|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง, เมี่ยน, ลีซู, ลาหู่, ลเวือะ, ลัวะ,ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),โพล่ง โผล่ง โพล่ว ซู (กะเหรี่ยง), ชาวเขา,จักรวาลวิทยา,กระบวนการเคลื่อนไหวทางศาสนา,ศาสนาคริสต์,จิตสำนึกชาติพันธุ์,ภาคเหนือ |
Author |
Claes Corlin |
Title |
The Politics of Cosmology : An Introduction to Millenarianism and Ethnicity among Highland Minorities of Northern Thailand |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ลัวะ (มัล ปรัย) ลัวะมัล ไปร ลัวะปรัย, ลีซู, ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู, อิ้วเมี่ยน เมี่ยน, ม้ง, โพล่ง โผล่ง โผล่ว ซู กะเหรี่ยง, ปกาเกอะญอ, ลัวะ (ละเวือะ) ลเวือะ อเวือะ เลอเวือะ ลวะ ละว้า, ละว้า ลัวะ ว้า,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไม่ระบุ |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
16 |
Year |
2543 |
Source |
Civility and Savagery, ed. Andrew Turton |
Abstract |
การเคลื่อนไหวเพื่อโลกใหม่ที่ดีขึ้น(millenarian) ในหมู่ชาวเขาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดจากองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ความหมายทางวัฒนธรรมของชาวเขากลุ่มต่าง ๆ สถานะทางเศรษฐกิจ-การเมืองระหว่างปลายศตวรรษที่ 19 ถึงศตวรรษที่ 20 อิทธิพลทางวัฒนธรรมของชนส่วนใหญ่ที่ปกครองอยู่ (อาทิเช่น วัฒนธรรมพุทธนิกายเถรวาท) รวมทั้งอิทธิพลของมิชชันนารี (หน้า 116) ความหมายทางวัฒนธรรม หมายถึง วิถีทางเฉพาะที่ถือปฏิบัติในการเคลื่อนไหวเพื่อโลกใหม่ที่ดีกว่า แม้ว่าจะมีลักษณะร่วมกับแบบแผนการเคลื่อนไหวแบบ millenarian ทั่วไป แต่ก็จะมีลักษณะเฉพาะทางวัฒนธรรมสำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวเขาในประเทศไทย ซึ่งมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ อาจจะกล่าวได้ว่ามีความร่วมกันบางประการอันเนื่องจากการมีพื้นฐานระบบคิด และโลกทัศน์ในเรื่องจักรวาลที่คล้ายคลึงกัน ความหมาย หรือการสื่อเชิงวัฒนธรรมมิใช่เป็นเรื่องที่ตายตัว แต่ถูกก่อรูปมาในช่วงเวลาอันยาวนานที่ได้มีการปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และกลุ่มชนที่อยู่รอบข้างตำนานบ่งบอกว่า "ชาวเขา" เป็นผู้พ่ายแพ้ แต่ตำนานก็ให้ความหวังว่า สักวันหนึ่งยุคทองจะกลับคืนมาในโลกปัจจุบัน วัฒนธรรมของชาวเขาต้องเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมที่เป็นของรัฐไทย และอาจจะทำให้ชาวเขารู้สึกถูกคุกคามในทางวัฒนธรรม คริสตศาสนาอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่ง (หน้า 117) คริสต์ศาสนากับความเชื่อท้องถิ่นของชาวเขาดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี โดยความเชื่อบางอย่างของชาวเขานั้นสอดคล้องกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ล เช่น ความเชื่อเกี่ยวกับน้ำท่วมโลก มีมิชชันนารีผู้หนึ่งถึงกับกล่าวอ้างว่ากะเหรี่ยงก็คือกลุ่มชนในอิสราเอลที่สาบสูญไป อย่างไรก็ตาม พัฒนาการของความสัมพันธ์ดังกล่าวได้พิสูจน์แล้วว่าการพบกันของสองวัฒนธรรมจะทำให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้น ทั้งนี้ องค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมของชาวเขา สถานการณ์ที่ล่อแหลมในฐานะที่เป็นชนกลุ่มน้อย รวมทั้งอิทธิพลของศาสนาคริสต์ ได้ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก็รวมถึงการสร้างนิยามใหม่ให้กับชาติพันธุ์ของตนด้วย ตัวอย่างเช่น กองกำลังกะเหรี่ยงเพื่อการปลดแอก (Karen Liberation Army)(หน้า 117) ทุกวันนี้ชาวเขาชนกลุ่มน้อยเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม โดยทัวร์ต่างชาติและอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นสิ่งที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี(หน้า 117) อย่างไรก็ตาม ชีวิตของชาวเขาก็เปลี่ยนไปในหลาย ๆ ด้าน อย่างเช่น การมีโทรทัศน์เข้ามาแทนที่นิทานเรื่องเล่า และการใส่เสื้อแบบสมัยใหม่แทนเสื้อผ้าพื้นเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็มีจิตสำนึกด้านชาติพันธุ์ในกลุ่มคนวัยรุ่นที่มีการศึกษา และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็น มาของชนกลุ่มน้อยก็ก่อให้เกิดความรู้ซึ้งในวัฒนธรรมที่เจริญงอกงามอย่างยิ่งของชาติพันธุ์ตนเอง นอกจากนั้น พวกเขายังตระหนักถึงประเด็นความเท่าเทียมกันทางการเมืองและเศรษฐกิจอีกด้วย(หน้า 119) |
|
Focus |
ผู้ศึกษาต้องการให้เห็นว่าในกระบวนการเคลื่อนไหวทางศาสนาของชาวเขาในภาคเหนือของไทย มีมิติทางวัฒนธรรมนอกจากมิติทางการเมือง และมีความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อทางศาสนา และการปฏิบัติการทางการเมืองในสถานการณ์ดังกล่าว |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
มีภาษาทั้งหมด 3 ตระกูลหลักที่ใช้ในพื้นที่บริเวณตอนเหนือของไทยบาง ส่วนของพม่า ลาว เวียดนาม และมณฑลยูนานของประเทศจีน คือ ตระกูล Sino-Tibetan (จีน, ทิเบต-พม่า), ตระกูล Austro-Thai (แม้ว-เย้า) และตระกูล Austro-Asiatic (มอญ-เขมร, กะเหรี่ยง) (หน้า 106) |
|
Study Period (Data Collection) |
ค.ศ. 1991-1992 (หน้า 104) |
|
History of the Group and Community |
มโนทัศน์ "Millenium" ได้มีต้นกำเนิดจากคัมภีร์ "New testament" ของคริสต์ศาสนา กล่าวถึงการฟื้นคืนชีพของพระเยซูในฐานะเป็นพระผู้ไถ่ให้รอด (Messiah) และในประวัติศาสตร์ของโลกคริสเตียนได้มีการเคลื่อนไหวทางศาสนาถึงการกลับมาของพระเยซูโดยกลุ่มที่ถูกกดขี่ในสังคม และในบางครั้งเกิดการใช้กำลังต่อต้านผู้มีอำนาจทางศาสนา ส่วนในโลกของศาสนาอื่น ๆ ที่ใช้คริสเตียนก็มีการเคลื่อนไหวทำนองเดียวกัน เช่น การเคลื่อนไหวทางศาสนาที่เรียกว่า "Ghost Dance" ของอินเดียนแดงในอเมริกาเหนือ (หน้า 104-105) ความเคลื่อนไหวทางศาสนาที่เรียกว่า "millenarianism" มักจะเริ่มด้วยการปรากฎตัวของศาสดา (Prophet) อ้างว่าเป็นผู้ส่งข่าวอันศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจจะถูกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สิงสู่ จะเป็นผู้มาช่วยคนที่ถูกกดขี่ในโลกที่ไร้ความยุติธรรม และจะสร้างโลกใหม่ที่มีความยุติธรรมให้ จะขอให้ทุกคนรอคอยผู้ที่จะมาช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากความทุกข์ยาก (หน้า 105) สำหรับกลุ่มชาวเขาที่ศึกษาซึ่งมีหลากหลายชาติพันธุ์ อาศัยอยู่บนพื้นที่สูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อเวลาผ่านไปก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของรัฐประชาชาติต่าง ๆ ในพื้นที่ดังกล่าว (หน้า 106) ในทางตอนเหนือของประเทศไทยก่อนทศวรรษของ 1950 รัฐบาลไทยไม่เข้าไปแทรกแซง เช่น การอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก การปลูกฝิ่นและค้าฝิ่น แต่ด้วยปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงมากขึ้นเรื่อย ๆ (หน้า 104) เช่น การส่งเสริมพืชอื่นแทนฝิ่น การมีหน่วยตำรวจตระเวนชายแดนควบคุม การตั้งกองสงเคราะห์ชาวเขา และการเผยแพร่ศาสนา |
|
Settlement Pattern |
โดยทั่วไปตั้งหมู่บ้านบนภูเขา และอาศัยอยู่เป็นย่อม ๆ มากกว่าที่จะอยู่รวมกันเป็นร้อย ๆ หลังคาเรือน (หน้า 106) |
|
Demography |
การย้ายถิ่นมักเป็นผลมาจากสงคราม ซึ่งโดยมากเป็นการอพยพย้ายถิ่นข้ามประเทศ เช่น ผู้ลี้ภัยสงครามจากเวียดนาม และพม่า หรือชาวเขานับพันจากประเทศลาวที่เข้ามาอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของไทย ขณะที่บางส่วนย้ายไปอยู่ถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส (หน้า 106) |
|
Economy |
ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา(นาหว่าน) ทำไร่เลื่อนลอยแต่มีบางส่วนที่เพาะปลูกข้าวนาดำตามบริเวณที่ลาด หรือเนินเขา (หน้า 106) |
|
Political Organization |
ตามประวัติศาสตร์ของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพื้นที่การศึกษานั้น พวกเขาถูกนับรวมให้เป็นคนในชาติมากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็มักถูกครอบงำโดยคนที่อยู่ในที่ราบ (หน้า 106) ตั้งแต่อดีตจนถึงทศวรรษ 50 รัฐบาลมีนโยบายเกี่ยวกับชาวเขาชนกลุ่มน้อยในลักษณะที่ไม่พยายามเข้าไปแทรกแซง แต่เนื่องจากปัญหาผู้ลี้ภัยจากประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์อพยพเข้ามาในไทยมากขึ้น รัฐบาลเริ่มกลัวกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ จึงมีการตั้งหน่วยงานตำรวจชายแดนขึ้นมาในปี 1953 เพื่อตรวจสอบกลุ่มคนซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างความไม่ปลอดภัย ต่อมาในปี 1967 กองทัพบกได้ดำเนินการเฝ้าระวังคอมมิวนิสต์ในพื้นที่บริเวณที่เป็นเทือกเขา เป็นเหตุให้หมู่บ้านของม้ง และเมี่ยนหลายแห่งถูกเผา และผู้คนมากมายถูกบังคับให้ย้ายมาอยู่ในพื้นที่ควบคุม ขณะที่ฝ่ายสงฆ์เองก็พยายามช่วยเหลือโดยการส่งมิชชันนารีเข้าไปในหมู่บ้านของชาวเขาในกลางทศวรรษที่ 60 เช่นกัน เพื่อที่จะหลอมรวมชาวเขาชนกลุ่มน้อยให้เข้ากับคนอื่น ๆ ในชาติ (หน้า 107) ทางการไทยประสบความสำเร็จในการพยายามหาพืชชนิดอื่นมาทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา โดยหมู่บ้านชาวเขาหลายแห่งหันมาปลูกผัก อย่างไรก็ดี สำหรับในด้านการจำหน่ายผลผลิตก็ยังมีปัญหาในเรื่องการขนส่ง