สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),วิถีชีวิต,สังคม,เชียงใหม่
Author วิไลพร ชะมะผลิน
Title บทบาททางสังคมและเศรษฐกิจของสตรีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง (สะกอ)
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ปกาเกอะญอ, Language and Linguistic Affiliations จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan)
Location of
Documents
ห้องสมุดมานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Total Pages 30 Year 2522
Source ศูนย์วิจัยชาวเขา กองสงเคราะห์ชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์
Abstract

          เนื้อหากล่าวถึงบทบาทของผู้หญิงกะเหรี่ยงสะกอที่อยู่ในพื้นที่กรณีศึกษา 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านผาแตก บ้านผาแด่น บ้านแม่หลอดและบ้านแม่เจี้ยว อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเน้นที่บ้านผาแตกซึ่งจากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงกะเหรี่ยงสะกอมีบทบาทสำคัญในการดูแลครอบครัวเช่นการทำงานบ้าน เลี้ยงดูลูก ทำไร่ หาอาหาร รวมทั้งทำงานรับจ้างเพื่อเลี้ยงครอบครัวในกรณีที่มีข้าวไม่พอบริโภค รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาของสามีและดูแลครอบครัวหากสามีไปทำงานในพื้นที่ห่างไกลจากหมู่บ้าน

Focus

          ศึกษาบทบาททางสังคมและเศรษฐกิจตามสถานะภาพต่างๆ ในครัวเรือน ของกะเหรี่ยงสะกอ ครัวเรือนที่เกี่ยวข้อง และความสัมพันธ์ทางเครือญาติและสังคมทั่วไปของหมู่บ้าน (หน้า 2)

Theoretical Issues

          ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

          ประชากรศึกษาเป็นกะเหรี่ยงสะกอใน 4 หมู่บ้านได้แก่บ้านผาแตก บ้านผาแด่น บ้านแม่หลอดและบ้านแม่เจี้ยว ในการศึกษาจะเน้นที่บ้านผาแตกเป็นหลัก (หน้า 3)

Language and Linguistic Affiliations

          ภาษากะเหรี่ยงสะกอ กะเหรี่ยงสะกอมีภาษาเป็นของตัวเอง แต่ในอดีตนั้นคนส่วนใหญ่จะอ่านและเขียนภาษากะเหรี่ยงสะกอไม่ได้ ในพื้นที่กรณีศึกษาบ้านผาแตกมีชายสูงอายุหนึ่งคน ที่รู้ตัวหนังสือภาษากะเหรี่ยงสะกอ ส่วนที่หมู่บ้านแม่ตอ อำเภอแม่แตง ได้นำตัวอักษรภาษานี้มาใช้สอนเด็กนักเรียน ซึ่งคณะมิชชันนารีได้นำคัมภีร์ภาษากะเหรี่ยงสะกอ จากพม่าเพื่อนำมาใช้เผยแผ่ศาสนา (หน้า 19)

Study Period (Data Collection)

ธันวาคม 2521 - กันยายน 2522 (หน้า 2)

History of the Group and Community

          ไม่มีข้อมูล

Settlement Pattern

          บ้านกะเหรี่ยงสะกอ สร้างยกพื้นสูงจากดิน 5 ถึง 6 ฟุต เสาทำด้วยไม้ไผ่กับไม้เนื้อแข็ง ฝาและพื้นกั้นด้วยไม้ไผ่ พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ ชานหัวบันไดกับห้องใหญ่ซึ่งเป็นห้องเอนกประสงค์ ใช้นอน ทำอาหารและเป็นที่ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยม ตั้งเตาไฟไว้ในบ้าน เหนือเตาไฟจะทำเป็นชั้นเก็บเมล็ดพันธุ์พืช เช่น ข้าวโพดและอื่นๆ และเก็บกระดูกคางหมูที่เป็นหมูตัวแรกของบ้านเพราะเชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ป้องกันอันตรายจากไฟไหม้ ป้องกันขโมยขึ้นบ้าน เป็นต้น บรรยากาศภายในบ้านค่อนข้างมืดแสงไม่พอ เนื่องจากไม่มีหน้าต่าง หลังคามุงด้วยใบคา สังกะสีและกระเบื้อง (หน้า 4) ยุ้งข้าวแยกออกจากตัวบ้านลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมใต้ถุนสูง (หน้า 5)

Demography

          หมู่บ้านผาแตกมีจำนวนมากที่สุด 25 หลังคาเรือน บ้านแม่เจี้ยวมีจำนวนหลังคาเรือนน้อยที่สุด 11 หลังคาเรือน เฉลี่ยมีหมู่บ้านละ 19.5 หลังคาเรือน (หน้า 3)

Economy

          เศรษฐกิจ กะเหรี่ยงบ้านผาแตกทำการเกษตรเป็นอาชีพหลัก ในแต่ละครัวเรือนจะปลูกข้าวจ้าวและข้าวเหนียวจำนวนหนึ่ง สำหรับรายได้ส่วนอื่นจะมาจากการขายเครื่อง จักสาน ทำงานรับจ้าง หากปีไหนแห้งแล้งปลูกข้าวไม่พอกินในครอบครัวก็จะไปรับจ้างหาเงินมาซื้อข้าว (หน้า 6) ส่วนการปลูกข้าวไร่นั้นผู้หญิงจะมีบทบาทในการเลือกที่ดิน (หน้า 22) ปลูกข้าวและปลูกพืชในไร่ (หน้า 23) และกำจัดวัชพืช เป็นต้น (หน้า 24)

Social Organization

          ครอบครัว ผู้หญิงกะเหรี่ยงสะกอมีหน้าที่สำคัญในการดูแลครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานบ้าน ตำข้าว เก็บฟืน ทำอาหาร (หน้า 29) หากในครอบครัวข้าวไม่พอกินก็จะไปรับจ้างหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว (หน้า 30) การแต่งงาน เมื่อชายหนุ่มรักชอบพอกับหญิงสาวก็จะให้พ่อแม่ไปสู่ขอ หากพ่อแม่ฝ่ายหญิงตกลงก็จะกำหนดวันแต่งงานและเตรียมต้มเหล้าเก็บไว้ดื่มในวันงาน การแต่งงานหรือ “การกินแขก” ใน 4 หมู่บ้านที่เป็นกรณีศึกษา จะทำพิธีที่บ้านเจ้าสาวก่อนโดยจะทำพิธีเลี้ยงอาหารแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ให้หมอผีจัดสำรับอาหารเพื่อประกอบพิธีบูชาเจ้าที่และเพื่อนบ้านจะมาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร ช่วงเช้าของวันต่อมาจะประกอบพิธี ”ป้อนข้าว” โดยเจ้าบ่าวจะมาที่บ้านเจ้าสาวแต่เช้ามืดและจะให้เด็กผู้ชายกับเด็กหญิงที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่มาป้อนไก่ต้ม 2 ตัว คนละ 1 คำ และไก่ที่เหลือจะมอบให้เด็กคนละตัว นอกจากนี้ เด็กผู้หญิงอาจจะได้สร้อยเป็นของขวัญ (หน้า 11) ช่วงกลางวันเจ้าสาวจะเปลี่ยนจากชุดคลุมสีขาวมาสวมผ้าถุงแดง สวมเสื้อสีดำที่ประดับด้วยลวดลาย ขั้นตอนต่อมา เจ้าบ่าวก็จะมาเปลี่ยนชุดที่บ้านเจ้าสาว โดยจะสวมกางเกงกะเหรี่ยงสีดำสวมเสื้อสีแดง จากนั้นเจ้าบ่าวจะกลับบ้านและมาที่บ้านเจ้าสาวอีกครั้งในตอนเย็น เมื่อมาถึงเจ้าสาวจะรอรับที่หัวบันได นำหินลับมีดวางให้เจ้าบ่าวเหยียบและล้างเท้าให้เจ้าบ่าว สาเหตุที่ทำเช่นนี้ก็เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่ความสงบร่มเย็นเนื่องจากหินลับมีดมักวางอยู่ใกล้น้ำ ต่อจากนั้นก็ถือว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเป็นสามีภรรยากัน ตามประเพณีกะเหรี่ยงสะกอ เมื่อแต่งงงาน3 วันแรกถือว่าเป็นการอยู่กรรมไม่ให้เดินทางไกล (หน้า 12) หลังจากแต่งงานแล้วผู้ชายจะต้องไปอยู่ที่บ้านภรรยาไม่น้อยกว่า 1 ปี จึงจะแยกไปสร้างครอบครัวของตนเอง (หน้า 5) การแต่งงานของกะเหรี่ยงสะกอจะเป็นแบบผัวเดียวเมียเดียว (หน้า 2) ไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องการหย่าร้าง (หน้า 10)

Political Organization

          หมู่บ้านกรณีศึกษามี 4 หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านจะมีผู้นำปกครองอย่างเป็นทางการและมีหมอผี หรือ “ยี่โคะ” เป็นผู้นำในการประกอบพิธีในหมู่บ้านของตน (หน้า 3)

Belief System

          ศาสนาและความเชื่อ การนับถือศาสนาของกะเหรี่ยงสะกอแบ่งได้ดังนี้ กะเหรี่ยงบ้านผาแตก ผาแด่นนับถือศาสนาพุทธ ในหมู่บ้านแม่หลอดบางครอบครัวนับถือศาสนาคริสต์ นอกจากนับถือศาสนายังนับถือผีไปด้วยพร้อมกัน (หน้า 5) ผีที่นับถือ ได้แก่ ผีบ้านคือผีประจำหมู่บ้านซึ่งจะทำพิธีเลี้ยงผีบ้านหรือเรียกว่า “ถ่อกะจ่า “ หมายถึง ”การขึ้นเจ้า” ซึ่งจะประกอบพิธีปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่เกิดเรื่องไม่เป็นมงคลในหมู่บ้านก็จะจัดเพิ่มขึ้น (หน้า 16) และผีเรือนซึ่งเป็นผีของบรรพบุรุษที่ล่วงลับ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าผีนั้นอยู่ทุกหนทุกแห่งเช่นที่ไร่ ในแม่น้ำ เป็นต้น (หน้า 6)

Education and Socialization

          หญิงกะเหรี่ยงบ้านผาแตกส่วนมากมีความรู้หนังสือพออ่านออกเขียนได้ ซึ่งพบว่าความสามารถในการพูดและฟังภาษาไทยเหนือของหญิงกะเหรี่ยงคิดเป็น 69 % ขณะที่ผู้ชายฟังและพูดได้จำนวน 100% ทั้งนี้เนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวก หน้าที่ต่างๆ จึงเป็นของผู้ชาย ดังนั้นจึงมีโอกาสได้ใช้ภาษาไทยเหนือมากกว่าผู้หญิง (หน้า 20)

Health and Medicine

          การสุขาภิบาลไม่สะดวกสบาย เพราะไม่มีส้วมใช้ เมื่อจะขับถ่ายจะไปที่ป่าใกล้บ้าน (หน้า 5) ส่วนด้านสุขภาพอื่นๆ ที่กล่าวถึงในงานเขียน ได้แก่ การคุมกำเนิดซึ่งทุกวันนี้หญิงกะเหรี่ยงสะกอบ้านผาแตกจะมีการวางแผนครอบครัวด้วยการฉีดยา ไม่นิยมกินยาคุมหรือทำหมันหญิง ส่วนการทำหมันชายก็ไม่เป็นที่นิยมเช่นกัน (หน้า 14) ในอดีตหญิงกะเหรี่ยงจะมีลูกมากโดยจะมีลูกไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงวัยหมดประจำเดือน ดังนั้นจึงมียอดอัตราของเด็กทารกเป็นจำนวนมาก (หน้า 13) การมีลูกมากนั้นทำให้หญิงกะเหรี่ยงมองเห็นความยากลำบากในการเลี้ยงลูก ทุกวันนี้จึงให้ความสำคัญกับการวางแผนครอบครัวมากกว่าในอดีต (หน้า 14)

Art and Crafts (including Clothing Costume)

          ต่าง (ภาชนะใส่เมี่ยง) ลักษณะทรงกระบอกสูงประมาณ 75 เซนติเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 เซนติเมตร สานด้วยไม้ไผ่ ภาชนะแบบนี้ 1 อันจะใส่เมี่ยงได้ 250 -300 กำ ตามปกติแล้วกะเหรี่ยงจะสาน”ต่าง” ได้วันละ 3-4 ใบ โดยใน 5 วันจะสานได้ 8 หลัง( 1 หลัง=2ใบ)ราคาขายจะอยู่ที่หลังละ 15 บาท เฉลี่ยจะมีรายได้ 30 บาทต่อวัน (หน้า 26)

Folklore

          นิทานสาเหตุที่กะเหรี่ยงสะกอไม่รู้หนังสือ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อเทพพระเจ้าได้มอบความรู้ให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ แต่กะเหรี่ยงสะกอไปรับไม่ทัน เทพเจ้าจึงฝากไว้กับพี่น้องของกะเหรี่ยงสะกอ ได้แก่ คนไทย ฝรั่งและชาติอื่นๆ แต่คนที่รับฝากนั้นได้เอาไปวางไว้ที่ไร่ แต่หมูมาเห็นก่อนจึงกินแล้วขับถ่าย กระทั่งไก่มาเห็นจึงคุ้ยเขี่ย กะเหรี่ยงจึงฆ่าไก่ แล้วได้นำความรู้เรื่องการทำนายจากกระดูกไก่มาใช้จนถึงทุกวันนี้ (หน้า 19)

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

          ไม่มีข้อมูล

Social Cultural and Identity Change

          ไม่มีข้อมูล

Critic Issues

          ไม่มีข้อมูล

Other Issues

          ไม่มีข้อมูล

Map/Illustration

แผนที่

  • ที่ตั้งของ 4 หมู่บ้าน (หน้า 3)
  • แผนผัง บ้าน (หน้า 4)
ภาพ
  • โครงสร้างอายุประชากรกะเหรี่ยงบ้านผาแตก (หน้า 32)
ตาราง
  • ประชากรและหลังคาเรือนกะเหรี่ยงสะกอ , ประชากรแยกตามกลุ่มอายุ (หน้า 33)
  • อายุการแต่งงานครั้งแรกของสตรีกะเหรี่ยงบ้านผาแตก , สถานะการสมรสของสตรีกะเหรี่ยงสะกอ อายุ 15 ปี ขึ้นไป , หญิงกะเหรี่ยงสะกอที่แต่งงานใหม่ (หน้า 34)
  • สถานะการสมรสของกะเหรี่ยงสะกอบ้านผาแตกในแต่ละหมวดอายุ (หน้า 35)
  • จำนวนการตั้งครรภ์และจำนวนบุตรหญิงกะเหรี่ยงบ้านผาแตก (หน้า 37)
  • จำนวนกะเหรี่ยงสะกอที่ฟังและพูดภาษาไทยเหนือได้, เด็กในวัยเรียนและเด็กนักเรียนกะเหรี่ยงสะกอ, นักเรียนโรงเรียนบ้านผาแตกปีการศึกษา 2516 -2522 (หน้า 38)
  • คนวัยแรงงานและวันที่ใช้แรงงานในการโค่น ถางป่า เก็บเศษไม้ในไร่ข้าว บ้านผาแตก 2522 (หน้า 39)

Text Analyst ภูมิชาย คชมิตร Date of Report 04 ต.ค. 2567
TAG ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), วิถีชีวิต, สังคม, เชียงใหม่, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง