|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
โพล่ง โผล่ง โพล่ว ซู (กะเหรี่ยง),คุณภาพชีวิต,การมีส่วนร่วม,กาญจนบุรี,ราชบุรี |
Author |
นงกาญจน์ บูรณรักษ์ |
Title |
คุณภาพชีวิตและการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติของชาวกะเหรี่ยง ในจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ภายใต้โครงการของกรมประชาสงเคราะห์ |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
โพล่ง โผล่ง โผล่ว ซู กะเหรี่ยง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
(เอกสารฉบับเต็ม) |
Total Pages |
178 |
Year |
2531 |
Source |
ภาควิชาส่งเสริมและนิเทศศาสตร์เกษตร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
Abstract |
งานวิจัยนี้ เป็นการศึกษาเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกับระดับคุณภาพชีวิตของกะเหรี่ยงในจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระดับคุณภาพชีวิตของกะเหรี่ยง รวมทั้งปัญหาและความต้องการในด้านการประกอบอาชีพการเกษตรและด้านสังคม โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 160 ราย ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติมีความสัมพันธ์กับระดับคุณภาพชีวิตของกะเหรี่ยง ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ ได้แก่ จำนวนที่ดินทำกิน ระดับการศึกษา ความถี่ในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล และความถี่ในการรับข่าวสารด้านการเกษตรและการดำรงชีพ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระดับคุณภาพชีวิต คือ จำนวนที่ดินทำกินและรายได้เฉลี่ยต่อปี ปัญหาและความต้องการที่สอดคล้องกัน คือ ปัญหาผลผลิตออกสู่ตลาดไม่ได้ เพราะเส้นทางคมนาคมไม่ดี และมีความต้องการปรับปรุงเส้นทางลำลองเข้าหมู่บ้าน ตลอดจนสาธารณูปโภค เช่น สะพาน บ่อน้ำ เป็นต้น แผนงานพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา ควรมีแผนแม่บทที่แน่นอนในด้านการปฏิบัติงาน ก็ควรลดรูปจาหน่วยเคลื่อนที่เป็นเขตพื้นที่ พร้อมทั้งให้กะเหรี่ยงเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้วย |
|
Focus |
มุ่งเน้นศึกษาในเรื่องการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติของกะเหรี่ยง ที่มีต่อโครงการพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา ของกรมประชาสงเคราะห์ โดยเน้นศึกษาเปรียบเทียบในหมู่บ้านหลักและหมู่บ้านบริวารของ จ.กาญจนบุรี และราชบุรี ยังศึกษาถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ ทั้งยังเปรียบเทียบระดับคุณภาพชีวิตของกะเหรี่ยงระหว่างหมู่บ้านหลักและหมู่บ้านบริวารในทั้ง 2 จังหวัด และความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกับระดับคุณภาพชีวิตของกะเหรี่ยงรวมทั้งความสัมพันธ์ของปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระดับคุณภาพชีวิต ตลอดจนปัญหาและความต้องการของกะเหรี่ยงในด้านการประกอบอาชีพและด้านสังคม |
|
Theoretical Issues |
ผู้วิจัยได้ใช้แนวคิดเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต โดยมีเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้แบ่งเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน เป็น 8 ประการ อันเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ยังได้ใช้แนวคิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนา รวมถึงกลไกในการพัฒนาหมู่บ้าน จากผลการศึกษาพบว่า กะเหรี่ยงในหมู่บ้านหลักทั้งใน จ.กาญจนบุรีและราชบุรี มีส่วนร่วมในการปฏิบัติไม่แตกต่างกัน แต่ในหมู่บ้านบริวารของทั้ง 2 จังหวัดมีความแตกต่างกัน โดยที่หมู่บ้านบริวารต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการปฏิบัติอยู่ในระดับต่ำ ยกเว้นที่หมู่บ้านเกริงกาเวียที่อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างหมู่บ้านหลักกับหมู่บ้านบริวารในแต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกัน โดยที่หมู่บ้านหลักจะมีส่วนร่วมที่อยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่หมู่บ้านบริวารจะมีส่วนร่วมในระดับต่ำ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติของกะเหรี่ยง ได้แก่ จำนวนที่ดินทำกิน ความถี่ในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล และความถี่ในการรับข่าวสารด้านการเกษตรและการดำรงชีพ อันเป็นไปในทิศทางบวก ในทางกลับกันปัจจัยที่มีความสัมพันธ์เชิงลบ ได้แก่ ระดับการศึกษา แต่ เพศ อายุ และความถี่ในการติดต่อกับชุมชนเมืองพบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วม การมีส่วนร่วมในการปฏิบัตินี้เองทำให้มีผลต่อระดับคุณภาพชีวิตของกะเหรี่ยงทั้งใน จ.กาญจนบุรีและราชบุรี อันมีความคล้ายคลึงกัน และยังรวมไปถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจ ได้แก่ จำนวนที่ดินทำกินและรายได้เฉลี่ยต่อปีที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระดับคุณภาพชีวิตด้วย |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ไม่ได้กล่าวถึงความเป็นมาของชุมชน มีแต่เพียงประวัติความเป็นมาของกะเหรี่ยงโปว์ ไว้ว่า ถิ่นฐานเดิมอยู่ในประเทศพม่า เนื่องจากความกดดันทางการเมือง ซึ่งมีความขัดแย้งกับพม่า เพราะกะเหรี่ยงต้องการเป็นรัฐอิสระ แต่พม่าจะให้อยู่ภายใต้การปกครอง ดังนั้น จึงเกิดการสู้รบกันบ่อยครั้งกับรัฐบาลพม่า สมัยที่พม่าตกอยู่ภายใต้ปการปกครองของอังกฤษมีฝรั่งคนหนึ่งได้เขียนไว้ว่า "เมื่อปี พ.ศ. 2318 ขบถพม่า (สมัยพวกมอญหรืออาณาจักรมอญอยู่ในพม่า) ภายใต้การนำของพระเจ้าอลองพญาได้พิชิตอาณาจักรมอญ กะเหรี่ยงและมอญได้รับความกดขี่อย่างหนัก กะเหรี่ยงรู้สึกว่าตนได้รับความกดขี่และปราศจากความคุ้มครอง อีกทั้งถูกบังคบให้เสียภาษีรายตัว โดยให้จ่ายด้วยของป่าแทนการรับใช้ชนเผ่าพม่า ด้วยเหตุนี้กะเหรี่ยงบางกลุ่มจึงอพยพเข้ามาสู่สยาม" (หน้า 15-16) |
|
Settlement Pattern |
การกระจายตัวของกะเหรี่ยงในประเทศไทยอยู่มากทางทิศตะวันตก คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ กะเหรี่ยงส่วนหนึ่งอาศัยอยู่บนภูเขาและมีบ้างตามพื้นราบ ทั้งกะเหรี่ยงสะกอและกะเหรี่ยงโปจะไม่อาศัยอยู่รวมกัน ดังนั้น หมู่บ้านแม้จะอยู่ติดกันแต่จะแยกกันเป็นกลุ่ม และยังตั้งหมู่บ้านอย่างถาวร เช่น บางหมู่บ้านอยู่ได้นาน 200 ปี เพราะความสามารถในการอนุรักษ์ดินและทำนาขั้นบันไดตามไหล่เขา (หน้า 16) |
|
Demography |
กะเหรี่ยงโปที่อาศัยอยู่ใน จ.กาญจนบุรี และ ราชบุรี รวมทั้งสิ้น 13 หมู่บ้านหลัก 59 หมู่บ้านบริวาร มีประชากร 2,021 ครอบครัว (หน้า 4) |
|
Economy |
ลักษณะเศรษฐกิจโดยทั่วไปของกะเหรี่ยงเป็น "แบบยังชีพ" หมายถึง ทำเพื่อการบริโภคเท่านั้น ได้แก่ การปลูกข้าวไร่เป็นหลักและการทำนาตามขั้นบันไดตามหุบเขา นอกจากนั้น ยังปลูกผักต่าง ๆ หลายชนิดในไร่ข้าว เพื่อบริโภคในครอบครัวแบบที่เรียกว่า ไร่หมุนเวียน คือ ทำแล้วพักทิ้งไว้ 3-5 ปี ก็จะกลับไปทำใหม่เวียนอย่างนี้ตลอดไป กะเหรี่ยงนับว่าเป็นพวกที่มีความสามารถในการอนุรักษ์ดิน เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียคุณภาพของดินและเป็นพวกที่อยู่อย่างถาวร นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง วัว ควาย หมู ไก่ โดยเฉพาะไก่และหมูซึ่งใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ และยังเป็นนักล่าสัตว์ป่าเพื่อการบริโภคและนำของป่าไปขาย (หน้า 18) กะเหรี่ยงใน 2 จังหวัดนี้ส่วนใหญ่มีการประกอบอาชีพหลัก คือ การเกษตรกรรม โดยพืชที่ปลูกสำคัญได้แก่ ข้าวไร่ ละหุ่ง ข้าวโพด ถั่ว ผัก โดยที่ผลผลิตที่ได้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะข้าวอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเฉลี่ยแล้วได้เพียง 28.84 ถังต่อไร่ นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์แต่เป็นส่วนน้อย ส่วนอาชีพรองได้แก่ การหาของป่า ล่าสัตว์ และรับจ้าง ซึ่งของป่าที่หาได้ คือ น้ำผึ้ง หน่อไม้ เปลือกไม้ และหวาย โดยชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ย 4,549.06 บาทต่อปี (จากตารางที่ 1 หน้า 105-110) ปัญหาด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของกะเหรี่ยง ก็คือ ปัญหาผลผลิตออกสู่ตลาดไม่ได้ เพราะเส้นทางคมนาคมไม่ดี จึงมีความต้องการในการปรับปรุงเส้นทางลำเลียงเข้าสู่หมู่บ้าน (หน้า 78-79) |
|
Social Organization |
การจัดระเบียบการปกครองเป็นหมู่บ้าน ซึ่งมีหลักสำคัญ คือ หน่วยอิสระในการประกอบพิธีกรรมของตนหรือของหมู่บ้านนั้น จะมีหัวหน้าฝ่ายชายซึ่งมีตำแหน่ง "หมอผี" เพียงคนเดียวเป็นผู้ทำพิธี และมีการแบ่งอาณาเขตของหมู่บ้าน การไปมาหาสู่กันระหว่างหมู่บ้านจะเดินด้วยเท้า คนในหมู่บ้านหนึ่งจะไปทำกินในเขตอีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ได้ นอกจากการทำนาเท่านั้น (หน้า 16-17) กะเหรี่ยงจำนวนมากถึง 102 คนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ซึ่งมีเพียง 5 คนเท่านั้นที่เรียนสูงกว่า ป.4 จากจำนวน 160 คน (จากตารางผนวกที่ 1 หน้า 102) |
|
Political Organization |
อำนาจในการปกครองจากทางราชการได้มีการแต่งตั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถ้าเป็นหมู่บ้านห่างไกล การคมนาคมลำบาก อำนาจต่าง ๆ จะอยู่ที่กลุ่มผู้อาวุโส และหมอผีประจำหมู่บ้านมากกว่า เพราะชาวบ้านต่างยอมรับและปฏิบัติการต่าง ๆ ตามประเพณี (หน้า 17) |
|
Belief System |
กะเหรี่ยงโปว์ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ บางคนก็นับถือศาสนาพุทธรวมกับการนับถือผี นอกจากนี้ยังมีผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์อีกด้วย การนับถือผี กะเหรี่ยงโปว์ให้ความสำคัญมาก ผีที่นับถือได้แก่ ผีเจ้าที่และผีต่างๆ ที่สถิตอยู่ตามป่า เขา ลำน้ำ ในไร่ และผีประจำหมู่บ้าน พิธีที่กะเหรี่ยงโปว์ถือว่ามีความสำคัญมาก ก็คือ พิธีเกี่ยวกับการเกษตร เพราะเชื่อว่าผลผลิตจะได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการช่วยเหลือของผี พิธีทางการเกษตรจะเริ่มตั้งแต่การถากถางไร่จนถึงการเก็บเกี่ยวเข้ายุ้งฉาง นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ "ขวัญ" ประจำตัวของแต่ละคน ซึ่งประกอบด้วย 33 ขวัญ อยู่ตามส่วนต่างของร่างกาย หากขวัญหนีออกไปจะทำให้คนนั้นเกิดเจ็บป่วย และขวัญจะละทิ้งไปก็ต่อเมื่อคนนั้นตายไป (หน้า 18-19, ตารางผนวกที่ 1หน้า 103) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
กะเหรี่ยงในหมู่บ้านหลักและบริวารของทั้ง 2 จังหวัดต่างก็มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่สอดคล้องกัน คือ การมีสุขภาพที่ไม่ดี มีโรคภัยไข้เจ็บบ่อย รวมถึงขาดแคลนเครื่องอุปโภคและบริโภคด้วย ดังนั้น จึงมีความต้องการในการจัดตั้งกองทุนยาและเวชภัณฑ์ และต้องการให้มีสาธารณูปโภคเป็นสำคัญ เช่น สะพาน บ่อน้ำ ถนน เป็นต้น (จากตารางผนวกที่ 9-10 หน้า 140-144) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ชาวบ้านส่วนใหญ่มีการติดต่อกับชุมชนอื่นประมาณ 1-3 ครั้งต่อเดือน นอกจากนี้ก็มีการติดต่อกับหน่วยราชการเกือบทุกครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 99.38 จากประชากรที่สอบถาม 160 คน (หน้า 111) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ไม่ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มีเพียงแต่ลักษณะเด่นของกะเหรี่ยงที่ไม่เหมือนกับชาวเขาเผ่าอื่น ๆ คือ การตั้งหมู่บ้านอย่างถาวรเป็นหลักแหล่ง (หน้า 16) |
|
Map/Illustration |
ตารางผนวกที่ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะพื้นฐานทั่วไปทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม หน้า 102, ตารางผนวกที่ 7-8 ลำดับและความถี่ที่ระบุของปัญหาและความต้องการด้านการประกอบอาชีพการเกษตร หน้า 136-139, ตารางผนวกที่ 9-10 ลำดับและความถี่ที่ระบุของปัญหาและความต้องการด้านสังคม หน้า 140-144. |
|
|