สังคม
โครงสร้างสังคมบ้านนาจอกมีสองระดับ ได้แก่โครงสร้างใหญ่ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ กับโครงสร้างย่อยระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ (หน้า 69) ในหมู่บ้านคนไทยเชื้อสายเวียดนามมีจำนวนมากที่สุด และเป็นกลุ่มที่ตั้งหมู่บ้าน การอยู่ในหมู่บ้านของคนไทยเชื้อสายเวียดนาม และผู้ไทยเป็นไปอย่างถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน ชาวผู้ไทนั้นมีความสนใจเรียนรู้และเข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆ ของคนไทยเชื้อสายเวียดนาม เช่น พิธีกรรมที่ศาลเจ้า งานศพ งานแต่งงาน และเรียนรู้ภาษาเวียดนาม นอกจากนี้ชาวผู้ไทนั้นอยู่ในฐานะเป็นชนกลุ่มน้อยในหมู่บ้าน แต่เมื่ออยู่ในสังคมใหญ่นอกหมู่บ้าน ชาวผู้ไทก็เปรียบเหมือนคนอีสานจำนวนมากที่ไม่มีปัญหาเรื่องสัญชาติ หรือถูกควบคุมด้วยนโยบายหลายอย่างเหมือนกับคนไทยเชื้อสายเวียดนามรุ่นใหม่ที่ยังถือบัตรเวียดนามอพยพ ฉะนั้นชาวผู้ไทจึงมีการปรับเปลี่ยนการแสดงออกทางชาติพันธุ์ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ (หน้า 70)
ส่วนคนเวียดนามมีกลุ่มเวียดนามรุ่นเก่า และเวียดนามรุ่นใหม่ สำหรับคนเวียดนามรุ่นเก่านั้นมีจำนวนมากที่สุดและมีฐานะร่ำรวย มีที่ดินจำนวนมากและมีบทบาทในหมู่บ้านเช่น เป็นคณะกรรมการศาลเจ้า คณะกรรมการหมู่บ้าน เป็นอาสาสมัครสาธารณสุข และอื่นๆ ส่วนคนเวียดนามรุ่นใหม่นั้น ไม่ค่อยมีบทบาทโดดเด่นในหมู่บ้าน เนื่องจากไม่อาจเดินทางออกนอกเขตควบคุม การเดินทางไปต่างจังหวัดทุกครั้งต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ (หน้า 70)
คนไทยเชื้อสายเวียดนามต่างมีความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในกลุ่มเครือญาติ และคนใกล้ชิด ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งมาจากคนไทยเชื้อสายเวียดนามส่วนใหญ่แต่งงานในกลุ่มคนเวียดนามด้วยกันจึงทำให้เกิดความแน่นแฟ้น (หน้า 82)งานแต่งงาน
คนไทยเชื้อสายเวียดนามนิยมแต่งงานในกลุ่มคนที่เป็นชาวเวียดนามด้วยกัน ที่แต่งกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นก็มีแต่เป็นส่วนน้อย (หน้า 82) ในอดีตพิธีค่อนข้างเรียบง่าย เน้นที่การเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ สำหรับของเซ่นไหว้ได้แก่ อาหารคาวหวาน ไก่ต้มหนึ่งตัว ธูป เทียน หมาก พลู เหล้า เมื่อขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวยกมาถึงบ้านเจ้าสาว แล้วจะให้ผู้อาวุโสที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่มาคล้องแขนเจ้าบ่าวเจ้าสาว โดยจะกล่าวอบรมการใช้ชีวิตและให้พรเพื่อสร้างฐานะความเป็นอยู่ ซื่อสัตย์ต่อกัน และฝ่ายเจ้าสาวก็จะเลี้ยงต้อนรับฝ่ายเจ้าบ่าว ต่อมาก็จะแห่กลับไปที่บ้านเจ้าบ่าว และเจ้าสาวจะมาอยู่ที่บ้านฝ่ายชายตามประเพณีของเวียดนาม (หน้า 83)
ส่วนใหญ่จัดในเดือนคู่ เว้นช่วงเข้าพรรษา แต่ถ้ามีญาติพี่น้องของฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงเสียชีวิตก็จะทำพิธีไว้ทุกข์โดยจะไม่จัดงานแต่งงานในช่วงระยะเวลาสองปีและห้ามคนที่เป็นหม้ายหรือล้มเหลวในชีวิตคู่มาร่วมงานเพราะเชื่อว่าไม่เป็นศิริมงคล แต่ทุกวันนี้ความเชื่อเช่นนี้ไม่ค่อยเคร่งครัดเหมือนในอดีต (หน้า 83)
ปัจจุบันงานแต่งงานของคนไทยเชื้อสายเวียดนามจัดเหมือนคนอีสาน มีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ราคาโต๊ะละหนึ่งพัน ถึงสองพันบาทขึ้นอยู่กับกำลังเศรษฐกิจของเจ้าภาพ สำหรับการ์ดเชิญแขกนิยมเขียนเป็นภาษาเวียดนาม (หน้า 84)
การจัดระเบียบทางสังคม
ในหมู่บ้านนาจอกมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมในหมู่บ้าน กลุ่มทางสังคมที่สำคัญของหมู่บ้านนาจอกคือ สหกรณ์ออมทรัพย์ชุมชน ที่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2533 แต่เดิมเป็นกลุ่มกองทุนสัจจะ ครั้งแรกมีการฝากเงินคนละ 2 หุ้นๆ ละ 10 บาท (หน้า 98) เมื่อดำเนินการไปจำนวนเงินเพิ่มจำนวนขึ้น ต่อมาสหกรณ์จังหวัดนครพนมจึงเข้ามาอบรมเรื่องการดำเนินงานสหกรณ์ (หน้า 99)
ทุกวันนี้สหกรณ์ออมทรัพย์บ้านนาจอกมีเงินหมุนเวียน 10 ล้านบาท สมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ราคาหุ้นๆ ละ 100 บาท การกู้เงินขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 5 ต่อเดือน และอัตราเงินกู้ร้อยละ 7 ต่อเดือน มีกรรมการที่มาจากการเลือกตั้ง 9 คน ที่มาจากกลุ่ม ผู้สูงอายุ สตรี และเยาวชน นอกจากนนี้ยังมีลูกจ้างรายเดือน เพื่อจัดทำบัญชีและประสานงานอีก 3 คน โดยเปิดทำการในวันที่ 1-20 ของเดือน ในเวลา 19.00 น. – 21.00 น. สาเหตุที่เปิดในช่วงกลางคืนเพราะพนักงานและสมาชิกต้องทำงานประจำในช่วงเวลากลางวัน การบริหารงานต่างจากสหกรณ์ทั่วไป โดยชาวบ้านได้นำความเชื่อเรื่องศาลเจ้าเข้ามาใช้ ได้แก่การยึดถือสัจจะ ซื่อสัตย์ และตรงเวลา (หน้า 99)