|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง ผู้ลาว โซ่ง ไตดำ,ภาษา,การเปลี่ยนแปลง,ตำนาน |
Author |
John F. Hartmann |
Title |
Computations on a Tai Dam Origin Myth |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
ไทดำ ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง ไทยทรงดำ ไทดำ ไตดำ โซ่ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
|
Total Pages |
18 |
Year |
2524 |
Source |
Hartmann, John. “Computations on a Tai Dam Origin Myth” in Anthropological Linguistics, Vol. 23, No. 5, p. 183 – 202. |
Abstract |
งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างของการออกเสียงของคนพื้นเมือง ที่มีความแตกต่างไปจากรูปแบบการเขียนที่ปรากฏในตำนานไตดำ รูปแบบของการเขียนเป็นหลักฐานที่แสดงถึงลักษณะดั้งเดิมของภาษาไตดำที่ได้รับการรักษาไว้มากกว่าภาษาพูด โดยทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างชนพื้นเมืองผู้พูดภาษาไตดำ จำนวน 3 คน อ่านออกเสียงคำจากตำนานกำเนิดไตดำ เพื่อให้ผู้วิจัยทำการบันทึกเสียง และคัดลอกเสียงของคำเป็นรูปแบบของสัทอักษร และมีการเปรียบเทียบกับภาษาไทย จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะ ผลการศึกษาพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงการออกเสียงในทิศทางที่สลับกันระหว่างการเขียนและการพูดในเสียงอักษร b และ v แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่วนการเปรียบเทียบกับภาษาไทยพบว่า มีความแตกต่างกันในส่วนที่เป็นคำปิดหรือคำที่มีพยางค์ท้ายเป็นเสียง k ในภาษาไทยจะเป็นสระเสียงยาว แต่ในภาษาไตดำจะเป็นสระเสียงสั้น ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสันนิษฐานว่ามาจากอิทธิพลภายนอก เช่น ภาษาเวียดนาม ซึ่งเป็นภาษาราชการ และภาษาจีนในแถบรัฐฉาน เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงและมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่อกัน |
|
Focus |
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของการออกเสียงในภาษาไต ที่มีความแตกต่างไปจากรูปแบบการเขียนแบบเก่าที่ปรากฏในตำนานไตดำ (หน้า 183) |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์ไตดำ จากซอนลา ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม (หน้า 183, 187) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ผู้เขียนได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในภาษาไต ด้านโครงสร้างของการออกเสียงในภาษาพูด เปรียบเทียบกับรูปแบบของภาษาเขียนที่ปรากฏหลักฐานในตำนานการกำเนิดไตดำ สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนของการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ การสลับกันระหว่างเสียง b และ v ในภาษาพูดและภาษาเขียน คือ เขียน b แต่พูด v เช่น baan ออกเสียง vaan และเขียน v แต่พูด b เช่น veuk ออกเสียง beuk ซึ่งเป็นลักษณะค่อนข้างเฉพาะที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังได้มีการเปรียบเทียบความแตกต่างกับคำในภาษาไทย (สยาม) คือ คำในภาษาไทยที่เป็นสระเสียงยาว ในภาษาไตดำจะออกเสียงเป็นสระเสียงสั้น เช่น เสียง k ในพยางค์ท้าย, aeng เป็น eng, eung เป็น erng, ew เป็น aew และ et เป็น aet (หน้า 184 – 186) |
|
Study Period (Data Collection) |
เริ่มทำการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2519 (หน้า 183) |
|
History of the Group and Community |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Folklore |
ตำนานพื้นบ้านที่ใช้เป็นกรณีศึกษา คือ ตำนานการกำเนิดไตดำ ที่มีเนื้อความกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนการกำเนิดชาติพันธุ์ของชาวไตดำ ที่แต่เดิมท้องฟ้ามีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดและลอยอยู่ต่ำ แถนได้สร้างเมืองให้แก่ชาวเขา ต่อมาพวกชาวเขาได้รบราฆ่าฟันกันตายเน่าเหม็นไปถึงสวรรค์ ท้องฟ้าแห้งแล้งและมืดลง สัตว์พืชล้มตาย เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมสรรพสิ่งจนถึงสวรรค์ เมื่อน้ำแห้งสวรรค์ได้ตกลงมากลายเป็นโลก มีน้ำเต้า 4 ผลขนาดเท่ากับบ้าน ภายในชาวเขา 330 ตระกูล ชาวไต 550 ตระกูล พันธุ์ข้าว 330 พันธุ์ และพันธุ์ปลา 330 พันธุ์ ท้าวเจืองและท้าวเงินได้ตั้งบ้านเมืองขึ้น มีเสาทองเหลือง 8 ต้น ตั้งค้ำฟ้า ตั้งกฎระเบียบของบ้านเมือง เรียกว่า ฮีตบ้านคองเมือง ได้แก่ ฮีตบ้านสิบสอง คองเมืองซาวสี่ มีหมอผีเป็นผู้รักษา มีลูกหลานสืบทอดและปกครองเมืองต่างๆ ในดินแดนของเวียดนาม ลาว และจีน ซึ่งเป็นต้นตระกูลของชาวไต (หน้า 187 – 200) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
ความหมายของเนื้อหาที่ปรากฏในตำนานกำเนิดไตดำ มีลักษณะที่ร่วมกันหรือมีความสัมพันธ์กันระหว่างกลุ่ม ชาติพันธุ์อื่น เช่น จีน ลาว และเวียดนาม (หน้า 183, 187) |
|
|