|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มอญ, รำผี, การอนุรักษ์ประเพณี, จังหวัดราชบุรี, ภาคกลาง, ประเทศไทย |
Author |
สมเกียรติ ดาราเย็น |
Title |
การอนุรักษ์ประเพณีรำผีมอญของชุมชนชาวมอญตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มอญ รมัน รามัญ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย
[เอกสารฉบับเต็ม] |
Total Pages |
98 |
Year |
2554 |
Source |
วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
Abstract |
รำผีมอญเป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของชนชาติมอญ ทั้งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านการพูดคุย โดยให้เกรงกลัวต่อการกระทำผิดต่อบรรพบุรุษ มีการจัดระเบียบเครือข่าย โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ มีการพัฒนาผู้ประกอบพิธีกรรมรำผีหรือโต้ง โดยถ่ายทอดและจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม ผ่านสถาบันทางครอบครัว ตลอดจนถ่ายทอดผ่านสื่อต่าง ๆ ส่วนโครงสร้างของประเพณีการรำผีมอญที่มาจากแบบแผนดั้งเดิม มีความเคร่งครัดในการนับถือผี ให้ความสำคัญกับโต้งและข้อห้ามที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมดังกล่าว ซึ่งผู้วิจัยมีแนวคิดในการประยุกต์เพื่อกำหนดนโยบายการอนุรักษ์ประเพณีรำผีมอญของชุมชนตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ให้เป็นแบบแผนและแนวทางในการปฏิบัติเพื่ออนุรักษ์ประเพณีของชุมชนต่อไป |
|
Focus |
ศึกษาการอนุรักษ์ประเพณีรำผีมอญของชุมชนมอญตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้นดป่ง จังหวัดราชบุรี และการนำผลวิจัยเป็นแนวทางกำหนดนโยบายการอนุรักษ์ ประเพณีรำผีมอญของชุมชนมอญตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้นดป่ง จังหวัดราชบุรี |
|
Theoretical Issues |
ผู้ศึกษานำแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์มาเป็นแนวทางศึกษาประเพณีรำผีมอญ เพื่อทำให้เห็นวิธีการอนุรักษ์ของประเพณีดังกล่าวต้องขับเคลื่อนเรื่องการค้นคว้าและแนวทางการส่งเสริมประเพณีและวัฒนธรรม ตลอดจนการรณรงค์ภาคประชาชนและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ |
|
Study Period (Data Collection) |
ใช้งานเอกสารที่เกี่ยวข้องย้อนหลังราวปี 2081 ถึงราว พ.ศ. 2551 ขณะที่การทำงานภาคสนามอยู่ช่วงปี พ.ศ. 2553-2554 |
|
History of the Group and Community |
ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายรามัญ อพยพเข้ามาในประเทศไทย เมื่อหลายร้อยปีก่อน นับจากปี พ.ศ. 2081-2084 ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราช แห่งกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ ยังมีการเดินทางเข้ามาอีกหลายระลอก ในช่วงสมัยอยุธยา ธนบุรี จนถึงต้นรัตนโกสินทร์ อพยพเข้ามาจากเมืองหงสาวดีประเทศพม่า เข้ามาพึ่งบรมโพธิสมภาร มารวมอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ประกอบอาชีพสุจริต ดำเนินชีวิตอย่างสงบราบเรียบ และใฝ่ธรรมป็นปกตินิสัยของชนชาติมอญ สำหรับวัดใหญ่นครชุมน์ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างมาแต่ ปี พ.ศ.ใด ตามข้อสันนิษฐานของคนเก่าแก่ในพื้นบ้าน ประกอบหลักฐานที่ค้นพบบางสิ่งบางประการ เชื่อว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่แห่งยุคทวาราวดี มีอายุกว่าพันปีมาแล้ว ซึ่งกลายเป็นวัดร้างแทบไม่เหลือซากปรักหักพังให้เห็น ต่อมาเมื่อมีชนชาติมอญอพยพเข้ามาอยู่ โดยสร้างหลักปักฐานมั่นคงแล้ว ได้สร้างวัดขึ้นใหม่ตรงที่วัดร้างเดิม แต่ยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์ขนาดเล็กพอให้พระอยู่อาศัยชาวบ้านได้เข้าวัดทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรม เป็นเนื้อนาบุญอันสำคัญ โดยเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านซึ่งเป็นคนมอญเป็นอย่างดี ถึงเวลาสงกรานต์มีการทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา การเล่น ตามประเพณีโบราณ ยึดมั่นไม่เสื่อมคลายมาจนถึงปัจจุบัน ศิลปะการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด เช่น กุฏิ ศาลา อุโบสถ พระเจดีย์ เป็นศิลปะของชาวมอญอย่างสมบรูณ์แบบ กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เป็นวัดโดยถูกต้องเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2484 คณะสงฆ์สังกัดมหานิกาย (หน้า, 28-31) |
