สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ม้ง,ประชากร,การคุมกำเนิด,เชียงใหม่
Author นัยนันทร์ สุวรรณกนิษฐ์
Title การพัฒนาแนวทางปฏิบัติการให้การบริการคุมกำเนิดสำหรับชาวม้ง
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ม้ง, Language and Linguistic Affiliations ม้ง-เมี่ยน
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 106 Year 2547
Source บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Abstract

เนื่องจากคู่สมรสม้ง มีอัตราการคุมกำเนิดต่ำ ส่งผลให้อัตราการเพิ่มประชากรม้งสูงกว่าเป้าหมายของประเทศ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การคุมกำเนิด รวมทั้งพัฒนาแนวทางปฏิบัติการให้บริการคุมกำเนิดสำหรับชาวม้ง การศึกษาเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มประชากรที่ศึกษาเป็นคู่สมรสม้งบ้านห้วยน้ำจาง ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 71 คู่ ระหว่างเดือนมีนาคมกรกฎาคม พ.ศ. 2516 ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงม้งแต่งงานและตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 20 ปี เริ่มคุมกำเนิดเมื่ออายุ 22 ปี มีบุตรโดยเฉลี่ย 4 คน ต้องการบุตรชายมากกว่าบุตรสาว และมีความคิดว่าการคุมกำเนิดเป็นความรับผิดชอบของผู้หญิง ผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่า เพื่อให้การบริการคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพ ผู้รับผิดชอบจะต้องจัดบริการคุมกำเนิดให้สอดคล้องกับบริบทสังคม วัฒนธรรม และความต้องการของผู้ใช้บริการ (บทคัดย่อ)

Focus

ศึกษาสถานการณ์การคุมกำเนิด และแนวทางในการปฏิบัติในการให้บริการคุมกำเนิดของม้ง

Theoretical Issues

ผู้ศึกษา นำวิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม มาศึกษาการคุมกำเนิดม้งบ้านห้วยน้ำจาง เพราะเห็นว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายภรรยาและสามีม้ง ผู้นำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ผู้ศึกษาเห็นว่าวิธีนี้จะสอดคล้องกับความเชื่อ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของม้ง เป็นการแก้ปัญหาถูกจุดตามมุมมองของชุมชน ไม่ใช่ตามมุมมองของบุคคลภายนอก (หน้า 5)

Ethnic Group in the Focus

ม้งบ้านห้วยน้ำจาง ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ (หน้า 5)

Language and Linguistic Affiliations

ไม่ระบุ

Study Period (Data Collection)

เดือนมีนาคม 2546 ถึงเดือนกรกฎาคม 2546

History of the Group and Community

ม้งมีถิ่นฐานเดิมที่ไม่แน่ชัด มีเพียงข้อมูลปรากฏว่าได้อพยพมาจากทางตอนใต้ของจีน กลุ่มหนึ่งได้ผสมผสานกลายเป็นส่วนหนึ่งของจีน และอีกส่วนหนึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณคาบสมุทรอินโดจีน เข้าสู่เวียดนาม ลาว พม่า และไทย เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ปัจจุบันม้งในประเทศไทย กระจายอยู่ใน 13 จังหวัด จังหวัดที่มีม้งมาก คือ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ (หน้า 20)

Settlement Pattern

ม้งปลูกบ้านเรือนบนที่ยอดเขาสูงประมาณ 3,000-5,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ถ้ามีพื้นที่ราบมากพอก็จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม แต่ถ้ามีพื้นที่ราบไม่เพียงพอก็จะกระจายอยู่ตามไหล่เขา และนิยมตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ขนาดหมู่บ้านโดยเฉลี่ย 30-50 หลังคาเรือน นิยมตั้งบ้านอยู่ใกล้กัน ในกลุ่มเครือญาติเดียวกัน ลักษณะบ้านเป็นแบบคร่อมดิน หลังคามุงด้วยหญ้าคา ไม่มีหน้าต่าง ภายในมีฝากั้นแยกเป็นห้องสำหรับพื่อแม่และลูก และแบ่งพื้นที่เป็นที่จัดเก็บผลผลิตจากไร่ ที่ตั้งครกกระเดื่อง เตาไฟใหญ่ เตาไฟเล็ก หิ้งบูชาผีบรรพบุรุษ ปัจจุบันนำวัตถุอื่นๆ มาใช้ร่วมด้วยเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับตัวบ้าน เช่น สังกะสี กระเบื้องมุงหลังคา อิฐ ปูน เป็นต้น(หน้า 20)

Demography

ประชากรในพื้นที่บ้านห้วนน้ำจางเป็นม้งขาว มีประชากรทั้งหมด 476 คน เป็นเพศชาย 239 คน และเป็นเพศหญิง 237 คน จำนวนครัวเรือน 68 หลังคาเรือน ประกอบด้วย 100 ครอบครัว อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวขยาย บางครอบครัวมีภรรยามากกว่า 1 คน (หน้า 41)

Economy

การเพาะปลูก ม้งบ้านห้วยน้ำจาง ปลูกพืชเมืองหนาวทั้ง ผักและไม้ผล เช่น ผักกาดแก้ว ผักสลัด พลัม พลับ สาลี่ ท้อ และลูกบ๊วย รายได้ต่อครัวเรือนประมาณ 35,000 บาทต่อปี ถ้ารายได้ไม่เพียงพอในการเลี้ยงดูครอบครัว สมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นจะต้องออกมาทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่ รับจ้างทั่วไป (หน้า 41)

Social Organization

ลักษณะครอบครัวม้งเป็นครอบครัวแบบขยาย สืบสายเลือดทางบิดา หลังแต่งงานภรรยาจะไม่อยู่บ้านพ่อแม่ ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้หลายคน แต่ต้องได้รับการยินยอมจากภรรยาก่อน ม้งห้ามคนในตระกูล/แซ่เดียวกันแต่งงานกัน ผู้หญิงที่มีร่างกายแข็งแรง ขยันเป็นที่ต้องการมากกว่าผู้หญิงสวยแต่เกียจคร้าน ผู้หญิงมีอิสระในการเลือกคู่ การตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องเสียหาย ตรงกันข้ามกลับทำให้ค่าตัวสูงขึ้น เพราะทำให้มีแรงงานเพาะปลูกในครัวเรือนเพิ่มขึ้น ครัวเรือนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ดังนั้นม้งจึงนิยมมีบุตรหลายคน (หน้า 21-22) นอกจากนั้นการมีลูกมากยังส่งเสริมให้ตระกูลของตนเข้มแข็ง มั่นคง มีอำนาจในการต่อรองสูง เนื่องจากสังคมม้งยึดถือกลุ่มเครือญาติเป็นหลักในการจัดระเบียบสังคม (หน้า 71) ผู้ชายม้งมีสถานภาพสูงกว่าผู้หญิง เพราะเป็นผู้สืบทอดสายตระกูลของบิดา ต้องเลี้ยงดูบิดามารดา และทำพิธีเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ ดังนั้น ม้งจึงต้องการลูกชายมากกว่าลูกสาว ผู้หญิงจำเป็นต้องตั้งครรภ์ให้กำเนิดบุตรชาย เพื่อไม่ให้สามีมีภรรยาน้อย (หน้า 72-73)

Political Organization

มีผู้ใหญ่บ้านที่ภาครัฐแต่งตั้งเป็นผู้นำชุมชน ทำหน้าที่ดูแลและจัดระเบียบชุมชนตามนโยบายของภาครัฐ และมีผู้นำตามจารีตซึ่งเป็นผู้อาวุโสในชุมชนช่วยดูแลควบคุมความประพฤติสมาชิกในหมู่บ้าน ช่วยตัดสินกรณีพิพาทต่างๆ ไกล่เกลี่ยและตัดสินความ และขณะที่ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้ตัดสินกรณีที่ไม่สามารถตกลงกันได้ (หน้า 41)

Belief System

การนับถือผี ม้งบ้านห้วยน้ำจาง ส่วนใหญ่นับถือผี ได้แก่ 1.สิ่งเหนือธรรมชาติในป่า เทพเจ้าแห่งแผ่นดิน ขุนเขา ป่าและน้ำ ทำพิธีเซ่นไหว้เพื่อให้คุ้มครองหมู่บ้านจากสิ่งชั่วร้าย 2. ผีบรรพบุรุษ ผีบ้านผีเรือน เพื่อให้คุ้มครองปกปักษ์รักษาคนในครอบครัว 3. เทพสูงสุด ซึ่งเป็นที่สถิตวิญญาณบรรพบุรุษ (หน้า 43)

Education and Socialization

หมู่บ้านมีโรงเรียนสังกัดสำนักงานประถมศึกษา อำเภอสะเมิง 1 โรง ชาวบ้านห้วยน้ำจาง ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหนังสือ โดยเฉพาะผู้หญิงมีจำนวนน้อยที่อ่านและเขียนภาษาไทยได้ บางครอบรัวที่มีฐานะดีนิยมส่งบุตรไปเรียนในเมองเชียงใหม่ ส่วนครอบครัวที่ฐานะไม่ดีหรือมีบุตรมาก จะให้บุตรเรียนที่โรงเรียนบ้านห้วยน้ำจาง (หน้า 42) จากการเก็บข้อมูลคู่สมรส ม้งบ้านน้ำจาง 71 คู่ พบว่า ผู้หญิงร้อยละ 64.78 ไม่ได้รับการศึกษา ส่วนผู้หญิงได้รับการศึกษาพบว่า ร้อยละ 50 จบประถมศึกษาปีที่ 6 และร้อยละ 26.92 จบมัธยมศึกษาตอนต้น ขณะที่ผู้ชายร้อยละ 80.88 ได้เรียนหนังสือ (หน้า 56)

Health and Medicine

การรักษาความเจ็บปวด ม้งบ้านห้วยน้ำจาง มีบัตรประกันสุขภาพ สามารถใช้บริการได้ที่สถานีอนามัยบ่อแก้ว และโรงพยาบาล สะเมิง อย่างไรก็ตาม ม้งส่วนใหญ่รักษาอาการเจ็บป่วยด้วยสมุนไพรมากกว่า ถ้าอาการรุนแรงขึ้นก็จะทำพิธีเลี้ยงผี พิธี “ฮ้องขวัญ” เรียกขวัญกลับสู่ร่างกาย ถ้าการรักษาด้วยวิธีพื้นบ้านไม่ได้ผลจึงจะไปหาหมอ แต่ถ้าการเจ็บป่วยเกิดจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะไปหาหมอทันที (หน้า 43) การตั้งครรภ์ สตรีที่มีอาการแพ้ท้องจะมีการประกอบพิธีกรรมเพื่อทำนายและทรงเจ้าอัวเน้งเพื่อรักษาอาการป่วย และแบ่งชีวิตให้มารดาและทารกในครรภ์ให้มีชีวติแข็งแรงเท่ากัน ในระยะที่ตั้งครรภ์จะมีข้อห้ามต่างๆ เช่น ห้ามเดินผ่านสถานที่ต้องห้าม เช่น พื้นที่ที่มีการพังทลายของดิน แหล่งน้ำ เพราะเจ้าที่บริเวณดังกล่าวจะทำอันตรายเด็กในครรภ์ได้ ห้ามตัดของในห้องนอน ห้ามซ่อมบ้าน ห้ามคุ้ยขี้เถ้าทั้งเตาเล็กหรือใหญ่ เป็นต้น (หน้า 44-45) การคลอดบุตร สตรีม้งบางรายสามารถคลอดบุตรได้เอง โดยการนั่งคุกเข่าเพื่อคลอด ภายหลังคลอดจึงให้บุคคลอื่นมารับเด็ก ตัดสายสะดือ แต่ในกรณีที่คลอดยากต้องอาศัยหมอตำแยในการพยุงตัว อุ้ม นวดแผ่นหลัง และกลับท่าเด็ก ในสตรีที่มีอาการหน้ามืด ต้องใช้เปลือกกัญชาพันรอบริเวณศีรษะและร่ายคาถาควบคุม เมื่อคลอดจะทำการตัดสายสะดือแล้วนำรกไปฝังดิน โดยทารกเพศชายจะฝังบริเวณเสาเอกของบ้าน เพราะเมื่อโตจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลต่อไป สำหรับเพศหญิงจะฝังใต้ห้องนอนที่เสาเตียง ถ้าต้องการบุตรต่อไปเป็นเพศชายจะต้องคว่ำรกเวลาฝัง หญิงที่คลอดบุตรจะต้องอยู่ไฟ (หน้า 45) การคุมกำเนิด ผู้หญิงม้งส่วนใหญ่แต่งงานอายุต่ำกว่า 20 ปี และมักตั้งครรภ์ทันทีไม่มีการคุมกำเนิด ทั้งนี้สังคมม้งถือว่าผู้หญิงอายุ 14-15 ปี มีความเป็นผู้หญิงสมบูรณ์ที่สุดเหมาะสมต่อการแต่งงานเพื่อสร้างครอบครัว (หน้า 66) ม้งบ้านห้วยน้ำจาง ยังมีอัตราการคุมกำเนิดต่ำกว่าเป้าหมาย (ร้อยละ 77) คือ มีอัตราการคุมกำเนิดเพียงร้อยละ 53.33 ผู้หญิงที่อายุน้อยจะใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว ส่วนการคุมกำเนิดแบบถาวรจะพบในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพราะม้งต้องการมีบุตรหลายคน และต้องการบุตรชายมากกว่าบุตรสาว (หน้า 63,89) ความเชื่อของผู้หญิงม้งที่ว่า การคุมกำเนิดจะขัดขวางการกลับมาเกิดใหม่เป็นผู้ชาย หรือการขัดขวางการตั้งครรภ์จะทำให้ต้องเกิดเป็นผู้หญิงใหม่อีกครั้งหนึ่ง (หน้า 74,95) ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตราการคุมกำเนิดต่ำ ในหมู่ผู้หญิงม้ง สำหรับการคุมกำเนิดในกลุ่มผู้ชายม้ง พบว่า ผู้ชายไม่ยอมรับการคุมกำเนิด และเห็นว่าการทำหมันชายทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ทำงานหนักไม่ได้ รวมทั้งทำให้สมรรถภาพและความต้องการทางเพศลดลง (หน้า 61) อย่างไรก็ดี มังก็มีวิธีการคุมกำเนิดแบบพื้นบ้านของตน ได้แก่ การใช้สมุนไพร และข้อห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาต่างๆ เช่น ฤดูเพาะปลูก ทั้งหญิงและชายต้องทำงานหนัก การมีเพศสัมพันธ์อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรืองดการมีเพศสัมพันธ์ขณะร่างกายเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและการเดินทาง (หน้า 61)

Art and Crafts (including Clothing Costume)

ไม่มี

Folklore

ไม่มี

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มี

Social Cultural and Identity Change

ไม่มี

Other Issues

การพัฒนาแนวทางปฏิบัติการให้บริการคุมกำเนิด การคุมกำเนิดให้ได้ประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความร่วมมือของสตรีม้งและสามีเพิ่มขึ้น และทำการปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการจากเดิมที่ให้ม้งบ้านน้ำจางเข้ารับบริการด้วยตนเองเปลี่ยนไปเป็นการให้บริการแบบเชิงรุก โดยการเข้าไปยังพื้นที่จะควบคุมจำนวนประชากร เพื่อทำการประเมินความต้องการ และจัดรูปแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะให้บริการ (หน้า 99) อีกทั้งเจ้าหน้าที่จะต้องเรียนรู้และเข้าใจ ยอมรับความแตกต่างทางด้านภาษา สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิตของม้งมากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาในกระบวนการให้บริการว่าจะเกิดประสิทธิภาพจริง ปรับเปลี่ยนการทำงานให้มีความสะดวกและรวดเร็ว และให้บริการที่เสมอภาพเท่าเทียมกับคนในพื้นราบ เพื่อลดปัญหาการลัดคิวที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และต้องเปิดโอกาสผู้ใช้บริการสามารถตัดสินใจเลือกวิธีคุมกำเนิดได้ด้วยตนเอง โดยได้รับข้อมูล การแนะนำต่างๆอย่างถูกวิธี ทั้งที่เป็นครอบครัวและคนหนุ่มสาว (หน้า 100,104) พร้อมทั้งต้องมีปริมาณของเวชภัณฑ์ที่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และยาเหล่านั้นจะต้องสอดคล้องกับรายได้ของม้งที่จะสามารถจ่ายได้ เนื่องจากการคุมกำเนิดในอดีตม้งบ้านน้ำจางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเพื่อรับยาคุมกำเนิด และเพิ่มขีดความสามารถของสิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าโครงการ 30 บาทให้สามารถครอบคลุมการให้บริการการคุมกำเนิดได้อีกด้วย (หน้า 101,102)

Map/Illustration

แผนที่ตั้งบ้านห้วยน้ำจาง ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ หน้า 39 แผนที่บ้านห้วยน้ำจาง หมู่ 6 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ หน้า 40

Text Analyst เมธีรา ฤกษดายุทธ์ Date of Report 27 พ.ค. 2562
TAG ม้ง, ประชากร, การคุมกำเนิด, เชียงใหม่, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง