สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),ทัศนคติ, การอนุรักษ์, เชียงใหม่, ตาก
Author อดิสรณ์ กองเพิ่มพูล
Title ทัศนคติของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ปกาเกอะญอ, Language and Linguistic Affiliations จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan)
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
(เอกสารฉบับเต็ม)
Total Pages 101 Year 2543
Source หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(เกษตรศาสตร์) สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Abstract

จากการศึกษาความคิดเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ปรากฎว่าประเด็นที่ ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงมีทัศนคติเห็นด้วยสูงสุดคือ กวางผาเป็นสัตว์สงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ ควรช่วยกันดูแลรักษาให้อยู่คู่ป่าอมก๋อยตลอดไป การทดสอบสมมุติฐานพบว่า ทัศนคติมีความสัมพันธ์กับรายได้ของครัวเรือนในระดับต่ำ แต่มีความสัมพันธ์กับอายุกับจำนวนสมาชิกในครัวเรือนในระดับปานกลางและมีสัมพันธ์กับความสามารถในการอ่านหนังสือ การติดต่อกับโลกภายนอก และการได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์ในระดับสูง ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าที่สำคัญคือ ไฟป่าในฤดูแล้ง การถางป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยเหนือต้นน้ำ การล่าสัตว์เพื่อจำหน่าย การลักลอบตัดไม้ ตลอดจนปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ส่วนความต้องการในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าคือ ต้องการให้มีการจัดเวรยามเฝ้าระวังไฟป่าและทำแนวกันไฟ ต้องการให้มีการจัดสรรที่ดินทำกินให้เพียงพอ ต้องการเข้ารับการศึกษาอบรมความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า ต้องการให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าที่รัดกุม และต้องการเข้าร่วมโครงการปลูกป่าและอนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อฟื้นฟูส่วนที่เสื่อมโทรม

Focus

ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนบุคคล เศรษฐกิจและสังคม กับทัศนคติต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ตลอดจนปัญหาความต้องการของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ในเขตตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย ตำบลมืดกา อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

กะเหรี่ยง

Language and Linguistic Affiliations

ไม่ปรากฏชัดเจน ระบุเพียงว่าประชากรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 71.0 สามารถพูดภาษาไทยได้ (หน้า 39)

Study Period (Data Collection)

พ.ศ.2543

History of the Group and Community

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จัดตั้งเมื่อ พ.ศ. 2526 เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเดิมพื้นที่นี้ประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ารวมอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 เนื่องจากความไม่สะดวกในการบริหารงานและการตรวจตราดูแลพื้นที่ รัฐบาลจึงได้ประกาศพื้นที่ส่วนเหนือ แยกออกมาเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 100 ตอนที่ 135 ลงวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2526 (หน้า 6)

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย มีกะเหรี่ยงอาศัยอยู่จำนวน 11 หมู่บ้าน 302 ครัวเรือน 1,411 คน (หน้า 2) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่และตาก จำนวน 3 ตำบล 3 อำเภอ 11 หมู่บ้าน 1,411 คน (หน้า 30) ประชากรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 74.0 เป็นเพศชาย และร้อยละ 26.0 เป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 30-39 ปีคิดเป็นร้อยละ 34.0 รองลงมาคืออายุระหว่าง 20-29 ปี ร้อยละ 25.0 อายุ 40-49 ปี ร้อยละ 24.0 ตามลำดับ สมาชิกในครัวเรือนส่วนใหญ่ร้อยละ 53.0 มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวระหว่าง 4-6 คน และ 7-10 คน ร้อยละ 26.0 ตามลำดับ (หน้า 36-37)

Economy

ประชากรกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 95.0 มีที่ดินของตนเอง มีขนาดพื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 7.0 ไร่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 86.0 ประกอบอาชีพทำนา ประชากรร้อยละ 56.7 ไม่ประกอบอาชีพทำสวน มีเพียงร้อยละ 16.1 ทำสวนกล้วย ร้อยละ 13.2 ทำสวนพริก ร้อยละ 12.5 ทำสวนมะเขือ ร้อยละ 1.5 ทำสวนลำใย และพบว่าประชากรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 64.3 ไม่ประกอบอาชีพทำไร่ รองลงมาร้อยละ 16.0 ทำไร่ข้าวโพด ร้อยละ 13.4 ทำไร่ถั่วเหลืองและร้อยละ 6.3 ทำไร่ข้าว ในด้านการเลี้ยงสัตว์พบว่า ประชากรร้อยละ 30.8 ประกอบอาชีพเลี้ยงไก่ ร้อยละ 21.3 เลี้ยงหมู ร้อยละ 19.2 เลี้ยงโค ร้อยละ 15.4 ไม่ประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ ร้อยละ 11.5 เลี้ยงกระบือ ตามลำดับ ด้านการปลูกพืชพบว่า เกษตรกรที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีรายได้จากการทำนา ร้อยละ 40.0 ร้อยละ 38.0 ไม่มีรายได้หลักจากการปลูกพืช ร้อยละ 12.0 มีรายได้จากการทำไร่และร้อยละ 10.0 มีรายได้จากการทำสวน ร้อยละ 58.3 ไม่มีรายได้จากการเลี้ยงสัตว์ ร้อยละ 20.4 มีรายได้จากการเลี้ยงหมู ร้อยละ 9.3 มีรายได้จากการเลี้ยงโค เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 85.0 ไม่มีรายได้หลักจากการรับจ้าง รองลงมาคือร้อยละ 10.0 มีรายได้จากการถางหญ้า ร้อยละ 99.0 ไม่มีรายได้จากการค้าขายและร้อยละ 97.0 ไม่มีรายได้หลักจากแหล่งอื่นๆ เกษตรกรกลุ่มตัวอย่าง มีรายได้ของครอบครัวเฉลี่ย 8,044.1 บาทต่อปี (หน้า 40-45 )

Social Organization

lกะเหรี่ยงค่อนข้างสันโดษ ยึดการพออยู่พอกินเป็นหลักในการดำเนินชีวิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมและผูกพันกับธรรมชาติ(หน้า 15)

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

Belief System

ความเชื่อทางศาสนาแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ คติผีสางเทวดาและคติถือของขลังของศํกดิ์สิทธิ์ โดยเชื่อว่าอำนาจเหนือธรรมชาติมีพฤติกรรมเหมือนมนุษย์แต่มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ กะเหรี่ยงมีความเชื่อว่า เงินตราเป็นบ่อเกิดของความตาย เป็นสมบัติของคนตาย จึงมีประเพณีวางเงินไว้ที่ร่างกายของผู้ตาย 4 จุด คือ ที่ตาสองข้าง ปาก ฝ่ามือทั้งสองข้าง และเหนือหัวใจ เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจและเป็นค่าใช้จ่ายของคนตาย กะเหรี่ยงเชื่อว่า น้ำเป็นที่อาศัยของผีน้ำ การใช้น้ำจึงต้องมีพิธีกรรมเพื่อขอโทษผีน้ำ ดังนั้น เมื่อมีการสร้างฝายจึงต้องมีหอผีบริเวณหัวฝาย ฝายต้องปล่อยให้น้ำไหลผ่านฝายได้มิเช่นนั้นจะผิดผี ทุกปีก่อนทำนาจะต้องมีพิธีบูชาผีฝาย โดยใช้เครื่องเซ่น ธูป เทียน ไก่ต้ม และสุรา นอกจากนี้ บริเวณน้ำออกจากรู ห้ามจับปลา เพราะปลาบริเวณนี้เป็นลูกผีน้ำ ห้ามใช้พื้นที่ดังกล่าวทำมาหากิน ห้ามปัสสาวะใส่น้ำเพราะจะทำให้ผิดผี เกิดภัยพิบัติแก่ผู้กระทำ ชาวบ้านเชื่อว่า ดิน น้ำ และป่า มีผีหรือเจ้าของรักษาอยู่ เมื่อไรที่ผีหรือเจ้าของดิน น้ำ และป่าหนีไป น้ำก็จะแห้งป่าจะแล้ง ปลูกอะไรไม่ได้ผล (หน้า 15-18)

Education and Socialization

ประชากรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 83.0 ไม่ได้รับการศึกษา และร้อยละ 8.0 จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และส่วนใหญ่ร้อยละ 78.0 ไม่สามารถอ่านหนังสือได้แต่ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 71.0 สามารถพูดภาษาไทยได้ (หน้า 38-39)

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

หอผีฝาย ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร หลังคามุงด้วยใบคละคลึง (คล้ายใบพุทธรักษา) บันไดหอผีสร้างด้วยไม้ไผ่ สร้างต้นไม้จำลองผูกติดกับหอผี ตัดกระดาษทำดอกเงินดอกทองแขวนไว้ที่ต้นไม้จำลอง มีกระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำแขวนไว้ที่หอผี (หน้า 18)

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มีข้อมูล

Social Cultural and Identity Change

ไม่มีข้อมูล

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

การอนุรักษ์ป่า ประชากรกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่ร้อยละ 52.0 ติดต่อกับโลกภายนอกน้อยกว่า 1 ครั้งต่อเดือน รองลงมาคือร้อยละ 34.0 ติดต่อกับโลกภายนอก 1-2 ครั้งต่อเดือน ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 63.0 ได้รับข่าวสารการอนุรักษ์ป่าไม้จากเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ(หน้า 46-47) ประชากรร้อยละ 66.0 ต้องการให้มีการจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎรอย่างเพียงพอเพื่อลดการบุกรุกทำลายป่า ร้อยละ 51.0 ต้องการให้มีการทำแนวกันไฟป่า ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 39.0 ต้องการให้หน่วยงานราชการเข้ามาดำเนินโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในรูปแบบผสมผสานของการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน (หน้า 57-58)

Map/Illustration

ตาราง - เพศของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(36) - อายุของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(37) - จำนวนสมาชิกในครัวเรือนของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(37) - ระดับการศึกษาของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(38) - สิทธิการถือครองที่ดินของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(39) - ขนาดพื้นที่ทำการเกษตรของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(42) - รายได้หลักจากการปลูกพืช(42) - รายได้หลักจากการเลี้ยงสัตว์(43) - รายได้ของครัวเรือนของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(45) - ประเภทแหล่งน้ำใช้ในการเกษตรของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(45) - การติดต่อกับโลกภายนอกของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(46) - คะแนนเฉลี่ยทัศนคติของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงต่อการการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้(49) - ความสัมพันธ์ของอายุกับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า(52) - ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครัวเรือนกับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(53) - ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการอ่านหนังสือกับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(53) - ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดพื้นที่ทำการเกษตรกับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(54) - ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้ของครัวเรือนกับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(55) - ความสัมพันธ์ระหว่างการติดต่อกับโลกภายนอกกับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(55) - ความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่ากับทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(56) - ปัญหาในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(58) - ความต้องการความสนับสนุนจากหน่วยงานราชการของกลุ่มประชากรที่ศึกษา(59) ภาพ - แผนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย(7) - แผนภูมิกรอบแนวคิดในการวิจัย(30) - แผนภูมิการสุ่มตัวอย่าง จังหวัดเชียงใหม่(31) - แผนภูมิการสุ่มตัวอย่าง จังหวัดตาก(32)

Text Analyst สุวิทย์ เลิศวิมลศักดิ์ Date of Report 30 มิ.ย 2560
TAG ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), ทัศนคติ, การอนุรักษ์, เชียงใหม่, ตาก, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง