|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาวโซ่ง,ลาวโซ่ง,ไทยโซ่ง,ผู้ลาว,โซ่ง,ไตดำ,ไทยทรงดำ,อาหารพื้นบ้าน,พิษณุโลก |
Author |
เปรมวิทย์ วิวัฒนเศรษฐ์ |
Title |
อาหารพื้นบ้านไทยทรงดำ บางระกำ พิษณุโลก : การวิเคราะห์ตามแนวหน้าที่นิยมและสังคมวิทยา |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ไทดำ ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง ไทยทรงดำ ไทดำ ไตดำ โซ่ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) |
Total Pages |
145 |
Year |
2528 |
Source |
มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่ |
Abstract |
การศึกษานี้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการประกอบอาหาร การถนอมอาหารและวิเคราะห์อาหารพื้นบ้านไทยทรงดำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ผลการศึกษาผู้เขียนพบว่า อาหารพื้นบ้าน นอกจากเป็นสิ่งจำเป็นและสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโต มีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขแล้ว อาหารพื้นบ้านยังมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ คือ หน้าที่ทางจิตวิทยา และหน้าที่ทางการป้องกันและบำบัดรักษาโรค อันจะทำให้ไทยทรงดำดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการวิเคราะห์ตามแนวสังคมวิทยา พบว่า อาหารพื้นบ้านได้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของไทยทรงดำที่ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีอันเป็นสถาบันหนึ่งทางสังคมได้เป็นอย่างดี ส่วนการถนอมอาหาร พบว่า ไทยทรงดำมีการถนอมอาหารในบางโอกาสเท่านั้น ซึ่งวิธีการถนอมอาหาร มีเพียง 3 วิธี คือ การหมัดดอง การย่าง และการตากแห้ง (บทคัดย่อ) |
|
Focus |
ศึกษาวิธีการประกอบอาหาร การถนอมอาหารพื้นบ้านไทยทรงดำ (หน้า 4) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ไทยทรงดำ หรือ โซ่ง ในตำบลบางระกำ ตำบลนิคมพัฒนา ตำบลบึงกอก และตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก (หน้า 5) |
|
Study Period (Data Collection) |
10 สิงหาคม 2528 – 31 มกราคม 2529 (หน้า 6) |
|
History of the Group and Community |
ประวัติการตั้งถิ่นฐาน ไทยทรงดำ /โซ่ง อพยพมาจากเมืองเข้ามาไทยครั้งแรกในสมัยกรุงธนบุรี โดยถูกกวาดต้อนมาจากเมืองทัน เมืองม่อย ในเขตแดนญวนเหนือให้มาตั้งบ้านเรือนที่เพชรบุรี ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีการกวาดต้อนไทยทรงดำครั้งใหญ่จากเมืองแถงและสิบสองจุไทยให้ลงมากรุงเทพฯ จากนั้นก็ไปอยู่รวมกันกับกลุ่มแรกที่เพชรบุรี เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็เคลื่อนย้ายไปอยู่ถิ่นอื่นๆ ได้แก่ จังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรี (หน้า 34-35) สำหรับไทยทรงดำที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษรูโลกนั้น ส่วนใหญ่อพยพมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี เพชรบุรี เมื่อประมาณ 10-50 ปีที่แล้ว โดยอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้าน กระจายอยู่ในตำบลต่างๆ ของอำเภอ และตำบลที่มีไทยทรงดำอยู่มากได้แก่ ตำบลบางระกำ ตำบลชุมแสงสงคราม ตำบลบึงกอก และตำบลนิคมพัฒนา (หน้า 69) |
|
Settlement Pattern |
ลักษณะบ้านเรือน ชุมชนไทยทรงดำ อำเภอบางระกำ ก่อสร้างอย่างง่ายๆ ฝีมือไม่ประณีต มีห้องนอนเพียงห้องเดียว ครัวไม่กั้นเป็นห้อง เพียงแต่แบ่งเป็นสัดส่วน ข้างบันไดมีอ่างล้างเท้า (หน้า 41) |
|
Economy |
อาหารพื้นบ้าน ในการศึกษานี้ผู้เขียนจำแนกอาหารพื้นบ้านโซ่งออกเป็น อาหารประจำวัน กับอาหารในพิธีกรรม การประกอบอาหารทั้งสองชนิดนั้นใช้พืชผักและสัตว์ในท้องถิ่น และเป็นอาหารที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารที่สืบทอดต่อกันมา มีดังนี้ 1) ของที่นำมาทำอาหารต้องเป็นของสด ไม่นิยมเก็บค้างคืน 2) ของที่นำมาทำอาหารต้องสะอาด 3) อาหารที่บริโภคส่วนมากเป็นอาหารสุก ส่วนอาหารประเภทสุกๆ ดิบๆ เช่น ลู่ ลาบ ฯลฯ รับประทานเป็นกับแกล้มมากว่าเป็นกับข้าวหรือรับประทานเปล่าๆ ด้วยเชื่อว่าเหล้าสามารถฆ่าเชื้อโรคและความสกปรกได้ 4) อาหารที่ทำ มาจากพืชมากกว่าสัตว์ ถ้าเป็นสัตว์ก็นิยมสัตว์เล็กมากกว่าสัตว์ใหญ่ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมากกว่าสัตว์บก ซึ่งได้แก่ ปลา ปู หอย กบ 5) อาหารมีรสจืด รสไม่จัด และไม่นิยมใส่กะทิ 6) การดับกลิ่นคาวนอกจากใช้ตะใคร้ ใบมะกรูด กระชาย ฯลฯ แล้วยังนิยมใช้น้ำปลาร้าและน้ำหน่อไม้ดองช่วยดับกลิ่นคาวและปรุงรส (หน้า 131-132) ส่วนการถนอนอาหารนั้น โซ่งไม่ค่อยนิยมเนื่องจากต้องการรับประทานอาหารสด ซึ่งสามารถหาได้ง่าย การถนอมอาหารจึงมีเพียงการหมักดอง การย่าง และการตากแห้งเท่านั้น (หน้า 133-134) |
|
Belief System |
ปัจจุบันโซ่งนับถือพุทธศาสนา ขณะเดียวกันก็ยังนับถือผีตามความเชื่อดั้งเดิมอยู่ โดยเชื่อว่า ผีฟ้าหรือแถนมีอำนาจสูงสุดเหนือผีทั้งมวล ผีฟ้ามีอำนาจควบคุมชีวิตมนุษย์และดินฟ้าอากาศ (หน้า 36) ส่วนผีบรรพบุรุษจะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของสมาชิกในเรือน ซึ่งทุกบ้านจะต้องเชิญผีบรรพบุรุษมาอยู่ในเรือนและเซ่นไหว้เป็นประจำ (หน้า 39) นอกจากนี้ก็ยังมีผีอื่นๆ อีก เช่น ผีประจำสถานที่ ผีประจำตัวบุคคล ผีที่เกี่ยวกับการเกษตร (หน้า 37) พิธีเสนเรือน เป็นพิธีเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองลูกหลาน พิธีนี้จะจัด 1-3 ปีต่อครั้ง ในช่วงเดือนหกถึงเดือนแปดก่อนเข้าพรรษาและออกพรรษา จนถึงวันเพ็ญเดือน 12 อาหารที่ใช้ในการเซ่นไหว้มีทั้งของสุกและของดิบ ของสุก ได้แก่ แกงหน่อไม้ส้ม ยำผักจุ๊บ กบโอ๋ ปลาปิ้งต๊บ ข้ามต้มผัด ของดิบ ได้แก่ ซี่โครงหมู 7 ซี่ กระดูกสันหลัง 7 ข้อ เนื้อหมู ไส้หมู ผลไม้(กล้วย ส้ม อ้อย) เผือกมัน ผู้ประกอบพิธีจะเอ่ยชื่อบรรพบุรุษของเจ้าของเรือน ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในสมุดจดบันทึกพิธีเสนเรือนมาในพิธี (หน้า 38, 43, 133) พิธีป๊าดตง เป็นการทำบุญข้าวใหม่ ซึ่งจัดปีละครั้งเพื่อให้ข้าวปลาอาหารดี ทำนาทำไร่ได้ผลดี อาหารในพิธีได้แก่ แกงหน่อไม้ส้ม ยำผักจุ๊บ กบโอ๋ ปลาปิ้งต๊บ ผลไม้ เผือก มัน ข้าวต้มผัด (หน้า 43) พิธีกรรมในวัฏจักรชีวิต ได้แก่ การเกิด การแต่งงาน และการตาย 1. การเกิด หลังจากหมอตำแยตัดสายสะดือและอาบน้ำเด็กเรียบร้อยแล้ว จะนำเด็กใส่กระด้งที่ปูผ้าไว้ หากเด็กไม่สบายก็จะทำพิธีเรียกขวัญโดยผู้สูงอายุที่รู้จักวิธีเรียกขวัญ ของที่ใช้ในพิธีประกอบด้วย ไข่ดิบ ห่อปลา และห่อข้าว (หน้า 42) 2. การแต่งงาน จะประกอบพิธี ณ บ้านฝ่ายหญิง ฝ่ายชายต้องเสียค่าใช้จ่ายในการแต่งงานทั้งหมด สำหรับการจัดขันหมากจะขึ้นอยู่กับผีของบ้านฝ่ายหญิง หากเป็นผีใหญ่ คือผีของตระกูลที่มีเชื้อเจ้า ใช้ขัน 4 คู่ หากเป็นผีเล็ก คือผีของตระกูลชาวบ้านธรรมดา ใช้ขัน 2 คู่ ภายหลังการแต่งงาน ส่วนมากผู้หญิงจะไปอยู่บ้านฝ่ายชาย แต่หากฝ่ายชายไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง จะต้องเอามีดมีฝัก ที่นอน หมอน สิ่ว ติดตัวไปด้วย (หน้า 42) 3. การตาย เมื่อมีคนตายในบ้าน ญาติพี่น้องต้องแต่งตัวด้วยชุดยาวสีดำ ไม่อาบน้ำ หวีผม หรือทาแป้ง แต่งตัวใดๆจนกว่าจะเผาศพเสร็จ โลงศพจะไม่มีฝาปิด ญาติพี่น้องผู้ตายนำด้ายสีแดงปิดหน้าศพ แล้วใช้ชุดยาวของผู้ตายพาดโลงไว้ ผู้ที่มาร่วมพิธีเผาศพจะแต่งกายด้วยผ้าที่เก่าจนขาด เมื่อเผาศพเสร็จ จะใช้ท่อนอ้อยทำเป็นตะเกียบคีบกระดูกไปล้างด้วยน้ำขมิ้น ก่อนที่จะนำใส่กระดูกใส่หม้อดินใหม่ที่ปูก้นหม้อด้วยด้ายแดง จากนั้นหมอผีทำพิธีเชิญผีขึ้นบ้าน และทำพิธีปัดรังควานให้แก่ญาติพี่น้องของผู้ตาย สำหรับการฆ่าหมูเพื่อประกอบอาหารในงานศพ จะไม่นำเลือดหมูมาประกอบอาหารอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีคนตายอีก (หน้า 42) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
ไม่มีรายละเอียด กล่าวเพียงแค่การรักษาโรคของไทยทรงดำ อำเภอบางระกำ ใช้สมุนไพร เช่น ใบว่านเปราะ ข้าวสาร ร่วมกับการใช้เวทมนตร์ (หน้า 43) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
การแต่งกาย ผู้เขียนกล่าวถึงการแต่งกายตามจารีตโซ่งว่า ปกติผู้ชายนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำหรือครามเข้ม เรียกว่า “ส้วงขาเต้น” สวมเสื้อแขนกระบอกยาวสีดำ รัดข้อมือ ผ่าหน้าตลอด ติดกระดุมเงินประมาณ 10-15 เม็ด ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีดำหรือครามเข้มมีลายขาวเป็นทางลงสลับกับดำ เชิงผ้าเป็นขอบกว้างประมาณ 2-3 นิ้ว (ถ้าเป็นม่าย จะเอาเชิงออก) สวมเสื้อแขนกระบอกยาวสีดำรัดข้อมือ ผ่าหน้าตลอด ติดกระดุมเงินประมาณ 9-10 เม็ด แต่ในโอกาสพิเศษ ผู้ชายนุ่งกางเกงขายาวสีดำ เรียกว่า “ซ่วงขาฮี” และสวม “เสื้อฮี” ทำด้วยผ้าฝ้ายย้อมคราม ตัวเสื้อเข้ารูปเล็กน้อย ผ่าหน้าตลอด ยาวถึงสะโพก ด้านข้างของเสื้อผ่าข้างขึ้นมาถึงเอว คอเสื้อเป็นคอกลมติดคอ กุ๊นรอบคอด้วยไหมสีแดง เดินทับด้วยไหมสีแสด สีเขียวและสีขาว คอเสื้อมีกระดุมติดคล้องไว้ 1 เม็ด แขนเสื้อเป็นแขนกระบอกยาว ปักตกแต่งรักแร้และด้านข้างของตัวเสื้อด้วยเศษผ้าไหมสีต่างๆ พร้อมทั้งติดกระจกชิ้นเล็กๆตามลวดลายอย่างงดงาม สำหรับผู้หญิง สวมเสื้อฮีเช่นเดียวกัน แต่เสื้อฮีของผู้หญิง ใหญ่กว่าเสื้อฮีของผู้ชาย ด้านหน้าเป็นคอแหลมลึก ใช้สวมหัว ปักตกแต่งด้านหน้าด้วยเศษผ้าไหมสีต่างๆ แขนเสื้อเป็นแขนกระบอกสามส่วน ปักตกแต่งปลายแขนด้วยไหมสีแดง สีแสด สีเขียว และสีขาว (หน้า 35-36) อย่างไรก็ดีในกรณีชุมชนโซ่ง อำเภอบางระกำ หญิง นุ่งผ้าถุงดำ ลายลงสีขาว มีผ้าดำเป็นแถบคาดอก ไม่ใส่เสื้อ มีผ้าคล้องคอสีต่างๆ ถ้าเป็นงานพิธีจะสวมเสื้อยาวสีดำ ซึ่งปักเป็นลวดลายสวยงาม (บ้างก็ประดับกระจก) ไว้ภายในตัวเสื้อ ส่วนผู้ชาย นุ่งกางเกงขาก๊วย สวมเสื้อแขนสั้น ถ้าเป็นงานพิธีจะสวมเสื้อยาวสีดำเช่นเดียวกับหญิง (หน้า 41-42) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
ตาราง - จำนวนส่วนการปกครองรายอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก พ.ศ.2528 (หน้า 65) - พื้นที่ จำนวนส่วนการปกครอง ครัวเรือน และประชากรรายตำบลในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ.2526 (หน้า 67) - จำนวนสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ.2528 (หน้า 70) - จำนวนสถานีบริการสาธารณสุขในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ.2528 (หน้า 71) - รายละเอียดแสดงหลุมเจาะสำรวจน้ำมันดิบในเขตอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างปี พ.ศ.2526-2527(หน้า 73) แผนที่ - แผนที่แสดงการแบ่งเขตจังหวัด (หน้า 76) - แผนที่แสดงการแบ่งเขตอำเภอ จังหวัดพิษณุโลก (หน้า 77) - แผนที่แสดงเส้นทางคมนาคมและการแบ่งเขตตำบล อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก (หน้า 78) ภาพ - การแต่งกายของชาย-หญิงที่แต่งงานแล้ว (หน้า 154) - การแต่งกายของหญิงโสด (หน้า 154) - วิทยากรและบริบทของการประกอบอาหารพื้นบ้านไทยทรงดำ บางระกำ พิษณุโลก (หน้า 155) |
|
|