สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject มุสลิม,เด็ก,ผู้ใหญ่,ทัศนคติ,ประเทศไทย
Author ศรีเรือน แก้วกังวาล
Title ความสัมพันธ์และทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุ (ญาติ-ไม่ใช่ญาติ)
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม, Language and Linguistic Affiliations ไม่ระบุ
Location of
Documents
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ห้องสมุดศูนย์มนุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 90 Year 2534
Source ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Abstract

ความสัมพันธ์และทัศนคติระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่หนุ่มสาว และผู้ใหญ่สูงอายุมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กทุกด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา งานวิจัยชิ้นนี้จึงศึกษาข้อมูลเพื่อสำรวจสัมพันธภาพและทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่ หนุ่มสาว (25-60 ปี) และผู้ใหญ่สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เด็กไทยมุสลิมในกลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 574 คน เป็นเด็กอายุ 6-12 ปี (วัยเด็กตอนปลาย) เป็นตัวแทนของเด็กไทยมุสลิม 4 กลุ่ม คือ ภาคเหนือ 4 จังหวัดภาคใต้ กรุงเทพฯ และภาคใต้ ทัศนคติในการศึกษามี 10 ประเด็น คือ ดี-ไม่ดี เศร้า-สุข ถูก-ผิด น่ารัก-ไม่น่ารัก สวย-น่าเกลียด เป็นมิตร-เป็นศัตรู สะอาด-สกปรก รวย-จน สุขภาพดี-ขี้โรค มีน้ำใจ-ไร้น้ำใจ โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัยดังนี้คือ 1) ศึกษาความสัมพันธ์และทัศนคติของเด็กทุกกลุ่มต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุโดยภาพรวม 2) ศึกษาความแตกต่างของทัศนคติของเด็กต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุโดยแยกตามทัศนคติ 10 ประเด็น 3) เปรียบเทียบความสัมพันธ์และทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาว-สูงอายุ ของเด็กทั้ง 4 กลุ่ม 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุกับตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นภูมิหลังของเด็กกลุ่มตัวอย่างคือ การมีผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ความถี่ในการไปมัสยิด ความถี่ในการสวดมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุ ผลการศึกษาพบว่า สัมพันธภาพและทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมทั้ง 4 กลุ่ม ที่มีต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุมีความเหมือนกันมากกว่าแตกต่างกัน ความแตกต่างที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความแตกต่างของการดำเนินชีวิตที่แปลกกันตามภูมิภาคของประเทศและวัฒนธรรมท้องถิ่น เด็กมุสลิมโดยภาพรวมมีสัมพันธภาพและทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุมากกว่าผู้ใหญ่หนุ่มสาวอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเครือญาติของคนไทยมุสลิมกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะชาวมุสลิมภาคใต้ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์และการเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นของไทยมุสลิมโดยส่วนรวม (ดูบทคัดย่อ)

Focus

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยชิ้นนี้ คือ 1) ศึกษาความสัมพันธ์และทัศนคติของเด็กทุกกลุ่มต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุ 2) ศึกษาความแตกต่างของทัศนคติของเด็กต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุโดยแยกตามทัศนคติ 10 ประเด็น 3) เปรียบเทียบความสัมพันธ์และทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาว - สูงอายุ ของเด็กทั้ง 4 กลุ่ม 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุกับตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นภูมิหลังของเด็กกลุ่มตัวอย่างคือ การมีผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ความถี่ในการไปมัสยิด ความถี่ในการสวดมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุ (ดูบทคัดย่อ และหน้า 8)

