|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),พิธีกรรม,ผีเรือน,แม่ฮ่องสอน |
Author |
Shigeru Iijima |
Title |
Family Cults in the Peasantization Process of the Karens |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาญี่ปุ่น |
Ethnic Identity |
ปกาเกอะญอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดสยามสมาคม |
Total Pages |
12 |
Year |
2510 |
Source |
東南アジア研究 Tou-nan-asia-ken-kyuu ปีที่ 5 เล่มที่ 2 |
Abstract |
เมื่อสังคมกะเหรี่ยงในที่ราบ ได้รับอิทธิพลจากสังคมภายนอกมากขึ้น จะเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะจากสังคมชนเผ่าที่โดดเดี่ยว ที่ทุกครอบครัวรักษาประเพณีพิธีกรรมสำคัญ เช่น พิธี Oxe ซึ่งเป็นพิธีเลี้ยงผีเรือน มาเป็นว่า บางครอบครัว หรือบางครัวเรือนทำพิธี "Chakasai" หรือ ในภาษากะเหรี่ยงเรียกว่า "che che" เพื่อทำให้กะเหรี่ยงหลุดพ้นจากความเชื่อเรื่องผีเรือน และตัดความสัมพันธ์กับผีเรือน หรือการนำหิ้งพระเข้ามาไว้บูชาในบ้าน ซึ่งแสดงอิทธิพลของพุทธศาสนา |
|
Focus |
การเปลี่ยนรูปแบบของพิธีกรรมระดับครัวเรือน ในกระแสการกลายเป็นชาวไร่ชาวนา ของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง หมู่บ้านที เกอะนี และหมู่บ้านที โต่พะ อำเภอแม่สะเรียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยศึกษากะเหรี่ยงสะกอและกะเหรี่ยงโป ที่หมู่บ้านที เกอะนี และหมู่บ้านที โต่พะ อำเภอแม่สะเรียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
การตั้งหมู่บ้านที เกอะนี ในพื้นที่ราบ มีการก่อตั้งเมื่อ 3-4 ศตวรรษที่แล้ว (หน้า 317) |
|
Social Organization |
สังคมกะเหรี่ยงเป็นสังคมที่สืบเชื้อสายทางฝ่ายผู้หญิง (matrilineage) เรียกในภาษากะเหรี่ยงว่า Dopuweh หรือ Taduxo หมายความว่า อำนาจสูงสุดจะอยู่ที่ผู้หญิงที่อายุมากที่สุดในครอบครัว โดยปกติจะเป็นยาย หากยายยังมีชีวิตอยู่ทั้งลูกสาวลูกชายจะอยู่ใน Dopuweh ลูกชายจะอยู่ใน Dopuweh ของยายจนกระทั่งยายเสียชีวิตจึงจะเข้าไปอยู่ใน Dopuweh ของภรรยาโดยอัตโนมัติ (หน้า 311-312) ในระบบสังคมของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง กะเหรี่ยงให้ความสำคัญต่อครอบครัวมาก ซึ่งผลสะท้อนให้เห็นในการทำพิธีกรรมทางศาสนาที่ครอบครัวเป็นแกนสำคัญ เช่น พิธี "Oxe" ซึ่งเป็นพิธีเลี้ยงผีเรือน (Bgha) ของกะเหรี่ยง ซึ่งกะเหรี่ยงสะกอเรียกว่า "Oxe Chuko" และกะเหรี่ยงโปว์เรียกว่า "Oxe P'go" สองพิธีนี้มีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ระหว่าง Oxe Chuko กับ Oxe P'go ยังมีความแตกต่างในรายละเอียดของพิธีการ (หน้า 3) |
|
Belief System |
กะเหรี่ยงให้ความเคารพผีเรือน หรือ "Bgha" ซึ่งเป็นผีประจำบ้านของแต่ละครัวเรือน (หน้า 3) และยังนับถือหิ้งพระที่เรียกว่า "Dapo" แม้ว่าหิ้งพระนี้ไม่มีสิ่งบูชา (หน้า 10) ครอบครัวกะเหรี่ยงสะกอจะจัดพิธี Oxe Chuko เมื่อมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้น ตามปกติกะเหรี่ยงจะจัดพิธี Oxe เมื่อเกิดภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม หากสภาพความเป็นอยู่เป็นปกติ ชาวบ้านก็จะจัดพิธี Oxe ปีละครั้งเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุ เมื่อมีการจัดพิธี Oxe Chuko ครอบครัวจะให้คนไปบอกญาติที่เกี่ยวข้องในเรื่องวัน และเวลาในการทำพิธี ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องเข้าร่วม เว้นแต่ ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือหันไปนับถือศาสนาคริสต์หรือ ผู้ที่เข้าร่วมพิธี Chakasi เท่านั้น ( ดูหัวข้อ Socio -cultural and Identity Change ประกอบ) การทำพิธีหากขาดผู้เกี่ยวข้องแม้แต่คนเดียวก็จะทำพิธี Oxe Chuko ไม่ได้ กลุ่มพิธี Oxe คือกลุ่มสังคมที่สร้างจากกลุ่มที่สืบเชื้อสายฝ่ายมารดา หัวหน้าฝ่ายหญิงมีหน้าที่เกี่ยวกับพิธีกรรม เมื่อผู้เข้าร่วมพิธีครบแล้ว พิธีกรรมเริ่มจากการล้างหม้อที่ใช้ในพิธี ล้างข้าว หุงข้าวจากนั้นก็จะเลี้ยงผีเรือน ด้วยไก่และหมู ในพิธี Oxe Chuko จะฆ่าหมูที่มัดอยู่ในห้องโดยการทิ่มดาบที่ตัวหมูและปิดจมูกจนตาย หลังจากนั้นใช้เนื้อหมูนั้นทำแกง ชายที่สูงอายุที่สุดจะทำหน้าที่วางจานใบกล้วยซึ่งใส่ข้าวและแกงที่พื้น และสวดเลี้ยงผีเรือน เพื่อความสงบสุขของบ้าน (หน้า 310-313) ส่วนพิธี Oxe P'go ความหมายไม่ต่างจาก Oxe Chuko มากนัก แต่มีความแตกต่างกัน 4 เรื่องคือ 1. ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงที่มีอายุสูงสุดเป็นผู้ทำพิธีกรรม ผู้ชายสามารถทำหน้าที่นี้แทนได้ 2. คนที่อยู่ในเครือ Dopuweh ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมทั้งหมดก็ได้ 3. การฆ่าหมูไม่ยุ่งยากเท่าและไม่จำเป็นต้องฆ่าในบ้าน 4. การเลี้ยงผีบางแห่งอาจใช้ปลาแทนหมูและไก่ได้ (หน้า 313-314) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การเปลี่ยนเป็นชาวไร่ชาวนา 1.พิธี Chakasi หรือเรียกเป็นภาษากะเหรี่ยงว่า "Che Che" เป็นพิธีทางพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นที่พม่า พิธี Chakasi เป็นพิธีการสำคัญที่ทำให้กะเหรี่ยงหลุดพ้นจากความเชื่อเรื่องผีเรือน และละทิ้งพิธี Oxe เป้าหมายของ Chakasi คือการตัดความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่าย Dopuweh กับผีเรือน และทำให้กะเหรี่ยงถูกปลดปล่อยจากความวุ่นวายของพิธี Oxe ในพิธี Chakasi มีการเผาเมล็ดพืชต่าง ๆ จนถึงไหม้ดำและวางไว้กับข้าว วางปลาและแกงไว้ที่ต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งตายซึ่งเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของผีเรือน 2. การนำหิ้งพระเข้ามาได้รับอิทธิผลของวัฒนธรรมพุทธศาสนา (หน้า 315-318) |
|
Map/Illustration |
ภาพ : 1) ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่สูงและครอบครัวช้าง - หน้า 313, 2)บ้านของชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ราบ - หน้า 314, 3) สาวกะเหรี่ยงของหมู่บ้านพื้นที่ราบ - หน้า 315, 4) หิ้งบูชาของกะเหรี่ยงที่อยู่ในพม่าจะไม่มีพระพุทธรูป - หน้า 316, 5) ไปวัดอย่างเอาใจใส่ แต่กะเหรี่ยงยังไม่ได้เป็นพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง - หน้า 317, แผนที่ : 1) แผนที่ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทยและตำแหน่งของหมู่บ้านที่วิจัย - หน้า 309, แผนผัง : 1) กลุ่มที่เข้าพิธี Oxe - หน้า 311, 2) ทิศทางของการเปลี่ยนรูปแบบพิธีครอบครัว |
|
|