|
Settlement Pattern |
ถิ่นฐานเดิมส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพมาจากประเทศพม่ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง โดยจะอาศัยอยู่มาตั้งแต่หมูที่ 1-8 ตำบลนครชุมน์เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบอาชีพการเกษตร จึงเรียกตำบลนี้ว่า นครชุมน์ (หน้า, 28-31) |
|
Demography |
ประชากรมีทั้งสิ้น 6,256 คน ชาย 2,986 คน หญิง 3,270 และ 1,573 ครัวเรือน (หน้า, 38) |
|
Social Organization |
ผู้ศึกษามองว่า ความเชื่อเรื่องผีเป็นสิ่งที่ยึดเหน่ยวสังคม เมื่อผู้ใดทุกข์ร้อนใจก็จะมาบนบานศาลกล่าว ผีศาลเจ้าจึงเปรียบสัญลักษณ์แทนความเชื่อที่ทำให้คนเคารพนับถือ โดยเฉพาะผีประจำตระกูลจะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของเครือญาติไว้ด้วยกัน (หน้า, 30-31 ) |
|
Belief System |
ชาวมอญให้ความสำคัญกับการการนับถือผี สมาชิกในครอบครัว จะได้รับการสอนให้รู้จัก และนับถือผีบรรพบุรุษประจำตระกูลของตน ทุกครอบครัว มักกำหนดให้ลูกชายคนโตเป็น “ต้นผี” หรือ “ผู้รับผี” ซึ่งจะเป็นผู้สืบทอดการเลี้ยง และการทำพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดสิริมงคล โชคดี และความสุขในครอบครัว ญาติพี่น้องที่อยู่ไกลๆ หรือใกล้จะต้องกลับมาร่วมประกอบพิธีดังเห็นได้๗ก ทุกหลังคาเรือนให้ความสำคัญกับ “เสาเอก” ของบ้าน จะถือเป็นเสาหลัก เป็นเสาที่นับถือที่สุด เพราะเป็นที่ไว้ผีบรรพบุรุษ นอกจากนี้ ชาวมอญยังนับถือพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด สะท้อนให้เห็นจากวิถีชีวิตประจำวัน พิธีกรรมเกี่ยวกับชีวิตและพิธีกรรมในรอบปีตลอดชีวิตของชาวมอญสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับวัดตลอด ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย นอกจากนี้ ยังมีประเพณีงานบุญใหญ่ทางพุทธศาสนาของชาวมอญ ทำให้ชาวบ้านมีการรวมกลุ่ม และผูกพันเคร่งครัดในพุทธศาสนา |
|
Education and Socialization |
ในงานศึกษาเรื่องนี้ ผู้ศึกษามองว่านับถือผีเป็นรูปแบบหนึ่งของการส่งต่อความรู้ ทำให้ชาวบ้านอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข มีความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจ ในการทำงานให้ชุมชนและวัด ทำให้วัฒนธรรมเดิม ยังดำรงอยู่ได้ และยังมีพลังในการรักษาชุมชนหมู่บ้าน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจภายนอก |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ปัจจัยที่มีส่วนช่วยทำให้เกิดการธำรงชาติพันธุ์ทางคนมอญในเรื่องความเรื่อเรื่องผีบรรพบุรุษ ประกอบด้วย การที่บรรพบุรุษของคนมอญสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนและการตั้งถิ่นฐานยาวนานเป็นเวลาต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดความผูกพันในถิ่นฐาน นอกจากนี้ ภาษามอญที่ใช้ในการสื่อสาร รวมถึงการมีพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะพิธีกรรมที่สัมพันธ์กับความเชื่อเรื่องผี สิ่งเหล่านี้จึงสะท้อนให้เห็นเป็นรูปแบบ วิถีชีวิต และความเป็นที่บ่งบอกอัตลักษณ์ของความเป็นมอญ |
|
Social Cultural and Identity Change |
ผู้ศึกษาเสนอวิธีการดำเนินรักษาให้การอนุรักษ์ประเพณีรำผีมอญดำรงอยู่ได้ประกอบด้วย การบันทึกเก็บความจากผู้เล่าเรื่องที่มีความรู้ การได้รับจากบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมา การใช้ระบบสื่อต่างๆ เป็นประเพณีที่เก่าแก่ เป็นกฎเกณฑ์ของชุมชน และฒีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายที่สัมพันธ์กับการรำผี (หน้า, 80-88) |
|
Other Issues |
ประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่เน้นในงานศึกษาวิจัยนอกเหนือจากหัวข้อที่กำหนดไว้ |
|
Map/Illustration |
ภาพ
- ภาพกรอบแนวคิดในการวิจัย (หน้า, 8)
- ภาพเครื่องผี (หน้า, 18)
- ภาพเครื่องเซ่นไหว้ (หน้า, 18)
- ภาพวัดใหญ่นครชุมน์ (หน้า, 29)
- ภาพวัดตาผา (หน้า, 30)
- ภาพวัดหัวหิน (หน้า, 30)
ตาราง
- ตารางแสดงอาชีพของผู้ให้ข้อมูล (หน้า, 43)
- ตารางแสดงระดับการศึกษาของผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (หน้า, 43)
- ตารางแสดงระยะเวลาที่อยู่ในชุมชนของผู้ให้ข้อมูล (หน้า, 44) |
|
|