|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
อีก้อ,โรคเอดส์,การแพร่ระบาด,การแก้ไขปัญหา,เชียงราย |
Author |
ศตวรรษ สถิตย์เพียรศิริ |
Title |
สถานการณ์โรคเอดส์และชุมชนบนพื้นที่สูง : ชาวเขาเผ่าอีก้อ ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
อ่าข่า,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
26 |
Year |
2535 |
Source |
สถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย |
Abstract |
เนื้อหาสาระเกี่ยวกับสถานการณ์โรคเอดส์และชุมชนบนพื้นที่สูง ชาวเขาเผ่าอีก้อ ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยผลการวิจัยพบว่าในหมู่บ้านที่ห่างจากเขตเมืองยังคงมีลักษณะทางวัฒนธรรมในกรอบของพฤติกรรมและความสัมพันธ์ทางเพศคงเดิม เช่น ทดสอบการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน นิยมการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีภรรยาหลายคน ต่างก็เอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรคเอดส์
ในขณะที่หมู่บ้านที่ตั้งใกล้เขตเมือง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านได้รับการศึกษา ตระหนักถึงความสำคัญของการคบเพศตรงข้ามมากขึ้น รวมทั้งได้รับข่าวสารและรู้จักวิธีป้องกันตนจากโรคมากขึ้นด้วย นอกจากที่ตั้งหมู่บ้านและวัฒนธรรมแล้ว ความสำนึกร่วมของชุมชนและขบวนการผิดกฎหมาย (ยาเสพติด, ขอทาน, จัดหาหญิงบริการ) มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โรคเอดส์ รูปแบบที่สำคัญของการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ คือ การใช้หน่วยประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ทำหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเน้นด้านการป้องกัน และการให้ความช่วยเหลือในรูปผู้ให้คำปรึกษาภายในชุมชน |
|
Focus |
ศึกษาปัญหาการแพร่ระบาด การป้องกัน และการเผชิญกับปัญหาของผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ในมิติทางสังคมศาสตร์ |
|
Ethnic Group in the Focus |
อีก้อ ที่อาศัยอยู่ใน 12 หมู่บ้าน ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
เมษายน - กันยายน พ.ศ. 2535 |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
ลักษณะการตั้งถิ่นฐานอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 700-800 เมตร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการทำการเกษตรบนพื้นที่สูง เช่น ฝิ่นที่ต้องปลูกในพื้นที่อุณหภูมิต่ำ (หน้า13) ในปัจจุบันหากเป็นชาวบ้านที่มีฐานะดีจะปลูกสร้างบ้านเรือนที่มีรูปทรงสมัยใหม่และถาวรมากขึ้น (หน้า 18) |
|
Demography |
ผู้วิจัยกล่าวถึงจำนวนครอบครัวในแต่ละหมู่บ้าน ดังนี้
บ้านอาโยะใหม่ มี 46 ครอบครัว,
บ้านอนามัยจำนวน 37 ครอบครัว,
บ้านแสนใจเก่า 14 ครอบครัว,
บ้านแสนใจใหม่ 55 ครอบครัว,
บ้านแสนใจพัฒนา 78 ครอบครัว,
บ้านห้วยโยเก่า 25 ครอบครัว,
บ้านห้วยโยใหม่ 35 ครอบครัว,
บ้านโป่งช้าง 70 ครอบครัว,
บ้านสามัคคีใหม่ 65 คอบครัว,
บ้านแสนสุข 80 ครอบครัว
ส่วนบ้านห้วยส้านเก่า ห้วยส้านกลาง และห้วยส้านใหม่ จำนวนครัวเรือนหมู่บ้านละ 30-50 ครัวเรือน (หน้า 19) |
|
Social Organization |
การดำเนินชีวิตของอีก้อนั้นยึดถือเอาแบบแผนที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมา ตามกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษตามภาษาอีก้อเรียก ว่า "อาข่าย๊อง" คล้ายกับคำว่า จารีต นั่นเอง โดยทุกคนต่างยอมรับและปฏิบัติตามเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและธรรมชาติ หากผู้ใดละเลยหรือไม่ปฏิบัติอย่างถูกต้องย่อมถูกลงโทษ จะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับความสำคัญของการประพฤติปฏิบัตินั้น แต่แบบแผนดังกล่าวในพื้นที่ อ.แม่จัน ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก คนรุ่นใหม่เลือกปฏิบัติอาข่าย๊องเฉพาะในสิ่งที่เห็นว่าเหมาะสม
การแต่งงาน ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมในอดีตที่เกี่ยวกับบรรทัดฐานความสัมพันธ์ทางเพศ โดยฝ่ายชายมักเป็นฝ่ายเลือกฝ่ายหญิง โดยผ่านการทดสอบความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน รวมทั้งความบริสุทธิ์ของสายตระกูลถือเป็นความสำคัญ อันเกี่ยวกับชื่อเสียง ลักษณะผิดปกติทางกายและจิต หรือเรื่องที่ถือเป็นอัปมงคลทั้งหลาย หากเมื่อหญิงได้แต่งงานแล้วจะต้องหันมาถือผีบรรพบุรุษฝ่ายชาย รวมทั้งบุตรด้วย สำหรับอายุที่เหมาะสมสำหรับแต่งงานของหญิงอยู่ที่ 17 ปี ถ้าหากอายุไม่ถึง 17 ปี แต่เกิน 13 ปี พ่อแม่ไม่สามารถห้ามให้แต่งงานได้ ส่วนผู้ชายมักนิยมแต่งงานเมื่อ19 ปี
ในการแต่งงานกับเครือญาติสายขวางและขนานมักไม่นิยม เนื่องจากหากหย่ากันถือว่าเป็นการตัดความสัมพันธ์กับพี่น้องฝ่ายมารดาด้วย โดยชายมักนิยมแต่งกับหญิงอีก้อด้วยกัน ต่างกับหญิงอีก้อที่แต่งกับชายต่างเผ่า เช่น มูเซอ จีน ละว้า ไทยใหญ่ เป็นต้น (หน้า 14-16)
การอบรมเลี้ยงดู สำหรับอีก้อให้ความอิสระมากกว่าคนไทย ให้อำนาจในการตัดสินใจแก่เด็กในบางเรื่อง เด็กและคนชรา หรือคนหนุ่มสาวจะมาพักผ่อน พูดคุยบริเวณลานประจำหมู่บ้าน นอกจากนี้พ่อและพี่ชายยังสอนเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์แก่เด็กชายเมื่ออายุ 9-10 ปี เพื่อแสดงถึงความเติบโตของสถานภาพเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่เด็กหญิงถูกสอนไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายไม่เติบโต (หน้า 17-18) |
|
Belief System |
อีก้อมีความเชื่อเกี่ยวกับคู่แต่งงานว่า ห้ามสืบตระกูลฝ่ายชายเดียวกัน 7 ชั่วอายุคน ถ้าหากละเมิดจะทำให้อายุสั้นลง ซึ่งในปัจจุบันจะนับเพียง 3 ชั่วอายุคน หรือถ้าหากจะมีการแต่งงานที่เกินกำหนดต้องผ่านพิธีตัดสายสกุล (ผ่าก่อเอ๊อ) คือ การขอแยกตัวออกจากการนับถือผีบรรพบุรุษบ้านบิดา แล้วสร้างหิ้งบูชาใหม่ (หน้า 16) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การเปลี่ยนแปลงของชุมชนนั้นมาจากการพัฒนาและบริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และการติดต่อกับสังคมภายนอก ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อเจ็บป่วยจะไปโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัย รวมทั้งมีการฝากครรภ์ ชาวบ้านยังได้รับการศึกษามากขึ้น หลังจากจบบางคนก็เข้าไปทำงานในตัวเมือง หรือบ้างก็ทำงานในหมู่บ้าน ส่วนการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพศตรงข้ามไม่ได้ใช้ลานสาวกอดเหมือนในอดีต แต่คบหากันด้วยวิธีที่เลียนแบบจากทางทีวี (หน้า 18) |
|
Other Issues |
สถานการณ์โรคเอดส์ในพื้นที่ คนพื้นที่สูง คือผู้ที่ได้รับผลจากปัญหาโรคเอดส์หลังสุดแต่หนักที่สุด คือ การกระจายตัวของเชื้อจากชุมชนเมืองในแนวระนาบสู่ชุมชนชนบทที่สูงที่อยู่ห่างไกล หนักที่สุดคือ ความไม่รู้ ไม่ป้องกัน วัฒนธรรมเพศชุมชน ทำให้เชื้อ HIV ระบาดได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงบริการ กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด ชาย - หญิงวัยแรงงาน ระดับการศึกษาต่ำ โอกาสได้รับข่าวสารน้อย (หน้า 12)
ใน พ.ศ. 2534 มีกรณีผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์เข้ามาอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านและเสียชีวิต ทำให้ชาวบ้านสามารถรับรู้อาการของโรคที่แสดงออกอย่างเด่นชัดได้ ส่งผลให้ชาวบ้านในบริเวณนี้ตระหนักถึงการมีอยู่และความอันตรายของโรค ดังนั้นถ้าหากมีใครที่ติดโรค คนๆ นั้นจะต้องออกไปอยู่ที่อื่น (หน้า19-20) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการแร่ระบาด ได้แก่
- ที่ตั้ง เป็นหมู่บ้านที่มีการติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนเมืองได้ง่าย มีความสัมพันธ์ทางโครงสร้างกับสังคมภายนอก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความเชื่อและวิถีชีวิต ได้รับการพัฒนาและบริการของรัฐทางด้านต่างๆ มีคนออกไปประกอบอาชีพภายนอกชุมชนเป็นจำนวนมาก
- ขบวนการที่ผิดกฎหมาย ได้แก่ ขบวนการค้ายาเสพติด ขบวนการขอทานและขบวนการจัดหาผู้หญิงเพื่อเป็นหญิงบริการทางเพศ แม้ว่ารัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขทั้ง 3 ปัญหานี้ แต่ก็ยังส่งผลไปถึงอัตราการระบาดของโรคในพื้นที่ และในทางกลับกันอัตราการป่วยและตายด้วยโรคเอดส์ทำให้ชาวบ้านตระหนักและเข้าใจปัญหามากขึ้น
- ความสำนึกร่วม ในบางหมู่บ้านชาวบ้านรู้สึกต่ออาชีพหญิงบริการและขอทานไปในทางลบ เป็นเรื่องน่าอาย ความสำนึกในการประกอบอาชีพทั้ง 2 ไม่ได้เป็นข้อห้ามตามกฎเกณฑ์ทางสังคม (อาข่าย๊อง) ดังจะเห็นได้จากบางหมู่บ้านประกอบอาชีพเหล่านี้อย่างเปิดเผย
ปัญหาเรื่องโรคเอดส์ ประเด็นทางเพศถูกนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงการท่องเที่ยว ในรูปแบบของวัฒนธรรมเพศชุมชน คือ มีการจัดฉากนำเที่ยวชุมชนให้ดูวิถีชีวิต เช่น สาวชาวเขาอาบน้ำในลำธาร จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ (หน้า13-14) |
|
|