|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มุสลิม,มัสยิด,ภาคกลาง |
Author |
เสาวนีย์ จิตต์หมวด |
Title |
หน้าที่ของมัสยิดต่อสังคมมุสลิมในภาคกลาง |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเนเชี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
198 |
Year |
2527 |
Source |
หลักสูตรปริญญาสังคมศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract |
สำหรับสังคมมุสลิมกล่าวได้ว่าสถานบันศาสนามีส่วนสำคัญมากที่สุดต่อชีวิตของมุสลิม ทั้งนี้เพราะวิถีการดำเนินชีวิตของมุสลิมทุกคน ต้องอยู่บนครรลองของอิสลามโดยตลอดอย่างแยกไม่ออก เพราะในอิสลามไม่มีนักบวช องค์ประกอบสำคัญของศาสนาอิสลามคือ ศาสนสถานที่อิสลามเรียกว่า "มัสยิด" หรือ "สุเหร่า" ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากศาสนาในศาสนาอื่นๆ คือไม่ใช่เป็นที่อยู่ประจำของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม มัสยิดก็มีหน้าที่เช่นศาสนสถานอื่น ๆ อันจะมีผลต่อสังคมนั้น ๆ จะแตกต่างกันก็แต่รูปแบบและเนื้อหาสาระ ด้วยรูปแบบเฉพาะของมัสยิดที่มีมาแต่สมัยของท่านศาสดามุฮำมัด (ค็อลฯ) ที่มัสยิดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ซึ่งมีหน้าที่ทั้งด้านศาสนา การศึกษา สังคม เศรษฐกิจและการเมือง โดยมีอิหม่ามผู้ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้นำในการประกอบกิจการ ต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของงานวิจัย (หน้า 148) |
|
Focus |
ผู้เขียนให้ความสนใจศึกษาเปรียบเทียบมัสยิดในเมือง และมัสยิดชนบทในภาคกลางของไทย ที่มีความแตกต่างกันในด้านของศาสนา การศึกษา สังคม เศรษฐกิจและการเมือง และเน้นศึกษาเกี่ยวกับระดับความรู้ทางศาสนาทางสามัญ ฐานะเศรษฐกิจ และวัยของอิหม่ามมีความสัมพันธ์กับการทำหน้าที่ของมัสยิด และความคาดหวังของไทยมุสลิมในภาคกลาง ต่อหน้าที่ของมัสยิดในอนาคต (หน้า 8) |
|
Ethnic Group in the Focus |
เป็นการศึกษามุสลิมที่มีมัสยิดเป็นศูนย์กลางทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลาง คือ อยุธยา ฉะเชิงเทรา นครนายก ปทุมธานี และนนทบุรี เป็นกลุ่มที่ทำการศึกษา โดยเฉพาะ อิหม่ามและคอเต็บ หรือกรรมการมัสยิดและสัปปุรุษทั้งชาย และหญิง และมุสลิมที่ศึกษษาอาจจะมีภูมิหลังทางชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน (หน้า 23) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
ผู้เขียนใช้เวลาศึกษาจากการเก็บข้อมูลจากการค้นคว้าเอกสารต่าง ๆ การทำแบบสอบถาม การเก็บข้อมูลภาคสนาม และการประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลและเขียนรายงานเสนอผลการวิจัย ระหว่าง เดือนพฤศจิกายน 2525 - กุมภาพันธ์ 2527 (หน้า 24-25) |
|
History of the Group and Community |
ในระยะที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชแผ่อำนาจลงมายังเมืองต่าง ๆ บนแหลมมลายู ศาสนาอิสลามได้เข้ามามีอิทธิพลอยู่บนแหลมมลายูอยู่ก่อนแล้ว เพราะพบหลักฐานว่ามีมุสลิมเข้ามาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราชตั้งแต่สมัยสุโขทัย ครั้นถึงสมัยอยุธยาความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ยังมีอยู่ ก่อนหน้าที่ศาสนานี้จะแผ่อำนาจเข้ามายังแหลมมลายู ได้แผ่เข้ามายังอินเดีย จีน และบริเวณประเทศที่เป็นหมู่เกาะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เริ่มที่เกาะสุมาตราเป็นแห่งแรก) และในที่สุดได้แผ่เข้าครอบคลุมแหลมมลายูด้วย ความจริงที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดคือ กรุงศรีอยุธยาเป็นสถานที่หยุดพักที่สำคัญของพ่อค้ามุสลิมที่เดินทางจากแคชเมียร์ไปเมืองจีนในศตวรรษที่ 15 ดั้งนั้นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อค้ามุสลิมชาติต่าง ๆ ได้แวะพักหรือเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงศรีอยุธยา และเมื่ออิสลามเข้ามากับพ่อค้าเหล่านั้น ชาวไทยส่วนหนึ่งก็ได้รับเอาอิสลามมาเป็นระบอบในการดำเนินชีวิต ทั้งนี้เพราะอิสลามได้ให้กฏเกณฑ์หรือระบอบในการดำเนินชีวิตตั้งแต่เรื่องพื้นฐานในครอบครัวไปจนถึงหน้าที่ทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายๆ โดยปราศจากเรื่องที่ลี้ลับหรืออภินิหารอย่างใด ศาสนาอิสลามนอกจากจะเข้ามากับชาวอาหรับชาติต่าง ๆ แล้ว ยังเข้ามาพร้อมกับชนเชื้อสายอินเดีย มลายู กัมพูชา จีน อินโดนิเชีย ดังนั้นพื้นที่ของไทย 519,000 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็นกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ 76 จังหวัด ในแต่ละท้องถิ่นของประเทศมีประชาชนนับถือศาสนาแตกต่างกันไปเป็นสัดส่วนตามพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของถิ่นนั้นๆ (หน้า 29-30) |
|
Settlement Pattern |
แม้ว่าไทยมุสลิมจะตั้งถิ่นฐานอยู่ในทุกภาคของประเทศไทย แต่จากความแตกต่างในพื้นฐานความเป็นมาทางประวัติศาสตร์และสาเหตุอื่น ๆ จึงทำให้จำนวนไทยมุสลิมในภาคต่าง ๆ แตกต่างกัน กล่าวคือ ภาคใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณ 4 จังหวัด อันได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล เป็นบริเวณที่มีไทยมุสลิมอยู่มากที่สุด ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ในการตั้งถิ่นฐาน มุสลิมจะพยายามอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เป็นหมู่บ้าน ตำบล และเมื่อมีมุสลิมอยู่ที่ใด ในชุมชนนั้น ๆ จะมีมัสยิดตามมาเพื่อเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน เป็นศูนย์รวมไทยมุสลิมในชุมชนนั้น ๆ (หน้า 31) |
|
Demography |
ในปัจจุบันประชากรโลกที่นับถืออิสลามมีประมาณ 900 ล้านคนเศษ ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 120 ประเทศ ในจำนวน 120 ประเทศนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งมีเป็นจำนวน 2,011,793 คน หรือเท่ากับ 4.05 % เป็นอันดับ 2 รองจากผู้นับถือพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ จากการสำรวจประชากรใน พ.ศ. 2522 ปรากฏว่าประเทศไทยมีประชากร 46 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นไทยมุสลิมประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณล้านกว่าคนอยู่ในสี่จังหวัดภาคใต้ คือ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล นอกจากนั้น จะกระจายอยู่ในภาคอื่น ๆ คืออยู่ในจังหวัดภาคต่าง ๆ เกือบทุกจังหวัด (หน้า 1-2) |
|
Economy |
เป็นการวิเคราะห์ระบบเศรษฐกิจของมัสยิดตั้งแต่ในสมัยท่านศาสดา (ค็อลฯ) ที่มัสยิดทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวมซะกาตและพิจารณาในการใช้ซะกาตตามความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประการแรกคือ เพื่อแจกจ่ายให้คนยากจน หรือมุสลิมใช้มัสยิดเป็นที่ปรึกษาหารือในเรื่องประกอบอาชีพ แต่ส่วนมากจะเป็นไปอย่างไม่เป็นทางการ กล่าวคือ เมื่อมาพบกันที่มัสยิดก็มีการพูดคุยปรึกษาหารือในเรื่องการประกอบอาชีพ สำหรับประเทศไทยแล้ว ลักษณะทั่วไปทั้ง 2 ประการพบได้โดยทั่วไปตามมัสยิดต่าง ๆ เพียงแต่ว่าจะทำกันเป็นครั้งคราวในโอกาสจัดงานในวาระต่าง ๆ ที่มัสยิด ซึ่งเงินที่ขายของได้ก็ดี ประมูลสินค้าได้ก็ดี มักจะนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการจัดงานแต่ละครั้ง เช่น ด้านการศึกษา สัวสดิการสังคม ฯลฯ (หน้า 150-151) |
|
Social Organization |
อาณาบริเวณของมัสยิดแต่ละแห่งในประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นชุมชนมุสลิม ทั้งนี้เพราะชายไทยมุสลิมมักจะตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณที่มีมัสยิด สิ่งที่น่าสังเกตของไทยมุสลิมประการหนึ่งคือ มักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน และมีศูนย์กลางของชุมชนซึ่งได้แก่มัสยิด และมัสยิดก็ได้กลายเป็นสิ่งดึงดูดให้มุสลิมเข้าไปอยู่ในบริเวณนั้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะความสะดวกในการประกอบศาสนกิจ ความอบอุ่นใจที่อยู่ในกลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเดียวกัน ซึ่งมุสลิมจะเกิดความรู้สึกที่เป็นพี่น้องกันโดยอัตโนมัติหรือตามคำสอนของอิสลามที่ว่า "มุสลิมทุกคนเป็นพี่น้องกัน" (หน้า 60) เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทยมุสลิมไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของประเทศก็ตาม คือ ไทยมุสลิมจะอยู่เป็นกลุ่มก้อน คือเป็นหมู่บ้านหรือกำปง และในแต่ละหมู่บ้านนั้นก็จะมีมัสยิด หรือสุเหร่า เป็นสถานที่กลางที่ไทยมุสลิมจะไปประกอบศาสนกิจร่วมกัน เป็นที่เรียนหนังสือของเยาวชน ฯลฯ โดยมีอิหม่าม ซึ่งชาวบ้านเลือกขึ้นมาเป็นผู้นำในหมู่บ้านหรือชุมชนนั้น ซึ่งเป็นไปตามหลักของอิสลามที่ใช้อยู่ทั่วโลก (หน้า 1-2) |
|
Political Organization |
ในสมัยท่านศาสดา (ค็อลฯ) มัสยิดทำหน้าที่หรือมีบทบาททั้งทางด้านการเมือง การปกครองและการทูต เพรามัสยิดทำหน้าที่เป็นสาสนสถาน ที่ทำการรัฐบาล ที่บัญชาการกองทัพ ตลอดจนที่รับรองแขกต่างประเทศ หรือที่เจรจาทางการทูต แต่เนื่องจากในปัจจันมุสลิมส่วนใหญ่ได้แยกหน้าที่ดังกล่าวออกจากมัสยิดโดยมีสถาบันต่าง ๆ เข้ามาทำหน้าที่แทน เช่น สถาบันการเมือง การปกครอง ฯลฯ หน้าที่ของมัสยิดจึงลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยซึ่งไม่ใช่ประเทศมุสลิม หน้าที่ทางด้านต่าง ๆ ที่เคยมีมาแต่อดีตจึงแทบไม่ปรากฏในสังคมไทยมุสลิม (หน้า 100) |
|
Belief System |
มุสลิมเป็นคำที่เรียกผู้นับถือศาสนาอิสลาม มีความหมายว่า ผู้นอบน้อมตนอย่างสิ้นเชิงต่อพระเจ้าอัลลอฮฺ (ซุปห์ฯ) แต่พระองค์เดียวเพื่อความสันติสุข ส่วนอิสลามเป็นชื่อของศาสนาของโลกศาสนาหนึ่ง และเป็นชื่อของระบอบการดำเนินชีวิต ซึ่งออกมาในรูปของวัฒนธรรมอิสลาม ที่ครอบคลุมถึงกฎหมายอิสลาม รัฐอิสลาม ระบอบเศรษฐกิจอิสลาม ฉะนั้นแท้จริงอิสลามคือระบอบของการดำเนินชีวิตซึ่งอยู่ในทางสายกลาง กล่าวคือ ไม่ปฏิเสธวัตถุกับจิตใจ ไม่มีฆราวาสกับนักบวช และเมื่อใครอยู่ในระบบอิสลามแล้ว เขาย่อมเป็นอุมมะฮฺ คือ ประชาชนสายกลาง หรือมุสลิม องค์ประกอบสำคัญของศาสนาอิสลามมี 5 ประการ ได้แก่ (1) ศาสดาคือมุฮำมัด (ค็อลฯ) (2) คัมภีร์อัล-กุรฺอาน (3) ผู้สืบทอดศาสนาหรือสาวก คือมุสลิมทุกคน (4) ศาสนสถาน คือ มัสยิด (5) พิธีกรรม เช่น การละหมาด การประกอบพิธีฮัจญ์ ฯลฯ ส่วนโครงสร้างของศาสนาอิสลามประกอบด้วยโครงสร้างที่สำคัญ 2 ประการ คือ หลักความศรัทธาหรือรุก่นอีหม่ามน 6 ประการ และหลักการปฏิบัติหรือรุก่นอิสลาม 5 ประการ (หน้า 26) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Text Analyst |
วศิน เชี่ยวจินดากานต์ |
Date of Report |
05 ม.ค. 2566 |
TAG |
มุสลิม, มัสยิด, ภาคกลาง, |
Translator |
- |
|