|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู,ไทยมุสลิม,พฤติกรรม,ธนาคารอิสลาม,จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
Author |
วิทยา ประดุกา |
Title |
พฤติกรรมการออมและความต้องการธนาคารอิสลามของครัวเรือนไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเนเชี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
130 |
Year |
2543 |
Source |
หลักสูตรปริญญาเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต |
Abstract |
การออมของครัวเรือนไทยมุสลิมในปัจจุบันมี 3 แบบคือ เก็บเงินไว้เอง นำไปฝากไว้กับผู้ที่ตนไว้ใจและพึ่งพาระบบธนาคารพาณิชย์ เพราะตามหลักของศาสนาอิสลาม ดอกเบี้ยถือเป็นสิ่งต้องห้าม จึงทำให้ไทยมุสลิมไม่ใช้บริการของธนาคารพาณิชย์ ทั่วไปถ้าไม่จำเป็น ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้มีความต้องการธนาคารที่ปลอดดอกเบี้ย ซึ่งได้แก่ธนาคารอิสลาม จากแบบ สอบถามพบว่าความต้องการธนาคารอิสลามของกลุ่มตัวอย่างใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบว่า มีความต้องการอยู่ในระดับปานกลางถึงมากที่สุดและความต้องการบางข้อมีความแตกต่างกันในระหว่าง 5 จังหวัดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และการวิเคราะห์ความต้องการตามตัวแปรอิสระพบว่า ความต้องการจำแนกตามเพศ อายุ อาชีพ การศึกษา รายได้และรายจ่ายของครัวเรือนเฉลี่ยต่อปี จากการศึกษาในเรื่องนี้มีข้อเสนอแนะว่า ควรมีการจัดตั้งธนาคารอิสลามในประเทศไทยเพื่อให้คนไทยมุสลิม ได้ดำเนินการในด้านเศรษฐกิจได้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม |
|
Focus |
ศึกษาพฤติกรรมการออมของครัวเรือนไทยมุสลิม หลักการและแนวคิดระบบสถาบันการเงินตามหลักเศรษฐศาสตร์อิสลาม รูปแบบการประกอบธุรกิจของธนาคารอิสลามและความต้องการให้มีธนาคารอิสลามในประเทศไทยของครัวเรือนไทยมุสลิมในเขต 5 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย |
|
Ethnic Group in the Focus |
ไทยมุสลิม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Demography |
จำนวนประชากรใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3,033,632 คน มีไทยมุสลิมจำนวน 1,593,720 คน คิดเป็นร้อยละ 52.54 (หน้า 2) สัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา มีประชากร 231,702 คน เป็นกลุ่มตัวอย่าง 58 คน จังหวัดสตูล มีประชากร 112,444 คน เป็นกลุ่มตัวอย่าง 28 คน จังหวัดปัตตานี มีประชากร 489,395 คน เป็นกลุ่มตัวอย่าง 123 คน จังหวัดยะลา มีประชากร 230,792 คน เป็นกลุ่มตัวอย่าง 58 คน จังหวัดนราธิวาส มีประชากร 529,387 คน เป็นกลุ่มตัวอย่าง 133 คน (หน้า 41) ประชากรไทยมุสลิม ปัจจุบันมีอยู่ประมาณร้อยละ 10 หรือประมาณ 6 ล้านคน โดยครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เขต 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (105) |
|
Economy |
ไทยมุสลิมมีทางเลือกในการออมและทำธุรกิจอยู่ 4 ทางเลือกคือ เก็บเงินไว้เอง นำไปฝากกับผู้ที่ตนไว้ใจ เช่น โต๊ะอิหม่าม นำเงินไปฝากธนาคารในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย และพึ่งพาระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งยังผูกพันอยู่กับเรื่องดอกเบี้ย เพียงแต่พยายามเกี่ยวพันในเรื่องดอกเบี้ยให้น้อยที่สุด (หน้า 2) การแบ่งสรรเงินออมเพื่อใช้ ในปี พ.ศ. 2542 สามารถจำแนกได้ 5 ประเภทคือ การแบ่งสรรเงินออมเพื่อการลงทุน เพื่อการใช้จ่ายในครอบครัว เพื่อการประกอบศาสนกิจ เพื่อการกุศลและเพื่อให้แก่บุตร บิดา มารดาและญาติพี่น้อง (หน้า 66) กลุ่มตัวอย่างจากการสำรวจมี อาชีพรับราชการ เกษตรกร ลูกจ้างและทำธุรกิจส่วนตัว มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนระหว่าง 50,000 บาทถึงมากกว่า 300,000 บาทต่อปี รายได้เฉลี่ยต่อปี 100,001-150,000 บาท/ปี มีมากที่สุดคือ ร้อยละ 28.50 รองลงมาคือมีรายได้ 50,001-100,000 บาท/ปี คิดเป็นร้อยละ 24.50 ส่วนรายจ่ายของครัวเรือนเฉลี่ยต่อปี ใช้ในการครองชีพ 25,001-50,000 บาท/ปี คิดเป็นร้อยละ 47.20 รองลงมาคือ 50,001 - 75,000 บาท/ปี คิดเป็นร้อยละ 28.0 ค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาพยาบาลใช้ 5,001 บาท/ปีหรือต่ำกว่า คิดเป็นร้อยละ 70.2 (หน้า 48,108) พฤติกรรมการออมของผู้ตอบแบบสอบถามมีหลายรูปแบบคือ เก็บไว้เองที่บ้าน ฝากเงินไว้กับผู้ที่ไว้วางใจ ฝากธนาคารพาณิชย์ ฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ฝากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ฝากสถาบันเงินทุนและหลักทรัพย์ และสหกรณ์ออมทรัพย์อิสลามอื่นๆ โดยแต่ละคนอาจมีวิธีการออมมากกว่า 1 วิธี การออมโดยมากนิยมออมในรูปแบบของทรัพย์สินถาวร เช่น ในรูปของที่ดินและสิ่งก่อสร้าง การออมในรูปแบบของทรัพย์สินทางการเงิน เช่นการออมนอกระบบ เช่น การเล่นแชร์ การฝากสหกรณ์ออมทรัพย์อิสลาม การลดลงของหนี้สินของครัวเรือนซึ่งถือเป็นการออมรูปแบบหนึ่ง เป็นต้น ส่วนการออมในระบบ เช่น การให้กู้ยืม การออมเป็นเบี้ยประกันตามกรมธรรม์ประกันชีวิต การออมเป็นค่าหุ้นสมาชิกสหกรณ์ เป็นต้น (หน้า 53 - 68) |
|
Belief System |
ในศาสนาอิสลาม ถือว่า อัล-กุรอาน ได้กำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับดอกเบี้ยอย่างชัดเจนโดยได้ระบุไว้ว่าอะไรก็ตามที่เรียกร้องเพิ่มจากจำนวนเงินยืมนั้นถือเป็นสิ่งต้องห้าม ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงว่าการกู้ยืมนั้นจะเป็นไปเพื่อประสงค์ใด แต่กิจการด้านธุรกิจการค้ารวมทั้งกำไรที่เกิดขึ้นเนื่องจากธุรกิจการค้านั้นเป็นสิ่งซึ่งอนุมัติ (หน้า 1) หลักการสถาบันการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม การธนาคารและกิจกรรมด้านการเงิน เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมระหว่างมนุษย์(Muamalat) ของศาสนาอิสลาม ดังนั้น จะต้องอยู่ภายใต้หลักศาสนาอิสลาม (Shariah) ที่ว่าด้วยกิจกรรมระหว่างมนุษย์และเน้นความเป็นธรรมในสังคม เห็นว่าการกำหนดดอกเบี้ยตายตัวของสถาบันการเงินย่อมทำให้ผู้กู้แบกภาระความเสี่ยงตามลำพัง ดังนั้นหลักการดำเนินงานแบบปลอดดอกเบี้ย (Interest - Free) ถือเป็นหลักการสำคัญของธนาคารอิสลาม (หน้า 24-46) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
ความต้องการธนาคารอิสลาม เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับเก็บออมเงินไว้อย่างปลอดภัย เพื่อให้เป็นคนกลางทางธุรกิจเพราะกิจการที่ทำอยู่จำเป็นต้องผ่านระบบธนาคาร เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการลงทุน เพื่อใช้เป็นแหล่งสินเชื่อหรือแหล่งเงินยืม กลุ่มตัวอย่างทุกกลุ่มอายุ การศึกษา อาชีพและกลุ่มที่จำแนกตามรายได้ต่างมีเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม มีความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่าง ๆ และลักษณะการจัดตั้งธนาคารอิสลามที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมาก จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ธนาคารอิสลามในทางทฤษฎีนั้นมีความเป็นไปได้เพราะมีหลายประเทศได้นำไปใช้ แต่ถ้าจะนำมาใช้ในประเทศไทย อย่างเต็มรูปแบบจริงๆ ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ เพราะถ้าวิเคราะห์ถึงการขาดทุนก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะในระบบธนาคารอิสลามมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตลอดจนการดำเนินกิจการในระบบธนาคารอิสลามยังต้องอาศัยเงื่อนไขทางเศรษฐศาสตร์และจริยธรรมของผู้ที่อยู่ในระบบอย่างสูงด้วย การดำเนินกิจการในระบบธนาคารอิสลามจะต้องเริ่มจากสภาวะแวดล้อมที่ต้องการดำเนินการไปร่วมกับระบบการเงินที่มีดอกเบี้ยเป็นฐานกอปรกับไทยมุสลิมส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับระบบธนาคารอิสลาม ยังคงต้อง มีการศึกษาให้เข้าใจ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลักประกันความมั่นคงของธนาคารด้วย (หน้า 69 - 108) |
|
Map/Illustration |
ตาราง - แสดงจำนวนประชากรและไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า 2) - แสดงจำนวนธนาคารพาณิชย์และสาขาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า3) - เปรียบเทียบรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีของประชากรใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่ละจังหวัดกับรายได้ประชาชาติของประเทศ ไทย ปี พ.ศ.2538(หน้า19) - ยอดเงินฝากและยอดเงินสินเชื่อของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้(หน้า20) - เปรียบเทียบยอดเงินฝากของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับยอดเงินฝากรวมทั้งประเทศ(หน้า21) - เปรียบเทียบยอดสินเชื่อของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับยอดสินเชื่อรวมทั้งประเทศ(หน้า22) - ประมาณการเงินฝากและสินเชื่อของไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้(หน้า23) - แสดงสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามจำนวนประชากร (หน้า41) - แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามตัวแปร (หน้า47) - แสดงจำนวนและร้อยละของสื่อที่ให้การรบรู้ข่าวสารแก่กลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งธนาคารอิสลามเป็นครั้งแรก(หน้า52) - แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามวิธีการออม(หน้า53) - แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามการออมในรูปของทรัพย์สินถาวร (หน้า63) - แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามการออมในรูปของทรัพย์สินทางการเงิน (หน้า60) - แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามการแบ่งสรรเงินออมเพื่อใช้ในปี พ.ศ. 2542 (หน้า65) - แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามการใช้ประโยชน์จากผลตอบแทนเงินออมในปี พ.ศ. 2542 (หน้า67) - แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและความแปรปรวนเกี่ยวกับความต้องการธนาคารอิสลาม ด้านเหตุผลที่ต้องการจะมี ธนาคารในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย (หน้า70) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 1 (หน้า75) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 1 (หน้า 75) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 2 (หน้า76) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 2 (หน้า 76) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 3 (หน้า77) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 3 (หน้า 77) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F)ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 4 (หน้า78) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านเหตุผลที่ต้องการจะมีธนาคารอิสลาม ข้อที่ 4 (หน้า 78) - แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและความแปรปรวน เกี่ยวกับความต้องการธนาคารอิสลาม ด้านความต้องการใช้บริการ ธนาคารอิสลามในด้านต่างๆในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย(หน้า80) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 10 (หน้า85) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 10 (หน้า85) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 11 (หน้า86) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 11 (หน้า86) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 20 (หน้า87) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 20 (หน้า87) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F)ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 21 (หน้า88) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านความต้องการใช้บริการธนาคารอิสลามในด้านต่างๆ ข้อที่ 21 (หน้า88) - แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและความแปรปรวนเกี่ยวกับความต้องการธนาคารอิสลาม ด้านลักษณะการจัดตั้งธนคา รอิสลามที่พึงประสงค์ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย(หน้า90) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F)ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 31 (หน้า 94) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลาม ด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 31 (หน้า94) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 32 (หน้า95) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 32 (หน้า95) -แสดงค่าความแปรปรวน ( F) ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 33 (หน้า 96) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลาม ด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 33 (หน้า96) - แสดงค่าความแปรปรวน ( F)ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 35 (หน้า 97) - เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ของความต้องการธนาคารอิสลามด้านลักษณะการจัดตั้งธนคารอิสลามที่พึงประสงค์ ข้อที่ 35 (หน้า97) - แสดงความต้องการธนาคารอิสลามจำแนกตามเพศ (หน้า98) - แสดงความต้องการธนาคารอิสลามจำแนกตามอายุ (หน้า99) - แสดงความต้องการธนาคารอิสลามจำแนกตามการศึกษา (หน้า100) - แสดงความต้องการธนาคารอิสลามจำแนกตามอาชีพ (หน้า101) - แสดงความต้องการธนาคารอิสลามจำแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อปี (หน้า102) - แสดงความต้องการธนาคารอิสลามจำแนกตามรายจ่ายเฉลี่ยต่อปี (หน้า103) - แสดงความถี่ของความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการธนาคารอิสลามในประเทศไทยใน พื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้(หน้า104) ภาพ - แสดงความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเศรษฐกิจต่างๆในระบบเศรษฐกิจ(หน้า16) แผนภูมิ - เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างหลักเศรษฐศาสตร์อิสลามกับหลักเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ (หน้า25) - แสดงจุดเริ่มต้นและพื้นฐานของสถาบันการเงินตามหลักศาสนาอิสลามมาจากหลักปฏิบัติ(Shariah)ของศาสนาอิสลาม(หน้า27) |
|
|