สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),การสักลาย,เชียงใหม่
Author อาดัม อินดี
Title การศึกษาเรื่องการสักลายบนร่างกายของชนเผ่ากะเหรี่ยงในเขตอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
Document Type อื่นๆ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ปกาเกอะญอ, Language and Linguistic Affiliations จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan)
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 181 Year 2544
Source รายงานประกอบวิชา หลักสูตรศิลปบัณฑิต (ศิลปะไทย) ภาควิชาศิลปไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Abstract

กะเหรี่ยงในสมัยก่อนมีความนิยมในการสักลายทั้งเพศชายและเพศหญิง วัฒนธรรมการสักลายนี้มีการกระจายอยู่ทั่วไปในอาณาเขตล้านนาทั้งชาวกะเหรี่ยง คนเมือง พม่าและไทใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับการสักที่คล้ายกัน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็น ว่ามีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ ความนิยมสักลายในอดีตนั้นสะท้อนให้เห็นถึงภาพในอดีตที่ผู้ชายต้อง มีความเข้มแข็ง อดทน กล้าหาญ ความดีงามและคาถาอาคมเพื่อป้องกันตนเองเฉกเช่นนักรบ เพราะในอดีตมีการสู้รบระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ และเนื่องจากการพยาบาลในอดีตไม่พัฒนาเท่าปัจจุบันจึงมีการสักข่ามเขี้ยวหรือคาถากันสัตว์มีพิษเพื่อความปลอดภัยในชีวิต นอกจากนี้ผู้ชายกะเหรี่ยงยังเป็นที่หมายตาของผู้หญิงเสมือนหนึ่งเป็นผู้มีวิชาอาคม อดทน กล้าหาญและเป็น ที่ยอมรับของสังคมตามค่านิยมในอดีต

Focus

ศึกษาความเชื่อ รูปแบบ ลวดลาย วิธีการและตำแหน่งของรอยสักตลอดจนพิธีกรรมในการสักลายอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

กะเหรี่ยง

Language and Linguistic Affiliations

ภาษาไทย ภาษากะเหรี่ยง (หน้า 16) และมีกล่าวถึงการสักตัวหนังสือกะเหรี่ยงบริเวณต่างๆ ของร่างกาย

Study Period (Data Collection)

พ.ศ.2544

History of the Group and Community

อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ตามตำนานกล่าวว่า พระนางจามเทวีได้เสด็จผ่านหมู่บ้านริมน้ำที่มีผู้คนอาศัยเพื่อไปครองเมือง หริภุญไชย นับจากที่รอนแรมมาได้หนึ่งเดือนเศษ ได้มาถึงสถานที่ที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง เห็นว่าประหลาด จึงให้ไพร่พลหยุดพักแรม พระนางจามเทวีได้ให้สร้างนครไว้เป็นที่ระลึกและสร้างวัดวาอารามอุทิศแก่ไพร่พลที่เสียชีวิตระหว่างการเดินทาง จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยในวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเส็ง พุทธศก 1201 ขนานนามว่า "พิสดารนคร" ปัจจุบันสันนิษฐานว่าอยู่บริเวณบ้านวังลุง หมู่ที่ 3 ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ชาวบ้านเรียกหมู่บ้าน "เมืองหอด ซึ่งหมายถึงหิวหรืออดอยาก จนกระทั่งปี พ.ศ.2460 ได้ยกระดับเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ มีที่ว่าการอำเภออยู่ที่หมู่ 2 ตำบลฮอด ต่อมา ปี พ.ศ.2505 ได้มีการสร้างเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตากทำให้ที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำปิงกลายเป็นเขตน้ำท่วม ต่อมาจึงได้ย้ายที่ทำการอำเภอมาอยู่ที่หมู่ที่ 9 ตำบลหางดง จนถึงปัจจุบัน (หน้า 18-19)

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

ไม่มีข้อมูล

Economy

ไม่มีข้อมูล

Social Organization

ไม่มีข้อมูล

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

Belief System

ความเชื่อและค่านิยมในสมัยนั้นเกี่ยวกับการสักลายของกะเหรี่ยง โดยแต่ละคนมีความเชื่อที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อความสวยงาม ความเป็นสิริมงคล กินดีอยู่ดี หาเงินคล่อง ป้องกันภัยอันตราย เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เพื่อให้สาวรัก เพื่อเข้าสังคม มีความกล้ามากขึ้น นอกจากนี้บรรพบุรุษได้สอนไว้ว่าต้องสักลายเพราะเวลาตายจะได้ไม่ต้องไปคุ้ยเขี่ยขี้ผีและจะได้มีเงินค่าสักติดตัวไปตอนตาย (หน้า 24-148)

