|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),ผู้นำกะเหรี่ยง,กลยุทธ์,ต่อต้านรัฐ,เชียงใหม่ |
Author |
Kwanchewan Buadang |
Title |
Resistance Strategies of a Karen Leader in Northern Thailand |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ปกาเกอะญอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
12 |
Year |
2540 |
Source |
สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
บทบาทความสำคัญของผู้นำชุมชนกะเหรี่ยงและความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในชุมชน แนวทางที่ผู้นำชุมชนแสดงออกนั้นเป็นส่วนที่เกิดจากความต้องการในทิศทางเดียวกันของคนในชุมชน ซึ่งมีความสัมพันธ์ของกลุ่มอำนาจทั้งจากภายในและภายนอก การยอมรับรัฐมีแนวทางการปฎิบัติทั้งในการให้ความร่วมมือ การต่อรอง และความขัดแย้งที่เกิดขึ้น การเปลี่ยนปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดการจัดการชุมชนแบบใหม่ที่เกิดขึ้นภายใต้ความสัมพันธ์ของการปกครองจากรัฐและชุมชน (หน้า 11) |
|
Focus |
ศึกษาบทบาทและสถานภาพของผู้นำชุมชนกะเหรี่ยง กลยุทธ์ในการสัมพันธ์กับรัฐไทยของชุมชนแต่ละชุมชนในแง่การให้ความร่วมมือ การต่อรอง รวมถึงการโต้แย้งต่อแนวทางการดำเนินงานของรัฐ (หน้า 9-11) |
|
Ethnic Group in the Focus |
กะเหรี่ยงในพื้นที่ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
กันยายน ค.ศ.1997 - ตุลาคม ค.ศ.1999 |
|
History of the Group and Community |
หมู่บ้านอยู่ในพื้นที่ปัจจุบันมากว่า 200 ปี มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในหมู่บ้านโดยเฉพาะในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา เช่น การติดตามครูบาศรีวิชัยและครูบาขาวปี๋ ในช่วงปี 1930-1970 และหมู่บ้านเคยเป็นพื้นที่ผลิตฝิ่นในช่วง 50 ปีที่แล้ว โดยม้งได้ปลูกฝิ่นอยู่เพียงไม่ก็ปีและได้ทิ้งไร่ไป ต่อมาได้มีชาวภาคเหนือจากที่ราบเข้ามาและทำการปลูกฝิ่นทั้งในพื้นที่เดิมที่ตนเคยปลูกและในป่า กะเหรี่ยงหลายคนได้เข้ามาทำงานในไร่ฝิ่นเหล่านี้ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1958 รัฐบาลได้ประการว่าการปลูกฝิ่นเป็นสิ่งผิดกฏหมาย การปลูกลดน้อยลงจนหมดไปในปี ค.ศ.1987 นอกจากนี้ ได้มีการเข้ามาของทหารพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ในปี ค.ศ.1970 ส่งผลกระทบต่อกะเหรี่ยง มีกะเหรี่ยงบางกลุ่มเข้าร่วมกับพรรค ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหากับรัฐ เช่น ปัญหาการตัดไม้ การปลูกฝิ่น เป็นต้น ภายหลังจากการถอยร่นของทหารออกจากพื้นที่หมู่บ้านในราวปี 1980 โครงการพัฒนาจากรัฐได้เริ่มเข้ามาในหมู่บ้านโดยโครงการแรกเกิดขึ้นในปี 1981 นอกจากนี้ ยังมีองค์กรจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือในโครงการต่างๆ สำหรับในปัจจุบัน ปี 1997 องค์กร CARE ได้เข้ามาสนับสนุนการเพาะปลูกผลไม้ยืนต้นและการรักษาป่า เพื่อแก้ไขปัญหาการขยายที่ทำกิน และการทำไร่หมุนเวียนที่ถูกกล่าวว่าเป็นการทำลายป่า (หน้า 2-7) |
|
Economy |
การทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมคือการทำไร่หมุนเวียนใช้พื้นที่ 1 ปี แล้วทิ้งระยะให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ก่อนที่จะกลับมาใช้อีกครั้ง และยังมีการปลูกฝิ่น โดยกะเหรี่ยงเรียนรู้วิธีการปลูกฝิ่นจากม้ง จากการเข้าไปเป็นแรงงานในไร่ฝิ่น อย่างไรก็ตาม ฝิ่นได้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายและถูกปราบปรามจากรัฐจนหมดไปในปี ค.ศ.1987 และรัฐได้จัดโครงการพัฒนาพื้นที่สูงขึ้นเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น ปัจจุบัน การทำเกษตรกรรมของกะเหรี่ยงได้กลายเป็นการใช้พื้นที่เดียวติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายปี และเปลี่ยนแปลงพืชที่ปลูกมาเป็นพืชเศรษฐกิจ ใช้ปุ๋ย สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มมากขึ้น ภายใต้การสนับสนุนโดยกรมพัฒนาที่ดินของรัฐบาล (หน้า 1-2) นอกจากนี้ยังมีองค์กรต่างประเทศเข้ามาส่งเสริมโครงการต่าง ๆ เช่น องค์กร CARE เข้ามาสนับสนุนการปลูกผลไม้ ในปี 1983-1992 (หน้า 3) |
|
Social Organization |
ความพยายามของชุมชนผ่านอำนาจและบทบาทของหัวหน้าชุมชนในการจัดการสังคม ในแนวทางที่กลุ่มคนในชุมชนส่วนใหญ่ต้องการไม่ว่าจะเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิม การเข้ามามีบทบาทในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยความสัมพันธ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มสังคมชุมชนและกับกลุ่มภายนอกรวมถึงรัฐ องค์กรอิสระต่าง ๆ (หน้า 11) |
|
Political Organization |
ในอดีตผู้นำหมู่บ้านแบบดั้งเดิมคือ Ze Kho เป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อหมู่บ้านในการประกอบพิธีกรรมในความเชื่อดั้งเดิม เช่น พิธีสำหรับที่นา แม่น้ำ เป็นการบูชาและขอขมาต่อเทพเจ้า เพื่อให้ผลผลิตไม่ได้รับความเสียหาย แต่ปัจจุบันผู้นำหมู่บ้านเปลี่ยนไป ได้รับการเลือกตั้งจากผู้คนในชุมชน และเป็นเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นช่วยประสานงานระหว่างรัฐกับประชาชน บทบาทของหัวหน้าหมู่บ้านเปลี่ยนไปจากเดิมที่ทำพิธีกรรมมาเป็นการต่อรองกับรัฐ สร้างระบบเศรษฐกิจที่ดีให้กับชุมชน และจัดการในเรื่องอื่น ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา การใช้ทรัพยากรภายในหมู่บ้านและการประสานความร่วมมือกับหมู่บ้านอื่นๆ ผู้นำคนปัจจุบันคือ บุญ เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี ค.ศ.1993 บุญเป็นคนจากที่อื่นแต่เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน 10 ปีมาแล้ว เขาเคยบวชเป็นพระหลายปีและจบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 เคยทำงานกับรัฐและ องค์กรเอกชน (NGO) หลายปี ในช่วงที่บุญเป็นผู้นำได้แสดงบทบาทให้คนในหมู่บ้านได้เห็นว่าเขามีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน (หน้า 3-6) บทบาทในทำงานด้านต่าง ๆ ของบุญ เช่น 1. การสร้างความสัมพันธ์ของคนในชุมชน : ในอดีตเกิดความขัดแย้งในกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาพุทธ คนในหมู่บ้านแยกกันอย่างชัดเจนในการจัดงานในพิธีทางศาสนา บุญได้เข้ามาสร้างให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันขึ้น และเมื่อมีงานไม่ว่าจะเป็นในศาสนาใดให้ทุกคนช่วยเหลือกันและมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมที่เกิดในชุมชน 2. การสร้างความสัมพันธ์กับหัวหน้าชุมชนอื่น : เมื่อมีการพบปะประชุมของผู้นำชุมชนในท้องที่ต่าง ๆ บุญได้สร้างความสัมพันธ์ของเขากับหัวหน้าชุมชนอื่นเพื่อให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของเขา เช่น จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ 3. ความสัมพันธ์กับกลุ่มองค์กรอิสระ (NGO) : เขาได้รับเชิญจากองค์กรอิสระในการประชุมเสนอแนวทางในการแก้ปัญหา HIV ยาเสพติดและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ 4. การหันกลับมาสนในวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชน : บุญพยายามสืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมให้คงอยู่ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ การทำพิธีกรรมในไร่นาเพื่อผลผลิตที่ดีไม่เสียหาย การพยายามหันกลับไปทำไร่หมุนเวียนซึ่งไม่ได้ทำลายป่าอย่างที่เข้าใจกันโดยทั่วไป โครงการของเขาเป็นความพยายามที่จะสืบทอดองค์ความรู้ดั้งเดิมในหลากหลายด้านให้คงอยู่ต่อไป (หน้า 7-8) การทำงานของบุญเป็นส่วนหนึ่งของที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของชุมชนในการจัดการและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในชุมชน สร้างความเข้มแข็งและความเป็นอิสระในการดำรงวิถีชีวิตของคนในชุมชน |
|
Belief System |
มีการนับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ ในศาสนาพุทธการนับถือครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี๋ ในช่วง 1930-1970 ครูบาได้มีอิทธิพลอย่างมากต่อความเชื่อดั้งเดิมของกะเหรี่ยง การเปลี่ยนศาสนาบ่อยครั้งเช่นเปลี่ยนจากนับถือพุทธเป็นนับถือศาสนาคริสต์หรือเปลี่ยนกลับมา รูปแบบความเชื่อดั้งเดิมบางประการยังคงได้การสืบทอดอยู่เช่นเดียวกัน |
|
Education and Socialization |
ครูประถมเข้ามาสอนในหมู่บ้านในปี 1990 แต่เขาไม่ได้สอนหนังสือมากนักส่วนใหญ่จะกินเหล้า และให้เด็กขายไอศกรีมหาเงินมาใช้ส่วนตัว ชาวบ้านร้องเรียนไปทางหัวหน้าสถานศึกษาแต่ไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งในปี 1995 ซึ่งบุญเป็นผู้นำหมู่บ้านได้ร้องเรียนอีกครั้งจนในที่สุดครูได้ย้ายออกไป (หน้า 4-5) |
|
Health and Medicine |
หมอรักษาผู้ป่วยในหมู่บ้านในแบบประเพณีดั้งเดิมและมีผู้เชี่ยวชาญทางพิธีกรรมซึ่งเคยติดตามครูบา เพื่อเรียนรู้คาถาอาคม สำหรับใช้ในการรักษาโรค เนื่องจากผู้คนยังคงเชื่อในเรื่องของการถูกผีรบกวน (ผิดผี) อันจะทำให้เกิดความเจ็บป่วยได้ และมีการรักษาโรคโดยการใช้บริการที่โรงพยาบาลประจำอำเภอเช่นเดียวกัน (หน้า 2-3) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
การแต่งกายของผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงแต่งกายแบบดั้งเดิม แต่ด้ายที่ใช้ทอนำมาจากตลาดในอำเภอ และมีการใช้สีสันต่าง ๆ มากขึ้น สำหรับกลุ่มวัยรุ่นแต่งกายเหมือนคนเมืองทั่วไปแต่ใส่ชุดแบบดั้งเดิมในบางโอกาส ส่วนผู้ชายส่วนใหญ่แต่งกายเหมือนคนเมืองทั่วไป (หน้า 1-2) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
การติดตามครูบาส่งผลให้เกิดเครือข่ายทางสังคมแบบใหม่ขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างกะเหรี่ยงกับชาวภาคเหนือ (หน้า 2) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การเปลี่ยนแปลงภายในชุมชนเป็นผลมาจากโครงการพัฒนาไปสู่ความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน สะพาน โรงเรียน สถานพยาบาล และโครงการพัฒนาทางด้านการเกษตรกรรมทดแทนการปลูกฝิ่น และการทำไร่หมุนเวียน ได้ส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนในระยะเวลาต่อมา (หน้า 3) |
|
|