|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,วัยรุ่น,พฤติกรรมทางเพศ,ตาก |
Author |
สมควร ใจกระจ่าง |
Title |
ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นชาวเขาเผ่าม้ง |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
(เอกสารฉบับเต็ม) |
Total Pages |
120 |
Year |
2542 |
Source |
ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นชาวเขาเผ่าม้ง กลุ่มตัวอย่างเป็นวัยรุ่นม้งที่มีอายุระหว่าง 13-19 ปี อยู่นอกระบบโรงเรียน โดยใช้วิธีการสุ่ม เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติร่วมด้วย ผลการวิจัยสรุปว่า ปัจจัยที่พบว่ามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศอย่างมีนัยสำคัญในทุกด้านนั้นประกอบด้วย อายุ เพศ อาชีพ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การย้ายถิ่น ค่านิยมเรื่องเพศ สิ่งกระตุ้นทางเพศ และการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน สำหรับปัจจัยที่ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศคือ ปัจจัยด้านความรู้เรื่องเพศศึกษา และเจตคติเรื่องเพศ (หน้า 63) |
|
Focus |
การศึกษานี้จะช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นชาวเขาเผ่าม้ง (หน้า 4) |
|
Theoretical Issues |
การศึกษาวิจัยในเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่กลุ่มกรณีศึกษานี้นั้น ผู้วิจัยได้พบว่า การวิจัยครั้งนี้มีกรอบแนวคิดทฤษฎีและหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ว่า พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นชาวเขาเผ่าม้งนั้นเป็นสิ่งที่วัยรุ่นชาวม้งได้รับการเรียนรู้มาจากการศึกษา จากการหล่อหลอมและได้รับมาจากการอบรมทางสังคม โดยผ่านทางสถาบันครอบครัว, สถาบันการศึกษา สื่อต่างๆ ชุมชนที่อาศัยอยู่, การย้ายถิ่น ตลอดจนปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมทางสังคม นอกจากนี้ ปัจจัยภายในบุคคลของวัยรุ่นเองเช่นกัน ที่ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดความรู้และเจตคติเรื่องเพศ อันมีผลต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 37) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ชาวเขาเผ่าม้ง หรือเม้ว แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มย่อย คือ ม้งน้ำเงิน แม้วขาว และแม้วกั่วบ๊า ชาวเขาเผ่าม้งเป็นชาวเขาที่มีการกระจายตัวมากที่สุด มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคเหนือของประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ เช่น จังหวัดพะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน แพร่ ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย (หน้า 7-8) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ชาวเขาเผ่าม้งมีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ทางตอนเหนือของเอเชีย และมีส่วนของเชื้อชาติตุราน อันมีลักษณะกึ่งคอเคเซี่ยนกึ่งมองโกลซึ่งบรรพบุรุษได้อพยพลงมาทางใต้ (หน้า 8) |
|
Settlement Pattern |
ม้งมักนิยมตั้งบ้านเรือนบนภูเขา อันเนื่องมาจากลักษณะโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเผ่าซึ่งทำการเพาะปลูกแบบไร่เลื่อนลอย สำหรับทำเลที่ตั้งบ้านเรือนของชาวม้งที่ดีจะเป็นเนินเขาที่ลาดลงไปแต่ไม่ลาดชันจนเกินไปนัก ต้องมีลำห้วยไหลผ่านตลอดปี ฝั่งตรงข้ามลำห้วยมีแนวเขาสองลูกตั้งสับหว่างกันและนิยมปลูกบ้านอยู่ใกล้ชิดกันในกลุ่มเครือญาติ ในหลายๆ แห่งหากที่ทำกินอยู่ห่างไกลไปจากบริเวณที่อยู่อาศัยมาก มักจะสร้างบ้านอีกหลังหนึ่งไว้ในไร่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง และจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านหลังนั้นในช่วงที่มีกิจกรรมการเกษตร และการปลูกบ้านตามประเพณีจะปลูกคล่อมดินโดยใช้พื้นดินเป็นพื้นเรือน จะมีการเสี่ยงทายล่วงหน้าว่าภูมิทำเลเหมาะสมที่จะปลูกบ้านหรือไม่ และด้านหน้าของบ้านจะหันไปทางลาดเขาส่วนที่ลาดลง (หน้า 8) |
|
Demography |
ประชากรกลุ่มตัวอย่างจะเป็นวัยรุ่นชายและหญิงม้งที่เป็นโสด อยู่นอกระบบโรงเรียน และมีอายุระหว่าง 13-19 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านป่าคาเก่า อ.พบพระ จังหวัดตาก มีจำนวนประมาณ 1,007 คน (หน้า 39) |
|
Economy |
วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งมีการติดต่อกับสังคมภายนอกมากขึ้น และมากกว่าชาวเขาเผ่าอื่นๆ เนื่องจากมีอาชีพทำไร่และค้าขายพืชไร่ สำหรับผู้ชายนอกจากงานในไร่แล้วยังต้องรับผิดชอบทั้งการซ่อมแซมบ้านเรือนและอุปกรณ์ที่ทำการเกษตร เมื่อพอมีเวลาจะออกล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารเสริมในครอบครัว ส่วนผู้หญิงนอกจากงานในไร่ ยังต้องรับผิดชอบในเรื่องการเรือน นับตั้งแต่การให้อาหารสัตว์ การเตรียมและจัดหาอาหาร การซ่อมแซมตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่สมาชิกในครอบครัว ม้งมักนิยมมีบุตรมาก เนื่องจากสังคมม้งใช้เทคนิคการเกษตรแบบใช้แรงงานคนเป็นสำคัญ การมีบุตรมากจึงหมายถึงมีแรงงานมาก ซึ่งจะส่งให้เพาะปลูกได้มากและได้ผลผลิตมากร่วมด้วย ผู้ที่มีลูกหลานมากสถานภาพทางสังคมก็จะถูกยกขึ้นโดยปริยาย ประกอบกับแรงงานที่มีเหลือเฟือจะทำให้เพิ่มพูนสถานภาพทางเศรษฐกิจให้มั่นคงมากขึ้น (หน้า 9) |
|
Social Organization |
ลักษณะของครอบครัวม้งเป็นแบบครอบครัวขยาย และยอมรับการที่สามีมีภรรยาได้หลายคน ให้ฝ่ายชายเป็นใหญ่ในครอบครัวตลอดจนการบูชาบรรพบุรุษเหมือนสังคมชาวจีน ด้วยเหตุที่จารีตประเพณีม้งมีการสืบสกุลทางฝ่ายชาย ดังนั้นบุตรชายจะต้องเป็นผู้สืบทอดหน้าที่เกี่ยวกับพิธีกรรมของครัวเรือนต่อจากบิดา ผู้ชายมักเป็นเสียงสุดท้ายในการตัดสินกรณีพิพาทต่างๆ การติดต่อธุรกิจการค้าก็ยังเป็นหน้าที่ของฝ่ายชายร่วมด้วย (หน้า 9) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ในปัจจุบันการดำเนินชีวิตของม้งเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากวัฒนธรรมของสังคมเมือง ได้แผ่ขยายไปสู่ชุมชนม้ง อีกทั้งม้งยังได้มีการติดต่อกับสังคมเมืองอย่างสม่ำเสมอเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะมาจากอาชีพการค้าขายโดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรนั่นเอง (หน้า 9) |
|
Map/Illustration |
ผู้วิจัยได้มีการนำเสนอข้อมูลด้วยการใช้ตารางและแผนภูมิเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย ตารางที่ 1 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ (หน้า 47) ตารางที่ 2 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม ประสบการณ์การย้ายถิ่น (หน้า 48) ตารางที่ 3 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม ความรู้เรื่องเพศศึกษา (หน้า 49) ตารางที่ 4 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม เจตคติเรื่องเพศ (หน้า 49) ตารางที่ 5 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม สิ่งกระตุ้นทางเพศ (หน้า 50) ตารางที่ 6 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม การคล้อยตามของกลุ่มเพื่อน (หน้า 51) ตารางที่ 7 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม ค่านิยมของวัยรุ่นในเรื่องเพศ (หน้า 51) ตารางที่ 8 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม พฤติกรรมทางเพศ (หน้า 52) ตารางที่ 9 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตาม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ (หน้า 54) ตารางที่ 10 ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับพฤติกรรมการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 55) ตารางที่ 11 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับพฤติกรรมการเคยอยู่ตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตา กับเพื่อนต่างเพศ ของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 56) ตารางที่ 12 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับพฤติกรรมการเคยไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง ของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 57) ตารางที่ 13 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับพฤติกรรมการเคยจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศ ขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง ของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 58) ตารางที่ 14 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ ของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 59) ตารางที่ 15 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับพฤติกรรมการเคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง ของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 60) ตารางที่ 16 ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับพฤติกรรมการเคยมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ของวัยรุ่นชาวม้ง (หน้า 61) ตารางที่ 17 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 86) ตารางที่ 18 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการณ์การย้ายถิ่นกับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 87) ตารางที่ 19 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศศึกษากับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 87) ตารางที่ 20 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศกับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 88) ตารางที่ 21 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้นทางเพศกับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 88) ตารางที่ 22 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อนกับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 89) ตารางที่ 23 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมของวัยรุ่นในเรื่องเพศกับการเคยมีโอกาสใกล้ชิด ติดต่อ ไปมาหาสู่กับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 89) ตารางที่ 24 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลกับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 90) ตารางที่ 25 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการณ์การย้ายถิ่น กับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 91) ตารางที่ 26 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศศึกษา กับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 91) ตารางที่ 27 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศ กับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 92) ตารางที่ 28 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้นทางเพศ กับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 92) ตารางที่ 29 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน กับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 93) ตารางที่ 30 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมของวัยรุ่นในเรื่องเพศ กับการอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตากับเพื่อนต่างเพศ (หน้า 93) ตารางที่ 31 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 94) ตารางที่ 32 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการณ์การย้ายถิ่น กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 95) ตารางที่ 33 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศศึกษา กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 95) ตารางที่ 34 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศ กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 96) ตารางที่ 35 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้นทางเพศ กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 96) ตารางที่ 36 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 97) ตารางที่ 37 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมเรื่องเพศของสังคม กับการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 97) ตารางที่ 38 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 98) ตารางที่ 39 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการณ์การย้ายถิ่น กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 99) ตารางที่ 40 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศศึกษา กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 99) ตารางที่ 41 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศ กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 100) ตารางที่ 42 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้น กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 100) ตารางที่ 43 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 101) ตารางที่ 44 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมเรื่องเพศ กับการจับมือถือแขนกับเพื่อนต่างเพศขณะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง (หน้า 101) ตารางที่ 45 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 102) ตารางที่ 46 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการณ์การย้ายถิ่น กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 103) ตารางที่ 47 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศศึกษา กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 103) ตารางที่ 48 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศ กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 104) ตารางที่ 49 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้นทางเพศ กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 104) ตารางที่ 50 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 105) ตารางที่ 51 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมของวัยรุ่นในเรื่องเพศ กับพฤติกรรมที่เพื่อนต่างเพศเคยโอบ กอด หรือจูบ (หน้า 105) ตารางที่ 52 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 106) ตารางที่ 53 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการร์การย้ายถิ่น กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 107) ตารางที่ 54 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศศึกษา กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 107) ตารางที่ 55 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศ กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 108) ตารางที่ 56 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้นทางเพศ กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 108) ตารางที่ 57 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 109) ตารางที่ 58 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมของวัยรุ่นในเรื่องเพศของสังคม กับพฤติกรรมที่เคยสำเร็จความใคร่ให้ตนเอง (หน้า 109) ตารางที่ 59 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 110) ตารางที่ 60 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามประสบการณ์การย้ายถิ่น กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 111) ตารางที่ 61 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามความรู้เรื่องเพศ กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 111) ตารางที่ 62 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามเจตคติเรื่องเพศ กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 112) ตารางที่ 63 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามสิ่งกระตุ้นทางเพศ กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 112) ตารางที่ 64 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามการคล้อยตามกลุ่มเพื่อน กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 113) ตารางที่ 59 จำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวม้งจำแนกตามค่านิยมของวัยรุ่น กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (หน้า 113) แผนภูมิที่ 1 แบบจำลองความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและพฤติกรรมเพศสัมพันธ์ตามทฤษฎีกลไกทางเพศ (หน้า 22) แผนภูมิที่ 2 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ กับความตั้งใจ และพฤติกรรมของทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผล (หน้า 27) แผนภูมิที่ 3 กรอบแนวคิดในการวิจัย (หน้า 38) |
|
|