Education and Socialization

ไม่มีข้อมูล

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

กะเหรี่ยงนิยมสักบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกายตามความเชื่อและค่านิยม สีที่ใช้ในการสักมีกรรมวิธีการผลิตที่หลากหลาย แต่ที่นิยมใช้ที่สุดคือหมึกสีดำผสมดีวัวดีควาย รองลงมาคือหมึกสีดำผสมน้ำมันมะพร้าว เขม่าตะเกียงน้ำมันก๊าด โดยมีช่างสักรับจ้างเป็นผู้สัก ลวดลายที่สักมีความหลากหลาย ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็น 4 ลายหลักได้แก่ 1) ลวดลายรูปสัตว์ เป็นการสักเพื่อเพิ่มพลังให้แก่ตนเอง ป้องกันอันตราย แสดงความเข้มแข็งเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม สามารถจำแนกประเภทของลวดลายสัตว์ที่พบดังเช่น ลายอีเห็น แมวหรือเสือ ลายหมูป่า ลายสิงโต ลายนกยูงและนก เป็นต้น 2) ลวดลายพรรณพฤกษา นิยมสักเพื่อความสวยงามและเชื่อว่าถ้าสักแล้วจะไม่ตกนรก ไม่ต้องไปเขี่ยขี้ผีในนรก ดังเช่น ลายดอกดาวเรือง ดอกมะเขือพวง ลายใบไม้ เป็นต้น 3) ลวดลายยันต์ นิยมสักเพื่อความเป็นสิริมงคล ป้องกันอันตราย คงกระพันและการกุศลผลบุญ ลวดลายที่สัก ดังเช่น ยันต์สี่เหลี่ยม ยันต์วงกลม ยันต์สามเหลี่ยมและยันต์ตัวหนังสือ เป็นต้น 4) ลวดลายรูปพระหรือเทวดา นิยมสักเพื่อความเป็นสิริมงคล เมตตามหานิยม ลวดลายที่นิยมสัก เช่น ลายพระพุทธเจ้า 9 พระองค์ ลายพระสังฆจาย ลายเทวดา เป็นต้น (หน้า 24-148)

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มีข้อมูล

Social Cultural and Identity Change

ปัจจุบันกะเหรี่ยงรุ่นใหม่ในเขตอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ไม่นิยมในการสักลายเช่นอดีต เนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง การรักษาพยาบาลและการศึกษาจากส่วนกลางทำให้กะเหรี่ยงรุ่นใหม่มีความคิดและค่านิยมที่เปลี่ยนไป (หน้า 181)

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

ประวัติการสักลาย จากหลักฐานที่ปรากฏพบรอยสักที่เก่าแก่ที่สุดบนร่างของมัมมี่ผู้หญิงของชาวอียิปต์ 4 ศพ ซึ่งมีอายุ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตาม นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า การสักได้มีมา 8,000 ปีแล้ว ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักฐานที่ขุดค้นได้จากหลุมฝังศพโบราณ ส่วนข้อเขียนชิ้นแรกสุดเกี่ยวกับการสักลาย ปรากฏในคัมภีร์เก่าของคริสต์ศาสนาที่ถือว่าการสักเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะการสักเป็นเรื่องเกี่ยวกับพิธีการของความตาย โดยเฉพาะนักเขียนชาวกรีกโรมันสมัยคลาสสิคบรรยายไว้ว่า การสักเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง เป็นกิจกรรมของอนารยชนโดยเฉพาะ เช่น ภาพสักของชาวดาเซียน ซามาเทียนและเผ่าไซเทียน (หน้า 5) เทคนิคและวิธีการสักลายของยุโรปและอเมริกา ก่อนที่จะใช้เครื่องมือการสักลายโดยเข็มสักไฟฟ้าที่ประดิษฐ์ขึ้นสำเร็จในปีค.ศ. 1891 ได้ใช้วิธีการสักลายแบบญี่ปุ่น ซึ่งใช้เข็มปลายแหลมหลายเล่มหลายขนาด ทำให้ลวดลายมีความละเอียดมากกว่าลายสักชาวโปลินีเซียที่ทำกับแบบเรียบง่าย ในส่วนของประเทศไทย การสักเป็นรูปแบบความเชื่อทางไสยศาสตร์อย่างหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับบริบทของคนไทยมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสักยันต์ โดยเชื่อกันว่าการสักยาข่ามจะให้ผลทางด้านคงกระพันชาตรี (หน้า 12-15)

Map/Illustration

ตาราง - ความเชื่อเกี่ยวกับการสัก(หน้า 152) - ประเภทของลวดลายสัก(หน้า 153) - อายุของผู้สัก(หน้า 177) ภาพและลายเส้น - หนังมนุษย์ที่มีรอยสักซึ่งมีคนชอบสะสม(หน้า 11) - ภาพสักเจ้าแม่กวนอิมบนแผ่นหลังที่ชาวญี่ปุ่นส่วนมากเคารพนับถือ(หน้า 11) - ภาพผู้หญิงญี่ปุ่นที่นิยมทำการสักบนร่างกาย(หน้า 13) - ภาพขณะทำการสักผู้หญิงญี่ปุ่น(หน้า 13) - ภาพหญิงสาวชาวญี่ปุ่นขณะเลือกแบบที่จะสักบนร่างกาย(หน้า 14) - ภาพคณะสักดูแบบเพื่อต่อเติมลายให้ใหม่(หน้า 14) - ภาพแผนที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่(หน้า 20) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและรูปเกล็ดตัวเงินตัวทองที่ท้อง(หน้า 25) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและรูปเกล็ดตัวเงินตัวทองที่หลัง(หน้า 26) - ลายสักรูปยักษ์และภาษากะเหรี่ยงที่หน้าอก(หน้า 27) - ลายสักรูปพระและยันต์ภาษากะเหรี่ยงที่หลัง(หน้า 27) - ลายสักรูปดอกไม้และยันต์ภาษากะเหรี่ยงที่น่อง(หน้า 28) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและรูปเกล็ดตัวเงินตัวทองที่ท้อง(หน้า 30) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและรูปเกล็ดตัวเงินตัวทองที่ก้น(หน้า 31) - ลายสักรูปยันต์ตัวหนังสือเมืองที่หน้าอก(หน้า 32) - ลายสักรูปดอกไม้ที่หลังฝ่ามือ(หน้า 33) - ลายสักรูปอีเห็นที่หน้าอกและตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่แขน(หน้า 34) - ลายสักรูปกรรไกรและตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่ขา(หน้า 35) - ลายสักรูปดอกไม้ที่น่อง(หน้า 36) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขา รูปดอกไม้ที่น่อง ตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่แขนและยันต์ภาษา กะเหรี่ยงที่หลัง(หน้า 38) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและยันต์ตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่แขน(หน้า 39) - ลายสักรูปยันต์ตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่แขนและรูปเกล็ดตัวเงินตัวทองที่หน้าท้อง(หน้า 40) - ลายสักรูปยันต์ตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่หลัง(หน้า 40) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและรูปเกล็ดตัวเงินตัวทองที่หลัง(หน้า 42) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขา(หน้า 43) - ลายสักรูปยันต์กะเหรี่ยงที่หน้าอกและแขน(หน้า 44) - ลายสักรูปดอกไม้ที่หลังฝ่ามือ(หน้า 45) - ลายสักรูปดาวที่แขน(หน้า 46) - ลายสักรูปดอกไม้ที่หลังผ่ามือและนิ้ว(หน้า 47) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขาและกรรไกรที่ขา(หน้า 47) - ลายสักรูปอีเห็นที่ขา รูปดอกไม้ที่น่องและตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่แขน(หน้า 49) - ลายสักที่มีลักษณะเป็นจุดที่คอ(หน้า 51) - ลายสักรูปอีเห็นที่ต้นขา รูปพระสัฆจายและนกยูงที่หน้าอก ยันต์ตัวหนังสือพม่า กะเหรี่ยง (หน้า 54) - ลายสักรูปพระที่กลางหลัง(หน้า 60) - ลายสักรูปดอกมะเขือพวงที่หลังฝ่ามือ(หน้า 62) - ลายสักรูปดอกดาวเรืองที่หลังฝ่ามือ(หน้า 63) - ลายสักที่มีลักษณะเป็นจุด(หน้า 69) ลายสักรูปคาถากันงู(หน้า 72) - ลายสักรูปครุฑและตัวหนังสือกะเหรี่ยงที่หน้าอก(หน้า 90) - ลายสักรูปยันต์แบบต่างๆที่หลัง(หน้า 117) - ลายสักรูปอีเห็น รูปหอยสังข์ที่แขนขวาและยันต์ที่หน้าอก(หน้า 136) - ลายเส้นรูปหมูป่า(หน้า 155) - ลายเส้นรูปสิงโต(หน้า 156) - ลายเส้นรูปนกยูงและนก(หน้า 157) - ลายเส้นรูปจิ้งจก(หน้า 158) - ลายเส้นรูปหองสังข์(หน้า 160) - ลายเส้นรูปปลาไหลเผือก(หน้า 162) - ลายเส้นรูปใบโพธิ์(หน้า 166) - ลายเส้นรูปลายพระพุทธรูป(หน้า 173) - ลายเส้นรูปพระพุทธเจ้า 9 พระองค์(หน้า 174) - ลายเส้นรูปเทวดา(หน้า 176)

Text Analyst สุวิทย์ เลิศวิมลศักดิ์ Date of Report 22 ก.ย. 2555
TAG ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), การสักลาย, เชียงใหม่, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง