|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
กะเหรี่ยงสกอร์,ศาสนา,การถือผีบรรพบุรุษ,เชียงใหม่ |
Author |
Kwanchewan Buadang |
Title |
Buddhism, Christianity and the Ancestors |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ปกาเกอะญอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
312 |
Year |
2546 |
Source |
Buddhism, Christianity and the Ancestors.Publish with the support of the Toyota Foundation, Sprint, Chiang Mai, Thailand. |
Abstract |
วิทยานิพนธ์เล่มนี้นำเสนอ การศึกษาด้านศาสนา ความเชื่อ และรูปแบบปฎิบัติดั้งเดิมของกลุ่มกะเหรี่ยง 5 หมู่บ้าน ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มกะเหรี่ยงกับศาสนาคริสต์ ประวัติศาตร์การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ทั้งในประเทศไทยและประเทศพม่า และ ความสัมพันธ์ของกะเหรี่ยงกับศาสนาพุทธ กรณีครูบา และการเคลื่อนไหวของโครงการพระธรรมจาริกโดยเน้นประเด็นของการต่อรองความหมายทางศาสนาของกลุ่มกะเหรี่ยงในชุมชน (หน้า 25-26) |
|
Focus |
ศึกษา แบบวิธีปฏิบัติทางศาสนา พิธีกรรม และประเพณีต่าง ๆ และการแสดงออกทางจิตวิญญาณโดยสังเกตุพฤติกรรมของผู้มีส่วนร่วมกลุ่มคนพิเศษและเรียนรู้ประสบการณ์ของพวกเขา (หน้า 14) รวมถึงศึกษาความสัมพันธ์กับผู้คนในชุมชนที่นับถือศาสนาแตกต่างกันและเน้นการศึกษาหน้าที่ของพิธีกรรมซึ่งอาจจะมีความสัมพันธ์กับตำนาน และความเชื่อในเรื่องของกำเนิดมนุษย์ และพฤติกรรมต่างๆ (หน้า 15) |
|
Theoretical Issues |
ผู้เขียนวิทยานิพนธ์มีความเห็นสอดคล้องกับแนวคิดของ Bourdieu (1997:114), ในแง่ที่ว่า การทำความเข้าใจรูปแบบปฎิบัติทางพิธีกรรมไม่สามารถเข้าใจได้จากการแปลความหมายของสัญลักษณ์ ที่มีอยู่ในพิธีกรรมเท่านั้น แต่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในสภาพการณ์จริงที่ก่อกำเนิดเป็นต้นตอของพิธีกรรมเหล่านี้ รวมถึงการเข้าใจหน้าที่และความหมายที่ใช้กันภายในกลุ่ม (หน้า 14) เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ-สังคม และการเมือง มีการเปลี่ยนแปลง ผู้คนมีทางเลือกหลากหลายในการแสดงออก ความหลากหลายที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและกลุ่มสังคม สำหรับกลุ่มกะเหรี่ยงที่ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ทำการศึกษา ในชุมชนนี้การต่อรองท่ามกลางผู้ปฏิบัติพิธีกรรมในแต่ละศาสนา ความเชื่อ ทำให้คำนิยามความหมาย และรูปแบบปฏิบัติเพิ่มขึ้น (หน้า 15) |
|
Ethnic Group in the Focus |
กะเหรี่ยงสกอร์ทางภาคเหนือของประเทศไทย |
|
Language and Linguistic Affiliations |
กลุ่มชนกะเหรี่ยงใช้คำกะเหรี่ยงและคำเมือง (ภาษาของคนเมืองซึ่งคือ กลุ่มคนที่อาศัยในภาคเหนือของประเทศไทย) (หน้า XVI-XX) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
