สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ลาหู่, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, คุณภาพชีวิต, เชียงราย, ภาคเหนือ, ประเทศไทย
Author อรรถพงษ์ อินทพงษ์
Title การศึกษาคุณภาพชีวิตตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยภูเขา ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู, Language and Linguistic Affiliations -
Location of
Documents
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, ฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย
[เอกสารฉบับเต็ม]
Total Pages 181 Year 2551
Source วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
Abstract

การเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยภูเขาภายใต้หลักเกณฑ์คนไทยแข็งแรงเมืองไทยแข็งแรง ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกะเหรี่ยง อาข่าและลาหู่ โดยภาพรวมแล้ว คุณภาพชีวิตตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยภูเขา ด้านออกกำลังกาย ด้านอาหาร ด้านอารมณ์และด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับไม่แตกต่างกัน ในรูปแบบของกระบวนการเรียนรู้ในครอบครัวที่มีลักษณะของการสั่งสอนถ่ายทอดจากผู้อาวุโสในครอบครัวสู่ลูกหลานและเครือญาติ กระบวนการเรียนรู้ในระบบพื้นบ้านมีลักษณะความเชื่อ ความศรัทธา ประเพณี พิธีกรรมและองค์ความรู้ที่สัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของคนในชุมชนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ด้านอโรคยาและด้านอบายมุข มีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับแตกต่างกัน ในรูปแบบพฤติกรรมของบุคคล ครอบครัวและชุมชน การใช้กฏเกณฑ์ต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการควบคุมให้ปฏิบัติต่อสิ่งต่าง ๆ ในขอบเขตที่พอดี การใช้ประสบการณ์เดิมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในแต่ละกลุ่มที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมีผู้นำและผู้อาวุโสในหมู่บ้านเป็นแกนนำในการตัดสินใจว่าสิ่งใดดี จึงดำเนินตามกรอบบรรพบุรุษของแต่ละกลุ่ม

Focus

ศึกษาชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่ เผ่าอาข่าและเผ่ากะเหรี่ยง หมู่ 5, 6, 7, 8 และ 9 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ในมิติภูมิปัญญากับคุณภาพชีวิต 

Theoretical Issues

ชาวไทยภูเขามีภูมิปัญญาในการดูแลตนเอง โดยเปรียบเทียบดัดแปลงใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดคนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง (6 อ.) ด้านการออกกำลังกาย ด้านอาหาร ด้านอารมณ์ ด้านโรคยา ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และด้านอบายมุข มาใช้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย อาชีพ เอกลักษณ์ วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ และการใช้สมุนไพร ของแต่ละเผ่า ด้วยวิธีการแบบสอบถาม จากการสัมภาษณ์แล้วบันทึกข้อมูลแล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยการบรรยายและอธิบาย

Ethnic Group in the Focus

ลาหู่ อาข่าและกะเหรี่ยง

Study Period (Data Collection)

2550-2551  

Health and Medicine

คุณภาพชีวิตของชาวไทยภูเขาภายใต้หลักเกณฑ์คนไทยแข็งแรงเมืองไทยแข็งแรง (6 อ.) สรุปได้คือ อ. ที่ 1 ออกกำลังกาย คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า ประกอบด้วย กิจกรรมกับการเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งในการออกกำลังกาย ซึ่งสอดคล้องกับในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยภูเขา โดยมีผู้อาวุโสของครอบครัวเป็นผู้มีบทบาทในการชี้แนวทางการปฏิบัติตัว การถ่ายทอดความรู้ การคอยกระตุ้น และชี้แนวทางในด้านต่างๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์ หรือได้รับการถ่ายทอดจากบุรุษในลักษณะของเครือญาติทำให้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยมีการสอดแทรกในพิธีกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อเข้าเชื่อมโยงเข้าการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการดำเนินชีวิตเป็นประจำในชุมชนของตนเองของครอบครัวและของชุมชน อ. ที่ 2 อาหาร คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า ประกอบด้วยพฤติกรรมบุคคลเกี่ยวกับด้านทำอาหารให้ถูกสุขลักษณะ อาหารเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมของบุคคลประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า มีกิจกรรม โดยเลี้ยงสัตว์ การหาของป่า ปลูกพืชในครัวเรือน การหาปลา และการล่าสัตว์ป่าในป่าชุมชนใกล้หมู่บ้าน นำมาบริโภค ส่วนที่เหลือจะนำมาขายต่อเป็นกิจกรรมประจำวันของตนเอง ครอบครัวและเครือญาติ อ. ที่ 3 อารมณ์ คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า มี กิจกรรมเกี่ยวกับด้านอารมณ์ ประกอบด้วย ความรู้สึก จิตใจ สมาธิ ความเครียด และภาวะทางด้านอารมณ์ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการเผชิญปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าทางด้านร่างกาย จิตใจ สมาธิ ด้วยภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษที่มีการสอดแทรกในพิธีกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อของชุมชน ช่วยให้มีการผ่อนคลายและแรงสนับสนุนจากครอบครัว บิดา มารดา ญาติพี่น้องช่วยเหลือในระดับหนึ่ง อ. ที่ 4 อโรคยา คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า มีกิจกรรมเกี่ยวกับด้านอโรคยา ประกอบด้วยการเรียนรู้ การพึ่งพา ขอความช่วยเหลือ ความพอใจและความเชื่อ ครอบครัวประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่าเป็นผู้มีบทบาทในการชี้แนะแนว การปฏิบัติตัว การสอนให้กระทำตามแบบอย่างพ่อแม่ในการดูแลสุขภาพ เมื่อเกิดการเจ็บป่วยต้องแสวงหาทางรักษาด้วยตนเอง จึงส่งผลให้ประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่า มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมีการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ด้านสุขภาพระหว่างบุคคลในครอบครัว เครือญาติ และเพื่อนบ้าน โดยคนที่ไม่รู้ได้นำไปปฏิบัติ แล้วนำความรู้ที่ตนเองได้รับถ่ายทอดให้คนอื่นต่อไป จากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่ง ซึ่งการถ่ายทอดความรู้จากบรรพบุรุษนั้นเป็นประสบการณ์และความรู้ที่กระทำสืบเนื่องกันมาจนเป็นทักษะในการดูแลสุขภาพ อ. ที่ 5 อนามัยสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 31 เผ่า ประกอบด้วย กิจกรรมเกี่ยวกับด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยลักษณะที่ตั้งหมู่บ้าน ความปลอดภัย สิ่งรบกวน ความอุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ตลอดจนผู้นำชุมชน ผู้อาวุโส ที่ช่วยรักษาสภาพอนามัยสิ่งแวดล้อมชุมชน ให้ปลอดภัยแก่สมาชิกในชุมชน เพราะชุมชนต้องพึ่งพาอาศัยแหล่งธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ซึ่งชุมชนห่างไกลจากชุมชนเมืองจึงต้องช่วยเหลือพึ่งพิงซึ่งกันและกัน อ. ที่ 6 อบายมุข คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่ามีกิจกรรมเกี่ยวกับด้านอบายมุข ประกอบด้วย กฎข้อห้ามชุมชนเผ่า สิ่งเสพติด เช่น บุหรี่ เหล้า และสิ่งมึนเมาต่างๆ ประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่า จะมีกฎข้อห้ามประจำเผ่าแต่ละเผ่า สิ่งเสพติดในชุมชนจะมีกฎข้อห้ามให้สมาชิกในชุมชนผลิตสิ่งเสพติดในแต่ละชุมชนแต่ละเผ่า เป็นกฎข้อห้ามรุนแรงของชุมชน แต่ให้กระทำเฉพาะในเทศกาลประเพณี วัฒนธรรมของชนเผ่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น ยกเว้นกฎข้อห้ามของชุมชนต้องดำเนินต่อไป เมื่อนำมาเปรียบเทียบการเรื่อง อ. ที่ 3 ด้านอบายมุขตามนโยบายเมืองไทยแข็งแรงแล้วประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า ไม่กระทำผิดกฎข้อห้ามของชุมชน สิ่งเสพติดค่อยๆ ลดลงเพื่อไม่ให้ไปสู่ลูกหลานในชุมชน และมุ่งมั่นไม้ให้สมาชิกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงเสพสิ่งเสพติดที่เป็นโทษต่อสุขภาพร่างกายและชุมชนปลอดภัยจากสิ่งเสพติด (หน้า, 95-100)

Social Cultural and Identity Change

กลุ่มชนเผ่าเกิดการเรียนรู้การดูแลสุขภาพจากการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ การใช้ประสบการณ์เดิมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน จากวัฒนธรรม ประเพณีพิธีกรรม และความเชื่อ ภูมิปัญญาท้องถิ่นในรูปแบบของกระบวนการเรียนรู้ในครอบครัวที่มีลักษณะของการสั่งสอน ถ่ายทอดจากผู้อาวุโสในครอบครัวไปสู่ลูกหลานและเครือญาติ กระบวนการเรียนรู้ในระบบพื้นบ้าน มีลักษณะของความเชื่อถือ ศรัทธา และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนการเปลี่ยนทางสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา การเมืองการปกครอง วัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรม และความเชื่อ รวมไปถึงปัจจัยภายนอกที่สนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้จากภายในนอกชุมชนหรือปัจจัยภายใน คือ การเปลี่ยนแปลงความเชื่อเกี่ยวกับการดูแลป้องกันและการส่งเสริมสุขภาพ ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เนื่องด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นตลอดจนความเชื่อ ระบบคุณค่า ระบบความคิด ของชุมชน เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเชื่อมโยงในชุมชนเอาไว้ด้วยกัน องค์ความรู้ต่างๆ ที่สัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของคนในชุมชน ได้แก่ การทำมาหากิน การกินอยู่หลับนอน ในชีวิตประจำวัน การจัดการเกี่ยวกับปัจจัยสี่ ได้แก่ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม อาหารและยารักษาโรค
ภูมิปัญญาเป็นบ่อเกิดของพฤติกรรมของบุคคลและสังคมซึ่งถูกถ่ายทอดมาเป็นความเชื่อ ระบบคุณค่า ระบบความคิดของสมาชิกในชุมชน รูปแบบของการถ่ายทอดอาจที่ถูกบันทึกเป็นตำราหรือคู่มือต่างๆ  หรือถ่ายทอดโดยการบอกเล่าตามความทรงจำหรือการยึดถือปฏิบัติสืบต่อๆ กันมา เช่น ภูมิปัญญาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการทำมาหากิน ภูมิปัญญาเกี่ยวกับวิถีชีวิต ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสมุนไพร เป็นต้น ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นสิ่งที่มีรากฐานมาจากความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับธรรมชาติ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการควบคุมให้ปฏิบัติต่อสิ่งต่างๆ ในขอบเขตที่พอดี ทำให้วิถีชีวิตในสังคมดำรงอยู่ได้ด้วยสันติสุข หรือชุมชนได้ตั้งกฏเกณฑ์ต่างๆ พิธีกรรม เพื่อเป็นฐานความคิดหรือสิ่งกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมทางจริยธรรมขึ้น รวมถึงการปรับและการพัฒนาสร้างสวรรค์ขึ้นใหม่ จึงเป็นเครื่องมือแสดงออกว่ามีภูมิปัญญาท้องถิ่นอยู่ (หน้า, 96-100)

Map/Illustration

ตาราง
- กิจกรรมที่ปฏิบัติในรอบ 1ปี ของเผ่าลาหู่ (มูเซอ) (หน้า, 28)
- กิจกรรมที่ปฏิบัติในรอบ 1ปี ของเผ่าอาข่า (อีก้อ) (หน้า, 51)
- กิจกรรมที่ปฏิบัติในรอบ 1ปี ของเผ่ากะเหรี่ยง (หน้า, 61)
- จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตาม เพศ อายุ ชนเผ่า สมรส และศาสนา (หน้า, 73)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 1ด้านออกกำลังกาย (หน้า, 81)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 2ด้านอาหาร (หน้า, 83)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 3ด้านอารมณ์ (หน้า, 85)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 4ด้านอโรคยา (หน้า, 85)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 5ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (หน้า, 89)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ ด้านอบายมุข (หน้า, 91)

Text Analyst เอกรินทร์ พึ่งประชา Date of Report 01 ต.ค. 2564
TAG ลาหู่, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, คุณภาพชีวิต, เชียงราย, ภาคเหนือ, ประเทศไทย, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง