือ การพิจารณาปัญหาร่วมกัน การหาสาเหตุของปัญหาร่วมกัน การตัดสินใจร่วมกันในการแก้ไขปัญหา กุญแจสำคัญในการติดตามพ่อบ้านม้ง คือ การกำหนดข้อสัญญาของพ่อบ้านม้งในการปฏิบัติตัวกับครอบครัว การเสวนากลุ่มของพ่อบ้านม้ง ถือเป็นการส่งเสริมพ่อบ้านม้งให้ควบคุมตนเอง และกำหนดตนเอง โดยให้พ่อบ้านแต่ละกลุ่มกระตุ้นกันเอง ให้เกิดการพัฒนาตนในครอบครัว ครอบครัวของพ่อบ้านม้งที่เข้าร่วมโครงการ มีการพัฒนาตนเองเพื่อความสุขของครอบครัว และมีการพัฒนาชุมชนเพิ่มขึ้น (หน้า 41)

Map/Illustration

1. ตารางแสดงกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามกลุ่มอายุ (หน้า29) 2. ตารางแสดงสถานภาพสมรสของกลุ่มตัวอย่าง (หน้า30) 3. ตารางแสดงการนับถือศาสนาของกลุ่มตัวอย่าง (หน้า30) 4. ตารางแสดงอาชีพของกลุ่มตัวอย่าง (หน้า30) 5. ตารางแสดงจำนวนสมาชิกในครอบครัวของกลุ่มตัวอย่าง (หน้า31) 6. ตารางแสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามวิธีการคุมกำเนิด (หน้า31) 7. ตารางแสดงกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามจำนวนบุตรที่ต้องการ (หน้า32) 8. ตารางแสดงกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามพฤติกรรมเสี่ยง (หน้า32) 9. ตารางแสดงกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามความสัมพันธ์ของครอบครัว (หน้า33) 10. แผนภูมิกรอบแนวคิดในการวิจัย (หน้า26)

Text Analyst กรสิริ คริศณุ Date of Report 22 มี.ค 2549
TAG ม้ง, สุขภาพ, งานวางแผนครอบครัว, เชียงใหม่, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง