สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ม้ง, ลีซู, ลาหู่, ลเวือะ,ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),ชาวเขา,การเพาะปลูกบนที่สูง,เศรษฐกิจ,ภาคเหนือ
Author มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด, กนก ฤกษ์เกษม, เบญจวรรณ ฤกษ์เกษม, ชัยวัฒน์ รุ่งเรืองศรี, สิตานนท์ เจษฎาพิพัฒน์, เบญจพรรณ ชินวัตร, พรเพ็ญ วิจักษณ์ประเสริฐ
Title การศึกษาความยั่งยืนของระบบเกษตรที่สูง
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ลัวะ (ละเวือะ) ลเวือะ อเวือะ เลอเวือะ ลวะ ละว้า, ลีซู, ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู, ม้ง, ปกาเกอะญอ, Language and Linguistic Affiliations ไม่ระบุ
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 142 Year 2537
Source ฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
Abstract

รายงานวิจัยฉบับนี้เป็นการศึกษาเปรียบเทียบหมู่บ้านลัวะ กะเหรี่ยง มูเซอ ลีซอ และม้ง ที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการพัฒนาที่สูง 5 โครงการ คือ โครงการไทย-ออสเตรเลีย โครงการไทย-เยอรมัน โครงการแคร์ โครงการสามหมื่น(UN) และโครงการหลวง โดยมุ่งหวังที่จะหาแนวทางในการพัฒนาที่สูงที่เป็นเอกภาพโดยหลอมรวมเอาจุดแข็งของประสบการณ์ของทุกโครงการไว้ด้วยกัน

Focus

ศึกษาวิธีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในที่สูง เพื่อหาผลตอบแทนของการผลิตพืชชนิดต่างๆ ในที่สูง และเพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่จะมีผลต่อความยั่งยืนของระบบและหาแนวร่วมในการพัฒนาชุมชนในที่สูงสามารถรักษาสภาพแวดล้อมให้ยั่งยืน (หน้า vii)

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

กลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาการเพาะปลูกจากโครงการเกษตรบนที่สูง ได้แก่ ลัวะ กะเหรี่ยง ม้ง มูเซอ ลีซอ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ (หน้า vii, 36, 41, 49, 55, 63, 70, 75)

Language and Linguistic Affiliations

ไม่มี

Study Period (Data Collection)

ไม่ระบุ

History of the Group and Community

ไม่มี

Settlement Pattern

ไม่มี

Demography

จากข้อมูลการสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2534 ระบุว่าในประเทศไทยมีชาวเขา จำนวน 804,481 คนโดยอาศัยอยู่ในบริเวณภูเขาในภาคเหนือจำนวน 94 %ของจำนวนประชากรทั้งหมด (หน้า 1-3) สำหรับประชากรในกรณีศึกษาในหมู่บ้านต่างๆ มีดังต่อไปนี้ ประชากรลัวะ บ้านละอูบ มีจำนวน 935 คน 156 ครอบครัว (หน้า 44) ประชากรกะเหรี่ยง บ้านทิซะ มีจำนวน 28 ครอบครัว (หน้า 43) กะเหรี่ยงสะกอ บ้านแม่ริดป่าแก่ มีจำนวนครัวเรือน 32 ครัวเรือน ยอดประชากรในหมู่บ้าน 182 คน (พ.ศ.2536) (หน้า 49) ม้งดำ บ้านผาปู่จอม มี 217 คน 32 ครัวเรือน (หน้า 57) มูเซอ บ้านปางคามน้อย มี 89 คน 22 ครอบครัว (หน้า 63) กะเหรี่ยง บ้านยางส้าน มี 243 คน 51 ครอบครัว (หน้า 70) กะเหรี่ยง บ้านแม่แฮ จำนวน 310 คน 65 ครอบครัว (หน้า 75) ลีซอบ้านแม่แพลมไม่ระบุจำนวนประชากร ลีซอ บ้านป่าเกี๊ยะใหม่ มี 137 คน 26 ครัวเรือน (หน้า 87)

Economy

ลัวะบ้านละอูบ การเพาะปลูกจะทำไร่แบบหมุนเวียน โดยจะทำการเพาะปลูกในที่ดินที่เตรียมไว้ หนึ่งฤดูเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วก็จะปล่อยให้ที่ดินฟื้นตัวให้เกิดความอุดมสมบูรณ์หรือเรียกว่า “ไร่เหล่า” เป็นเวลาหลายปีจึงจะกลับมาปลูกพืชบนที่ดินเดิมอีก (หน้า 41) กะเหรี่ยงบ้านทิซะ ปลูกพืชแบบทำไร่หมุนเวียนแบบดั้งเดิมเช่นเดียวกับบ้านละอูบเมื่อปลูกพืชได้หนึ่งฤดูหลังการเก็บเกี่ยวพืชผลก็จะปล่อยที่ดินให้ฟื้นตัวต่อไปก็จะกลับมาปลูกใหม่ในอนาคต โดยจะปลูกพืชหมุนเวียนสลับกันไป (หน้า 41) กะเหรี่ยงบ้านแม่ริดป่าแก่ พื้นที่เพาะปลูกในหมู่บ้านมีจำนวน 800 ไร่ คนในหมู่บ้านประกอบอาชีพเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์กับหาของป่ามาขายเพื่อเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว (หน้า 49) ม้งบ้านผาปู่จอม ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกพืชผัก เช่น กะหล่ำปลี ลิ้นจี่ และข้าวไร่และเก็บของป่า หน่อไม้มาขายเป็นรายได้ในครอบครัว ปลูกข้าวโพดเพื่อไว้เลี้ยงหมูนอกจากนี้ก็ปลูกถั่วและพริก นอกจากนี้ผู้หญิงจะเย็บผ้าหารายได้เสริม ส่วนผู้ชายก็จะทำงานไม้ จักสาน และเครื่องเงิน (หน้า 57-58) มูเซอบ้านปางคามน้อย มีรายได้จากการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ จากการสำรวจการปลูกพืชเมื่อปี พ.ศ.2534 พบว่ามีรายได้เฉลี่ย 9,882บาทต่อครอบครัว นอกจากนี้ก็จะเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นรายได้เช่นเลี้ยงวัว ควาย หมู เป็ด ไก่ (หน้า 65-66) กะเหรี่ยงบ้านยางส้าน ทำไร่แบบหมุนเวียนโดยจะปลูกข้าวไร่เป็นหลักและปลูกถั่วเหลืองเป็นพืชเศรษฐกิจ ปลูกไม้ผล มะม่วง ลิ้นจี่ กล้วย นอกจากนี้ก็จะเลี้ยงสัตว์เช่นเลี้ยงวัว ควาย หมู เป็ด ไก่ (หน้า 70, 72) กะเหรี่ยงบ้านแม่แฮ มีรายได้จากการปลูกพืช ผัก ผลไม้และเลี้ยงสัตว์สำหรับการปลูกข้าวจะปลูกได้เฉลี่ยครอบครัวละ1,800-2,000 กิโลกรัมต่อปี (หน้า 77) ลีซอบ้านแม่แพลม ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น มันฝรั่ง เผือก สำหรับการปลูกข้าวไร่และข้าวโพดในหมู่บ้านจะปลูกเป็นจำนวนไม่มาก (หน้า 89) ลีซอบ้านป่าเกี๊ยะใหม่ ปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด และปลูกพืชเศรษฐกิจเช่น มันฝรั่ง เผือก ถั่วแดง ข้าวบาร์เล่ย์ สำหรับพื้นที่เพาะปลูกในหมู่บ้านมีจำนวน 600 ไร่ โดยคิดเฉลี่ยคนในหมู่บ้านทั้ง 31 ครอบครัวมีที่ดินทำกินประมาณ 15 ไร่เป็นอย่างน้อย (หน้า 90)

Social Organization

ไม่มี

Political Organization

ลัวะบ้านละอูบ, กะเหรี่ยงบ้านทิซะ ในหมู่บ้าน พ.ศ. 2530 โครงการแปเป้อ ไทย/สหประชาชาติ ซึ่งกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนิน ได้เข้ามาช่วยเหลือเช่นจดทะเบียนหมู่บ้าน และให้สัญชาติไทย (หน้า 41)

Belief System

ไม่มี

Education and Socialization

ไม่มี

Health and Medicine

ม้งบ้านผาปู่จอม จากการสำรวจเมื่อ พ.ศ.2513 พบว่า ในหมู่บ้านมีประชากร 116 คนมีคนติดฝิ่นจำนวน 55 % โดยมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคนสูงอายุ ในจำนวนนี้คิดเป็นผู้ชายถึง 80% (หน้า 55)

Art and Crafts (including Clothing Costume)

ไม่มี

Folklore

ไม่มี

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มี

Social Cultural and Identity Change

ไม่มี

Other Issues

โครงการช่วยเหลือการพัฒนา สำหรับโครงการช่วยเหลือชาวเขาที่กล่าวถึงในงานเขียนมีดังนี้ 1) โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมบนที่สูง(HASD, Highland Agricultural and Social Development Project) กรมประชาสงเคราะห์รับผิดชอบ แหล่งทุนช่วยเหลือได้มาจากเงินกู้ยืมจากธนาคารโลก ระหว่างชาติออสเตรเลีย ทบวงความช่วยเหลือการพัฒนา(AIDAB) พื้นที่ในโครงการอยู่ในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง แม่ฮ่องสอน ลำพูน จำนวน 624 ชุมชน ประชากร 108,619 คน ลักษณะงานทำโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำ ระยะเวลาโครงการ 2523-2536 (หน้า 17) 2) โครงการพัฒนาที่สูงไทย-เยอรมัน (TG) สำนักงานคณะกรรมการปราบปราม ยาเสพติด (ปปส.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ได้ทุนช่วยเหลือจากกระทรวงความร่วมมือทางเศษฐกิจ (BMZ) พื้นที่โครงการ 105 ชุมชน มีประชากร 25,173 คน 4,117 ครัวเรือน อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและแม่ฮ่องสอน ระยะเวลาโครงการ 2524-2537 ลักษณะงานคือสนับสนุนให้ชาวเขาปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทนการปลูกฝิ่นและส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ (หน้า 22) 3) แคร์-โครงการพัฒนาทรัพยากรแม่แจ่ม แบบผสมผสาน องค์การพัฒนาชาติ ประเทศไทย (องค์กรเอกชน) ได้ทุนสนับสนุนจาก แคร์พัฒนาชาติ สหรัฐ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ยูเสด พื้นที่โครงการ 70 ชุมชน ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยทำการช่วยเหลือชาวเขาเพื่อทำการพัฒนาการทำการเกษตรแบบยั่งยืนและให้คำแนะนำด้านการเกษตร ระยะเวลาโครงการ 2527-2537 (หน้า 26) 4) โครงการหลวง(โครงการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) หน่วยงานที่ รับผิดชอบ ได้แก่ โครงการหลวง/แผนกเกษตรกรรมบนที่สูง กรมส่งเสริมการเกษตรและอื่นๆ พื้นที่โครงการ 265 ชุมชน ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ระยะเวลาโครงการ 2512-2537 ลักษณะงานคือกิจกรรมด้านการวิจัยเกี่ยวกับพืชเมืองหนาว การผลิต การตลาดพืช ไม้ดอกและผลไม้ (หน้า 28,29) 5) โครงการพัฒนาที่สูงสามหมื่นไทย/สหประชาชาติ หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กรมป่าไม้ได้รับเงินทุนจากองค์การสหประชาชาติสำหรับปราบปรามยาเสพติด มีพื้นที่รับผิดชอบในโครงการ 60 ชุมชน ประชากร 10,600 คน 1,700 ครัวเรือน ระยะเวลาโครงการ 2530-2535 สนับสนุนด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ ให้ความรู้และปลูกพืชเศรษฐกิจ (หน้า 31,33)

Map/Illustration

ตาราง ชุมชนและประชากรชาวเขาในประเทศไทย ปี 2534 (หน้า 2) ประชากรและพื้นที่ในท้องที่เกษตรกรรมแบบหมุนเวียนในภาคเหนือของประเทศไทย (หน้า 8) การสูญเสียป่าและประชากร (หน้า 16) หมู่บ้านชาวเขาที่ได้รับความช่วยเหลือจาก HASD (ปี 2523-2531) และTA-HASD (ปี 2531-2536) (หน้า 20) ทุนหมุนเวียนประจำหมู่บ้าน (หน้า 21) รายละเอียดของพื้นที่ในโครงการ TG (หน้า 24) การหาเลี้ยงชีพของชาวบ้านในตำบลทิซะ,ตำบลละอูบ (หน้า 43,44) การทำงานรับจ้างเพื่อเสริมรายได้จากการเพาะปลูกโดยเกษตรกร 32 คน ที่ละอูบ (หน้า 45) การหาเลี้ยงชีพของชาวบ้านในตำบลแม่ริดป่าแก่,ผ่าปู่จอม,ปางคามน้อย,ยางส้าน,แม่แฮ,แม่แพลม,ป่าเกี๊ยะใหม่ (หน้า 51, 58, 66, 72, 78, 88) ทรัพย์สินในครัวเรือนของชาวบ้านในตำบลแม่แฮปี 2535 (หน้า 79) ราคาพืชเมืองหนาวระหว่างไทยและคุนหมิง (หน้า 81) พื้นที่โครงการ (หน้า 95) การเพาะปลูก (หน้า 96) ลุ่มตัวอย่างที่อนุรักษ์ดิน (หน้า 98,100) ผลการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ (หน้า 101) หมู่บ้านชาวเขา ปี 2537 (หน้า 105,112) อายุผู้ใหญ่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่ (หน้า 107,108,109) การศึกษาของผู้ใหญ่บ้านชาวเขา (หน้า 110) ลักษณะของเจ้าหน้าที่พัฒนา (หน้า 113) ผู้นำหมู่บ้านและการจัดองค์กร (หน้า 114) ภาพ การทำการเกษตรแบบหมุนเวียนในจังหวัดเชียงใหม่ ตาก และแม่ฮ่องสอน (หน้า 7) โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมบนที่สูงไทย-ออสเตรเลีย, ไทย-เยอรมัน (หน้า 18,23) โครงการแคร์ แม่แจ่ม (หน้า 27) โครงการหลวง (หน้า 30) โครงการพัฒนาที่สูง (หน้า 32) การใช้ที่ดินของตำบลแม่ริดป่าแก่ (หน้า 50) เส้นทางน้ำหมู่บ้านปางคามน้อย (หน้า 64) โครงการหลวงแม่แฮ (หน้า 76) บ้านแม่แพลมและป่าเกี๊ยะใหม่ (หน้า 85) แผนที่ โครงการพัฒนาที่สูงดอยแปเป้อ (หน้า 9) หมู่บ้านละอูบและทิซะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (หน้า 42) หมู่บ้านผาปู่จอม (หน้า 56) บ้านยางส้าน (หน้า 71)

Text Analyst ภูมิชาย คชมิตร Date of Report 06 ม.ค. 2566
TAG ม้ง, ลีซู, ลาหู่, ลเวือะ, ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), ชาวเขา, การเพาะปลูกบนที่สูง, เศรษฐกิจ, ภาคเหนือ, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง