|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มุสลิม,เด็ก,ผู้ใหญ่,ทัศนคติ,ประเทศไทย |
Author |
ศรีเรือน แก้วกังวาล |
Title |
ความสัมพันธ์และทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุ (ญาติ-ไม่ใช่ญาติ) |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไม่ระบุ |
Location of
Documents |
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ห้องสมุดศูนย์มนุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
90 |
Year |
2534 |
Source |
ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
ความสัมพันธ์และทัศนคติระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่หนุ่มสาว และผู้ใหญ่สูงอายุมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กทุกด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา งานวิจัยชิ้นนี้จึงศึกษาข้อมูลเพื่อสำรวจสัมพันธภาพและทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่ หนุ่มสาว (25-60 ปี) และผู้ใหญ่สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เด็กไทยมุสลิมในกลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 574 คน เป็นเด็กอายุ 6-12 ปี (วัยเด็กตอนปลาย) เป็นตัวแทนของเด็กไทยมุสลิม 4 กลุ่ม คือ ภาคเหนือ 4 จังหวัดภาคใต้ กรุงเทพฯ และภาคใต้ ทัศนคติในการศึกษามี 10 ประเด็น คือ ดี-ไม่ดี เศร้า-สุข ถูก-ผิด น่ารัก-ไม่น่ารัก สวย-น่าเกลียด เป็นมิตร-เป็นศัตรู สะอาด-สกปรก รวย-จน สุขภาพดี-ขี้โรค มีน้ำใจ-ไร้น้ำใจ โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัยดังนี้คือ 1) ศึกษาความสัมพันธ์และทัศนคติของเด็กทุกกลุ่มต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุโดยภาพรวม 2) ศึกษาความแตกต่างของทัศนคติของเด็กต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุโดยแยกตามทัศนคติ 10 ประเด็น 3) เปรียบเทียบความสัมพันธ์และทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาว-สูงอายุ ของเด็กทั้ง 4 กลุ่ม 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุกับตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นภูมิหลังของเด็กกลุ่มตัวอย่างคือ การมีผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ความถี่ในการไปมัสยิด ความถี่ในการสวดมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุ ผลการศึกษาพบว่า สัมพันธภาพและทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมทั้ง 4 กลุ่ม ที่มีต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุมีความเหมือนกันมากกว่าแตกต่างกัน ความแตกต่างที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความแตกต่างของการดำเนินชีวิตที่แปลกกันตามภูมิภาคของประเทศและวัฒนธรรมท้องถิ่น เด็กมุสลิมโดยภาพรวมมีสัมพันธภาพและทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุมากกว่าผู้ใหญ่หนุ่มสาวอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเครือญาติของคนไทยมุสลิมกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะชาวมุสลิมภาคใต้ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์และการเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นของไทยมุสลิมโดยส่วนรวม (ดูบทคัดย่อ) |
|
Focus |
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยชิ้นนี้ คือ 1) ศึกษาความสัมพันธ์และทัศนคติของเด็กทุกกลุ่มต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุ 2) ศึกษาความแตกต่างของทัศนคติของเด็กต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุโดยแยกตามทัศนคติ 10 ประเด็น 3) เปรียบเทียบความสัมพันธ์และทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาว - สูงอายุ ของเด็กทั้ง 4 กลุ่ม 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุกับตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นภูมิหลังของเด็กกลุ่มตัวอย่างคือ การมีผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ความถี่ในการไปมัสยิด ความถี่ในการสวดมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุ (ดูบทคัดย่อ และหน้า 8) |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มเด็กมุสลิมที่ผู้วิจัยเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง มีคุณสมบัติดังนี้ 1) มีอายุระหว่าง 6-12 ปี 2) นับถือศาสนาอิสลาม คัดจากโรงเรียน มัสยิด และศูนย์เยาวชนมุสลิม 3) พ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก มีฐานะทางเศรษฐกิจในระดับปานกลาง 4) เลือกกลุ่มตัวแทน แยกไปตามภูมิภาค คือ ภาคเหนือ เลือกจากผู้ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ใน 4 จังหวัดภาคใต้ เลือกจากจังหวัด สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส กรุงเทพฯ คือผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และภาคใต้ เลือกจากจังหวัดสงขลาและพังงา (หน้า 5) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Demography |
จากกลุ่มตัวอย่างเด็กไทยมุสลิมจำนวน 574 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในที่ต่างๆ กัน จำแนกได้เป็น ภาคเหนือ 113 คน สี่จังหวัดภาคใต้ 211 คน กรุงเทพฯ 120 คน และ ภาคใต้ 130 คน (หน้า 45 และ ดูตารางที่หน้า 46 ประกอบ) |
|
Economy |
อาชีพของบิดามารดาของเด็กไทยมุสลิมกลุ่มตัวอย่างพบว่า บิดาของเด็กมุสลิมในภาคเหนือส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายและรับจ้าง ในกรุงเทพฯและ 4 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ส่วนบิดาของเด็กมุสลิมในภาคใต้มีอาชีพรับจ้างและทำเกษตรกรรมพอๆกัน ส่วนมารดาของเด็กในภาคเหนือและภาคใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย ใน 4 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ส่วนมารดาของเด็กมุสลิมในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุอาชีพ และประมาณร้อยละ 30 ประกอบอาชีพค้าขาย (หน้า 47 และดูตารางที่หน้า 49-50) |
|
Social Organization |
ลักษณะพื้นฐานทางครอบครัวของกลุ่มตัวอย่างพบว่า เด็กในกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (70-80%) มีพ่อแม่อยู่ด้วยกัน และส่วนน้อย (10-20%) ที่พ่อแม่หย่าหรือแยกกันอยู่ ข้อที่น่าสังเกตคือพ่อแม่ของเด็กในภาคใต้และ 4 จังหวัดภาคใต้ มีจำนวนที่อยู่ด้วยกันสูงกว่าภาคอื่นๆ และ หย่าหรือแยกกันอยู่น้อยกว่าภาคอื่นๆ (หน้า 47 และดูตารางที่หน้า 48) นอกจากนี้เด็กไทยในกลุ่มตัวอย่างมีปู่ย่าตายายที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว เด็กไทยมุสลิมประมาณครึ่งต่อครึ่ง (40-50%) มีปู่และตาที่ยังมีชีวิต ในขณะที่ย่าและยายของเด็กส่วนใหญ่ (มากกว่า 60%) ยังคงมีชีวิตอยู่ ยกเว้นเด็กไทยมุสลิมในภาคใต้ที่ยายยังมีชีวิตอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่าภาคอื่นๆ (หน้า 54 และดูรูปประกอบที่หน้า 55-56) จำนวนเด็กไทยมุสลิมในกรุงเทพฯ มีคนสูงอายุอยู่ในบ้านมากกว่าภาคอื่นๆ (64%) เด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือประมาณครึ่งหนึ่ง (51%) มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน ส่วนเด็กไทยมุสลิมในภาคใต้และ 4 จังหวัดภาคใต้มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้านน้อยกว่าภาคอื่นๆ โดย 4 จังหวัดภาคใต้มีจำนวนน้อยที่สุด (34%) (หน้า 57 และดูตารางหน้า 58-59 ประกอบ) นอกจากนี้เด็กไทยมุสลิมส่วนใหญ่ (78-88 %) เคยทำกิจกรรมร่วมกับผุ้สูงอายุ โดยเด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือและกรุงเทพฯ (86-88%) เคยทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุมากกว่าเด็กไทยมุสลิมในภาคใต้และ 4 จังหวัดภาคใต้ (78%) (หน้า 60) |
|
Belief System |
ลักษณะพื้นฐานด้านความเชื่อในศาสนาของเด็กไทยมุสลิมในกลุ่มตัวอย่างพบว่าประมาณครึ่งหนึ่งไปสุเหร่าบ่อยครั้ง ส่วนเด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือมีจำนวนที่ไปสุเหร่าสูงกว่าภาคอื่นๆ นอกจากนี้เด็กไทยมุสลิมในภาคเหนือส่วนใหญ่ (61%) สวดมนต์บ่อยครั้ง เด็กไทยมุสลิมในภาคใต้ และใน 4 จังหวัดภาคใต้ (มากกว่า 50%) สวดมนต์บ่อยครั้ง จำนวนเด็กไทยมุสลิมในกรุงเทพฯที่สวดมนต์บ่อยครั้งมีปริมาณต่ำกว่าภาคอื่นๆ (หน้า 51 และดูตารางประกอบที่หน้า 52-53) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
การเปรียบเทียบทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวและสูงอายุ ผลการศึกษาพบว่า คะแนนรวมของทัศนคติของเด็กไทยมุสลิมต่อผู้ใหญ่หนุ่มสาวต่ำกว่าคะแนนรวมของผู้ใหญ่สูงอายุอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ โดยที่ทัศนคติต่อผู้สูงอายุที่มีค่าสูงกว่าทัศนคติของผู้ใหญ่หนุ่มสาวมีในด้านดี-ไม่ดี ถูก-ผิด สะอาด-สกปรก รวย-จน สุขภาพดี-ขี้โรค ส่วนทัศนคติต่อผ้สูงอายุที่มีค่าต่ำกว่าทัศนคติของผู้ใหญ่หนุ่มสาวในด้านสุข-เศร้า น่ารัก-ไม่น่ารัก สวย-น่าเกลียด เป็นมิตร-เป็นศัตรู มีน้ำใจ-ไร้น้ำใจ (หน้า 61-76) |
|
Map/Illustration |
ตาราง จำนวนเด็กไทยมุสลิมผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศและภูมิลำเนา (หน้า 46) สถานภาพการสมรสของบิดา มารดา (หน้า 48) อาชีพของบิดา จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 49) อาชีพของมารดา จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 50) ความถี่ในการไปสุเหร่าของเด็กไทยมุสลิม จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 52) ความถี่ในการสวดมนต์ของเด็กไทยมุสลิม จำแนกตามภูมิภาค (หน้า 53) การมีญาติผู้สูงอายุและการรู้จักกันกับผุ้สูงอายุที่ไม่ใช่ญาติ (หน้า 58) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 62) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมภาคเหนือที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 64) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิม 4 จังหวัดที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 65) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมกรุงเทพฯ ที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 66) เปรียบเทียบทัศคติของเด็กไทยมุสลิมภาคใต้ที่มีต่อคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ (หน้า 67) เปรียบเทียบทัศคติต่อผู้สูงอายุระหว่างเด็กไทยมุสลิมในภูมิภาคต่างๆ (หน้า 69) เปรียบเทียบทัศคติต่อคนหนุ่มสาวของเด็กไทยมุสลิมในภูมิภาคต่างๆ (หน้า 72) ความสัมพันธ์และทัศนคติต่อคนหนุ่มสาวและคนสูงอายุของเด็กไทยมุสลิมภาคใต้ (หน้า 84) เปรียบเทียบทัศนคติต่อคนหนุ่มสาวและคนสูงอายุของเด็กไทยมุสลิมในภูมิภาคต่างๆ (หน้า 85) แผนภูมิ แสดงโครงสร้างกว้างๆ ของการศึกษา (หน้า 7) แสดงถ้อยกระทงทัศนคติด้านจิตสังคม 10 ประเด็น (หน้า 41) |
|
|