|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
รำมอญ, การสร้างมาตรฐาน, ศิลปะการแสดง, จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี, ภาคกลาง, ประเทศไทย |
Author |
ดุสิตธร งามยิ่ง |
Title |
รำมอญ: การสร้างมาตรฐานการรำเพื่อสืบสานศิลปะการแสดงของชาวไทยรามัญ |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
มอญ รมัน รามัญ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
[เอกสารฉบับเต็ม] |
Total Pages |
346 |
Year |
2557 |
Source |
ดุสิตธร งามยิ่ง. (2557). รำมอญ: การสร้างมาตรฐานการรำเพื่อสืบสานศิลปะการแสดงของชาวไทยรามัญ. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (วัฒนธรรมศาสตร์) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. |
Abstract |
ความเป็นมา สภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญ ในด้านกระบวนการรำ ทำนองเพลงและดนตรี การแต่งกาย ผู้แสดง ระยะเวลาในการรำ และพิธีกรรม จารีตมีความคล้ายคลึงกัน และ แตกแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ ความต้องการในการสร้างมาตรฐานการรำ พบว่า มีความต้องการที่คล้ายคลึงกัน ทั้งทางด้านกระบวนการรำ ด้านทำนองเพลง ดนตรี ด้านการแต่งกาย ด้านผู้แสดงด้านระยะเวลาในการรำ และด้านพิธีกรรม จารีต กล่าวคือ ควรจะมีความเป็นแบบแผนดั้งเดิมไม่ควรเปลี่ยนแปลง เพื่อแสดงถึง ความเป็นอัตลักษณ์ของรำมอญ การสร้างมาตรฐานการรำ สรุปได้ว่าด้านกระบวนการรำ มีตัวบ่งชี้ 6 ตัวบ่งชี้ ได้กำหนดคะแนน ในเกณฑ์การปฏิบัติไว้ 170 คะแนนด้านทำนองเพลง ดนตรี มีตัวบ่งชี้ 3 ตัวบ่งชี้ ได้กำหนดคะแนน ในเกณฑ์การปฏิบัติไว้ 195 คะแนน ด้านการแต่งกาย มีตัวบ่งชี้ 1 ตัวบ่งชี้ ได้กำหนดคะแนน ในเกณฑ์การปฏิบัติไว้ 30 คะแนน ด้านผู้แสดงมีตัวบ่งชี้ 6 ตัวบ่งชี้ ได้กำหนดคะแนน ในเกณฑ์การปฏิบัติไว้ 80 คะแนน ด้านระยะเวลาในการรำมีตัวบ่งชี้ 2 ตัวบ่งชี้ ได้กำหนดคะแนน ในเกณฑ์การปฏิบัติไว้ 25 คะแนน ด้านพิธีกรรม จารีต มีตัวบ่งชี้ 3 ตัวบ่งชี้ ได้กำหนดคะแนน ในเกณฑ์การปฏิบัติไว้ 40 คะแนน สำหรับเกณฑ์ในการประเมินจะต้องได้ 80% จึงจะผ่านเกณฑ์ในการประเมิน |
|
Focus |
ศึกษาความเป็นมา สภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญ ศึกษาความต้องการในการสร้างมาตรฐานการรำ และการสร้างมาตรฐานการรำเพื่อสืบสานศิลปะการแสดงของชาวไทยรามัญ |
|
Theoretical Issues |
ผู้ศึกษาใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยอาศัยแนวคิดและทฤษฎีทางสังคมวิทยามานุษยวิทยาและวัฒนธรรม ได้แก่ ทฤษฎีสุนทรียศาสตร์, ทฤษฎีการแพร่กระจายทางวัฒนธรรม และทฤษฎีโครงสร้างหน้าที่นิยม เป็นแนวทางในการศึกษา ศึกษาความเป็นมา สภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญของชาวไทยรามัญ ในด้าน 6 ด้าน กระบวนการรำทำนองเพลง ดนตรี การแต่งกาย ผู้แสดง ระยะเวลาในการรำและพิธีกรรม โดยเก็บประเด็นสำคัญในการศึกษาจากเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การลงพื้นที่หาข้อมูล โดยการสังเกต สัมภาษณ์ ตลอดจนบริบททางสังคมและวัฒนธรรม มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ จนค้นพบข้อมูลที่นำไปสู่การสร้างมาตรฐานการรำเพื่อสืบสานศิลปะการแสดงของชาวไทยรามัญ |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มคนไทยเชื้อสายมอญในจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี |
|
Study Period (Data Collection) |
งานเอกสารย้อนหลังสมัยอุธยาจนร่วมสมัยกับปัจจุบัน (พ.ศ. 2557) งานภาคสนามราว ปี พ.ศ. 2555-2557 |
|
History of the Group and Community |
คนไทยเรียกพวกมอญว่า "รามัญ" ซึ่งเป็นชนชาติหนึ่งที่อาศัยอยู่ในดินแดนสุวรรณภูมิ ชาวยุโรปและอาหรับเรียกมอญ ว่า "ตะเลง" สันนิษฐานว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า "ตะเลงคอนา" ซึ่งเป็นชื่อรัฐหนึ่งในประเทศอินเดีย ชนชาติมอญได้ตั้งรัฐะครั้งแรกที่เมืองสะเทิม ต่อมาได้สถาปนาเป็นชนชาติมอญที่เมืองหงสาวดี และถูกพม่ารุกรานพ่ายแพ้สูญเสียเมืองหงสาวดีเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2300 ในที่สุด มอญจึงกลายเป็นชนชาติที่ไม่มีประเทศ บางกลุ่มไม่ต้องการอยู่ภายใต้อำนาจของพม่า จึงได้พากันอพยพมาโยกย้ายเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในไทย ตั้งแต่สมัยอยุธยา ในรัชกาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้นมา โดยได้ ตั้งบ้านเรือนแถวสามโคก จังหวัดปทุมธานี เกาะเกร็ดจังหวัดนนทบุรีและพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มอญที่อพยพมาในครั้งนั้น เรียกว่า "มอญเก่า" ต่อมาในรัชกาลของพระเจ้าตากสินมหาราช พ.ศ. 2317 พระยาแจ่ง เจ้าเมืองเมาะลำเลิง ได้อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ตั้งถิ่นฐานเมืองนนทบุรี เรียกว่า "มอญใหม่" ในต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พ.ศ. 2358 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชาวมอญเข้าตั้งภูมิลำเนาอยู่ในเขตเมืองปทุมธานี นนทบุรี นครเขื่อนขันธ์ (พระประแดง) ในรัชกาลของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2367 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชาวมอญไปตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นอกกำแพงเมืองพระนครแถวหน้าวัดชนะสงคราม ชุมชนชาวมอญ ในเกาะเกร็ดได้เคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี โดยการนำของพระยาแจ่ง แม่ทัพมอญ พาครอบครัวมอญกวานอาหม่าน ครอบครัวนักดนตรีและมอญรำมาอยู่ที่แห่งนี้ (หน้า, 3; 12-16) |
|
Settlement Pattern |
สำหรับในการปลูกสร้างบ้านเรือนชาวมอญจะมีความเชื่อว่าจะต้องดูลักษณะสัณฐานดินที่เหมาะ เช่น ที่ดินสัณฐานสี่เหลี่ยม ที่ดินหน้ากว้างเล็ก (สั้น) ด้านยาวยาวมาก ส่วนลักษณะที่ดินที่ราบเรียบ เชื่อว่า ทำให้มียศหรือบันดาศักดิ์สูง ถ้าปลูกสร้างบ้านบนที่ดินและปลูกเรือนเดือนยี่เดือน 4, 6, 9 และ เดือน 12 วันอาทิตย์หรือวันพฤหัสบดี เชื่อว่าจะมีลาภและมีความเจริญรุ่งเรืองปราศจากโรคภัยสูง ถ้าปลูกเรือนเดือนอ้ายถึงเดือน 3 ให้หันหน้าทางทิศตะวันตก (หน้า, 12-16) |
|
Belief System |
ชาวมอญส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาควบคู่กับการถือผีบรรพบุรุษ ผีบ้าน ผีเรือนและอื่นๆชาวมอญมีความเชื่อที่เกี่ยวกับ เรื่องตุ๊กตา โดยห้ามนำตุ๊กตาเข้าบ้านเพราะเชื่อว่ามีผีสิงอยู่ในตุ๊กตามีพิธีรำเข้าทรง ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 คนมอญมีประเพณี และวัฒนธรรมที่หลายหลาก เริ่มตั้งแต่ประเพณีเกี่ยวกับชีวิต ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งสิ้นชีวิต เช่น ประเพณีการโกนผมไฟ ประเพณีการโกนจุก ประเพณีการบวช ประเพณีการทำศพ ประเพณีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น ประเพณีเข้าพรรษา ประเพณีออกพรรษา ประเพณีเนื่องในเทศกาลต่างๆ เช่น ประเพณีสงกรานต์ โดยมีกิจกรรมวัฒนธรรม วิถีต่างๆ ระหว่างเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ การทำข้าวแช่ จัดพิธีสรงน้ำพระ แห่หางหงส์ ธงตะขาบ ปล่อยนก ปล่อยปลา จัดพิธีทำบุญบ้าน การเล่นสะบ้า การปฏิบัติหลาย ประการของมอญมีความเชื่อและนับถือว่า สามารถป้องกันความอัปมงคล สร้างความสุขให้กับครอบครัว ในประเพณี 12 เดือนของชาวมอญ จะประกอบไปด้วยสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทางด้านพระพุทธศาสนา ได้แก่ เดือนจะทำบุญด้วยกาลทาน 5 ประการ เดือนกุมภาพันธ์ ทำบุญด้วยฟืนเพื่อพระภิกษุผิงไฟและถวายผ้าห่มกันหนาว ถวายข้าวยาคู เดือนมีนาคม จัดพิธีสักการะและสมโภชพระเจดีย์เลียะเกิงที่เมืองย่างกุ้ง เดือนเมษายน มีการทำบุญปล่อยนก ปล่อยปลา สรงน้ำพระ คาราวะผู้ใหญ่และแห่นางสงกรานต์และแห่ข้าวแช่ เดือนพฤษภาคม ทำบุญและรดน้ำต้นโพธิ์ รวมถึงปลูกต้นโพธิ์ตามวัดเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เดือนมิถุนายน นิยมบวชลูกหลาน เดือนกรกฎาคม จัดพิธีหล่อและแห่เทียนพรรษาและถวายผ้าอาบน้ำฝน เดือนสิงหาคม นิยมทำบุญแก่มูลนิธิ เพื่อเก็บดอกผลบำรุงพระศาสนา เดือนกันยายนทำบุญตักบาตรน้ำผึ้ง เดือนตุลาคมทำบุญออกพรรษา ตักบาตรเทโวและตักบาตรดอกไม้และมีการแข่งเรือและรำมอญ เดือนพฤศจิกายน ทำบุญทอดกฐินและทอดผ้าป่า เดือนธันวาคมมอญนิยมทำบุญด้วยผลผลิตของเกษตรกรรมใหม่ เช่น ข้าวใหม่ (ตำข้าวเม่า) และนำผลไม้ต่างๆ ซึ่งออกผลใหม่ถวายพระ (หน้า, 2-3) |
|
Education and Socialization |
ผู้ศึกษาใช้องค์ความรู้เรื่องการรำมอญเป็นสื่อผ่านการศึกษา |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
รำมอญถือว่าเป็นการรำที่ใช้ประกอบในพิธีการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งถือว่าเป็นการยกย่อง ในเกรียติกับผู้ที่มาเยือน และรำมอญยังได้ใช้รำให้กับผู้ที่มีฐานะทางสังคมและเป็นที่นับถือ เช่น พระสงฆ์ หลังจากที่ท่านได้มรณะภาพไปแล้ว โดยถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นมงคล เพื่ออัญเชิญและเฉลิมฉลองสู่สรวงสวรรค์ แต่ในสภาพปัจจุบันนี้รำมอญได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและกระบวนการรำ ตลอดจนจารีต ประเพณีที่นำรำมอญไปแสดง วงปี่พาทย์มอญและรำมอญใช้บรรเลงหรือรำเฉพาะงานศพเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วสามารถบรรเลงได้ทั้งงานมงคลและงานอวมงคล ปัจจุบันวงปี่พาทย์มอญเหลืออยู่เพียงไม่กี่คณะและลดความนิยมลงเนื่องด้วยกระแสโลกาภิวัตน์ที่เปลี่ยนทิศทางของวัฒนธรรมไทยให้เบ่งบานในรูปแบบตะวันตกมากขึ้นส่งผลให้ปี่พาทย์มอญเปลี่ยนแปลงเช่นกัน (หน้า, 76-82) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ประเด็นด้านการสร้างมาตรฐานการรำเพื่อสืบสานศิลปะการแสดงของชาวไทยรามัญที่ได้จากการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ที่ยึดรูปแบบดั้งเดิม ที่มีกรอบมาตรฐานทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านกระบวนการรำ ด้านทำนองเพลง ดนตรี ด้านการแต่งกาย ด้านผู้แสดง ด้านระยะเวลาในการรำ และด้านพิธีกรรม จารีต เพื่อเป็นการกำหนดรูปแบบในการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของรำมอญในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี ที่มีอัตลักษณ์บ่งบอกถึงความงามและภูมิปัญญา ท้องถิ่น หากไม่มีองค์ประกอบดังกล่าว อัตลักษณ์ความเป็นมอญจะไม่สามารถสื่ออกมาได้ (หน้า, 294-330) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การสร้างมาตรฐานการรำเพื่อสืบสานศิลปะการแสดงของชาวไทยรามัญที่ได้จากการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ที่ยึดรูปแบบดั้งเดิม ที่มีกรอบมาตรฐานทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านกระบวนการรำ ด้านทำนองเพลง ดนตรี ด้านการแต่งกาย ด้านผู้แสดงด้านระยะเวลาในการรำ และ ด้านพิธีกรรม จารีต จะทำให้การรำมอญนั้นเกิดอัตลักษณ์ที่เด่นชัดบ่งบอกถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีการอนุรักษ์ ไม่ให้เกิดการสูญหาย โดยเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น (หน้า, 294-330) |
|
Map/Illustration |
ภาพ
ภาพท่ารำ ถะบะชาน (1) (สังเวย) (หน้า, 102)
ภาพท่ารำ ฮะบายขะนมจีน (ขนมจีนน้ำยา) (หน้า,109)
ภาท่ารำ อะเรียงเดิง (กลับเมือง) (หน้า, 110)
ภาพท่ารำ ถะบะชาน (1) (หน้า, 119)
ภาการแต่งกายรำมอญคณะศิลป์หลวงพ่อสอนวัดศาลเจ้า (หน้า, 181)
ภาพการแต่งกายรำมอญ ที่ใช้ในงานมงคล (หน้า, 209)
ภาพการแต่งกายรำมอญ ที่ใช้ในงานอวมงคล (หน้า, 210)
แผนที่
แผนที่จังหวัดปทุมธานี (หน้า, 43)
แผนที่อำเภทของจังหวัดปทุมธานี (หน้า,44)
แผนที่จังหวัดนนทบุรี (หน้า, 45)
แผนที่จังหวัดสมุทรปราการ (หน้า,50)
ตาราง
ตารางชื่อเพลงรำมอญและชื่อกระบวนท่ารำมอญ (หน้า, 80)
ตารางวิเคราะห์ความเป็นมาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญของชาวไทยรามัญด้านกระบวนการรำ (หน้า, 184)
ตารางวิเคราะห์ความเป็นมาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญของชาวไทยรามัญด้านทำนองเพลง ดนตรี เพลงรำมอญ คณะบ้านครูแดง (หน้า, 207)
ตารางวิเคราะห์ความเป็นมาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญของชาวไทยรามัญด้านการแต่งกาย (หน้า, 208)
ตารางวิเคราะห์ความเป็นมาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญของชาวไทยรามัญด้านผู้แสดง (หน้า, 211)
ตารางวิเคราะห์ความเป็นมาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการรำมอญของชาวไทยรามัญด้านระยะเวลาในการรำ (หน้า, 212) |
|
|