กะเหรี่ยงอาศัยอยู่บนพื้นที่หุบเขา,ภูเขา บริเวณชายแดนพม่า-ไทย คำเรียกชื่อกลุ่มว่ากะเหรี่ยงนี้ปรากฎในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งไม่ถูกใช้โดยกลุ่มกะเหรี่ยงแต่เดิม (หน้า 2) กลุ่มกะเหรี่ยงที่ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ทำการศึกษาไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเกิดขึ้นมานานเท่าไรเนื่องจากไม่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร สำหรับกลุ่มกะเหรี่ยงทางภาคเหนือของไทยได้สร้างประวัติศาสตร์ความเป็นมาภายใต้การสนับสนุนของ NGO โดยกล่าวถึงกะเหรี่ยงคือกลุ่มคนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของไทยก่อนลัวะ ตามเรื่องราวเหล่านี้ดินแดนแห่งนี้เป็นของกะเหรี่ยงก่อนที่จะถูกยึดครองโดยคนเมือง (หน้า 4) สำหรับงานศึกษาชุมชน ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ศึกษา กลุ่มกะเหรี่ยง 5 หมู่บ้าน แม่ลา (Mae la), แม่มูขี่ (Mae Mu Khi), ปาแขม (Pa khaem),ห้วยสาน (Hui San) และห้วยโป (Hui Poo) อ. แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย (หน้า 17) |
|
Settlement Pattern |
การตั้งถิ่นฐานของกะเหรี่ยงจะอาศัยอยู่ในบริเวณหุบเขา และภูเขา (หน้า 2) การสร้างบ้านเรือนแบบดั้งเดิมสร้างด้วยไม้ไผ่ มีเพียง 1 ห้องภายในมีสถานที่สำหรับประกอบอาหารภายในมุมหนึ่งของห้องและเป็นที่เดียวกันสำหรับให้ ผีบรรพบุรุษ (Au Khae) ในบางครอบครัวจะมีการสร้างบ้านใหญ่ถาวรด้วยไม้และแยกครัวออกจากตัวบ้าน (หน้า 75) |
|
Economy |
ในอดีตระบบเศรษฐกิจของชาวเขาผูกพันกับการขายฝิ่น จนกระทั่งมีการจัดตั้งโครงการพัฒนาบนพื้นที่สูงจากรัฐโดยการสนับสนุนขององค์กรสหประชาชาติ และชาติตะวันตก เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ปลูกฝิ่นให้กลายเป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประชากรมีรายได้มีการศึกษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เมล็ดพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้องใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับการรับซื้อของพ่อค้าคนกลางทำให้เกิดการกู้เงินและเป็นหนี้สิน ส่งผลให้ต้องออกไปทำงานภายนอกชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงซึ่งบ่อยครั้งต้องทำงานขายบริการ (หน้า 13-14) |
|
Social Organization |
การนับถือผีบรรพบุรุษเป็นรูปแบบของการจัดระเบียบทางสังคมของกลุ่มกะเหรี่ยง โดยกล่าวคือบุคคลที่นับถือผีเดียวกันไม่สามารถแต่งงานกันได้ และเมื่อลูกชายแต่งงานจะต้องออกจากบ้านเพื่อสร้างบ้านเรือนของตนเนื่องจากภรรยานับถือผีต่างกันกับครอบครัว การถือผีกลายเป็นการสร้างระเบียบข้อห้ามให้กลุ่มกะเหรี่ยงปฏิบัติตาม (หน้า 74-75) นอกจากความเชื่อดั้งเดิม การเข้ามาของรัฐในการจัดระบบหมู่บ้านถึงกัน จัดตั้งผู้นำหมู่บ้าน (หน้า 9) และการกำหนดถิ่นที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันการบุกรุกป่าของกรมป่าไม้ได้กลายเป็นการจัดระเบียบทางสังคมแบบใหม่ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางสังคมและเกิดการตั้งถิ่นฐานถาวรขึ้น (หน้า 11) |
|
Political Organization |
รัฐบาล มีบทบาทสำคัญในการเข้ามาพัฒนาและจัดรูปแบบการสร้างหมู่บ้าน ภายใต้โครงการหมู่บ้านถึงกันและจัดให้มีการเลือกตั้ง หัวหน้าหมู่บ้าน และ ผู้ช่วย 2 คน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นผู้รับนโยบายการบริหารจากรัฐและประสานความร่วมมือให้คนในชุมชนให้ความร่วมมือ (หน้า 8) นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกลุ่ม NGOs ซึ่งได้เข้ามาทำงานพัฒนากลุ่มกะเหรี่ยงและกลุ่มชาวเขาตามพื้นที่ต่าง ๆ (หน้า 1) |
|
Belief System |
ความเชื่อดั้งเดิมของกะเหรี่ยงมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบปฎิบัติดั้งเดิม รวมถึงการรับเอาศาสนาในระยะเวลาต่อมา ซึ่งอาจกล่าวได้ถึงความเชื่อหลักได้ดังต่อไปนี้ - การแต่งตั้งผู้นำหมู่บ้าน (He Kho) เพื่อเป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ และผู้เป็นหัวหน้าจะได้รับการสืบทอดผ่านลูกชาย หัวหน้าจะต้องเป็นผู้มีพฤติกรรมดีแต่ไม่จำเป็นต้องมีฐานะร่ำรวย หัวหน้าหมู่บ้าน (He Kho) ในชุมชนได้ขาดหายไปและไม่มีผู้รับปฎิบัติ ปัจจุบันมีเหลืออยู่ในไม่กี่ชุมชน ในชุมชนที่ผู้วิจัยศึกษาไม่มีหัวหน้าหมู่บ้านมากว่า 50 ปีแล้ว เนื่องจากไม่มีผู้ยอมรับสืบทอด (หน้า 33) - ผู้เฒ่าผู้แก่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพิธีกรรม (Sub Pga) มาจากครอบครัวที่มีความรู้ด้านพิธีกรรม รวมถึงต้องเป็นผู้ที่แต่งงานแล้ว จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ มีหน้าที่ดูแลด้านพิธีกรรมในหมู่บ้าน เป็นที่ปรึกษาของคนในชุมชนและรักษาผู้ที่เจ็บป่วย ทั้งการใช้สมุนไพรและการทำพิธีกรรม (หน้า 37) การเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติซึ่งผูกร้อยเรื่องราวกับตำนานความเชื่อในกำเนิดมนุษย์ เทพารักษ์ เจ้าแห่งสายน้ำ ซึ่งเปรียบเสมือนเทพเจ้าที่ทุกคนต้องให้ความเคารพ ถ้าหากไม่เคารพอาจทำให้เกิดปัญหาภายในหมู่บ้าน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจะมีการทำพีธีขอขมาต่อไป (หน้า 48) - ความเชื่อเรื่องขวัญในร่างกายของมนุษย์ ถ้าขวัญออกจากร่างกายจะต้องทำพิธีเพื่อเรียกขวัญกลับเข้าที่ ถ้ากะเหรี่ยงไปตายที่อื่นไม่ใช่บ้านของตน ศพของเขาจะถูกทำพิธีเพื่อเรียกวิญญาณกลับสู่หมู่บ้าน เรียกพิธีนี้ว่า K' la Kho Thi (หน้า 63-64) - การนับถือผีบรรพบุรุษ (Au Khae) ถือว่าเป็นศาสนาความเชื่อดั้งเดิมของกะเหรี่ยง อยู่ในวิถีชีวิตประจำวันก่อนการเข้ามาของศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ จะมีการถือผีตามมารดา ลูกสาวสามารถอยู่อาศัยในบ้านได้เมื่อแต่งงานแล้ว แต่ลูกชายต้องออกจากบ้านเนื่องจากภรรยาใหม่ไม่ได้นับถือผีเดียวกันถ้าอยู่ด้วยกันอาจจะเกิดปัญหาได้ (หน้า 73-74) - การกระทำพิธีขอขมาต่อเทพเจ้า เช่น การใช้น้ำในการทำการเกษตรกรรม เทพผู้ดูแลพื้นที่นา และรวมถึงการกระทำพิธีขอขมาต่อเทพเจ้าทั้งหลายที่อยู่ในป่าและภูเขา (หน้า 99) - พ่อมดแม่มด เป็นสิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในสังคมกะเหรี่ยงอย่างยาวนาน การเชื่อถือว่าคนบางคนในกลุ่มเป็นพ่อมดแม่มดมีอำนาจทำให้บุคคลอื่นเกิดความเจ็บป่วยและอาจจะถึงตายได้ และมีกะเหรี่ยงในหมู่บ้านที่เชื่อถืออำนาจของคนทรงเจ้าซึ่งเป็นพวกคนเมืองเช่นกัน (หน้า 175) - การนับถือศาสนาคริสต์ ในปี ค.ศ.1998 มี 35 ครัวเรือนใน 5 หมู่บ้าน นับถือศาสนาคริสต์ แม้ว่าจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริตส์แต่ในบางครอบครัวก็ยังมีความเชื่อในเรื่องของผีบรรพบุรุษอยู่ (หน้า 203) - ศาสนาพุทธ ซึ่งอาจแบ่งได้เป็นสองกลุ่มหลักคือ กลุ่มโครงการพระธรรมจาริกซึ่งเกิดขึ้นจากรัฐในการต้องการให้กลุ่มชาวเขาหันมานับถือศาสนาพุทธ และกลุ่มนับถือครูบาซึ่งมีลักษณะเป็นพุทธแบบดั้งเดิมของชุมชนทางภาคเหนือ การนับถือครูบาเป็นความศรัทธาที่เกิดขึ้นต่อตัวผู้นำคือครูบาซึ่งกะเหรี่ยงเชื่อว่าเป็นเหมือนเทพเจ้าในความเชื่อดั้งเดิมของพวกเขา (หน้า 233-247) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
ผู้เชี่ยวชาญทางพิธีกรรม (Sub pga) จะรักษาผู้เจ็บป่วยในหมู่บ้านด้วยยาสมุนไพรและการรักษาทางพิธีกรรม (หน้า 37) และมีการรักษาแบบสมัยใหม่ในโรงพยาบาลในท้องถิ่นเช่นเดียวกัน (หน้า 127) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
ผู้หญิงกะเหรี่ยงจะแต่งชุดขาวเมื่อแต่งงานแล้วจะใส่ชุดสีได้ พร้อมทั้งมีกระโปรงในแบบที่แสดงให้เห็นเด่นชัดว่าแต่งงานแล้ว (หน้า 160) ภาพการแต่งกาย (หน้า 135) และเครื่องประดับที่ใช้ในการพิธีกรรม (หน้า 115) |
|
Folklore |
ตำนานเกี่ยวกับ Ywa เทพเจ้าสูงสุดผู้สร้างมนุษย์และวัฒนธรรมของมนุษย์ เรื่องราวของ Ywa มีอยู่มากมาย เช่นเรื่อง The Golden Book, Ywa Mue Kawli and Whisky, Ywa, Mue Kawli and Funereal adn Ywa, Mua Kawli and Rice (หน้า 48-55) ตำนานเกี่ยวกับไก่ (หน้า 50) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
กลุ่มกะเหรี่ยงมีความสัมพันธ์กับคนเมืองในพื้นที่ใกล้เคียง มีการแลกเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตร งานหัตถกรรม ยา และอื่น ๆ ความสัมพันธ์ในช่วงที่มีการปลูกฝิ่น (ปี 1950-1970) คนเมืองที่ร่ำรวยได้ว่าจ้าง กะเหรี่ยงสำหรับทำงานในไร่ฝิ่น และในช่วงเวลาเดียวกัน กะเหรี่ยงที่ร่ำรวยได้ว่าจ้างคนเมืองสำหรับทำงานในนาแบบขั้นบันได ความสัมพันธ์สร้างให้เกิดความใกล้ชิด และเกิดการแต่งงานระหว่างกะเหรี่ยงและคนเมือง การตั้งถิ่นฐานภายหลังการแต่งงานมีทั้งสามีคนเมืองเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านกะเหรี่ยงและภรรยากะเหรี่ยงไปอาศัยในหมู่บ้านคนเมือง (หน้า 20) |
|
Social Cultural and Identity Change |
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการอธิบายการเปลี่ยนแปลงทางด้านความเชื่อและศาสนาเป็นหลัก โดยการเปลี่ยนจากรูปแบบดั้งเดิมไปสู่ความเป็นสมัยใหม่ (Modern Orientation) ซึ่งกล่าวได้ว่าในช่วงก่อนปี ค.ศ.1950 กะเหรี่ยงยังคงรูปแบบปฏิบัติแบบดั้งเดิมและในช่วง ปี ค.ศ.1950-1970 เป็นช่วงสำคัญที่การนับถือผู้นำหมู่บ้าน (He Kho) และ การถือผีบรรพบุรุษ (Au Khae) ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและถูกยกเลิก บางครอบครัวเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ และภายหลังปี ค.ศ.1980 การนับถือศาสนาศริสต์ได้เพิ่มขึ้นในหลายครอบครัว และมีบางส่วนเปลี่ยนไปนับถือพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม ความเชื่อดั้งเดิมยังคงได้รับการปฎิบัติและนับถือไปด้วยกัน (หน้า 283) อาจจะกล่าวได้ว่าการนับถือศาสนาของกลุ่มกะเหรี่ยงได้เป็นการต่อรองในการนับถือทั้งรูปแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับแนวคิดและวิถีชีวิต (หน้า 283) |
|
Map/Illustration |
ภาพการแต่งกาย (หน้า 135) ภาพเครื่องประดับที่ใช้ในการพิธีกรรม (หน้า 115) |
|
|