|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
คะแมร์ลือ,เขมร,คนข้ามแดน,ขอทาน,สังคม,อาชญากรรม,การเมือง,ไทย,กัมพูชา |
Author |
เสาวลักษณ์ วรายุ |
Title |
คนข้ามแดน : ชีวิตและชุมชนของขอทานเขมรในกรุงเทพมหานคร |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ขแมร์ลือ คะแมร คนไทยเชื้อสายเขมร เขมรถิ่นไทย,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic) |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
183 |
Year |
2548 |
Source |
หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภูมิภาคศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
เนื้อหากล่าวถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเข้ามาของคนเขมรเพื่อมาขอทานในกรุงเทพฯ สภาพความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพขอทานและปัญหาของขอทานที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียเงินออกนอกประเทศไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ขอทานเขมรเป็นคนขอทานที่มีมากที่สุดในจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาขอทานในประเทศไทย ซึ่งขอทานเขมรส่วนใหญ่จะเข้ามาโดยสมัครใจโดยมีนายหน้าพาเข้ามา การอยู่ในกรุงเทพจะอยู่เป็นชุมชนหรืออยู่กับเพื่อนเพื่อช่วยเหลือกัน อย่างไรก็ดีในการช่วยเหลือระดับประเทศระหว่างประเทศไทยและกัมพูชานั้น ยังไม่เห็นผลเท่าที่ควรเนื่องจากขอทานเหล่านี้เมื่อถูกส่งกลับประเทศก็จะเดินทางเข้ามาอีกครั้งเพราะว่าอาชีพขอทานนั้นรายได้ดี ซึ่งชาวเขมรก็เห็นว่าการทำอาชีพขอทานเป็นงานสุจริตเป็นการหารายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น |
|
Focus |
ศึกษาสถานการณ์และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเข้ามาของขอทานเขมรในไทยและการดำรงชีวิตของคนเขมรที่เข้ามาขอทานและเพื่อเสนอแนะแนวทางและวิเคราะห์ปัญหาการจัดการขอทานเขมรในกรุงเทพมหานครที่เหมาะสมของรัฐบาลไทย (หน้า 5) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ขอทานเขมรที่เข้ามาขอทานในกรุงเทพ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
บ้านเช่าของขอทาน ขอทานเขมรอยู่บ้านเช่า ในหลายชุมชน เช่น ชุมชนย่านสะพานใหม่ ดอนเมือง ลักษณะบ้านเป็นตึกสองชั้น สภาพทรุดโทรมอยู่กันแบบหลายครอบครัว สร้างแบบไม่มั่นคงถาวร กั้นด้วยไม้เป็นห้องคับแคบค่อนข้างทึบแสงสว่างเข้าได้ไม่ทั่วถึง บ้านไม่มีรั้ว (หน้า 100) การใช้สอยพื้นที่ไม่ได้แยกอย่างเป็นกิจลักษณะคือ ส่วนที่ทำกับข้าวจะเป็นพื้นที่เดียวกับที่หลับนอน อุปกรณ์ที่ใช้ทำอาหารได้แก่ เตาเล็กๆ หม้อ กระทะไฟฟ้า ถ้วยชามจะวางไว้ที่พื้น หรือบนโต๊ะเล็กๆ (หน้า 101) บ้านของคนเขมรในประเทศกัมพูชา แบ่งบ้านตามฐานะเศรษฐกิจคือ บ้านคนจนเป็นบ้านไม้ไผ่ พื้นเป็นไม้ฟากหลังคาและฝาบ้านกั้นด้วยใบจาก บ้านที่มีใต้ถุนจะใช้พื้นที่บริเวณใต้ถุนเลี้ยงสัตว์เช่น วัว ควาย บริเวณข้างบ้านจะสร้างเล้าหมู เล้าไก่ เล้าเป็ด บ้านไม่มีรั้วกั้นเพื่อบอกเขตแดนแต่จะปลูกต้นไม้ไว้เพื่อเป็นเครื่องแสดงพื้นที่ความเป็นเจ้าขอเช่น ปลูกไผ่ มะพร้าว กล้วย มะม่วงและอื่นๆ สำหรับบ้านที่มีฐานะดีก็จะสร้างรั้วเป็นบ้านแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง สำหรับบ้านคนที่มีฐานะปานกลาง จะสร้างบ้านแบบบ้านไม้ยกพื้นสูง บ้านมุงด้วยกระเบื้องหรือสังกะสี (หน้า 101) |
|
Demography |
ประชากรขอทานเขมร จากการสำรวจระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2542- 30 ก.ย.2545 พบว่า ขอทานเขมรมีจำนวนทั้งหมด 7,702 คน หรือจำนวน 98.7 % มากเป็นที่หนึ่งของขอทานต่างชาติที่มีทั้งหมด 7,804 คน โดยมีพม่าอีก 94 คน (1.2 %) ลาว 7 คน(0.09 %) และบังคลาเทศ 1 คน (0.01 %) กลุ่มขอทานเขมรแบ่งเป็นผู้ใหญ่ 4,167 คน เป็นผู้หญิง 3,464 คน ผู้ชาย 703 คน เป็นเด็ก 3,562 คน เป็นผู้หญิง 1,699 คน และผู้ชาย 1,863 คน (ตารางหน้า 68) |
|
Economy |
อาชีพขอทาน เด็กเขมรที่เข้ามาขอทานในประเทศไทยมีทั้งมาด้วยความสมัครใจและถูกหลอกมา บางส่วนก็มาจากครอบครัวที่มีปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน หรือเสียชีวิต คนที่เข้ามาขอทานครั้งแรกจะมีนายหน้าพาเข้ามาและจะมีหัวหน้ากลุ่มคอยควบคุมการทำงาน ซึ่งเด็กเหล่านี้จะมีฐานะยากจนส่วนมากครอบครัวจะทำนา ทำอาชีพรองคือค้าขายหรือรับจ้างการมาทำอาชีพขอทานเด็กเขมรถือว่าเป็นงานสุจริตเป็นการหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว (หน้า 86,106) สำหรับคนที่ลักลอบเข้ามาขอทานในไทยส่วนใหญ่จะมาโดยความสมัครใจโดยจะเสียค่านายหน้าประมาณ 2,500 บาทต่อคน ส่วนคนที่เป็นเด็กอาจจะเสียน้อยกว่าผู้ใหญ่ เช่นเสีย 1,000 บาทต่อคน จากนั้นนายหน้าจะพาคนเขมรมาขอทานในกรุงเทพ (หน้า 108,109) ทั้งนี้การขอทานนั้นได้เงินมากบางทีอาจมากถึง 1,000 บาทต่อวัน หากเป็นเด็กมารับจ้างทำงานตามบ้านก็จะถูกเอาเปรียบเรื่องค่าจ้างจากนายจ้างซึ่งจะให้เงินเดือน 1,000-2,500 บาท ซึ่งคิดเป็นค่าแรงจะอยู่ที่ 50 ถึง 100 บาท แต่ถ้าหากเด็กมาขอทานก็อาจมีรายได้ตกเดือนละประมาณ 6,000 บาท (หน้า 88) |
|
Social Organization |
ความเป็นอยู่ของขอทานเขมรในประเทศไทย ได้แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ 1) อยู่เป็นครอบครัวกับพ่อแม่พี่น้อง หากเป็นเด็กก็จะอยู่กับพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ไปทำงานเด็กเหล่านี้ก็จะถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ดังนั้นหากเป็นเด็กโตก็มักจะสร้างปัญหาเช่นลักเล็กขโมยน้อยสิ่งของของชาวบ้าน กระทั่งถูกหลอกให้มาเป็นขอทานและทำงานผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ (หน้า 97) 2) อยู่กับญาติหรือคนรู้จัก กลุ่มนี้จะอยู่กับญาติพี่น้อง ที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยก่อน หากเด็กเข้ามาคนเดียวพ่อแม่ก็จะฝากฝังให้ญาติหรือคนรู้จักช่วยดูแลหรือหางานให้ทำ เป็นต้น (หน้า 97) 3) อยู่กับเพื่อน บางส่วนก็จะอยู่กับเพื่อนเพื่อความสะดวกในการช่วยเหลือหรือติดต่อสื่อสารกัน หากเป็นเด็กเร่ร่อนก็จะอยู่กับเพื่อนหรืออยู่ในกลุ่มที่มีผ็ใหญ่เป็นหัวหน้า (หน้า 97) 4) อยู่เป็นชุมชน คนต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายมักจะอยู่รวมกลุ่มกันจนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ (หน้า 97)โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อความสบายใจที่ได้อยู่กับคนชาติเดียวกันได้ช่วยเหลือกันเพื่อไม่ให้ถูกจับรวมทั้งได้พูดภาษาของตนเอง (หน้า 98) |
|
Political Organization |
กระบวนการช่วยเหลือขอทานเขมร รัฐบาลไทยได้ทำการแก้ปัญหาเรื่องคนขอทาน โดยมอบหน้าที่ให้กรมประชาสงเคราะห์รับขอทานให้เข้ามาอยู่ที่สถานที่พึ่งนนทบุรี จากนั้นก็จะให้ความช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจจึงจะส่งคนขอทานกลับประเทศกัมพูชาต่อไป อย่างไรก็ดีการให้ความช่วยเหลือได้พบปัญหาก็คือ ขอทานเขมรมักจะลักลอบกลับเข้ามาขอทานในประเทศไทยอีกครั้ง เช่นกรณีของเด็กขอทาน เหตุผลที่ไม่อยากกลับประเทศเนื่องจากไม่รู้จะไปอยู่กับใคร เนื่องจากเป็นเด็กกำพร้าไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแลหรือเป็นผู้ปกครองเอาใจใส่ นอกจากนี้การที่ขอทานกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งเรื่องจากว่าอาชีพขอทานได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ยังมีหัวหน้ากลุ่มหรือนายหน้าทำให้ที่พาขอทานเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง สำหรับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือของทั้งสองประเทศระหว่างไทยและกัมพูชา นอกจากการจัดการประชุมเพื่อหาทางช่วยเหลือในทางกฎหมายแล้วทางการไทยยังได้เสนอให้ฝ่ายกัมพูชาสร้างอาชีพด้านการเกษตรเพื่อช่วยเหลือขอทานที่ถูกส่งกลับให้ฝึกอาชีพให้มีงานทำ โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามร่วมกันเมื่อ พ.ศ.2546 ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ในส่วนของประเทศกัมพูชาได้ตั้งศูนย์โฮมแลนด์ในกรุงพนมเปญ เพื่อรับเด็กเขมรที่ฝ่ายไทยส่งตัวกลับ โดยทางศูนย์จะดูแลเด็ก 1 ปีเพื่อฝึกอาชีพและให้การศึกษากับเด็กเหล่านี้ ซึ่งเชื่อว่าการช่วยเหลือจะเป็นการแก้ไขปัญหาคนขอทานได้ในระยะยาวและลดจำนวนขอทานเขมรที่เข้ามาขอทานในประเทศไทย (หน้า 114 -123) |
|
Education and Socialization |
ขอทานเขมรไม่ค่อยได้เรียนหนังสือหรือได้เรียนน้อยมาก ในกลุ่มขอทานที่มีอายุแรกเกิดกระทั่งถึง 10 ปีบางส่วนเคยเรียนหนังสือเป็นระยะเวลาไม่นานจึงทำให้ไม่สามารถอ่านเขียนหนังสือได้ (หน้า 84) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
เส้นทางการเข้ามาของขอทานเขมร เส้นทางที่คนเขมรข้ามเข้ามาขอทานในประเทศไทยประกอบด้วยจุดต่างๆดังนี้ อำเภอคลองใหญ่ เกาะกง จังหวัดตราด, อำเภอกาบเชิง อำเภอบ้านโคก อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในกลุ่มคนขอทานเขมรจะมาจากเมืองปอยเปตมาเป็นอันดับหนึ่งรองลงมาจะเป็นพระตะบอง และกัมปงจาม และเมืองอื่นๆ (หน้า 108) เอกลักษณ์ของขอทานเขมร ขอทานเขมรจะไม่ประกอบอาชีพวณิพกเนื่องจากไม่รู้จักเพลงไทยและร้องไม่ได้ หากร้องก็อาจมีพิรุธเป็นที่สังเกตของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ง่าย นอกจากนี้ขอทานเขมรกับขอทานไทยจะแตกต่างกันคือหากเป็นขอทานเขมรจะใช้ภาชนะเป็นแก้วน้ำของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นเพื่อใส่เงินตอนมีผู้บริจาค ขณะที่ขอทานไทยจะใช้ขันเงินเก่าคร่ำคร่าหรือแก้วน้ำพลาสติกขนาดเล็ก (หน้า 107) ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้สันนิษฐานว่าการใช้ภาชนะดังกล่าวน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มขอทานหรืออาจเป็นเพราะมีความสะดวกในการพกขณะเดินทางไปขอทาน (หน้า 108) |
|
Map/Illustration |
ตาราง จำนวนรอบคนขอทานที่เข้ารับการสงเคราะห์ในสถานสงเคราะห์, จำนวนคนขอทานที่ถูกควบคุมตัวเข้ารับการสงเคราะห์ในสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี (หน้า 59,60)สถิติจำนวนทรัพย์สินของคนขอทานต่างด้าว ตั้งแต่ พ.ศ.2543-2545 (หน้า 54) จำนวนคนขอทานต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัวเข้ารับการสงเคราะห์ในสถานที่พึ่งนนทบุรี (หน้า 65) แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของขอทานต่างด้าวที่ถูกส่งตัวเข้ารับบริการในสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี (หน้า 65) จำนวนร้อยละของคนขอทานแยกตามสัญชาติ( 1 ต.ค. 2539-31 ก.ค.2540) (หน้า 67) จำนวนคนขอทานแยกตามสัญชาติ (1 ต.ค. 2542-30 ก.ย. 2545) (หน้า 68) จำนวนขอทานต่างด้าวแยกตามอายุในช่วงปี พ.ศ.2545 (หน้า 69) จำนวนหัวหน้าแก๊งและผู้ถูกบังคับให้ขอทานที่จับกุมระหว่าง เม.ย.2536-ก.พ.2540 (หน้า 70) จำนวนรอบคนขอทานต่างด้าวที่เข้ารับการสงเคราะห์ในสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี ในแต่ละปีงบประมาณ (หน้า 71) แสงจำนวนนอบของคนขอทานต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัวในปีงบประมาณ พ.ศ.2545 (หน้า 72) ภาพ ประเภทของเครื่องชี้วัดระดับคุณภาพชีวิต (หน้า 30) แสดงลำดับความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s Hierarchy of Needs) (หน้า 32) ความสัมพันธ์ระหว่าง Maslow’s Hierarchy of Needs และ Sharma’s Quality of Life (หน้า 34) |
|
|