|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
อูรักลาโว้ย,เศรษฐกิจ,วิถีชีวิต,ภูเก็ต |
Author |
นฤมล อรุโณทัย, พลาเดช ณ ป้อมเพชร, จีระวรรณ์ บรรเทาทุกข์ |
Title |
อาชีพเสริมและอาชีพทางเลือกของชาวอูรักลาโว้ยในจังหวัดภูเก็ต |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
อูรักลาโว้ย อูรักลาโวยจ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเนเชี่ยน |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) |
Total Pages |
104 |
Year |
2550 |
Source |
สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract |
เนื้อหาของงานเขียนกล่าวถึงการสำรวจและบันทึกเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพเสริมและอาชีพทางเลือกในกลุ่มประชากรศึกษา 94 คน ที่อยู่ในหมู่บ้านต่างๆ ได้แก่ หมู่บ้านสะปำ ตำบลเกาะแก้ว,หมู่บ้านแหลมตุ๊กแก ตำบลรัษฎาหมู่บ้านราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตซึ่งจากการศึกษาระบุว่าส่วนใหญ่อูรักลาโว้ยยังอยากทำการประมงต่อไป ส่วนอาชีพเสริมนั้นส่วนหนึ่งได้พบปัญหาได้แก่ ปัญหาด้านการศึกษาเพราะอูรักลาโว้ยอ่านเขียนหนังสือไม่ได้จึงขาดความมั่นใจ ขาดการติดต่อด้านการประสานงาน ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน ซึ่งที่ผ่านมาในชุมชนมีการทุจริตกันมาก นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องอคติที่คนภายนอกมีต่ออูรักลาโว้ย |
|
Focus |
เพื่อสำรวจและบันทึกข้อมูลโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเสริมและอาชีพทางเลือกของอูรักลาโว้ย ซึ่งดำเนินงานโดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ต และวิเคราะห์บทเรียนที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการหรือกิจกรรมสนับสนุนอาชีพ ทัศนคติเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนอาชีพและนำเสนอถึงแนวทางในการส่งเสริมโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอาชีพเสริมและอาชีพทางเลือกของอูรักลาโว้ยในอนาคต (หน้า 2) |
|
Ethnic Group in the Focus |
อูรักลาโว้ย (ชาวเล) อูรักลาโว้ยซึ่งถูกคนในท้องถิ่นเรียกว่า “ชาวเล” อาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันตกในภาคใต้ของไทยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี “อูรักลาโว้ย” เป็นชื่อที่พวกเขาเรียกตนเอง มีคำแปลว่า “ชาวทะเล” แต่คำว่า “ชาวเล” ในภาษาไทยในกลุ่มคนใต้เป็นคำที่มีความหมายไม่ดี เช่น ไม่ดูแลสุขภาพ ไม่สนใจการเรียน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย (หน้า 5,50) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
ไม่ระบุอย่างชัดเจน (ประมาณปี พ.ศ.2549 -หน้า 5) |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
หมู่บ้านสะปำ ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต บ้านเรือนส่วนมากเป็นบ้านเสาสูงสร้างอยู่บนหาดเลน (หน้า 9) หมู่บ้านแหลมตุ๊กแก ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต บ้านสร้างด้วยไม้เป็นแบบชั้นเดียวและสองชั้น ภายหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ ได้มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน ดังนั้นจึงมีบ้านที่สร้างด้วยวัสดุชนิดอื่นเช่น บ้านที่สร้างด้วยสังกะสี บ้านปูน รวมทั้งบ้านที่ใช้ไม้สังเคราะห์ (หน้า 11) หมู่บ้านราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต บ้านมีหลายแบบเช่นบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้นอาคาร พาณิชย์และเพิงสังกะสี (หน้า 12) การสร้างบ้านเรือนในชุมชนค่อนข้างแออัด ส่วนมากบ้านเรือนไม่นิยมสร้างส้วม ดังนั้นเมื่อจะขับถ่ายจึงใช้บริเวณหาดทราย สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากอูรักลาโว้ยไม่มั่นใจเรื่องที่อยู่อาศัยว่าจะถูกรื้อถอนในวันใด (หน้า 13) |
|
Demography |
ประชากรศึกษา อูรักลาโว้ยใน 3 หมู่บ้านประกอบด้วย บ้านสะปำ 17 คน ชาย 10 คนและหญิง 7 คน บ้านแหลมตุ๊กแก ทั้งหมด 49 คน แบ่งเป็นชาย 24 คนและหญิง 25 คน หมู่บ้านราไวย์ ทั้งหมด 28 คน แบ่งเป็นชาย 13 คนและหญิง 15 คน (ตารางหน้า 4) ส่วนจำนวนประชากรจริงในหมู่บ้านต่างๆ มีด้วยกันดังนี้ หมู่บ้านสะปำ มีประชากรทั้งหมด 226 คน จำนวนครัวเรือน 48 ครัวเรือน (หน้า 9) หมู่บ้านแหลมตุ๊กแก มีประชากร 1,316 คน 190 หลังคาเรือน จำนวนครัวเรือน 298 ครัวเรือน แบ่งเป็นชาย 666 คนและหญิง 650 คน (หน้า 10) หมู่บ้านราไวย์ ประชากรทั้งหมด 1,200 คน แบ่งเป็นชาย 595 คน หญิง 605 คน มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 201 ครัวเรือน (หน้า 12) |
|
Economy |
อาชีพประมงและการส่งเสริมอาชีพ จากการศึกษาพบว่า อูรักลาโว้ยที่ยังคงต้องการจะทำอาชีพประมงต่อไปคิดเป็น 69 % ส่วนผู้ที่อยากเปลี่ยนอาชีพมีจำนวน 31 % (หน้า 33) สำหรับสาเหตุที่ทำให้ อูรักลาโว้ยไม่ต้องการเปลี่ยนอาชีพเพราะว่าการทำประมงมีความเป็นอิสระ มีรายได้ดี (หน้า 19) เป็นอาชีพที่ถนัดไม่ต้องสอบคัดเลือก สามารถทำงานได้ทั้งปี (หน้า 20) แต่การทำประมงนั้นได้มีข้อจำกัดหลายอย่าง มีพื้นที่หวงห้ามในการทำการประมงมากขึ้น ใช้เงินทุนในการซื้ออุปกรณ์เป็นจำนวนมาก (หน้า 21-23) รวมทั้งปัญหาหนี้สิน และสัตว์น้ำลดลงเป็นจำนวนมากและอื่นๆ (หน้า 24,15-32) ส่วนอาชีพเสริมที่อูรักลาโว้ยทำ ได้แก่ รับจ้างรายวัน รับจ้างซักผ้า เก็บขวดขาย เลี้ยงกุ้งมังกร ค้าขายและอื่นๆ (หน้า 34-35) แต่เท่าที่ผ่านมาพบว่าการส่งเสริมการทำอาชีพเสริมจากหน่วยงานต่างๆ นั้น ส่วนมากไม่ได้รับความสนใจและนำไปประกอบอาชีพหารายได้เท่าที่ควร (หน้า 45 ,33-45) สำหรับอุปสรรคในการส่งเสริมอาชีพที่พบคือ โครงการหรือกิจกรรมมีระยะสั้น ขาดการประสานงาน (หน้า 48-50) ขาดการวางแผนในระยะยาวขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน เพราะที่ผ่านมาในหมู่บ้านเกิดเหตุการณ์ทุจริตหลายครั้ง (หน้า 52-54,47-58) อย่างไรก็ดีในการฝึกอาชีพนั้นไม่ได้รับความสนใจส่วนหนึ่งเนื่องมาจากอูรักลาโว้ยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จึงขาดความมั่นใจในการฝึกอบรม (หน้า 64)ในการศึกษาระบุว่าแนวทางในการส่งเสริมอาชีพเสริมและอาชีพทางเลือกในอนาคตนั้นควรส่งเสริมงานหัตถกรรมและงานฝีมือ อาชีพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น กุ้งมังกรและอื่นๆ (หน้า 67-76) นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมในด้านอื่นๆ เช่น การเก็บออม การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ การส่งเสริมด้านการศึกษา ส่งเสริมความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย เป็นต้น (หน้า 76-82) หมู่บ้านสะปำ ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ส่วนมากทำอาชีพประมงและคราดหอยแครงและหอยชนิดอื่นที่หาดเลน (หน้า 9) หมู่บ้านแหลมตุ๊กแก ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต อาชีพหลักคือทำการประมง นอกจากนี้ก็ทำงานรับจ้าง ได้แก่ งานก่อสร้าง รับจ้างคัดปลา เป็นต้น (หน้า 11) หมู่บ้านราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทำอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังทำงานรับจ้าง ขับเรือท่องเที่ยว ทำงานในโรงแรมและรีสอร์ท เป็นต้น (หน้า 12) |
|
Social Organization |
ผู้ชายอูรักลาโว้ยทำอาชีพประมงชายฝั่งและไม่ต้องออกทะเลไปพักค้างแรมในสถานที่ต่างๆ ทั้งครอบครัวที่เรียกว่า “บากัด” เหมือนเช่นอดีต ในครอบครัวอูรักลาโว้ยผู้ชายจะมีหน้าที่ทำการประมงเลี้ยงครอบครัวการทำงานบ้าน เช่น ทำกับข้าว เลี้ยงลูกเป็นหน้าที่ของผู้หญิง (หน้า 7,8) |
|
Political Organization |
หมู่บ้านสะปำ ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต -ไม่มี หมู่บ้านแหลมตุ๊กแก ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต -ไม่มี หมู่บ้านราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ประชาชนบางคนยังไม่ได้รับสัญชาติและไม่มีบัตรประชาชน (หน้า 13) |
|
Education and Socialization |
อูรักลาโว้ยนิยมทำอาชีพประมงเพราะไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาและอิสระไม่ต้องไปทำงานเป็นลูกจ้าง (หน้าบทสรุป,20) สำหรับการสอนภาษาอังกฤษให้กับอูรักลาโว้ย ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์สึนามิ ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนหรือ “กศน.”ได้จัดเจ้าหน้าที่มาสอนภาษาอังกฤษให้กับชาวบ้าน แต่กิจกรรมให้ความรู้ได้ยุติลงเพราะวิทยากรประสบอุบัติเหตุ ส่วนการสอนโดยครูสอนภาษาอังกฤษที่เป็นอูรักลาโว้ยในชุมชนยังพบปัญหา เพราะเด็กที่มาเรียนไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร (หน้า 45) |
|
Health and Medicine |
ชายอูรักลาโว้ยหลายคนต้องพิการเพราะโรค “น้ำหนีบ” หรือ “น้ำบีบ”ซึ่งมีสาเหตุมาจากความดันน้ำ “caisson” หรือ “decompression sickness” อันเนื่องมาจากการใช้เครื่องอัดอากาศหรือเครื่องปั๊มลมโดยต่อท่อที่มีความยาวแล้วต่อกับหน้ากากดำน้ำเพื่อให้ดำน้ำได้เป็นเวลายาวนาน (หน้า 8,27,28) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน งานเขียนกล่าวถึงศิลปะการแสดงพื้นบ้านเพื่อหารายได้ เช่นที่แหลมตุ๊กแกมีวงรองแง็งที่มีชื่อเสียงและได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลรัษฎา (หน้า 36) สำหรับการแสดงอื่นเช่นที่หมู่บ้านราไวย์ได้ทำการรื้อฟื้นการรำมวยกาหยงซึ่งจะมีการรำประกอบดนตรีก่อนที่จะแข่งขัน แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีการสนับสนุนให้การรำมวยกาหยง เป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน (หน้า 36) |
|
Folklore |
ที่มาของชื่อแหลมตุ๊กแก มีเรื่องเล่าว่าบริเวณแหลมตุ๊กแกในอดีตมีต้นมะขามขนาดใหญ่ประมาณ 7 ถึง 8 คนโอบ นอกจากนี้ก็มีตุ๊กแกเป็นจำนวนมาก อูรักลาโว้ยตั้งที่อยู่ที่นี่และที่อื่นๆได้แก่ เกาะตะเภา เกาะยาว เมื่อมีคนเสียชีวิตเพราะอหิวาตกโรคเป็นจำนวนมาก อูรักลาโว้ยจึงย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่แหลมร้างหรือแหลมกลาง ภายหลังเมื่อมีคนอ้างเป็นเจ้าของที่ดิน อูรักลาโว้ยจึงกลับมาอยู่ที่แหลมตุ๊กแกเหมือนเดิม (หน้า 10) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
แผนที่ จังหวัดภูเก็ต ที่ตั้งบ้านสะปำ,บ้านแหลมตุ๊กตา,บ้านราไวย์ (หน้า 3) หมู่บ้านเก่าของอูรักลาโว้ย (หน้า 7) ภาพ การเก็บข้อมูล (หน้า 4) ชุมชนอูรักลาโว้ยที่สะปำ (หน้า 10) หมู่บ้านแหลมตุ๊กแก (หน้า 11) หมู่บ้านอูรักลาโว้ยและมอแกนที่ราไวย์ (หน้า 13) ลอบดักปลา (หน้า 15,18) การตอกหอยติบ (หน้า 18,104) เรือหัวโทง,แม่ค้าขายปลาที่หาดราไวย์ (หน้า 19) ปลาตากแห้ง (20) ป้ายประกาศกรมประมง (หน้า 22) ชายอูรักลาโว้ยเตรียมออกทะเล (หน้า 24) ปลาที่เตรียมไปขาย (หน้า 25) ป้ายให้ความรู้ (หน้า 28) ฟาร์มหอยแมลงภู่ (หน้า 30) อูรักลาโว้ยเตรียมขวดเบียร์ชั่งขาย (หน้า 34) กุ้งมังกร,ตู้เลี้ยงลูกกุ้ง (หน้า 35) ร้านขายของชำในชุมชนแหลมตุ๊กแก ,การแสดงร็องแง็ง (หน้า 36,91) ตัวอย่างเรือปราฮู(หน้า 40) อาจารย์สอนตัดเย็บเสื้อผ้า (หน้า 42) ภาพในชุมชน (หน้า 61) วัยรุ่นในชุมชน (หน้า 66) เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน (หน้า 67) ผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยใบเตยหนามจากชุมชนมอแกน (หน้า 68)เรือจำลอง แผงขายของหน้าหมู่บ้านแหลมตุ๊กแก (หน้า 69) การท่องเที่ยวทางทะเล (หน้า 71) รถทัวร์นักท่องเที่ยว ,เรือหัวโทงที่พานักท่องเที่ยวไปตกปลา (หน้า 73) เด็กในชุมชน (หน้า 77) การขายถนนเป็นอุปสรรคให้หลายครัวเรือนต้องไร้ที่อยู่ (หน้า 81) เรือปราฮูจำลอง, แม่บ้านอูรักลาโว้ยทำห่อหมกขายในหมู่บ้าน ,แผงขายของหน้าหมู่บ้านหากราไวย์ (หน้า 85) เรือหัวโทง (หน้า 87) น้ำมันมะพร้าว (หน้า 89) ภูเก็ต (หน้า 93) บ้านที่สร้างหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ (หน้า 96) รถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายขนม (หน้า 98) ตาราง ชาวอูรักลาโว้ยแยกตามเพศและชุมชน (หน้า 4) งานประมงของอูรักลาโว้ย (หน้า 16) อุปสรรคการส่งเสริมอาชีพ (หน้า 48) |
|
|