ภาพ
สภาพแวดล้อมของหมู่บ้าน (หน้า 1) สภาพความเป็นอยู่บ้านม่อง เมืองเชียงตุง สิบสองปันนา (หน้า 2) ชาวไทลื้อ เมืองฮำ สิบสองปันนา (หน้า 3)ไทลื้อ เมืองแวน สิบสองปันนา กำลังทำความสะอาดไก หรือสาหร่ายน้ำจืด (หน้า 3) จิตรกรรมเล่าเรื่องศาสนาของชาวไทลื้อ (หน้า 4) หอเทวดาวัดสวนมอน เมืองฮำ สิบสองปันนา (หน้า 7) ภาพถ่ายจากเครื่องบินเหนือภูมิประเทศสิบสองปันนา (หน้า 8) ชาวลื้อมักเลือกสร้างบ้านเรือนริมน้ำ และอยู่รวมกันหลายหลังคาเรือน (หน้า 9) ภูมิประเทศ และการตั้งบ้านเรือนของชาวไทลื้อรอบเมืองเชียงรุ่ง (หน้า 10) เมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา (หน้า 10) ชาวบ้านเมืองฮาย กำลังตีกลองก้นยาวเพื่อรับแขกที่วัดลำหมื่น (หน้า 12)วัดบ้านจอม (หน้า 14) วัดไชย เมืองฮำ (หน้า 15) ชาวลื้อเมืองฮำ (หน้า 15) สภาพปัจจุบันของเมืองมุน พ.ศ. 2550(หน้า 15) เมืองแวนปัจจุบันที่กำลังถูกแทรกแซงด้วยโรงงานและซุปเปอร์ไฮเวย์ (หน้า 16) ตลาดนัดเมืองฮุน วารสารเมืองโบราณ ฉบับที่ 3กรกฎาคมถึงกันยายน 2532 (หน้า 37) การแต่งกายดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ในทุกวันนี้ แต่เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่คนไทยและนักนิยมวัฒนธรรม (หน้า 38)
ชาวไทลื้อ บ้านออนหลวย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ (หน้า 40) ชาวไทลื้อบ้านหนองบัว เมืองน่าน (หน้า 41) ชาวไทลื้อบ้านออนหลวย (หน้า 43)ชาวไทลื้อบ้านหนองบัว กำลังทำนา (หน้า 46) ชาวไทลื้อบ้านออนหลวย ในวันมาฆบูชา (หน้า 51)บ้านของไทลื้อ (หน้า 54) หมู่บ้านไทลื้อเมืองมุน สิบสองปันนา (หน้า 55)หมู่บ้านไทลื้อ เมืองแวน สิบสองปันนา (หน้า 56) ตลาดของกลุ่มไทลื้อบ้านหย่วน จังหวัดพะเยา (หน้า 57) การเกษตรของไทลื้อเมืองแวน สิบสองปันนา (หน้า 57) เสาใจบ้านโคกกะ ประเทศลาว ภาพจากวารสารเมืองโบราณ ปีที่ 12ฉบับที่ 3ก.ค.-ก.ย. 2532(หน้า 58) ภาพขวาอยู่ที่สิบสองปันนา (หน้า 58) บ่อน้ำในสิบสองปันนา ก่อที่ครอบคล้ายเจดีย์ขนาดย่อม (หน้า 59) บ้านไทลื้อเมืองมุน สิบสองปันนา (หน้า 61) บ้านไทลื้อ (หน้า 64)เติ๋น, ลูกกรงบ้านและหน้าต่างทรงสูง, ฮ้านน้ำและม้านั่ง (หน้า 65) ห้องครัวที่ยังมีเตาไฟแบบโบราณ หลังคาโปร่งระบายอากาศ เห็นโครงสร้างเครื่องไม้ หลังคา ขื่อ แป ดั้ง สะพานหนู ส่วนภาพขวาคือชานที่ติดกับครัว (หน้า 65) ภาพบนโครงสร้างบ้าน หลังคา (หน้า 66) ภาพล่างซ้ายเป็นยุ้งข้าว ภาพกลางเป็นประตูไม้เนื้อหนา เซาะร่องลูกฟัก ส่วนภาพล่างขวาเป็นบ่อน้ำข้างบันได (หน้า 66) ใช้ใต้ถุนเป็นที่คัดแยกกระเทียม (หน้า 67)ตัวอย่างบ้านไทลื้อ ที่บ้านแพะหัวฝาย ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (หน้า 67) เติ๋นมี 2แห่ง คือหน้าบ้าน,ซ้าย และหลังบ้าน, ขวา (หน้า 68) หลองข้าว สร้างใกล้กับเรือนเพื่อความสะดวกในการหยิบจับ (หน้า 68) บันไดขึ้นบ้านเป็นไม้กระดานหนา ไม่ปิดขั้นเพื่อสะดวกในการทำความสะอาด ราวบันไดทำให้แข็งแรง โดยทำราวเสริมตรงกลาง ส่วนภาพขวาเป็นแผ่นไม้ฉลุลายอย่างง่าย ใช้ประดับตรงโถงบันได (หน้า 68) ห้องครัวแบบเปิดโล่ง ตั้งตู้กับข้าวแบบเก่า (หน้า 69) โครงหลังคา ยังมีสภาพดี หลังคาเป็นกระเบื้องว่าว เป็นที่ชื่นชอบเมื่อหลายสิบปีก่อน (หน้า 69) ล้อเกวียนและสัมภาระเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน (หน้า 69)
เรือนไทลื้อหลังหนึ่ง ที่บ้านกล้วยหอม ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (หน้า 70) ฮ้านน้ำที่ยังใช้งานอยู่ ที่ตงยังมีหมุดเหล็กยึด โครงสร้างส่วนพื้นกับเสา (หน้า 71) ที่ชื้นแฉะจากน้ำล้างเท้า ทำให้ต้นไม้ชุ่มชื้น (หน้า 71) โครงสร้างหลังคาที่ไม่สูงเน้นความแข็งแรง (หน้า 72) แผงไม้ตรงโถงบันได (หน้า 72) ผู้สูงอายุทำงานบ้าน (หน้า 72) จากชานบ้านมองเห็นข้างใน เห็นเติ๋น และห้องนอน เห็นหลังคาจั่วชนกัน หน้าจั่วใช้แผงไม้ติดประดับเป็นลาย ส่วนขวาเป็นบันไดหน้าบ้าน (หน้า 73) เติ๋นอยู่หน้าห้องนอน ด้านซ้ายเติ๋นทำหิ้งพระ ภาพขวาเป็นฝาเรือนที่มีฝาไหล (หน้า 74) ห้องนอนใหญ่ (หน้า 74)ห้องครัวอยู่หลังบ้าน มีเทิงไว้เก็บของและแขวนหอมกระเทียม (หน้า 74)
ฮ้านน้ำตรงชานและเติ๋น (หน้า 75) ฝาเรือนที่ผายออก (หน้า 75) หลังคาสูงช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดี (หน้า 75) สลักหรือกลอนแบบต่างๆ บนซ้ายเป็นกลอนหน้าต่าง ล่างซ้ายเป็นกลอนประตู (หน้า 75) ภาพขวาเป็นเดือยประตูบันได (หน้า 75) เรือนตัวอย่างหลังหนึ่ง ที่ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (หน้า 75) เจ้าของบ้านตัวอย่างและลูกชาย (หน้า 75) เติ๋นที่มีการตกแต่งด้วยภาพเก่าของครอบครัว ในภาพมองเห็นรางริน ผ่านกลางเรือน (หน้า 77) เติ๋นหลังบ้านติดกับครัวและยุ้งเป็นที่รับประทานอาหาร (หน้า 77) ห้องนอนที่กว้างใหญ่ วางเตียงได้มากใช้ผ้ากั้นเป็นขอบเขต (หน้า 78) ครัวใหม่อยู่หน้ายุ้งข้าว (หน้า 78) ฮ้านน้ำแบบเดิม (หน้า 78)
มนทก หรือมณฑป หรือปราสาทที่หุ้มด้วยผ้าขาวทั้งหลังของไทลื้อ (หน้า 80) ชาวบ้านช่วยกันขึ้นโครงปราสาท (หน้า 81) ชาวไทลื้อกำลังสานโครงส่วนยอดปราสาท (หน้า 82) หุ้มผ้าขาวจากส่วนยอดปราสาท (หน้า 83) ผลสับปะรดหรือหมากซะแน้ต ประดับส่วนยอด (หน้า 84) พาดบันไดหน้าปราสาทก่อนพันด้วยผ้าสีขาว (หน้า 85)นอกจากใช้กระดาษสีตัดแต่งลวดลาย กับผ้าทอไทลื้อประดับปราสาทแล้ว อาจมีสมบัติส่วนตัว แต่สิ่งที่ห้ามขาดคือต้นกล้วย อ้อย ต้นไม้ ผลไม้ที่บ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ (หน้า 86) ตุงผ้าทอภายในวิหารวัดบ้านหย่วน จังหวัดพะเยา (หน้า 88) ตุงที่ไทลื้อนำมาถวายวัดท่าฟ้าใต้ จังหวัดพะเยา (หน้า 89) วัดสวนมอน (หน้า 91) วัดไชย เมืองฮำ สิบสองปันนา (หน้า 91) เครื่องประดับหลังคา (หน้า 91) ลายคำตกแต่งบานประตู (หน้า 91)เจดีย์วัดสวนมอน (หน้า 91) วัดหนองบัว อำเภอท่าวังผา (หน้า 92) วัดต้นแหลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน (หน้า 93) ภายในวิหารปัจจุบันหลังการบูรณะ (หน้า 94) วัดไทลื้อ (หน้า 95) วัดท่าฟ้าใต้ ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา (หน้า 96) ภาพบนเป็นลวดลายหน้าบันไม้ตัดปะประดับกระจก, กลางอยู่ในส่วนของคอสอง และภาพล่างคือปราสาทเฟื้อง เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมไทลื้อ (หน้า 97) วัดแสงเมืองมา อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา(หน้า 98) หอไตรวัดออนหลวย ก่อนการบูรณะ,บน และบูรณะแล้ว,ล่าง (หน้า 99)
เครื่องบูชาในพิธีสืบชะตาของไทลื้อที่เมืองฮำ สิบสองปันนา (หน้า 100)งานเลี้ยงผีเมืองเชียงใหม่ ปู่แสะย่าแสะ ภาพจาก Lannaphotoclub.com(หน้า 102) ฝายน้ำในหมู่บ้านที่เมืองวัน สิบสองปันนา ก็มีฝายเป็นผู้ดูแล (หน้า 103) ผามผีแบบทั่วไป (หน้า 104) หอเสื้อวัดบ้านหม่อง สอบสองปันนา (หน้า 105)สัตว์สังเวยที่ใช้เวลาไหวผี ภาพล่างเป็นตาแหลว เครื่องแสดงอาณาเขตของผีรักษา (หน้า 106) ผู้ทำหน้าที่เข้าทรง (หน้า 107) การสู่ขวัญ จิตรกรรมวัดบ้านหย่วน (หน้า 108) เครื่องสู่ขวัญบ้านหนองแดง(หน้า 109) เครื่องบูชาในพิธีสืบชะตาของไทลื้อวัดต้นแหลง (หน้า 110) เครื่องบูชาในพิธีสืบชะตาของไทลื้อวัดร้องแง อำเภอปัว (หน้า 111) การทำดอกไม้จัน อาชีพเสริมของไทลื้อบ้านออนหลวย (หน้า 120) ปั๊บสาตำราพรหมชาติไทลื้อ จากสิบสองปันนา (หน้า 121) ปีไจ้ (ปีหนู) (หน้า 122) ปีเป้า หรือปีวัว (หน้า 123) ปียีหรือ ปีเสือ (หน้า 124) ปีเหม่ หรือปีกระต่าย (หน้า 125) ปีสีหรือปีนาค (หน้า 126) ปีไส้ หรือ ปีงู (หน้า 127) ปีสะง้า หรือปีม้า (หน้า 128) ปีเม็ดหรือปีแพะ (หน้า 129) ปีสันหรือปีวอก (หน้า 130)
ปีเร้าหรือปีไก่ (หน้า 131) ปีเส็ดหรือปีหมา (หน้า 132) ปีไก๊หรือปีช้าง (หน้า 133) ภาพเดือนเกิด (หน้า 134) หนังสือไทลื้อ (หน้า 135) เกิดวันไทนี้แล (หน้า 136) วันในนี้แล (หน้า 137) ยามเกิดนี้แล (หน้า 138) เกิดศักราชปลายกี่ตัว, ฤกษ์สะเปาหรือฤกษ์สำเนา (หน้า 139) โหราตะวันเที่ยง (หน้า 140) การแต่งกายของสาวไทลื้อสิบสองปันนา ภาพจากวารสารเมืองโบราณ ฉบับที่ 3กรกฎาคม-กันยายน 2532(หน้า 148) ซิ่นไทลื้อ (หน้า 149) ตัวอย่างซิ่นไทลื้อ (หน้า 150) ซิ่นผ้าฝ้าย ซิ่นไหมคำ (หน้า 151) ซิ่นต๋าลื้อในเขตสิบสองปันนา, ซิ่นลื้อในลาว (หน้า 152) ตีนซิ่น (หน้า 153) ผ้าซิ่นไทลื้อในล้านนา (หน้า 154) ไทลื้ออำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย (หน้า 155) ซิ่นม่าน, ซิ่นเชียงแสน, ซิ่นคำเคิบ, ซิ่นก่าน (หน้า 156) ซิ่นก่าน อำเภอปัว หัวซิ่นสีแดง เป็นส่วนบนสุดของตัวซิ่นเป็นแถบสีขาวแบบซิ่นไทลื้อ, โครงสร้างผ้าหลบไทลื้อ, ผ้าหลบไทลื้อเมืองเงิน (หน้า 157)ผ้าหลบไทลื้อเมืองเงินมีการจกด้วยฝ้ายหรือไหมสีต่างๆ, ลวดลายขิดผ้าหลบไทลื้อ, เส้นยืนของผืนผ้าที่ปล่อยชายลงมานำมาไป่ หรือถัก ,ผ้าหลบเมืองเงินมีการถักในกี่ตอนทอผ้า, ผ้าหลบไทลื้อเมืองเงินนิยมฟั่นเส้นฝ้ายเป็นชายครุยทำพู่ก้อนกลมจากเส้นฝ้ายมาต่อกันที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของผ้าหลบไทลื้อ (หน้า 158)ผ้าหลบไทลื้อ บ้านถิ่น จังหวัดแพร่ มีวัสดุ โครงสร้าง และลวดลายการทอคล้ายกับผ้าหลบไทลื้อทั่วไปแต่ก็มีข้อแตกต่างกันคือมักทอเป็นชิ้นเดียว ไม่นำมาเย็บต่อกัน,ใช้เส้นฝ้ายสีแดงทอเป็นลายขิด ลายงูลอย, ผ้าห่มดำลายงูลอย (หน้า 159) ผ้าห่มเมืองน่าน เรียกผ้าห่มตำโก้ง หรือผ้าห่มต๋าแสง ทอด้วยเส้นฝ้ายสี ขาว ดำ แดง สลับขัดกัน เป็นลายตาราง ทอด้วยการยกตะกอ 4ตะกอ เพิ่มความหนาห่มกันหนาว (หน้า 160) ผ้าห่มไทลื้อบ้านถิ่น จังหวัดแพร่ ทอขัดสานธรรมดา ตกแต่งเป็นลายริ้วเป็นขอบส่วนล่างเป็นลายขิด ตกแต่ง ทอเป็นสองชิ้น แล้วนำมาเย็บต่อกันทางยาวเหมือนผ้าห่มไทลื้อ (หน้า 160) ตุงไทลื้อ อำเภอปัว จังหวัดน่าน (หน้า 160) ผ้าเช็ดหลวง, ผ้าห่อคัมภีร์ถวายพร้อมกับครัวทาน (หน้า 161)
แผนที่
เมืองสิบสองปันนาตอนเหนือ,ซ้าย และตอนใต้,ขวา (หน้า 11)ไทลื้อ สิบสองปันนา (หน้า 28) เส้นทางการค้าของสิบสองปันนาและรัฐอื่นๆ (หน้า 37)
แผนผัง
ตำนานไทลื้อ (หน้า 26) ตำนานจีน (หน้า 26) บ้านไทลื้อ (หน้า 64) ผังเรือนไทลื้อหลังหนึ่ง แสดงห้องต่างๆ (หน้า 71) ผังบ้านไทลื้อหลังหนึ่ง (หน้า 77) |