สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject คนไทย,ประเพณี,วัฒนธรรม,มาเลเซีย
Author สุธานี เพ็ชรทอง
Title ศึกษาประเพณีทำบุญเดือนสิบของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity - Language and Linguistic Affiliations ไม่ระบุ
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 96 Year 2547
Source สาขาวิชาไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ
Abstract

ประเพณีทำบุญเดือนสิบของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย จัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ เดือนสิบทางจันทรคติ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้ว และคนที่มีบาปทั้งหลายที่ตกนรก ที่เรียกว่า เปรต จะถูกปล่อยขึ้นมาจากนรกให้มาพบลูกหลานและญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์ในวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ และจะถูกเรียกกลับไปสู่นรกดังเดิมในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ โดยทำพิธีกันในวัด ขั้นตอนการปฏิบัติในพิธีทำบุญเดือนสิบ ได้แก่ พิธีสระเปรต เปรียบเสมือนการชำระล้างร่างกายให้กับบรรพบุรุษ การตั้งเปรต ด้วยการเตรียมหฺมฺรับ (สำรับ) ถวายพระสงฆ์ บรรพบุรุษที่ล่วงลับ และวิญญาณที่ไม่มีญาติ และชิงเปรต ด้วยการแย่งอาหารที่ตั้งเปรต ถือเป็นบุญกุศลและสิริมงคลประเพณีทำบุญเดือนสิบยังสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมด้านอาหาร วัฒนธรรมด้านสังคมสัมพันธ์ วัฒนธรรมด้านความเชื่อ และวัฒนธรรมด้านศิลปกรรม (หน้า 43, 52-62, 90-92)

Focus

ศึกษาขั้นตอนและการปฏิบัติ รวมทั้งวัฒนธรรมที่ปรากฎในประเพณีทำบุญเดือนสิบของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย (หน้า 7)

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย หมายถึง คนสัญชาติมาเลเซียที่นับถือศาสนาพุทธและใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน (หน้า 8)

Language and Linguistic Affiliations

ไม่มีข้อมูล

Study Period (Data Collection)

พ.ศ.2546 - 2547 (หน้า 102)

History of the Group and Community

คนไทยในประเทศไทยกับชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในประเทศมาเลเซียเป็นชนกลุ่มเดียวกันมาแต่อดีต จากหนังสือประวัติแหลมมลายู และหนังสือสะยะระห์มลายู มีข้อความตรงกันว่า ชนชาติไทยได้เข้ามาเป็นเจ้าเมืองปาหังและมาตั้งเมืองปัตตานีขึ้น และยังบันทึกไว้อีกว่ามีเมืองไทยเมืองหนึ่งมีนามว่า สะหะรันนาวี มีพระเจ้าแผ่นดินทรงพระนามว่า พระเจ้าบูบันซา หรือที่ออกนามตามอักษรสาส์นถึงออกญามะละกาว่า พระเจ้าวดี จากหลักฐานดังกล่าวพออนุมานได้ว่า ชนเผ่าไทยได้อพยพมาอยู่ในแผ่นดินมลายูประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว (หน้า 1)

Settlement Pattern

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัต ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในที่ราบบนฝั่งแม่น้ำกลันตัน โดยเฉพาะตามท้องถิ่นใกล้ชายแดนไทย (หน้า 4)

Demography

จากสำมะโนประชากร ในปี พ.ศ.2541 รัฐกลันตันมีประชากรประมาณ 1,378,100 คน คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของประชากรทั้งประเทศ ในจำนวนนี้เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยประมาณ 24,800 คน คิดเป็นร้อยละ 1.8 ของประชากรในรัฐกลันตัน (หน้า 3)

Economy

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัต มีอาชีพส่วนใหญ่ คือ ทำนาและทำสวนยางพารา มีฐานะยากจน ทำการค้าขายบ้างเล็กๆ น้อยๆ ในกลุ่ม อาชีพรับราชการมีน้อยมาก (หน้า 4)

Social Organization

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัตยังคงความเป็นไทย รักสงบ ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย อบรมสั่งสอนบุตรหลานให้รู้จักความเป็นไทยได้อย่างต่อเนื่อง (หน้า 4) การทำบุญเดือนสิบของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ ถึงแม้จะทำงานอยู่ต่างถิ่นก็ต้องกลับมาทำบุญที่บ้านเกิดของตนเอง ถ้าไม่ไปทำบุญถือว่าเป็นพวกเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณของบุพการี (หน้า 44-45) การทำบุญเดือนสิบยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันระหว่างญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนบ้านและคนต่างถิ่น (หน้า 79)

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

Belief System

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัต ยึดวัดเป็นสรณะทางใจ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมอย่างเคร่งครัด (หน้า 4) งานทำบุญเดือนสิบก็มีการทำพิธีกันที่วัด ประเพณีทำบุญเดือนสิบ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณ ความเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ความเชื่อเรื่องชาติภพ ความเชื่อเรื่องผลทาน และความเชื่อเรื่องอานิสงส์แห่งความกตัญญูกตเวที (หน้า 84) ประเพณีทำบุญเดือนสิบ เป็นประเพณีเก่าแก่และสำคัญมากประเพณีหนึ่งของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ประเพณีนี้ คนในท้องถิ่น เรียกว่า ประเพณีชิงเปรต หรือวันชิงเปรต ซึ่งทำกันในวันแรม 1 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ เดือนสิบทางจันทรคติ เพราะมีความเชื่อทางพุทธศาสนาว่า ในปลายเดือนสิบของทุกปี พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้ว และคนที่มีบาปทั้งหลายที่ตกนรก ที่เรียกว่า เปรต จะถูกปล่อยขึ้นมาจากนรกให้มาพบลูกหลานและญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์ในวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ และจะถูกเรียกกลับไปสู่นรกดังเดิมในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ ลูกหลานและญาติพี่น้องจะแสดงความกตัญญูโดยแสวงหาอาหารต่าง ๆ ไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ โดยทำบุญในวันแรม 1 ค่ำ เป็นวันแรกที่เปรตขึ้นมาจากนรก เรียกว่า วันรับเปรต และทำบุญในวันแรม 15 ค่ำ เป็นวันที่เปรตจะต้องกลับไปสู่นรก เรียกว่า วันรับเปรต แต่ในบางชุมชนของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในอำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย มีการทำบุญถึง 3 ครั้ง โดยทำบุญเพิ่มขึ้นในวันแรม 8 ค่ำเดือนสิบ (หน้า 43-44) อาหารที่ใช้ทำบุญมีทั้งอาหารคาว หวาน ผักและผลไม้ตามฤดูกาล และที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมเดือนสิบ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า ขนมไข่ปลา และขนมเจาะหู (ขนมดีซำ) จัดใส่กระจาด กะละมังหรือกระบุง (หน้า 47) ขั้นตอนการปฏิบัติในพิธีทำบุญเดือนสิบ เริ่มจาก 6 โมงเช้า มีพิธีสระเปรตเพื่อเป็นการชำระร่างกายให้บรรพบุรุษ จะไปทำที่บัวเก็บอัฐิบรรพบุรุษ เริ่มจาก อาบ สระ ทาแป้งและใส่น้ำหอม และทำเช่นเดียวกันนี้ที่เสาร้านเปรตให้กับเปรตที่ไม่มีญาติ จากนั้นจึงเป็นพิธีสงฆ์ รับศีล ฟังเทศน์ ถวายภัตตาหาร และกรวดน้ำ ชาวบ้านจะนำอาหารส่วนหนึ่งที่ห่อหรือใส่กระทงมาจากบ้านนำไปตั้งบนร้านเปรต เรียกว่า การตั้งเปรต จากนั้นพระสงฆ์สวดบังสุกุล และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อจากนั้นมีการ ชิงเปรต คือ ผู้ที่ล้อมวงตั้งเปรตจะวิ่งเข้าไปแย่งชิงขนม ข้าวปลาอาหารและเงินที่ตั้งเปรตไว้ จะถือว่าได้บุญกุศลและเป็นสิริมงคล นอกจากจะตั้งเปรตไว้ในวัดแล้วยังตั้งไว้นอกวัดข้างกำแพงวัดให้กับเปรตที่ไม่มีญาติหรือพวกที่มีบาปมากไม่กล้าเข้าวัด อาหารนี้จะตั้งทิ้งไว้เป็นอาหารพวกสัตว์ต่าง ๆ จากนั้นจึงแยกย้ายกันตั้งวงร่วมรับประทานอาหารกัน (หน้า 52-62)

Education and Socialization

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัต ยังขาดโอกาสในการศึกษาเพราะฐานะยากจนหรืออาจไม่ชอบเรียนหนังสือ เป็นได้ทั้งสองกรณี (หน้า 4)

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

การจัดหฺมฺรับ (สำรับ) ในพิธีทำบุญเดือนสิบ จัดได้ว่าเป็นวัฒนธรรมทางศิลปกรรม มีองค์ประกอบ ได้แก่ ฐานหฺมฺรับหรือภาชนะสำหรับบรรจุ เป็นภาชนะที่มีอยู่แล้วตามบ้าน สิ่งที่บรรจุในหฺมฺรับ ที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมเดือนสิบ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า ขนมไข่ปลา และขนมเจาะหู (ขนมดีซำ) น้ำ อาหารแห้ง พืชผล เครื่องอุปโภคประจำวัน เครื่องเชี่ยน ดอกไม้ ภาชนะหรือเครื่องใช้ในการรับประทานอาหาร และอุปกรณ์เครื่องใช้อื่น ๆ ที่บรรพบุรุษชอบใช้ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ยอดหฺมฺรับ สมัยก่อนจะทำเป็นกระทงใบตองรูปกลมใส่ข้าวสุก แล้วเจียนใบตองให้กลมขนาดเดียวกันปิด บนใบตองที่ปิด ตั้งกระทงเล็กบรรจุกับข้าวและของหวาน แล้วเย็บใบตองเป็นรูปฝาชีทรงสูงครอบ บนยอดสุดปักธูปเทียนและธงผ้าหรือธงกระดาษเล็ก ๆ หลากสี ปัจจุบันธงผ้าหรือ ธงกระดาษเปลี่ยนเป็นธนบัตรติดก้านปักเป็นธง และมีการประดับตกแต่ง ด้วยดอกไม้ ใบตอง เปลือกหรือฝักข้าวโพด ถ้าจัดกันครอบครัวเดียวจะมีขนาดเล็ก ถ้าจัดรวมกันหลายครอบครัวจะต้องมีขนาดใหญ่พอควร แต่สูงไม่เกิน 1 เมตร ส่วนรูปทรงจะเป็นแบบใดก็ได้ (หน้า 86-87)

Folklore

ประเพณีทำบุญเดือนสิบเกิดขึ้นจากความเชื่อทางพุทธศาสนาที่ว่า ในปลายเดือนสิบของทุกปี พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้ว และคนที่มีบาปทั้งหลายที่ตกนรก ที่เรียกว่า เปรต จะถูกปล่อยขึ้นมาจากนรกให้มาพบลูกหลานและญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์ในวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ และจะถูกเรียกกลับไปสู่นรกดังเดิมในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ ลูกหลานและญาติพี่น้องจะแสดงความกตัญญูโดยแสวงหาอาหารต่าง ๆ ไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ (หน้า 43)

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ประเพณีทำบุญเดือนสิบของชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัต ยังเป็นแบบดั้งเดิมที่ดำรงไว้ เพราะชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในประเทศมาเลเซียนั้น ถือเป็นคนกลุ่มน้อย จำเป็นต้องมีประเพณีที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันสังคมของตนไว้ ขั้นตอนการปฏิบัติมีการสืบทอดอย่างเป็นระบบจากรุ่นสู่รุ่นและมีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน(หน้า 4,92)

Social Cultural and Identity Change

ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในอำเภอตุมปัตนั้นเป็นคนรักสงบจึงไม่มีความขัดแย้งกับชนเผ่าอื่น ๆ ไม่มีความขัดแย้งทางศาสนา ไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง มีความสัมพันธ์กับคนไทยในประเทศไทยทางสายเลือด (หน้า 4)

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

ไม่มี

Map/Illustration

ภาพประกอบ 17 แผนที่ประเทศมาเลเซีย (หน้า 110) ภาพประกอบ 18 แผนที่แสดงหมู่บ้านคนไทยในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย (หน้า 111)

Text Analyst ขนิษฐา อลังกรณ์ Date of Report 06 พ.ย. 2555
TAG คนไทย, ประเพณี, วัฒนธรรม, มาเลเซีย, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง