|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู,มุสลิม,ศาสนาอิสลาม,ระบบการศึกษา,ขนบธรรมเนียม,สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
Author |
โมหัมมัด อับดุลกาเดร์ |
Title |
ความเข้าใจเบื้องต้น เรื่อง ศาสนาอิสลามและชาวไทยมุสลิมใน 4 จังหวัดภาคใต้ |
Document Type |
หนังสือ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเนเชี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
116 |
Year |
2547 |
Source |
โครงการพัฒนาการศึกษานอกระบบโรงเรียนภาคเหนือและภาคใต้ |
Abstract |
ความเชื่อในทางศาสนานั้นมีอิทธิพลต่อมนุษย์ในทางสังคมอย่างมาก ฉะนั้น ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ต่างก็ให้สิทธิแก่บุคคลที่จะนับถือศาสนาใด ๆ ได้ตามแต่ศรัทธา การพัฒนาต่าง ๆ นั้น ต้องไม่ทำลายความเชื่อถือหรือขนบธรรมเนียมของสังคม หากแต่พยายามศึกษาปรับวิธีการพัฒนาให้เข้ากับลักษณะของสังคม และใช้พลังของความเชื่อถือขนบธรรมเนียม ทัศนคติ ค่านิยมที่มีอยู่แล้วในสังคมเป็นอุปกรณ์ผลักดันงานพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไป (หน้า 105) |
|
Focus |
พยายามนำเสนอให้เห็นความหมายของศาสนาอิสลาม และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิตของมุสลิมและระบบการศึกษาศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า 1) |
|
Ethnic Group in the Focus |
คนไทยมุสลิมใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
อิสลามคือศาสนาที่เผยแผ่โดยท่านศาสดามูฮัมมัด และมี อัล-กุรอานเป็นพระคัมภีร์ ความหมายที่แท้จริงของศาสนาอิสลาม คือการนอบน้อมตนเองยังพระประสงค์ของอัลลอฮฺ ซึ่งพระประสงค์นั้นเป็นความดีทั้งมวล สันติ และผู้ที่ปฎิบัติตามหลักการนี้จะได้ชื่อว่าเป็นมุสลิม ความมุ่งหมายของศาสนาอิสลาม คือการขัดเกลาจิตใจ ซึ่งจะทำให้มนุษย์ได้ใช้สติปัญญาของตนปฏิบัติตามเพื่อสู่สันติสุข โดยขัดเกลากิเลสและทำให้สังคมเป็นสุข ดังนั้น หน้าที่ของมุสลิมจึงมีอยู่สองประการใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ หน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อพระเจ้า และหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกัน (หน้า 5) |
|
Social Organization |
ข้อเท็จจริงและปัญหาพื้นฐานเกี่ยวกับความเข้าใจระหว่างบุคคลที่มีวัฒนธรรมต่างกัน ที่เป็นปัญหาสำคัญทางชายแดนภาคใต้ ความแตกต่างดังกล่าว ได้แก่ ความเชื่อถือ อันหมายถึง หลักศาสนา ขนบธรรมเนียม ภาษา อาหาร การแต่งกาย ซึ่งรวม เรียกว่าวัฒนธรรมในความแตกต่าง ถ้าจะนับความสำคัญก็ได้แก่ ภาษา อันเป็นหนทางสื่อความเข้าใจกันได้ ปัญหาทางภาษา นี้ทางรัฐได้มีตัวแทนที่จะต้องคิดค้นหาวิธีเพื่อแก้ไข ซึ่งได้วางแนวทางแก้ไขไว้สามทาง คือ 1. แก้จากเด็ก โดยจัดสอนภาษาไทยด้วยวิธีพิเศษแก่เด็กที่พูดภาษาไทยไม่ได้ 2. แก้ในด้านเยาวชน ก็คือการจัดโครงการสอนวิชาสามัญและสอนภาษาไทยในปอเนาะ 3. แก้จากประชาชนคนทั่วไป โดยการจัดศึกษาผู้ใหญ่แก่ผู้ที่พ้นวัยในโรงเรียนสำหรับเด็กและเยาวชน ทั้งสามทางนี้มีเป้าหมายช่วยให้ประชาชน รวมทั้งเด็กและเยาวชนได้มีความสามารถในด้านภาษาไทยอันเป็นภาษาของชาติที่ จะสื่อความเข้าใจกัน อันจะเป็นผลช่วยแก้ปัญหาทางปกครองและปัญหาเศรษฐกิจไปในตัว (หน้า 90) |
|
Belief System |
สังคมมุสลิมเป็นสังคมที่มีความเคร่งครัดในการปฏิบัติตนตามบทบัญญัติทางศาสนา ความยึดมั่นผูกพันต่อบทบัญญัติทางศาสนาทำให้สังคมมุสลิมมีความโดดเด่นในวัฒนธรรม และรูปแบบการดำเนินชีวิต ซึ่งหลักการสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงมุสลิมแต่ละคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันนั้น ได้แก่ หลักความเชื่อมั่น ซึ่งประกอบไปด้วยหลักศรัทธาและหลักปฏิบัติ หลักปฏิบัติสำหรับมุสลิมทุกคนนั้น ได้แก่ 1. การกล่าวคำปฏิญาณตนว่าเชื่อในองค์อัลลอฮ.เพียงองค์เดียว 2. การทำละหมาด ซึ่งมุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติทุกวัน ๆ ละ 5 เวลา 3. การถือศีลอด มุสลิมได้ถูกกำหนดให้ถือศีลอดในเดือนรอมฏอน (เดือนที่ 9 ของปีจันทรคติตามปฏิทินอิสลาม) ปีละหนึ่งครั้ง ครั้งละประมาณ 1 เดือน 4. การจ่ายซากาต หรือการบริจาคทาน 5.การประกอบพิธีฮัจญ์ หรือการไปประกอบศาสนกิจยังนครมักกะฮ์ นอกจากหลักการดังกล่าวแล้วศาสนาอิสลามยังมีบทบัญญัติของการประพฤติปฏิบัติ หรือตัวบทกฎหมายที่ประกอบด้วยแนวทาง และวิธีการซึ่งเป็นรายละเอียดในการดำเนินชีวิตของมุสลิมทุกคนอันประกอบไปด้วย แนวทางการใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคล และการใช้ชีวิตในลักษณะที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกันในหลาย ๆ ด้าน โดยไม่สามารถแยกออกจากกันได้โดยเด็ดขาด (หน้า 11-28) |
|
Education and Socialization |
เป็นที่ยอมรับในผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาการศาสนาอิสลามว่า มุสลิมในจังหวัดปัตตานีเป็นผู้มีความรู้เรื่องศาสนาอิสลาม และเป็นที่ยอมรับจากจังหวัดใกล้เคียง โดยคนในจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจไปศึกษาวิชาศาสนาอิสลามในจังหวัดปัตตานีกันมาก สถานที่สอนศาสนาอิสลามทางภาคใต้เรียกว่า "ปอเนาะ" และวิชาที่สอนส่วนใหญ่เป็นวิชาที่ว่าด้วยหลักการความเชื่อ วิธีปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งต่อมารัฐได้เข้ามาปรับปรุงการศึกษาในปอเนาะเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาการศึกษา ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเริ่มมีการปรับปรุงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 โดยวางแนวทางปรับปรุงบริเวณอาคารและสถานที่สอนปรับปรุงหลักสูตรการสอนให้เป็นสัดส่วนเป็นชั้น มีการสอนภาษาไทย สอนวิชาชีพ และมีการวัดผล และต่อมาในปี พ.ศ.2508 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ได้มีการปรับปรุงการสอนการเรียนขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง คือ ปรับปรุงปอเนาะให้เข้าระดับและมาตรฐานโรงเรียน ทั้งยังได้เปลี่ยนชื่อจากปอเนาะมาเป็นโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม (หน้า 79-84) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
|