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

กลุ่มเด็กมุสลิมที่ผู้วิจัยเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง มีคุณสมบัติดังนี้ 1) มีอายุระหว่าง 6-12 ปี 2) นับถือศาสนาอิสลาม คัดจากโรงเรียน มัสยิด และศูนย์เยาวชนมุสลิม 3) พ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก มีฐานะทางเศรษฐกิจในระดับปานกลาง 4) เลือกกลุ่มตัวแทน แยกไปตามภูมิภาค คือ ภาคเหนือ เลือกจากผู้ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ใน 4 จังหวัดภาคใต้ เลือกจากจังหวัด สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส กรุงเทพฯ คือผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และภาคใต้ เลือกจากจังหวัดสงขลาและพังงา (หน้า 5)

Language and Linguistic Affiliations

ไม่มีข้อมูล

Study Period (Data Collection)

ไม่มีข้อมูล

History of the Group and Community

ไม่มีข้อมูล

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

จากกลุ่มตัวอย่างเด็กไทยมุสลิมจำนวน 574 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในที่ต่างๆ กัน จำแนกได้เป็น ภาคเหนือ 113 คน สี่จังหวัดภาคใต้ 211 คน กรุงเทพฯ 120 คน และ ภาคใต้ 130 คน (หน้า 45 และ ดูตารางที่หน้า 46 ประกอบ)

Economy

อาชีพของบิดามารดาของเด็กไทยมุสลิมกลุ่มตัวอย่างพบว่า บิดาของเด็กมุสลิมในภาคเหนือส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายและรับจ้าง ในกรุงเทพฯและ 4 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ส่วนบิดาของเด็กมุสลิมในภาคใต้มีอาชีพรับจ้างและทำเกษตรกรรมพอๆกัน ส่วนมารดาของเด็กในภาคเหนือและภาคใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย ใน 4 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ส่วนมารดาของเด็กมุสลิมในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุอาชีพ และประมาณร้อยละ 30 ประกอบอาชีพค้าขาย (หน้า 47 และดูตารางที่หน้า 49-50)

Social Organization

ลักษณะพื้นฐานทางครอบครัวของกลุ่มตัวอย่างพบว่า เด็กในกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (70-80%) มีพ่อแม่อยู่ด้วยกัน และส่วนน้อย (10-20%) ที่พ่อแม่หย่าหรือแยกกันอยู่ ข้อที่น่าสังเกตคือพ่อแม่ของเด็กในภาคใต้และ 4 จังหวัดภาคใต้ มีจำนวนที่อยู่ด้วยกันสูงกว่าภาคอื่นๆ และ หย่าหรือแยกกันอยู่น้อยกว่าภาคอื่นๆ (หน้า 47 และดูตารางที่หน้า 48) นอกจากนี้เด็กไทยในกลุ่มตัวอย่างมีปู่ย่าตายายที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว เด็กไทยมุสลิมประมาณครึ่งต่อครึ่ง (40-50%) มีปู่และตาที่ยังมีชีวิต ในขณะที่ย่าและยายของเด็กส่วนใหญ่ (มากกว่า 60%) ยังคงมีชีวิตอยู่ ยกเว้นเด็กไทยมุสลิมในภาคใต้ที่ยายยังมีชีวิตอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่าภาคอื่นๆ (หน้า 54 และดูรูปประกอบที่หน้า 55-56) จำนวนเด็กไทยมุสลิมในกรุงเทพฯ มีคนสูงอายุอยู่ในบ้านมากกว่าภาคอื่นๆ (64%) เด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือประมาณครึ่งหนึ่ง (51%) มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน ส่วนเด็กไทยมุสลิมในภาคใต้และ 4 จังหวัดภาคใต้มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้านน้อยกว่าภาคอื่นๆ โดย 4 จังหวัดภาคใต้มีจำนวนน้อยที่สุด (34%) (หน้า 57 และดูตารางหน้า 58-59 ประกอบ) นอกจากนี้เด็กไทยมุสลิมส่วนใหญ่ (78-88 %) เคยทำกิจกรรมร่วมกับผุ้สูงอายุ โดยเด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือและกรุงเทพฯ (86-88%) เคยทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุมากกว่าเด็กไทยมุสลิมในภาคใต้และ 4 จังหวัดภาคใต้ (78%) (หน้า 60)

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

Belief System

ลักษณะพื้นฐานด้านความเชื่อในศาสนาของเด็กไทยมุสลิมในกลุ่มตัวอย่างพบว่าประมาณครึ่งหนึ่งไปสุเหร่าบ่อยครั้ง ส่วนเด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือมีจำนวนที่ไปสุเหร่าสูงกว่าภาคอื่นๆ นอกจากนี้เด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือส่วนใหญ่ (61%) สวดมนต์บ่อยครั้ง เด็กไทยมุสลิมในภาคใต้ และใน 4 จังหวัดภาคใต้ (มากกว่า 50%) สวดมนต์บ่อยครั้ง จำนวนเด็กไทยมุสลิมในกรุงเทพฯที่สวดมนต์บ่อยครั้งมีปริมาณต่ำกว่าภาคอื่นๆ (หน้า 51 และดูตารางประกอบที่หน้า 52-53)

Education and Socialization

ไม่มีข้อมูล

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

ไม่มีข้อมูล

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มีข้อมูล

Social Cultural and Identity Change

ไม่มีข้อมูล

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

การเปรียบเทียบทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุ ผลการศึกษาพบว่า คะแนนรวมของทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวต่ำกว่าคะแนนรวมของผู้ใหญ่สูงอายุอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ โดยที่ทัศนคติต่อผู้สูงอายุที่มีค่าสูงกว่าทัศนคติของผู้ใหญ่หนุ่มสาวมีในด้านดี-ไม่ดี ถูก-ผิด สะอาด-สกปรก รวย-จน สุขภาพดี-ขี้โรค ส่วนทัศนคติต่อผ้สูงอายุที่มีค่าต่ำกว่าทัศนคติของผู้ใหญ่หนุ่มสาวในด้านสุข-เศร้า น่ารัก-ไม่น่ารัก สวย-น่าเกลียด เป็นมิตร-เป็นศัตรู มีน้ำใจ-ไร้น้ำใจ (หน้า 61-76)

Map/Illustration

ตาราง จำนวนเด็กไทยมุสลิมผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศและภูมิลำเนา (หน้า 46) สถานภาพการสมรสของบิดา มารดา (หน้า 48) อาชีพของบิดา จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 49) อาชีพของมารดา จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 50) ความถี่ในการไปสุเหร่าของเด็กไทยมุสลิม จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 52) ความถี่ในการสวดมนต์ของเด็กไทยมุสลิม จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 53) การมีญาติผู้สูงอายุและการรู้จักกันกับผุ้สูงอายุที่ไม่ใช่ญาติ (หน้า 58) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 62) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมภาคเหนือที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 64) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิม 4 จังหวัดที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 65) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมกรุงเทพฯ ที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 66) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมภาคใต้ที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 67) เปรียบเทียบทัศคติต่อผู้สูงอายุระหว่างเด็กไทยมุสลิมในภูมิภาคต่างๆ (หน้า 69) เปรียบเทียบทัศคติต่อคนหนุ่มสาวของเด็กไทยมุสลิมในภูมิภาคต่างๆ (หน้า 72) ความสัมพันธ์และทัศนคติต่อคนหนุ่มสาวและคนสูงอายุของเด็กไทยมุสลิมภาคใต้ (หน้า 84) เปรียบเทียบทัศนคติต่อคนหนุ่มสาวและคนสูงอายุของเด็กไทยมุสลิมในภูมิภาคต่างๆ (หน้า 85) แผนภูมิ แสดงโครงสร้างกว้างๆ ของการศึกษา (หน้า 7) แสดงถ้อยกระทงทัศนคติด้านจิตสังคม 10 ประเด็น (หน้า 41)

Text Analyst สิทธิพร จรดล Date of Report 05 ม.ค. 2566
TAG มุสลิม, เด็ก, ผู้ใหญ่, ทัศนคติ, ประเทศไทย, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง