|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
โพล่ง โผล่ง โพล่ว ซู (กะเหรี่ยง),สังคม,เศรษฐกิจ,ความเชื่อ,เชียงใหม่ |
Author |
สุรีพร ชินวงศ์ |
Title |
ลักษณะทางสังคม เศรษฐกิจ และความเชื่อของกะเหรี่ยงเผ่าโปว์ บ้านตุงติง ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ |
Document Type |
ปริญญานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
โพล่ง โผล่ง โผล่ว ซู กะเหรี่ยง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร, หอสมุดปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
Total Pages |
64 |
Year |
2542 |
Source |
หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต (บัณฑิตอาสา) สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
Abstract |
จากการศึกษาพบว่าสังคมกะเหรี่ยงโปว์บ้านตุงติงยังมีลักษณะของสังคมแบบดั้งเดิมอยู่ โดยส่วนใหญ่เป็นแบบครอบครัวเดี่ยว มีการสืบสายบรรพบุรุษฝ่ายมารดา และมีเซี่ยเก็งคูเป็นหัวหน้าชุมชนในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ประชากรยังคงแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายประจำเผ่า แต่การศึกษาของชุมชนยังอยู่ในระดับต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ อาชีพหลักของกะเหรี่ยง คือเกษตรกรรม โดยการทำนา และทำสวนมะเขือเทศ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่ามีผีสิงสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีพิธีเซ่นไหว้ผีเหล่านั้น เช่น พิธีกินผี พิธีกินปีใหม่ พิธีเลี้ยงผีประปา เป็นต้น |
|
Focus |
ศึกษาสภาพสังคม เศรษฐกิจ และความเชื่อของกะเหรี่ยงเผ่าโปว์ หมู่บ้านตุงติง ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ (หน้า 2) |
|
Theoretical Issues |
จากการศึกษาพบว่าพิธีกินผีของกะเหรี่ยงโปว์ หมู่บ้านตุงติง สะท้อนให้เห็นบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพของคนในครอบครัว ซึ่งจะให้ความสำคัญกับผู้อาวุโสเป็นผู้ทำพิธีร่วมกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บป่วย สอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่ Malinowski เคยกล่าวไว้ว่า พิธีกรรมทางศาสนามีหน้าที่บางอย่างในการตอบสนองความต้องการทางจิตใจของมนุษย์ (หน้า 49) |
|
Ethnic Group in the Focus |
กะเหรี่ยงเผ่าโปว์ หมู่บ้านตุงติง ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 50 หลังคาเรือน (หน้า 3) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
กะเหรี่ยงบ้านตุงติงพูดภาษากะเหรี่ยงโปว์หรือเดาะแดะ มีลักษณะคล้ายกับภาษากะเหรี่ยงสะกอ (หน้า 21) |
|
Study Period (Data Collection) |
ระหว่างเดือนกันยายน 2541 ถึงเดือนมีนาคม 2542 |
|
History of the Group and Community |
มีผู้เล่าว่าพ่ออุ้ยม้งโจเป็นผู้นำชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงโปว์อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่บ้านตุงติงกว่า 100 ปีมาแล้ว ต่อมาประชากรเพิ่มขึ้นจึงขยายชุมชนออกมาที่หมู่บ้านตุงติง 2 ส่วนคำว่าตุงติงนั้นชาวบ้านเล่ากันว่ามี 2 ความหมายคือ ทุ่งกระทิง โดยเชื่อว่าในอดีตเคยมีกระทิงอาศัยอยู่ และอีกความหมายคือสูง เนื่องจากพื้นที่ของหมู่บ้านอยู่สูงกว่าหมู่บ้านอื่น (หน้า 6) |
|
Settlement Pattern |
ประชากรบ้านตุงติงจะปลูกบ้านอยู่บริเวณใกล้กันตามความลาดเอียงของสันดอยโดยไม่มีรั้วกั้น ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดเล็ก ยกใต้ถุนสูง สร้างจากไม้เนื้อแข็งและไม้ไผ่นำมาผูกต่อกัน มุงหลังคาด้วยหญ้าแฝก สังกะสีหรือกระเบื้องตามฐานะเจ้าของบ้านภายในบ้านจะมีเตาไฟสำหรับประกอบอาหารและประกอบพิธีกรรม (หน้า 12) บริเวณบ้านจะมียุ้งสำหรับใส่ข้าวเปลือก และแปลงปลูกผักสวนครัว (หน้า 14) |
|
Demography |
ประชากรกะเหรี่ยงเผ่าโปว์บ้านตุงติงในกรณีศึกษา 50 หลังคาเรือน มีจำนวน 386 คน เป็นชายร้อยละ 42.8 หญิงร้อยละ 57.2 ในจำนวนนี้เป็นประชากรวัยแรงงานร้อยละ 59.3 เด็กร้อยละ 35.7 และผู้สูงอายุร้อยละ 5 (หน้า 14) |
|
Economy |
กะเหรี่ยงโปว์ร้อยละ 94 ประกอบอาชีพเกษตรกรรมโดยการทำนา ทำสวนมะเขือเทศ พริกหวาน ถั่วลันเตา มะเขือ และข้าวโพด บางครอบครัวรับจ้างทำสวน ทำฟาร์มที่อำเภอจอมทอง และเก็บมะเขือในหมู่บ้านใกล้เคียง คิดเป็นร้อยละ 4 ส่วนอีกร้อยละ 2 รับราชการ ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง 10,000-20,000 บาท/ครัวเรือน/ปี ร้อยละ 28 มีหนี้สินจากการลงทุนทำสวนมะเขือในวงเงินตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เนื่องจากบ้านตุงติงตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ชาวบ้านจึงไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน แต่จะเป็นที่รู้กันเองในหมู่บ้านว่าที่ตรงไหนเป็นของใคร (หน้า 36-38) อาหารหลักของชาวบ้านคือ ข้าวซ้อมมือ โดยรับประทานกับน้ำพริกและแกงต่างๆ นิยมอาหารรสเผ็ดและรสเค็ม (หน้า 28) |
|
Social Organization |
ลักษณะครอบครัวของกะเหรี่ยงโปว์มี 2 แบบคือ ครอบครัวเดี่ยวที่ประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก หรือมีเพียงแม่และลูกๆ หรือประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก และมีพ่อภรรยาหรือสามีอยู่ด้วย หรืออาจมีเพียงสามีและภรรยา และครอบครัวขยายที่อยู่รวมกันตั้งแต่สองครอบครัวขึ้นไป นอกจากนี้ยังพบครอบครัวแบบคนเดียว สังคมกะเหรี่ยงมีการสืบสายบรรพบุรุษฝ่ายมารดา และลูกสาวจะต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ (หน้า 19-21) ประเพณีแต่งงานผู้ใหญ่ฝ่ายชายจะต้องไปสู่ขอเจ้าสาวกับผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง นิยมกำหนดวันแต่งงานหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จแล้ว หรือก่อนถึงฤดูทำนาครั้งใหม่ และจะมีการจัดเตรียมเนื้อหมู หรือเนื้อวัวสำหรับเลี้ยงแขกที่มาในงาน ส่วนเจ้าสาวจะต้องเตรียมการทอผ้าสำหรับมอบให้แก่พ่อแม่ฝ่ายชายและลูกที่จะเกิดมา ตามประเพณีจะมีพิธีป้อนเหล้า บุหรี่แก่เจ้าบ่าว และร่วมรับประทานอาหารกัน จากนั้นจึงมีพิธีมัดมือและให้ศีลให้พรแก่คู่บ่าวสาว ส่วนตอนเย็นจะมีการซอหรือร้องเพลงเป็นหมู่คณะ (หน้า 26-27) |
|
Political Organization |
ก่อน พ.ศ.2531 หมู่บ้านตุงติงมีผู้นำอย่างไม่เป็นทางการเป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ที่เรียกว่า "เซี่ยเก็งคู" ต่อมา พ.ศ. 2531 จึงมีผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมาย (หน้า 6) |
|
Belief System |
กะเหรี่ยงโปว์มีความเชื่อว่ามีผีสิงสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง ได้แก่ ผีน้ำ ผีปู่ย่าตายาย ผีป่าผีดอย และผีละมัง อาการเจ็บป่วยเกิดจากการกระทำของผีละมังและผีป่าดอย จึงต้องทำพิธีเซ่นไหว้ผีเหล่านั้น ที่เรียกว่า "พิธีกินผี" โดยมีหมอสะปุ๊เป็นหมอผีประจำหมู่บ้าน และจะมีการเชิญให้พ่อ แม่ สามีหรือภรรยา ลูก และหลานของผู้ป่วยเข้าร่วมพิธีซึ่งจะจัดขึ้นตอนเย็น ส่วนลูกเขยและลูกสะใภ้ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมพิธีในห้องไฟ เครื่องเซ่นที่ใช้ในพิธี ได้แก่ ไก่ต้ม ข้าว และน้ำเปล่า 1 แก้ว จากนั้นสมาชิกทุกคนจะมานั่งล้อมรอบกระด้งใส่เครื่องเซ่น เรียงลำดับตามอาวุโส การทำพิธีจะเริ่มจากผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดในบ้านเรียกผีบรรพบุรุษมาร่วมกินอาหารที่จัดเตรียมไว้ร่วมกัน พร้อมทั้งฉีกเนื้อไก่กินกับข้าวและดื่มน้ำตาม ถ้าเป็นการประกอบพิธีเลี้ยงผีละมัง เมื่อผู้เข้าร่วมพิธีประกอบพิธีครบทุกคนแล้ว แม่บ้านจะนำไก่ไปประกอบอาหาร ส่วนในพิธีเลี้ยงผีป่าผีดอย เมื่อประกอบพิธีกินผีแล้วหลังจากนั้น 3 วันจะทำพิธีมัดมือ (หน้า 43-51) นอกจากนี้ยังมีพิธีบากนา-บากสวน จัดขึ้นเพื่อขอบคุณและขอให้ผีเจ้าที่ช่วยให้มีผลผลิตดี พิธีกินปีใหม่ จะจัดขึ้นพร้อมกันทั้งหมู่บ้านหลังฤดูเก็บเกี่ยว ด้วยการเฉลิมฉลองเลี้ยงอาหารแขกที่มาร่วมงาน และจะมีการหมุนเวียนกันไปกินปีใหม่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ บางครอบครัวจะมีการมัดมือเพื่อความเป็นสิริมงคล และพิธีเลี้ยงผีประปา ที่เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อมีประปาภูเขาในปีพ.ศ.2538 เพื่อขอให้มีน้ำประปาใช้ตลอดปี และขอบคุณผีที่อารักษ์บ่อน้ำ โดยชาวบ้านจะช่วยกันทำความสะอาดบ่อน้ำประปา ดายหญ้า และทำรั้วล้อมรอบบ่อป้องกันไม่ให้สัตว์ลงไปในบ่อ (หน้า 56-61) |
|
Education and Socialization |
ชุมชนบ้านตุงติงมีโรงเรียนบ้านตุงติงเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน ผู้ปกครองบางคนยังไม่นิยมส่งบุตรหลานเข้ารับการศึกษาเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน เด็กๆ จึงต้องช่วยงานพ่อแม่ ระบบการศึกษาของหมู่บ้านจึงยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร มีเด็กหลายคนที่จบการศึกษาชั้นประถม 6 แล้ว แต่ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ พบว่ามีประชากรที่ยังไม่ได้รับการศึกษาถึงร้อยละ 49.8 ของกลุ่มตัวอย่างในกรณีศึกษา ส่วนผู้ที่จบชั้นประถม 6 มีเพียงร้อยละ 14.1 (หน้า 34-35) |
|
Health and Medicine |
การอนามัยและสาธารณสุขของบ้านตุงติงมีกองทุนยาและโรงพยาบาลอมก๋อยสำหรับรักษาโรคให้กับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านนิยมซื้อยากินเอง หรือไม่ก็ทำพิธีกินผี ถ้ายังไม่หายจึงจะไปรักษาที่โรงพยาบาล (หน้า 28) แต่ส่วนใหญ่จะรักษาจากโรงพยาบาลควบคู่กับการทำพิธีกินผี (หน้า 43) ส่วนการทำคลอดยังนิยมทำคลอดกับหมอตำแยประจำหมู่บ้าน (หน้า 31) ชาวบ้านยังขาดความรู้เกี่ยวกับอนามัยของแม่และเด็ก ทำให้เด็กเป็นโรคขาดสารอาหาร และป่วยเป็นโรคหวัดอยู่บ่อย ๆ (หน้า 31-32) รวมถึงความเข้าใจเรื่องสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล ทั้งในด้านการรักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัย และด้านสุขศึกษา โดยเฉพาะด้านการขับถ่าย ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงใช้พื้นที่ป่ารอบๆ หมู่บ้านเป็นพื้นที่ขับถ่าย (หน้า 29) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
กะเหรี่ยงโปว์ยังคงแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่า หญิงสาวจะใส่ชุดสีขาว คอวี ยาวคลุมน่อง มีภู่ห้อยรอบเอวและชายกระโปรง หญิงที่แต่งงานแล้วจะนุ่งผ้าถุงและสวมเสื้อคอวี แขนกุด สีที่นิยม ได้แก่ สีดำ สีเขียว สีชมพู และสีแสด สวมเครื่องประดับสร้อยคอลูกปัด ต่างหู และกำไล ส่วนมากจะโพกศีรษะด้วยผ้าสีเหลืองและสีแสด นอกจากนี้ผู้หญิงกะเหรี่ยงยังสวมคางบองมีลักษณะคล้ายขากางเกงเมื่อออกไปทำงาน ส่วนผู้ชายนิยมสวมเสื้อคอวีสีชมพูบานเย็น นุ่งกางเกง และสะพายย่าม ทั้งชายและหญิงนิยมสูบบุหรี่ ส่วนคนแก่นิยมกินหมาก (หน้า 21-22) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
ผู้ศึกษาได้จัดทำตาราง แผนภาพ และรูปภาพ เพื่อนำมาใช้ประกอบการอธิบายข้อมูลทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และความเชื่อของกะเหรี่ยงบ้านตุงติง เช่น จำนวนและอัตราส่วนร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามช่วงอายุ เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ หนี้สิน และการถือครองที่ดิน (หน้า 16, 35, 37, 38) แผนภาพแสดงที่ตั้งของหมู่บ้านตุงติง (หน้า 7) ลักษณะครอบครัวของกะเหรี่ยง (หน้า 17-20) กิจกรรมในพิธีกินผี (หน้า 52, 55, 57) |
|
|