|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ไทยมุสลิม,ฮาลาล,กรุงเทพมหานคร |
Author |
ธวัช ยะภา |
Title |
ความรู้ของชาวไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล ศึกษากรณีชาวไทยมุสลิมในเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไม่ระบุ |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
89 |
Year |
2545 |
Source |
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสาธารณะ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา |
Abstract |
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยมีอายุระหว่าง 16-25 ปีมากที่สุด จบการศึกษาปริญญาตรี มีรายได้ ต่ำกว่า 6,000 บาทต่อเดือนและมีสถานภาพโสด จากการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษามีความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อิสลาม อนุญาตอุปโภค-บริโภคในชีวิตประจำวัน รู้จักสิ่งที่เป็นนายีสต์ตามหลักอิสลาม รู้จักวิธีการเชือด (ทำให้ตาย) แต่จะมีความรู้เกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในการประกอบสินค้าอุปโภค-บริโภคน้อย ในเรื่องเกี่ยวกับการรับรู้เครื่องหมายฮาลาล พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ศึกษารู้จักเครื่องหมายฮาลาล และรู้ว่าหน่วยงานใดสามารถออกเครื่องหมายรับรองเครื่องหมายฮาลาล ในเรื่องปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล พบว่า เพศไม่มีความสัมพันธ์กับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล แต่อายุ ระดับการศึกษา รายได้ สถานภาพและอาชีพ มีความ สัมพันธ์กับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล ปัจจุบันไทยมุสลิมซึ่งเป็นวัยรุ่น อยู่ระหว่างการศึกษา ยังไม่เห็นความสำคัญหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายฮาลาล เพราะมัวแต่สนใจเรื่องอื่นๆ ไม่สนใจเกี่ยวกับศาสนาหรืออาจสนใจแต่น้อย |
|
Focus |
ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายฮาลาลและศึกษาความสัมพันธ์ของลักษณะส่วนบุคคลที่มีต่อความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล ศึกษากรณีไทยมุสลิม ในเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร |
|
Ethnic Group in the Focus |
ไทยมุสลิม ซึ่งมีกลุ่มตัวอย่าง 200 คนอาศัยอยู่ในเขตอำเภอมีนบุรี กรุงเทพฯ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ศาสนาอิสลามโดยประกาศของท่านศาสดามุฮัมมัดฯ แห่งซาอุดิอารเบีย ได้อุบัติขึ้นราว 1,400 ปีเศษ(ปัจจุบันฮิจเราะห์ศก 1422) ศาสนาอิสลามได้แผ่ขยายมาทางเอเชียอาคเนย์ สมัยที่พระบรมศาสดามุฮัมมัดฯ ได้สวรรคตไปแล้ว 200 ปี ศาสนาอิสลาม น่าจะเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มประวัติศาสตร์ชนชาติไทย สมัยสุโขทัย รัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงได้แผ่อาณาเขตไปถึงแหลมมาลายู ตามประวัติศาสตร์นับเป็นการเริ่มความสัมพันธ์ระหว่างการปกครองของไทย และชนที่นับถือศาสนาอิสลามที่ปรากฏเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังปรากฏว่ามีการติดต่อความสัมพันธ์ประเทศไทยกับประเทศอื่นๆที่นับถือศาสนาอิสลามอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะในด้านการติดต่อค้าขาย ในสมัยอยุธยาได้ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า ได้มีมุสลิมเข้ามาอาศัยในกรุงศรีอยุธยาทั้งในและนอกกำแพงเมือง และมีมุสลิมหลายท่านที่ได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งสูงสุดในทางราชการไทย เช่น เจ้าพระยาเฉกอะหมัดรัตนราชเศรษฐี (เฉกอะหมัด) เป็นต้น (หน้า 10-15) |
|
Demography |
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา เป็นเพศชายคิดเป็นร้อยละ 62.0 เพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 38 (หน้า 57) |
|
Economy |
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษามีรายได้ต่ำกว่า 6,000 บาทต่อเดือน มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 59.0 รองลงมามีรายได้ 6,000-15,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 20 และมีรายได้ 15,000-25,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 13 (หน้า 59) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาส่วนใหญ่มีอาชีพแตกต่างกัน เช่น นักศึกษาหรือผู้ว่างงาน คิดเป็นร้อยละ 46 รองลงมามีอาชีพรับจ้างหรือทำงานบริษัทเอกชน คิดเป็นร้อยละ 19 อาชีพรับราชการ คิดเป็นร้อยละ 11 และน้อยที่สุดประกอบอาชีพรัฐวิสาหกิจ คิดเป็นร้อยละ 5 (หน้า 60) |
|
Social Organization |
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษามีสถานภาพโสด คิดเป็นร้อยละ 70 และมีสถานภาพสมรสคิดเป็นร้อยละ 30 (หน้า 59) |
|
Belief System |
หลักการของศาสนาอิสลามแบ่งออกเป็นหลักใหญ่ 2 ประการคือ หลักศรัทธา (รูกนอีมาน) คือ หลักการหรือบทบัญญัติที่มุสลิมทุกคนจะต้องศรัทธาและยึดมั่น หลักการปฏิบัติ (รูกนอิสลาม) คือ หลักการหรือบทบัญญัติที่มุสลิมทุกคนจะต้องปฏิบัติ ฮาลาล หมายถึง ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม (หน้า 20-21) |
|
Education and Socialization |
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาจบระดับการศึกษาปริญญาตรีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 63 รองลงมาจบต่ำกว่าระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 31 และน้อยที่สุดจบสูงกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 6 (หน้า 58) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
เครื่องหมายฮาลาล หมายถึง เครื่องหมายที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งได้ออกเครื่องหมายรับรองว่าถูกต้องหรือได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม จะเป็นรูปแบบ แบบใดก็ได้ตามหน่วยงานนั้นออกแบบหรือรูปแบบนั้นจะเป็นแบบใดก็ได้ (หน้า 20- 21) ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ในสิ่งต้องห้าม (หะรอม) สิ่งอนุญาต (ฮาลาล) หรือสิ่งที่น่าสงสัย (ซุบฮาต) พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ศึกษามีความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อิสลามอนุญาต ร้อยละ 100 และกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษารู้จักเครื่องหมายฮาลาล คิดเป็นร้อยละ 82.5 รู้ว่าหน่วยงานใดสามาถออกเครื่องหมายรับรองเครื่องหมายฮาลาลคิดเป็นร้อยละ 57 และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เชื่อถือต่อเครื่องหมายฮาลาล ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาลได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ สถานภาพและอาชีพ (หน้า 70 - 71) |
|
Map/Illustration |
ตาราง - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามเพศ(57) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามอายุ(58) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามระดับการศึกษา(58) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามรายได้(59) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามสถานภาพ(59) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามอาชีพ(60) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามข้อมูลเกี่ยวกับความรู้(60) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามการรับรู้ต่อเครื่องหมายฮาลาล(62) - จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามระดับการรับรู้เครื่องหมายฮาลาล(63) - ความสัมพันธ์ระหว่างเพศกับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล(64) - ความสัมพันธ์ระหว่างระดับการศึกษากับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล(65) - ความสัมพันธ์ระหว่างอายุกับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล(66) - ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้กับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล(67) - ความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพกับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล (68) - ความสัมพันธ์ระหว่างอาชีพกับความรู้ของไทยมุสลิมต่อเครื่องหมายฮาลาล(69) ภาพ - กรอบแนวคิด(6) - เครื่องหมายฮาลาล(21) |
|
|