|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาหู่, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, คุณภาพชีวิต, เชียงราย, ภาคเหนือ, ประเทศไทย |
Author |
อรรถพงษ์ อินทพงษ์ |
Title |
การศึกษาคุณภาพชีวิตตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยภูเขา ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, ฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย
[เอกสารฉบับเต็ม] |
Total Pages |
181 |
Year |
2551 |
Source |
วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย |
Abstract |
การเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยภูเขาภายใต้หลักเกณฑ์คนไทยแข็งแรงเมืองไทยแข็งแรง ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกะเหรี่ยง อาข่าและลาหู่ โดยภาพรวมแล้ว คุณภาพชีวิตตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยภูเขา ด้านออกกำลังกาย ด้านอาหาร ด้านอารมณ์และด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับไม่แตกต่างกัน ในรูปแบบของกระบวนการเรียนรู้ในครอบครัวที่มีลักษณะของการสั่งสอนถ่ายทอดจากผู้อาวุโสในครอบครัวสู่ลูกหลานและเครือญาติ กระบวนการเรียนรู้ในระบบพื้นบ้านมีลักษณะความเชื่อ ความศรัทธา ประเพณี พิธีกรรมและองค์ความรู้ที่สัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของคนในชุมชนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ด้านอโรคยาและด้านอบายมุข มีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับแตกต่างกัน ในรูปแบบพฤติกรรมของบุคคล ครอบครัวและชุมชน การใช้กฏเกณฑ์ต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการควบคุมให้ปฏิบัติต่อสิ่งต่าง ๆ ในขอบเขตที่พอดี การใช้ประสบการณ์เดิมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในแต่ละกลุ่มที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมีผู้นำและผู้อาวุโสในหมู่บ้านเป็นแกนนำในการตัดสินใจว่าสิ่งใดดี จึงดำเนินตามกรอบบรรพบุรุษของแต่ละกลุ่ม |
|
Focus |
ศึกษาชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่ เผ่าอาข่าและเผ่ากะเหรี่ยง หมู่ 5, 6, 7, 8 และ 9 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ในมิติภูมิปัญญากับคุณภาพชีวิต |
|
Theoretical Issues |
ชาวไทยภูเขามีภูมิปัญญาในการดูแลตนเอง โดยเปรียบเทียบดัดแปลงใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดคนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง (6 อ.) ด้านการออกกำลังกาย ด้านอาหาร ด้านอารมณ์ ด้านโรคยา ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และด้านอบายมุข มาใช้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย อาชีพ เอกลักษณ์ วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ และการใช้สมุนไพร ของแต่ละเผ่า ด้วยวิธีการแบบสอบถาม จากการสัมภาษณ์แล้วบันทึกข้อมูลแล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยการบรรยายและอธิบาย |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Study Period (Data Collection) |
|
Health and Medicine |
คุณภาพชีวิตของชาวไทยภูเขาภายใต้หลักเกณฑ์คนไทยแข็งแรงเมืองไทยแข็งแรง (6 อ.) สรุปได้คือ อ. ที่ 1 ออกกำลังกาย คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า ประกอบด้วย กิจกรรมกับการเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งในการออกกำลังกาย ซึ่งสอดคล้องกับในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยภูเขา โดยมีผู้อาวุโสของครอบครัวเป็นผู้มีบทบาทในการชี้แนวทางการปฏิบัติตัว การถ่ายทอดความรู้ การคอยกระตุ้น และชี้แนวทางในด้านต่างๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์ หรือได้รับการถ่ายทอดจากบุรุษในลักษณะของเครือญาติทำให้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยมีการสอดแทรกในพิธีกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อเข้าเชื่อมโยงเข้าการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการดำเนินชีวิตเป็นประจำในชุมชนของตนเองของครอบครัวและของชุมชน อ. ที่ 2 อาหาร คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า ประกอบด้วยพฤติกรรมบุคคลเกี่ยวกับด้านทำอาหารให้ถูกสุขลักษณะ อาหารเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมของบุคคลประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า มีกิจกรรม โดยเลี้ยงสัตว์ การหาของป่า ปลูกพืชในครัวเรือน การหาปลา และการล่าสัตว์ป่าในป่าชุมชนใกล้หมู่บ้าน นำมาบริโภค ส่วนที่เหลือจะนำมาขายต่อเป็นกิจกรรมประจำวันของตนเอง ครอบครัวและเครือญาติ อ. ที่ 3 อารมณ์ คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า มี กิจกรรมเกี่ยวกับด้านอารมณ์ ประกอบด้วย ความรู้สึก จิตใจ สมาธิ ความเครียด และภาวะทางด้านอารมณ์ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการเผชิญปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าทางด้านร่างกาย จิตใจ สมาธิ ด้วยภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษที่มีการสอดแทรกในพิธีกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อของชุมชน ช่วยให้มีการผ่อนคลายและแรงสนับสนุนจากครอบครัว บิดา มารดา ญาติพี่น้องช่วยเหลือในระดับหนึ่ง อ. ที่ 4 อโรคยา คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า มีกิจกรรมเกี่ยวกับด้านอโรคยา ประกอบด้วยการเรียนรู้ การพึ่งพา ขอความช่วยเหลือ ความพอใจและความเชื่อ ครอบครัวประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่าเป็นผู้มีบทบาทในการชี้แนะแนว การปฏิบัติตัว การสอนให้กระทำตามแบบอย่างพ่อแม่ในการดูแลสุขภาพ เมื่อเกิดการเจ็บป่วยต้องแสวงหาทางรักษาด้วยตนเอง จึงส่งผลให้ประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่า มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมีการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ด้านสุขภาพระหว่างบุคคลในครอบครัว เครือญาติ และเพื่อนบ้าน โดยคนที่ไม่รู้ได้นำไปปฏิบัติ แล้วนำความรู้ที่ตนเองได้รับถ่ายทอดให้คนอื่นต่อไป จากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่ง ซึ่งการถ่ายทอดความรู้จากบรรพบุรุษนั้นเป็นประสบการณ์และความรู้ที่กระทำสืบเนื่องกันมาจนเป็นทักษะในการดูแลสุขภาพ อ. ที่ 5 อนามัยสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 31 เผ่า ประกอบด้วย กิจกรรมเกี่ยวกับด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยลักษณะที่ตั้งหมู่บ้าน ความปลอดภัย สิ่งรบกวน ความอุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ตลอดจนผู้นำชุมชน ผู้อาวุโส ที่ช่วยรักษาสภาพอนามัยสิ่งแวดล้อมชุมชน ให้ปลอดภัยแก่สมาชิกในชุมชน เพราะชุมชนต้องพึ่งพาอาศัยแหล่งธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ซึ่งชุมชนห่างไกลจากชุมชนเมืองจึงต้องช่วยเหลือพึ่งพิงซึ่งกันและกัน อ. ที่ 6 อบายมุข คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่ามีกิจกรรมเกี่ยวกับด้านอบายมุข ประกอบด้วย กฎข้อห้ามชุมชนเผ่า สิ่งเสพติด เช่น บุหรี่ เหล้า และสิ่งมึนเมาต่างๆ ประชาชนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่า จะมีกฎข้อห้ามประจำเผ่าแต่ละเผ่า สิ่งเสพติดในชุมชนจะมีกฎข้อห้ามให้สมาชิกในชุมชนผลิตสิ่งเสพติดในแต่ละชุมชนแต่ละเผ่า เป็นกฎข้อห้ามรุนแรงของชุมชน แต่ให้กระทำเฉพาะในเทศกาลประเพณี วัฒนธรรมของชนเผ่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น ยกเว้นกฎข้อห้ามของชุมชนต้องดำเนินต่อไป เมื่อนำมาเปรียบเทียบการเรื่อง อ. ที่ 3 ด้านอบายมุขตามนโยบายเมืองไทยแข็งแรงแล้วประชาชนชาวไทยภูเขา ทั้ง 3 เผ่า ไม่กระทำผิดกฎข้อห้ามของชุมชน สิ่งเสพติดค่อยๆ ลดลงเพื่อไม่ให้ไปสู่ลูกหลานในชุมชน และมุ่งมั่นไม้ให้สมาชิกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงเสพสิ่งเสพติดที่เป็นโทษต่อสุขภาพร่างกายและชุมชนปลอดภัยจากสิ่งเสพติด (หน้า, 95-100) |
