การสร้างคำในภาษากูย
จากการศึกษาเรื่องการสร้างคำในภาษากูยของกูยบ้านลังแก ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ (หน้า 4) พบว่า มีการสร้างคำดังนี้
1) การเติมหน่วยศัพท์ แบ่งออกเป็น 8 วิธีคือ (หน้า 110)
1.1 เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาให้เป็นคำนาม ได้แก่ เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงอาการให้เป็นคำนาม ที่มีความหมายเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ เช่นการเติมหน่วยหน้าศัพท์ n- การเติมหน่วยกลางศัพท์ –an- (หน้า 33,110) เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงสภาพให้เป็นคำนาม ที่มีความหมายเป็นลักษณะของสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการกระทำกริยานั้นสิ้นสุดลง ได้แก่หน่วยหน้าศัพท์ ba- (หน้า 34,110) เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงสภาพให้เป็นคำนามแสดงคุณสมบัติทางกลิ่นและรสได้แก่หน่วยหน้าศัพท์ ca- (หน้า 34,110)
1.2 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำนามสามัญเป็นคำนามใหม่ ที่ความหมายคล้ายกับคำนามเดิม ได้แก่หน่วยหน้าศัพท์ ra- n- และหน่วยกลางศัพท์ –am- (หน้า 35,110)
1.3 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำแยกประเภทเป็นคำแยกประเภทที่มีความหมายเป็นการแบ่งส่วนหรือการแจงนับ ได้แก่หน่วยหน้าศัพท์ n- (หน้า 36,111)
1.4 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำบ่งชี้ที่มีหน้าที่ขยายคำนามเป็นคำบ่งชี้ที่มีความหมายแสดงการบ่งเวลา ได้แก่การเติมหน่วยหน้าศัพท์ ra- (หน้า 36,111)
1.5 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำบอกระยะเวลาที่ไม่แน่นอนเป็นคำบอกเวลาที่แน่นอน ได้แก่การเติมหน่วยหน้าศัพท์ ra- (หน้า 37,111)
1.6 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำนามสามัญเป็นคำนามที่มีความหมายชี้เฉพาะกับการบอกทิศทาง คือเติมหน่วยหน้าศัพท์ N- (m-) (หน้า 37,111)
1.7 เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำนามที่มีความหมายเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์เป็นคำกริยาแสดงอาการ ได้แก่การเติมหน่วยหน้าศัพท์ ra- (หน้า 38,111)
1.8 เติมหน่วยหน้าศัพท์เพื่อสร้างคำกริยาใหม่ (หน้า 39,111) ได้แก่ เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงสภาพเป็นคำกริยาการีต หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยศัพท์ N- (หน้า 39,111) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่มีความหมายเป็นการแสดงการกระทำซ้ำๆ ได้แก่การเติมหน่วยหน้าศัพท์ n- (หน้า 39,111) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงสภาพ หน่วยเติมศัพท์ที่ทำหน้าที่นี้คือ n- (หน้า 40, 111) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาการีตเป็นคำแสดงสภาพอันเป็นผลที่เกิดจากการทำกริยาสิ้นสุดลง หน่วยเติมศัพท์ที่ทำหน้าที่นี้ได้แก่ หน่วยหน้าศัพท์ n- และหน่วยกลางศัพท์ –r- (หน้า 40, 111)
1.9 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำขยายกริยาเป็นคำกริยาแสดงสภาพ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือหน่วยกลางศัพ์ –an- (หน้า 41,111)
2) การซ้ำคำ มี 5 วิธีได้แก่ การเลียนเสียงธรรมชาติซึ่งเป็นการซ้ำเสียงอย่างสมบูรณ์และเป็นการซ้ำเสียงเพียงบางส่วนเพื่อให้มีความหมายเป็นจุดกำเนินของเสียงหรือเครื่องดนตรี (หน้า 42,112) การซ้ำเสียงอย่างสมบูรณ์ เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำนามที่มีความหมายเป็นพืชผัก (หน้า 42,112) การซ้ำเสียงกลางศัพท์เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำกริยาการีต (หน้า 42,112) การซ้ำเสียงที่มีหน้าที่นี้คือ เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำกริยาแสดงสภาพ (หน้า 43,112) การซ้ำเสียงอย่างสมบูรณ์บ่งชี้เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายกริยา (หน้า 43, 112)
3) การเปลี่ยนลักษณะน้ำเสียง ได้แก่ การเปลี่ยนลักษณะน้ำเสียงต่ำ-ทุ้ม ให้เป็นลักษณะน้ำเสียงธรรมดาเพื่อทำให้คำกริยาเป็นคำนาม และการเปลี่ยนลักษณะน้ำเสียง ต่ำ-ทุ้ม ให้เป็นลักษณะน้ำเสียงธรรมดา เพื่อทำให้เป็นคำกริยาแยกประเภท (หน้า 44,112)
การสร้างคำในภาษาบรู
จากการศึกษาการสร้างคำในภาษาบรู ของคนบรูบ้านเวินบึก ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี (หน้า 4) พบว่ามีการสร้างคำ 2 แบบคือ (หน้า 112)
1) การเติมหน่วยศัพท์ มีทั้งหมด 5 วิธี (หน้า 112)
1.1 เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาให้เป็นคำนาม (หน้า 50,113)ได้แก่ เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงอาการให้เป็นคำนามที่มีความหมายเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ (หน้า 50,113) และเติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงอาการให้เป็นคำนามที่มีความหมายเป็นผลที่เกิดขึ้นหลังจากการแสดงกริยาสิ้นสุดลง (หน้า 52,113)
1.2 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำนามสามัญเป็นคำนามใหม่ที่มีความหมายคล้ายคลึงกับรากศัพท์นั้น ได้แก่หน่วยศัพท์หน้าศัพท์ ra- sa- และหน่วยกลางศัพ์ –a- (หน้า 53,113)
1.3 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำบ่งชี้ เป็นคำบ่งชี้ที่ทำหน้าที่ประกอบคำนาม หน่วยเติมศัพท์ทำหน้าที่นี้ ได้แก่ หน่วยหน้าศัพท์ ?a- (หน้า 55,113)
1.4 เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำนามเป็นคำกริยา (หน้า 56,113) เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำนาม เป็นคำกริยาแสดงอาการ หน่วยศัพท์ที่ทำหน้าที่นี้ หน่วยหน้าศัพท์ ka-~ku- (หน้า 56,113) เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำนามสามัญ เป็นคำกริยาแสดงอาการ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยกลางศัพท์ –a- (หน้า 56,113)
1.5 เติมหน่วยศัพท์เพื่อสร้างคำกริยาใหม่ (หน้า 57,113) ได้แก่ เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงสภาพ คำกริยาแสดงประสบการณ์และคำกริยาแสดงอาการ เป็นคำกริยาการีต หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ pa- sa- ka- ku- และ maN- (หน้า 57,113) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่ทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ sa- (หน้า 61,113) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาที่เป็นสาเหตุให้เปลี่ยนแปลง (หน้า 61,114) เติมหน่วยศัพ์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการที่มีความหมายเป็นการกระทำซ้ำๆ หลายครั้ง (หน้า 63,114) เติมหน่วยศัพ์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่แสดงกริยาร่วมกันอย่างตั้งใจ หน่วยเติมศัพท์ที่ทำหน้าที่นี้ได้แก่ n- (หน้า 65,114) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่แสดงการกระทำโต้ตอบกันหรือร่วมกัน หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้ได้แก่ หน่วยหน้าศัพท์ ra- (หน้า 65,114) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยา ที่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงเป็นคำกริยาที่มีจุดหมายในการกระทำ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ pha- (หน้า 66,114) เติมหน่วยศัพ์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่มีความหมายแสดงการกระทำซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ta- (หน้า 67,114) เติมหน่วยศัพ์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่มีขบวนการในการกระทำซับซ้อน หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยกลางศัพท์ –al- (หน้า 68,114) เติมหน่วยศัพ์เพื่อทำให้คำกริยาแสดง สภาพ เป็นคำกริยาแสดงสภาพที่เป็นผลเนื่องจากการกระทำบางอย่าง หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ta- (หน้า 68,114) เติมหน่วยศัพ์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงสภาพ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้ได้แก่ หน่วยหน้าศัพท์ ra- (หน้า 68,114) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการเป็นคำกริยาแสดงอาการที่มีความหมายเป็นการกระทำด้วยตนเอง หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ dan- (หน้า 69,114)
2) การซ้ำคำ แบ่งเป็นวิธีต่างๆ ดังนี้ การซ้ำเสียงอย่างสมบูรณ์ เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายกริยา (หน้า 69,115) การซ้ำเสียงบางส่วน เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำกริยาแสดงอาการ (หน้า 70,115) การซ้ำความหมาย เพื่อให้มีความหมายกว้างออกไปจากเดิม (หน้า 71,115)
การสร้างคำในภาษาโซ่
จากการศึกษาการสร้างคำในภาษาโซ่ ของคนโซ่บ้านโพธิไพศาล ตำบลโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร (หน้า 4) พบว่า มีการสร้างคำ 2 แบบคือ
1) การเติมหน่วยศัพท์ มี 6 วิธีได้แก่ (หน้า 115)
1.1 การเติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนาม ได้แก่ เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงอาการเป็นคำนามที่มีความหมายเป็น เครื่องมือ อุปกรณ์ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ma- la- ra- ran- N- sa- ?a- และหน่วยกลางศัพท์ –an- (หน้า 77,115) เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาแสดงอาการเป็นคำนามที่มีความหมายเป็นผลอันเกิดจากการกระทำกริยานั้นสิ้นสุดลง หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ma- ta- pa- sa- ra- ka- ?a- N- กับหน่วยกลางศัพท์ –in- (หน้า 79,115)
1.2 เติมหน่วยศัพท์เพื่อสร้างคำนามใหม่ ได้แก่ เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำนามสามัญ เป็นคำนามใหม่ซึ่งมีความหมายเกี่ยวข้องกับรากศัพท์นั้น หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ N- (หน้า 82,115) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำนามสามัญเป็นคำนามใหม่ที่มีความหมายคล้ายกับคำนามสามัญ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ N- ra- la- ku- กับ ?a- (หน้า 82,116)
1.3 เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำบ่งชี้เป็นคำกำหนดประเภท ได้แก่เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำบ่งชี้ มีความหมายเป็นคำกำหนดสิ่งของหรือลักษณะการกระทำ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ sa- kha-~ha-กับ ?a- (หน้า 84,116) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำบ่งชี้ มีความหมายเป็นการบอกระยะกลายเป็นคำกำหนดเวลาที่แน่นอน ได้แก่ หน่วยหน้าศัพท์ ?a- (หน้า 86,116)
1.4 เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำกริยาให้เป็นคำแยกประเภท หน่วยศัพท์ที่มีหน้าที่นี้ได้แก่ หน่วยหน้าศัพท์ ra- กับหน่วยกลางศัพท์ –an- (หน้า 116)
1.5 เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำนามให้เป็นคำกริยา ได้แก่เติมหน่วยศัพท์เพื่อเปลี่ยนคำนามให้เป็นคำกริยาการีต หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ pa- กับ ?a- (หน้า 86,116)
1.6 เติมหน่วยศัพท์เพื่อสร้างกริยาใหม่ ได้แก่
เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงสภาพและคำกริยาแสดงประสบการณ์ เป็นคำกริยาการีต หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ pa- ta- ra- กับ ?a- (หน้า 87,116) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ เป็นคำกริยาที่ทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ?a- (หน้า 89,116) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ เป็นคำกริยาที่เป็นสาเหตุให้เปลี่ยนแปลง หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ?a- (หน้า 89,116) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ เป็นคำกริยาที่มีความหมายเป็นการกระทำที่เสแสร้ง หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ta- (หน้า 90,117) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ มีความหมายเป็นคำกริยาแสดงสภาพที่แสดงผลอันเกิดจากการแสดงกริยานั้นสิ้นสุดลง หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ la- ra- (หน้า 90,117) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ มีความหมายเป็นการกระทำร่วมกันหรือโต้ตอบกัน หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ra- (หน้า 91,117) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ มีความหมายเป็นการกระทำซ้ำๆหลายครั้ง หน้าที่นี้หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ci- ku- และ N (หน้า 92,117) เติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ มีความหมายเป็นการกระทำที่ไร้เป้าหมาย หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ku- และเติมหน่วยศัพท์เพื่อทำให้คำกริยาแสดงอาการ มีความหมายเป็นคำสั่งให้ทำกริยา หน่วยเติมศัพท์ที่มีหน้าที่นี้คือ หน่วยหน้าศัพท์ ci- ha- (หน้า 94,117)
2) การซ้ำคำ มี 3 วิธีดังต่อไปนี้
2.1 ซ้ำเสียงอย่างสมบูรณ์ เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายคำกริยาแสดงอาการ (หน้า 95,117) เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายคำกริยาแสดงสภาพ และเพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายคำนาม (หน้า 95,117)
2.2 ซ้ำเสียงบางส่วน ได้แก่ ซ้ำพยางค์รอง และซ้ำเสียงพยัญชนะต้นกับพยัญชนะท้าย หรือการซ้ำเสียงแต่เฉพาะพยัญชนะต้นกับพยัญชนะท้าย เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระเป็นคำขยายคำกริยาแสดงสภาพ (หน้า 96,118) ซ้ำเสียงสระกับพยัญชนะท้าย เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายคำกริยาแสดงสภาพ (หน้า 96,118) ซ้ำเสียงพยัญชนะต้นกับพยัญชนะท้าย เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระกลายเป็นคำขยายคำนาม และซ้ำเสียงพยัญชนะต้น เพื่อทำให้หน่วยคำไม่อิสระเป็นคำซ้อน (หน้า 96,118)
2.3 การซ้ำความหมายเพื่อทำให้หน่วยคำอิสระมีความหมายเหมือนเดิม แต่มีเสียงและจังหวะไพเราะขึ้น (หน้า 97,118) |