|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,เมี่ยน อิวเมี่ยน,อาข่า,ลาหู่ ลาฮู,ลีซู,กลุ่มชาติพันธุ์,การปรับตัว,เมือง,เชียงใหม่ |
Author |
Panadda Bamrung |
Title |
Ethnic Adaptation in Urban Chiang Mai |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
อ่าข่า, ลีซู, ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู, อิ้วเมี่ยน เมี่ยน, ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
14 |
Year |
2541 |
Source |
สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
การพัฒนาไปสู่ความทันสมัยส่งผลให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมบริโภคนิยม สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสังคมบนพื้นที่สูงเช่นเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของกลุ่มอพยพเข้าสู่เมืองเชียงใหม่สะท้อนให้เห็นถึงผลของการพัฒนาและปัญหาที่เกิดขึ้นบนพื้นที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพื้นที่และปลูกพืชเศรษฐกิจซึ่งทำลายภูมิปัญญาดั้งเดิมของชุมชน และการสูญเสียการจัดการทรัพยากรในท้องถิ่น ไม่สามารถดำรงชีวิตในแบบดั้งเดิม ส่งผลให้ต้องกลายเป็นแรงงานเข้ามาทำงานก่อให้เกิดปัญหาซับซ้อนทั้งยาเสพติด การค้าประเวณี และการติดเชื้อเอดส์ เมื่อเข้ามาอยู่สภาพสังคมแบบเมืองใหญ่ (หน้า 10) |
|
Focus |
ศึกษาและทำความเข้าใจสาเหตุของการอพยพเข้าสู่เมืองเชียงใหม่ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ การก่อตัวของเครือข่ายทางสังคม และแนวทางในการจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น (หน้า 1) |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูงทางเหนือของไทย ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเชียงใหม่ คือ ม้ง ลาหู่ ลีซู เย้า และ อาข่า (หน้า 7) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
เชียงใหม่เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับประเทศพม่า ลาวและจีน มีกลุ่มคนอพยพเข้ามาในพื้นที่บริเวณนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กล่าวกันว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อยู่รวมกัน แต่บางครั้งก็ไม่สามารถแยกกลุ่มที่อพยพใหม่ออกจากกลุ่มคนที่อาศัยดั้งเดิมได้ ปัจจุบันพวกเขารับวัฒนธรรมสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย เพื่อปรับตัวและยอมรับวัฒนธรรมไทย (หน้า 8) |
|
Settlement Pattern |
กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้อพยพเข้ามาในพื้นที่เมืองเชียงใหม่เพื่อทำงานและอาศัยอยู่ในร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน และชุมชนแออัด และพบกลุ่มที่เร่ร่อนไปตามถนน (หน้า 5) |
|
Economy |
ตั้งแต่ปี 1960 มีโครงการพัฒนาบนพื้นที่สูงมากมาย โดยเฉพาะการสนับสนุนการปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทนการปลูกฝิ่นแต่ราคาผลผลิตไม่แน่นอนและบางครั้งขาดทุน แนวทางในการพัฒนาได้ส่งผลกระทบต่อสภาพชีวิตและความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม และเกิดการอพยพเข้าสู่เมืองการเป็นแรงงานในระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ และปัญหาการปลูกฝิ่นแม้ว่าจะหมดไปในประเทศไทยแต่มีการนำเข้าจากประเทศใกล้เคียง กลุ่มคนบนพื้นที่สูงจากเดิมที่ไม่ได้มีเครือข่ายกับกลุ่มผู้ค้ายาภายนอกได้เข้ามาเป็นคนกลางในการขนส่งยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย และในปัจจุบันมีการใช้เฮโรอีนแทนที่ฝิ่นเนื่องจากเฮโรอีนเข้าได้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันที่ ผู้ต้องการใช้เป็นกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานหนัก และการเพิ่มขึ้นของการใช้ยาในกลุ่มนักท่องเที่ยว และการติดได้ขยายออกไปยังกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มแรงงานมากขึ้น (หน้า 3) |
|
Social Organization |
เมืองเชียงใหม่มีลักษณะเป็นสังคมพหุชาติพันธุ์มาช้านาน "ชาวเขา" เปลี่ยนการแต่งกายและถือปฏิบัติแบบคนไทย บางที่ก็ไม่อาจจะบอกความแตกต่างได้ จึงทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างสามารถเปลี่ยนจากกลุ่มหนึ่งไปเป็นอีกกลุ่มหนึ่งได้ง่ายดาย พรมแดนชาติพันธุ์จึงไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในสถานการณ์ใดมีปฏิสัมพันธ์กับใคร สถาบันสังคมเช่นเครือญาติและความผูกพันกับหมู่บ้านเดิมจึงไม่ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์แบบเป็นกลุ่มเดียวกันได้ แต่ประสบการณ์และผลประโยชน์ต่างหากที่ก่อให้เกิดความเป็นพวกเดียวกัน (หน้า 8) |
|
Political Organization |
การเรียกรวมกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ บนพื้นที่สูงว่าชาวเขาจากรัฐ ก่อให้เกิดปัญหาในด้านอัตลักษณ์ของกลุ่ม รวมถึงการมองจากรัฐว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นพวกอันตราย สร้างปัญหาในด้านความมั่นคงของชาติ ก่อให้ความขัดแย้งระหว่างรัฐและกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง ปัญหาที่สำคัญคือ การรับสัญชาติไทย ความขัดแย้งในการจัดการทรัพยากรท้องถิ่น และปัญหายาเสพติด ได้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงจนถึงปัจจุบัน (หน้า 2) |
|
Education and Socialization |
การเข้ามาของรัฐในการจัดการระบบการศึกษาแบบใหม่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียความเชื่อ ภูมิปัญญาดั้งเดิม กลุ่มคนรุ่นใหม่มีความเป็นไทยมากขึ้น แต่การศึกษาในรูปแบบใหม่มีค่าใช้จ่ายสูงบางครอบครัวผู้ปกครองไม่สามารถส่งเสียบุตรหลานได้ มีเด็กจำนวนหนึ่งเข้าไปทำงานในเมืองในช่วงวันหยุดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของตน และเมื่อต้องการศึกษาในระดับสูงจะอพยพเข้ามาเรียนในเมือง (หน้า 3-4) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
การอพยพเข้าสู่เมืองทำให้อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ สูญหายไปหรือถูกใช้ไปในด้านของการท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีการรวมตัวกันสร้างความสัมพันธ์ในชุมชนต่าง ๆ ในเมือง แต่ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะของแต่ละปัจเจกบุคคล (หน้า 5-6) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การอพยพเข้าสู่เมืองของกลุ่มคนบนพื้นที่สูงมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงผลของการพัฒนา มีความพยายามในการปรับตัวในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา แต่ในที่สุดพวกเขาได้สูญเสียวิถีการผลิตแบบดั้งเดิม สูญเสียการจัดการทรัพยากรธรรรมชาติในท้องถิ่นและการดำรงชีวิตขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ระบบตลาด เชียงใหม่เป็นสถานที่ใหม่ในการประกอบอาชีพ อาจกล่าวได้ว่าการเพิ่มขึ้นของการอพยพเป็นผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนบนพื้นที่สูงในปัจจุบัน (หน้า 5) |
|
Other Issues |
ปัญหาการค้าประเวณี ยาเสพติด และการติดเชื้อ HIV จากการสำรวจโดยสถาบันวิจัยชาวเขาในปี ค.ศ.1993 จาก 225 หมู่บ้านบนพื้นที่สูง มีผู้หญิง 1,683 คน ในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่ออกมาทำงานนอกหมู่บ้าน มี ลาหู่ 36.6% เมี่ยน 18.7% อาข่า 16.4% และลีซอ 9.8% 36.2 % ทำงานขายบริการทางเพศ นอกจากนั้นทำงานอื่น ๆ เช่น แม่บ้าน ร้านอาหาร แรงงานรับจ้าง ฯลฯ ในเมืองเชียงใหม่มีผู้หญิงชาติพันธุ์ต่างๆ บนพื้นที่สูงขายบริการทางเพศประมาณ 200 คน และนอกจากนี้ยังมีการออกไปค้าประเวณีนอกประเทศไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น มาเลย์เซีย ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นต้น กลุ่มผู้หญิงที่ค้าประเวณีมีความเสี่ยงในการติดยาเสพติดและเชื้อเอดส์ เพิ่มมากขึ้น |
|
|