|
Social Cultural and Identity Change |
กลุ่มชนเผ่าเกิดการเรียนรู้การดูแลสุขภาพจากการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ การใช้ประสบการณ์เดิมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน จากวัฒนธรรม ประเพณีพิธีกรรม และความเชื่อ ภูมิปัญญาท้องถิ่นในรูปแบบของกระบวนการเรียนรู้ในครอบครัวที่มีลักษณะของการสั่งสอน ถ่ายทอดจากผู้อาวุโสในครอบครัวไปสู่ลูกหลานและเครือญาติ กระบวนการเรียนรู้ในระบบพื้นบ้าน มีลักษณะของความเชื่อถือ ศรัทธา และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนการเปลี่ยนทางสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา การเมืองการปกครอง วัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรม และความเชื่อ รวมไปถึงปัจจัยภายนอกที่สนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้จากภายในนอกชุมชนหรือปัจจัยภายใน คือ การเปลี่ยนแปลงความเชื่อเกี่ยวกับการดูแลป้องกันและการส่งเสริมสุขภาพ ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เนื่องด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นตลอดจนความเชื่อ ระบบคุณค่า ระบบความคิด ของชุมชน เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเชื่อมโยงในชุมชนเอาไว้ด้วยกัน องค์ความรู้ต่างๆ ที่สัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของคนในชุมชน ได้แก่ การทำมาหากิน การกินอยู่หลับนอน ในชีวิตประจำวัน การจัดการเกี่ยวกับปัจจัยสี่ ได้แก่ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม อาหารและยารักษาโรค
ภูมิปัญญาเป็นบ่อเกิดของพฤติกรรมของบุคคลและสังคมซึ่งถูกถ่ายทอดมาเป็นความเชื่อ ระบบคุณค่า ระบบความคิดของสมาชิกในชุมชน รูปแบบของการถ่ายทอดอาจที่ถูกบันทึกเป็นตำราหรือคู่มือต่างๆ หรือถ่ายทอดโดยการบอกเล่าตามความทรงจำหรือการยึดถือปฏิบัติสืบต่อๆ กันมา เช่น ภูมิปัญญาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการทำมาหากิน ภูมิปัญญาเกี่ยวกับวิถีชีวิต ภูมิปัญญาเกี่ยวกับสมุนไพร เป็นต้น ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นสิ่งที่มีรากฐานมาจากความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับธรรมชาติ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการควบคุมให้ปฏิบัติต่อสิ่งต่างๆ ในขอบเขตที่พอดี ทำให้วิถีชีวิตในสังคมดำรงอยู่ได้ด้วยสันติสุข หรือชุมชนได้ตั้งกฏเกณฑ์ต่างๆ พิธีกรรม เพื่อเป็นฐานความคิดหรือสิ่งกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมทางจริยธรรมขึ้น รวมถึงการปรับและการพัฒนาสร้างสวรรค์ขึ้นใหม่ จึงเป็นเครื่องมือแสดงออกว่ามีภูมิปัญญาท้องถิ่นอยู่ (หน้า, 96-100) |
|
Map/Illustration |
ตาราง
- กิจกรรมที่ปฏิบัติในรอบ 1ปี ของเผ่าลาหู่ (มูเซอ) (หน้า, 28)
- กิจกรรมที่ปฏิบัติในรอบ 1ปี ของเผ่าอาข่า (อีก้อ) (หน้า, 51)
- กิจกรรมที่ปฏิบัติในรอบ 1ปี ของเผ่ากะเหรี่ยง (หน้า, 61)
- จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตาม เพศ อายุ ชนเผ่า สมรส และศาสนา (หน้า, 73)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 1ด้านออกกำลังกาย (หน้า, 81)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 2ด้านอาหาร (หน้า, 83)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 3ด้านอารมณ์ (หน้า, 85)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 4ด้านอโรคยา (หน้า, 85)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ 5ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (หน้า, 89)
- วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวของคุณภาพชีวิต อ. ที่ ด้านอบายมุข (หน้า, 91) |
|
|