|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู,มุสลิม,สถาปัตยกรรมพื้นบ้าน,ที่พักอาศัย,คติความเชื่อ,ปัตตานี |
Author |
เขต รัตนจรณะ, เต็มดวง เศวตจินดา,ระวีวรรณ ชอุ่มพฤกษ์, กุศล นาคะชาต |
Title |
เรือนไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเนเชี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
143 |
Year |
2537 |
Source |
สถาบันศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี |
Abstract |
รายงานวิจัยฉบับนี้ได้ศึกษาถึงวิถีการดำรงชีวิต รูปแบบความเป็นอยู่ของไทยมุสลิม และรวบรวมข้อมูลทางด้านการก่อสร้าง องค์ประกอบด้านสถาปัตยกรรมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือนไทย รวมไปถึงการลงมือก่อสร้าง และประเพณีที่เกี่ยวกับการสร้างเรือนไทยของมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้มีการศึกษาเฉพาะกรณีที่หมู่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี และพบว่าเรือนไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณีตลอดจนวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของไทยมุสลิมในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนั้น ด้วยกระแสของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม ส่งผลอย่างสำคัญต่อแบบแผนในการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรวมไปถึงเรือนที่พักอาศัยด้วย ดังจะเห็นได้ว่ามีการรื้อเรือนเดิม และสร้างใหม่ด้วยรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป (หน้า บทนำ) |
|
Focus |
ศึกษาถึงวิถีการดำรงชีวิต รูปแบบความเป็นอยู่ของไทยมุสลิม องค์ประกอบด้านสถาปัตยกรรมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ และประเพณีที่เกี่ยวกับการสร้างเรือนไทยของมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทำการศึกษาเฉพาะกรณีที่หมู่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี (หน้า 10) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมุสลิม และเรือนไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยรวม โดยศึกษาเรือนไทยมุสลิมที่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นการศึกษาเฉพาะกรณี (หน้า 69) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
ศึกษาค้นคว้าและรวบรวมเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับชีวิต ความเป็นอยู่ ประเพณีและความเชื่อในการสร้างบ้านเรือนของไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่ได้กำหนดช่วงเวลาชัดเจน จากนั้นปฏิบัติงานวิจัยภาคสนาม โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรือนไทยมุสลิม โดยการถ่ายภาพ วาดผังของตัวเรือน หมู่บ้าน สังเกตชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน สัมภาษณ์ โดยใช้แบบสัมภาษณ์ เจ้าของครัวเรือนที่ตกเป็นตัวอย่างในการศึกษา ในช่วงระยะเวลา พ.ศ. 2526-2528 (หน้า 10-11) |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
เนื่องจากผู้วิจัยกล่าวถึงสภาพเรือนไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นภาพโดยรวม และยกตัวอย่าง บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ เขตอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นกรณีศึกษา ดังนั้นจะกล่าวถึงข้อมูลรูปแบบการตั้งถิ่นฐาน และลักษณะการตั้งบ้านเรือนของหมู่บ้านนี้เท่านั้น หมู่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ เขตอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ประกอบด้วยหมู่บ้านต่าง ๆ 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 และ 2 รวมกันเรียกบ้านตันหยงลูโละ ตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านทิศเหนือ ส่วนหมู่ที่ 3 คือ บริเวณที่เรียกว่า บ้านกรือเซะ ตั้งอยู่ตรงกันข้ามบ้านตันหยงลูโละ โดยมีถนนเพชรเกษม สายปัตตานี - นราธิวาสกั้นกลาง ที่ตั้งของหมู่บ้านกรือเซะอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 7 ลักษณะการตั้งบ้านเรือนของบ้านกรือเซะ ถ้าเป็นบ้านเรือนที่อยู่ริมถนนเข้าหมู่บ้านมักเป็นเรือนแถวไม้ทั้งชั้นเดียวและสองชั้น มีบ้างที่เป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ บ้านเรือนสองฝั่งถนนในหมู่บ้านนั้น มักเป็นร้านค้า ซึ่งลักษณะการค้าขายจะเป็นร้านขายของชำ ร้านค้าจะใช้ประโยชน์ทั้งในส่วนที่เป็นการค้าขายและเป็นที่อยู่อาศัยด้วย บ้านเรือนจะหนาแน่นเป็นกระจุก ถัดจากริมถนนทั้งสองฟากของหมู่บ้าน และสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนสองฝั่งถนนซ้าย-ขวา ในตัวหมู่บ้านกรือเซะนั้นจะมีความแตกต่างกันบ้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานะทางเศรษฐกิจของชาวบ้านเป็นสำคัญ (หน้า 71-72) |
|
Demography |
บ้านกรือเซะประกอบด้วยบ้านเรือนจำนวนทั้งสิ้น 242 หลังคาเรือน คิดเป็นชาย 957 คน หญิง 980 คน รวมประชากรทั้งสิ้น 1,937 คน ทุกเพศและวัย จำนวนสมาชิกในแต่ละหลังคาเรือนเฉลี่ยเท่ากัน 8 คน (หน้า 72) |
|
Economy |
ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย ทั้งในส่วนที่รับซื้อของจากชุมชนภายนอกเข้ามาขาย และเป็นผู้ผลิตเพื่อขายโดยเฉพาะทำขนมชนิดต่าง ๆ ขายส่ง มีมะพร้าวแก้ว รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากทะเล เช่น ข้าวเกรียบปลา ลูกชิ้นปลา เป็นต้น เป็นลักษณะอุตสาหกรรมในครัวเรือนใช้แรงงานของสมาชิกในครัวเรือน หรือแม้จะมีการจ้างแรงงานก็ไม่มากนักไม่ถึง 10 คน และส่วนใหญ่ก็เป็นสมาชิกในหมู่บ้าน อาชีพอื่น ๆ ก็มี เช่น ครู ประมง มอเตอร์ไซค์รับจ้างรับคนจากปากทางเข้าไปในหมู่บ้าน รับจ้างทั่วไป สตรีที่สมรสแล้วมักจะอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน และประกอบอาชีพค้าขายเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวด้วย (หน้า 72) ฐานะทางเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเรือน โดยเฉพาะวัสดุที่ใช้ในการสร้าง ขนาดของเรือน การประดับตกแต่ง คือ ถ้าเจ้าของบ้านเป็นผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่ำ วัสดุที่ใช้ทำฝามักเป็นไม้ไผ่สาน เรือนมีขนาดเล็ก ไม่มีการประดับตกแต่งมากนัก แต่ถ้าเป็นเรือนคหบดี มักตีฝาด้วยไม้กระดาน เรือนมีขนาดใหญ่ มีการประดับตัวเรือนด้วยไม้แกะสลักหรือปูนปั้นที่จั่ว ยอดจั่ว เชิงชาย เป็นต้น (หน้า 36) |
|
Social Organization |
ในบ้านกรือเซะ ชาวบ้านทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลาม มีมัสยิดจึงเป็นศูนย์กลางของชุมชน มัสยิดที่บ้านกรือเซะตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีบ้านเรือนตั้งอยู่หนาแน่น ตลอดสองฝั่งถนนเข้าหมู่บ้าน ดังนั้น เพื่อตอบสนองการทำกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นกิจวัตรของมุสลิมทุกคน ในหมู่บ้านจึงมีสุเหร่าหรือบาลาเซาะฮ์อีก 1 แห่งตั้งอยู่ริมคลองใกล้ๆ สะพานทาง ก่อนที่จะข้ามไปยังเขตตำบลคลองมานิง ทั้งมัสยิดและสุเหร่าต่างก็เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่นเดียวกัน แต่มัสยิดจะเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่และถาวรกว่าถือว่ามีความสำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าสุเหร่า (หน้า 72) |
|
Belief System |
การสร้างเรือนไทยมุสลิมนั้น นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมพื้นบ้านแล้วยังสะท้อนให้เห็นถึงประเพณี ความเชื่อ และวัฒนธรรมอิสลามอีกด้วย กล่าวคือ ทุกบ้านจะต้องกำหนดบริเวณที่ใช้ทำพิธีละหมาด โดยทุกบ้านจะสร้างบ้านหันหน้าบ้านไปทางทิศตะวันออก เนื่องจากมุสลิมต้องทำละหมาด ซึ่งต้องหันหน้าไปสู่นครเมกกะ การเล่นระดับพื้นต่างระดับ เพื่อแบ่งแยกกิจกรรมการอยู่อาศัย ได้แก่ ระเบียงบ้านสำหรับสมาชิกในบ้านที่เป็นผู้ชายใช้รองรับแขก บริเวณที่ประกอบกิจกรรมและ พักผ่อนของสมาชิกที่เป็นสตรีอยู่ด้านในติดกับครัว เป็นต้น บ้านที่สร้างจะให้สะดวกในการแยกส่วนออกจากกัน เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย ความเชื่อในการสร้างเรือนที่สำคัญ ๆ คือ สถานที่สร้างเรือน ทิศทางของเรือน การดูฤกษ์ และการยกเสาเอก โดยขนาดของตัวเรือนนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนเสา โดยมากนิยมสร้างเสา 6, 9, และ 12 เสา ความสูงของตัวเรือนนั้นจะยกพื้นสูงให้คนลอดได้ (ไม่เกิน 2 เมตร) ส่วนพื้นเรือนมักนิยมตีพื้นลดหลั่นกันตามประเภทของการใช้สอย ในแต่ละบ้านจะมีการกั้นห้องเล็ก ๆ ไว้สำหรับการทำละหมาดด้วย (หน้า 36-39) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
การใช้พื้นที่ในชุมชนบ้านกรือเซะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ คือ การใช้พื้นที่ของหมู่บ้านหรือชุมชนกรือเซะ และการใช้พื้นที่ในระดับครัวเรือน 1. การใช้พื้นที่ในระดับหมู่บ้านของชุมชนกรือเซะ คือ การมองภาพรวมของการจัดอาณาบริเวณในเขตหมู่ 3 บ้านกรือเซะว่ามีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ร่วมกันอย่างไร โดยแบ่งพื้นที่ตามการใช้ประโยชน์ ได้แก่ - พื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เริ่มตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้านที่ทำเป็นที่รอรถประจำทาง และที่รอรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง รับส่งคนจากปากทางเข้าไปในหมู่บ้าน ส่วนเขตแนวคลองทางซ้ายของถนนสายหลักใช้เป็นพื้นที่ทิ้งเศษขยะมูลฝอยต่างๆ - พื้นที่ทางสังคม ได้แก่ บริเวณที่เป็นที่ตั้งของสถานีอนามัยประจำตำบล และศูนย์พัฒนาหมู่บ้าน - พื้นที่ทางศาสนา ได้แก่ มัสยิด สุเหร่าหรือบาลาเซาะฮ์ซึ่งเป็นสถานที่ทางศาสนา - พื้นที่ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ถนนที่ตัดผ่านเข้าไปในหมู่บ้านทั้งสองสาย ที่ใช้เป็นเส้นทางติดต่อกับชุมชนภายนอก หรือเรือนแถวสองฝั่งถนนที่ใช้เป็นร้านค้า 2. การใช้พื้นที่ในระดับครัวเรือน เป็นการมองการใช้พื้นที่ของครัวเรือนหนึ่ง ๆ ทั้งนี้รวมทั้งพื้นที่ทั้งภายในเรือนและบริเวณรอบนอกเรือน ซึ่งเป็นส่วนของเรือนนั้น ๆ ด้วย - ลานดินหรือลานทรายหน้าเรือนและพื้นที่รอบ ๆ เรือน ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ การใช้พื้นที่บริเวณนี้จะแตกต่างตามลักษณะอาชีพ ส่วนมากจะมีโรงไม้ซึ่งก่อสร้างอย่างหยาบ ๆ ส่วนลานกว้างหลังเรือนจะมีการปลูกโรงไม้เช่นกัน จะใช้เป็นที่ค้าขาย นั่งหรือนอนเล่นได้ด้วย - ใต้ถุนเรือน จะใช้เป็นที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ที่เก็บของ ทำขนมส่งขาย เลี้ยงสัตว์ หรือใช้เป็นที่พบปะกัน - ตัวเรือนหลักหรือแม่เรือน ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย - ครัว โดยมากมักอยู่ด้านหลังต่อไปจากตัวเรือนหลัก การใช้พื้นที่เป็นไปอย่างง่าย ๆ จัดวางตำแหน่งของสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ใช้เป็นพื้นที่ในการทำอาหารและรับประทานอาหารด้วย กล่าวโดยรวมแล้ว การใช้พื้นที่ของเรือนไทยมุสลิมมีความแตกต่างกันบ้างตามอาชีพของเจ้าของเรือน เป็นสถาปัตยกรรม พื้นบ้านที่สร้างขึ้น เพื่อเอื้ออำนวยในการอยู่อาศัยประกอบอาชีพ แต่ก็มีลักษณะพิเศษที่ทำให้เห็นชัดเจนว่าเป็นเรือนไทยมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของตัวเรือน การประดับตกแต่งเรือนด้วยสัญลักษณ์ทางศาสนา ลักษณะเรือนที่โปร่งเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อน โดยสามารถใช้ประโยชน์สูงจากพื้นที่ทั้งหมดให้เหมาะกับวิถีชีวิตและกิจกรรมของตนเองได้ (หน้า 79-89) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
|