|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มอญ สังคมและวัฒนธรรม ประเทศไทย |
Author |
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, องค์ บรรจุน (บรรณาธิการ) |
Title |
มอญในสยามประเทศ (ไทย) : ชนชาติ บทบาท และบทเรียน |
Document Type |
หนังสือ |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
มอญ รมัน รามัญ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
[เอกสารฉบับเต็ม] |
Total Pages |
79 |
Year |
2551 |
Source |
มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ |
Abstract |
งานเสวนาเรื่อง “มอญในสยามประเทศ (ไทย): ชนชาติ บทบาท และบทเรียน” บอกเล่าเรื่องราวหลากหลายประเด็น หากแต่ประเด็นแก่นสาระสำคัญ คือ ต้องการสื่อให้เห็นถึงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของผู้คนในดินแดนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในภาคพื้นทวีปอย่างสยามประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลากหลาย ก่อนจะพัฒนาและเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยในสสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นอกจากนี้ ยังมีช่วงแนะนำหนังสือ “หญิงมอญ อำนาจ และราชสำนัก” ที่ทำให้เห็นความสำพันธ์เชิงอำนาจและการสร้างเครือข่ายของผู้หญิงมอญในราชสำนักสยาม |
|
Focus |
เป็นหนังสือที่ถอดความจากงานเสวนาเรื่อง “มอญในสยามประเทศ (ไทย): ชนชาติ บทบาท และบทเรียน” จัดขึ้น ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Study Period (Data Collection) |
บอกเล่าในเชิงประวัติศาสตร์ของดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสยามประเทศนับจากสมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึง ปี พ.ศ. 2551 |
|
History of the Group and Community |
บรรยายถึงความเป็นมาของประเทศสยาม โดยวิทยากรชี้ให้เห็นว่าดินแดนในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยหลายกลุ่มชน เนื่องจากก่อนที่มนุษย์จะตั้งถิ่นฐานถาวร มนุษย์ได้เคลื่อนย้ายไปมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ มนุษย์ก็ยังเคลื่อนย้ายเช่นเดิม จนกระทั่งปัจจุบันดินแดนถิ่นนี้จึงประกอบด้วยหลากหลายกลุ่มชน ซึ่งมีการศึกษาต่อประเด็นดังกล่าวพบว่า กลุ่มคนไทยเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนย้ายเข้ามายังดินถิ่นนี้ที่เรียกว่าสุวรรณภูมิหรือไทยในปัจจุบัน ในที่สุดคนไทยที่โยกย้ายมาดังกล่าวจึงมีอิทธิพลสถาปนาความเป็นใหญ่เหนือกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ที่เจริญมาก่อน อย่างไรก็ตาม ดินแดนแห่งนี้กลับไม่เรียกว่าประเทศไทย แต่เป็นที่รับรู้ของคนต่างถิ่นว่า สยาม เสียม เซม สาม ฉาน ซึ่งคำเหล่านี้มีมานานนับพันปีแล้ว คำว่าสยามเป็นคำที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์ แต่ท้ายที่สุดประเทศสยามก็ต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็นประเทศไทยสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม วิธีการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวสะท้อนให้เห็นแนวคิดเรื่องชาตินิยมที่มีเหตุผลเบื้องต้นต้องการต่อต้านตระกูลจีนที่กำลังมีบทบาทมากขึ้นในสยามประเทศ (หน้า, 9-16; 45-48) |
|
Political Organization |
ในช่วงการแนะนำหนังสือเรื่อง “หญิงมอญ อำนาจ และราชสำนัก” ซึ่งเขียนโดย องค์ บรรจุน วิทยากรได้วิเคราะห์ให้เห็นถึงว่าหนังสือเล่มนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า ใครเป็นใคร กับเรื่องหญิงมอญในราชสำนัก ที่สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจผ่านผู้หญิงผ่านกลุ่ม (ก๊ก) ต่างๆ ว่า ราชสำนักหรือราชวงศ์จักรกรีกว่าครึ่งหนึ่งมีความเป็นมอญ (หน้า, 32-34) การที่คนมอญถวายลูกสาวสู่ราชสำนักจึงสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ทางการเมืองระบบอุปถัมภ์ราชสำนัก นำไปสู่การได้ดีของบิดา ซึ่งอาจเป็นเจ้าเมืองหรือขุนนางระดับสูง และการถวายเครือข่ายลูกสาวนำไปสู่การสร้างเครือข่ายภายในราชวังหลวง โดยการดึงหญิงมอญเข้าไปควบคุมพระราชฐาน (หน้า, 43) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
มีการกล่าวถึงว่าปี่พาทย์มอญเป็นอัตลักษณ์ทางดนตรีมอญ และการละเล่นมอญซ่อนผ้าที่มีเรื่องเล่าและตำนานแฝงอยู่ |
|
Folklore |
ในงานเสวนาบางช่วง มีการนำเสนอเรื่องตำนานอย่างมอญซ่อนผ้า ที่มาของการเล่นมอญซ่อนผ้าไม่ได้เล่นแค่ความสนุกสนานหรือการะเล่นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่ได้เป็นการละเล่นของมอญ เพราะมอญไม่เล่นตุ๊กตา แต่ในห่อผ้านั้นต้องการสื่อให้เห็นเรื่องการห่อวิญญาณ มีสติปัญญาของบรรพบุรุษที่หลงเหลือซุกซ่อนจากการรีดไถ่แย่งชิงของพม่า หนีเข้ามาผ่านชายแดนสยามและไม่เหลืออะไร นอกจากผ้าที่ห่อภูมิปัญญาเข้ามา (หน้า, 39) ใช้ชีวิตในดินแดนถิ่นนี้ |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
มอญมีเอกลักษณ์หลายอย่าง อาทิ ดนตรี ภาษาพูด หงส์ 2 ตัว เป็นสัญลักษณ์ถือกำเนิดอาณาจักรมอญ (หน้า, 23) หรืออัตลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของมอญเห็นได้จากประเพณีและพิธีกรรม อย่างสงกรานต์และอาหารข้าวแช่ (หน้า, 41) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การอพยพย้ายถิ่นของคนมอญเข้ามาในสยามประเทศ เป็นเหตุผลจำเป้นอย่างหนึ่ง (หน้า, 109) |
|
Map/Illustration |
ภาพ
ภาพวงดนตรีมอญจากสังขละบุรี ด้านหน้าซ้าย ระนาดเหล็ก ฆ้องใหญ่ ระนาดเอก หลังระนาดเอกเป็นปี่ เครื่องกำกับจังหวะที่อยู่ด้านหลัง มีตะโพน ฆ้อง ฉิ่ง (หน้า, 21)
ภาพเจ้าจอมก๊กออ (จากซ้าย) เจ้าจอมอ่อน เอี่ยม อาบ และเอื้อน ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าจอมทั้งห้าเป็นธิดาเจ้าพระยาสุรพันธพิสุทธ (เทศ บุนนาค) (หน้า, 33)
ภาพสมเด็จพระเทพศิริทรา พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (หน้า, 37)
ภาพจอมมารดากลิ่น (หน้า, 38)
ภาพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระเจ้ากรุงายาม” พ.ศ. 2394-2411/ ค.ศ. 1851-1868 และเจ้าจอมมารดา “แฮเรียด ปีเชอร์ สโตร์ ซ่อนกลิ่น” พ.ศ. 2378-2468/ 1835-1925(หน้า, 57)
ภาพพระองค์เจ้ากฤษดาภินิการ (โปรดสังเกตว่าทรงเจาะพระกรรณและสวมต่างหูแบบประเพณีมอญ) (หน้า, 60) |
|
|