อีกทั้งเมื่อเศรษฐกิจเริ่มเปลี่ยนไป การทำเกษตรจำเป็นต้องลงทุนมากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้ชาวเขาต้องเป็นหนี้สถาบันการเงินในเมือง (หน้า 107) สำหรับการลดการทำลายป่าไม้นั้น ทางการได้สร้างอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ภูเขา แต่นโยบายนี้เองได้ทำให้ชาวเขานับพันคนกลายเป็นผู้รุกล้ำพื้นที่ป่า (หน้า 107) ซึ่งชาวเขาหลายคนอพยพมาอยู่ที่ราบ นอกจากนี้ ยังมีความเปลี่ยนแปลงอีกมากที่เกิดขึ้น เช่น การเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว อันส่งผลให้ชาวเขาพบว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ (หน้า 108) ในบรรดาชาวเขาเผ่าต่าง ๆ นั้น ลั๊วะกับกะเหรี่ยงถูกมองว่าเป็นคนในท้องถิ่น ในขณะที่เผ่าอื่น ๆ ล้วนมีต้นกำเนิดจากจีนตอนใต้ แล้วจึงค่อยอพยพเข้ามาผ่านพรมแดนลาว และพม่า (หน้า 108) กิจกรรมของมิชชันนารีถือว่าทำให้ศาสนาคริสต์ประสบความสำเร็จในชุมชนชาวเขา ตรงกันข้ามกับพุทธศาสนาซึ่งไม่เป็นเช่นนั้น ความแตกต่างนี้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง และประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ สำหรับในประเทศไทยนั้น พุทธนิกายเถรวาทนั้นเชื่อมโยงอยู่อย่างเหนียวแน่นกับอำนาจรัฐ และระบบความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งการที่ชาวเขาจะประยุกต์พุทธศาสนามาใช้ก็เท่ากับเป็นการประยุกต์วิถีชีวิตทั้งหมดของชนส่วนใหญ่ไปด้วย แต่หลักธรรมของพุทธศาสนาก็สอดคล้องเข้ากันได้กับศาสนาความเชื่อต่าง ๆ ของชาวเขาแต่ละกลุ่ม ขณะที่ศาสนาคริสต์ก็มีแนวปฏิบัติที่ใกล้เคียงกับค่านิยมความเชื่อของชาวเขา แนวคิดคริสต์ที่รวมกับความเชื่อเดิมนั้น ได้ผลิตศาสนารูปแบบใหม่ และบางครั้งได้กระตุ้นให้เกิดพลังแห่งการเคลื่อนไหวทางสังคม ทั้งนี้ ชาวเขาบางกลุ่มได้เคยมีการติดต่อกับมิชชันนารีตั้งแต่สมัยอยู่ที่ประเทศจีนแล้ว (หน้า 110) ม้งในลาวและทางตอนเหนือของไทยก็ได้รับการกระตุ้นให้ทำการเคลื่อนไหวต่อต้านการเมืองเช่นกันโดยในปี 1918 ม้งในลาว นำโดย Paj Cai ได้ลุกฮือขึ้นเป็นกบฏหรือเป็นศัตรูกับคนไทย คนลาว และคนฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการกระทำครั้งนี้ดูเหมือนมีลักษณะที่คิดเองทำเอง แต่แท้จริงแล้วได้รับการสนับสนุนจากมิชชันนารีนั่นเอง ขณะที่ในช่วงทศวรรษ 50 ก็มีการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า "Meo Trinity Cult" เกิดขึ้น ซึ่งมีม้ง 3 คนอ้างว่าเป็นตัวแทนของ "Holy Trinity" โดยพวกเขาได้ตระเวนจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อจูงใจคนผู้อื่นเปลี่ยนมานับถือคริสต์ แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้จบลงด้วยการที่ม้งคนหนึ่งฆ่าตัวตายโดยการกระโดดจากภูเขา เพื่อที่จะแสดงว่าเขาสามารถบินได้เหมือนนก (หน้า 112) |
|
Belief System |
ความเชื่อท้องถิ่นของชาวเขามาจากการหล่อหลอมรวมกันของวัฒนธรรมพุทธ เต๋า และคริสต์(เผยแพร่โดยมิชชันนารี) (หน้า 104) ส่วนวัฒนธรรมต่าง ๆ นั้น ชาวเขาแต่ละเผ่าได้รับอิทธิพลระหว่างกัน ซึ่งศาสนาของชาวเขาสะท้อนให้เห็นว่ารับอิทธิพลจากเต๋า ขงจื้อ และพุทธ (หน้า 108) ถึงแม้จะได้รับอิทธิพลจากพุทธทั้งนิกายเถรวาทและมหายาน อีกทั้งแนว คิดพุทธจะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดโลกใหม่ที่ดีขึ้น millenarian ก็ตาม แต่แกนหลักของการเคลื่อนไหวตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 นั้น มาจากการสนับสนุนโดยคริสตศาสนา (หน้า 109) อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมความเชื่อทั้งหลายที่มีการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนกันนั้น ได้แก่ ความเชื่อเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโลก และความเป็นมาของมนุษยชาติ ตลอดจนชาติพันธุ์ที่หลากหลายในโลกของเรา ทั้งนี้ทั้งนั้น ความเชื่อต่าง ๆ นั้น มิได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวเขาเผ่าใดเผ่าหนึ่ง อย่าง เช่น ความเชื่อในเรื่องของวิญญาณก็มีให้เห็นทั่วไปในหลายพื้นที่ทั้งพม่า ไทย จีน และเวียดนาม (หน้า 108) นอกจากนั้นแล้ว ชาวเขาไม่มีสังคมที่เป็นศูนย์กลางและศาสนาหลัก หากแต่ชาติพันธุ์ต่าง ๆ และหมู่บ้านแต่ละแห่งล้วนมีชุดของความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่แตกต่างจากชุมชนอื่นไม่มากก็น้อยทั้งสิ้น (หน้า 109) ความเชื่อ และการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ millenarian เริ่มต้นจากการปรากฏตัวของผู้รับสารจากพระเจ้าที่อ้างว่าโลกแห่งความอยุติธรรมกำลังจะสิ้นสุดลง และโลกใหม่ที่ดีกว่าจะถูกสร้างขึ้น โดยผู้ที่เชื่อในสิ่งที่ผู้รับสารจากพระเจ้าประกาศจะละเว้นจากกิจวัตรประจำวันที่เคยทำเพื่อรอคอยยุคแห่ง millennium นี้เอง ทั้งนี้ ลัทธิความเชื่อดังกล่าวจะมีส่วนประกอบที่เป็นการร่ายรำคล้ายถูกสะกดจิต หรือถูกผีเข้าสิง และพฤติกรรมหลายอย่างที่คนภายนอกมองว่าแปลกประหลาดด้วย อย่างไรก็ดี สิ่งที่แสดงออกมักอยู่ในรูปแบบที่ต่อต้าน(เป็นปฏิปักษ์) กลุ่มคนส่วนใหญ่ในสังคม และอำนาจจักรวรรดินิยม เช่น กบฏ Taiping ในประเทศจีน (1851-1864) ที่เริ่มจากผู้นำ millenarian ที่ชื่อ Hsiu-ch'uan อันนำไปสู่สงครามกลางเมืองที่นองเลือดมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติการณ์ (หน้า 105) ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทก็ได้กล่าวถึงแนวคิดในลักษณะซึ่งเป็นโลกใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม (millenarian) เช่นกัน อย่างที่เรียกว่า "กระบวนการพระศรีอารย์" เช่นเดียวกับหลักธรรมที่ใช้กับกษัตริย์ อาทิ ธรรมราชา และจักรวรรดิวัตร ซึ่งอาจถือเป็นข้อร้องขอเพื่อให้เกิดการเมืองการปกครองที่ชอบธรรมในโลก millenarian (หน้า 109) ทั้ง ๆ ที่นับถือพุทธในนิกายต่างกัน แต่ละหู่ซึ่งพูดภาษาตระกูลทิเบต-พม่า นับถือลัทธิกีชา (G'uisha) อันมีลักษณะรูปแบบที่คล้ายคลึงกับลัทธิ Ywa ของกะเหรี่ยง (หน้า 111) ละหู่เชื่อว่า กีชา (G'uisha) เป็นผู้สร้างโลก และมวลมนุษยชาติ อีกทั้งคุณธรรมความดีในแบบพุทธก็ถูกกำหนดขึ้นโดยกีชา ทั้งนี้ หากใครที่ทำความดีก็จะได้ไปอยู่กับกีชาหลังจากตายไปแล้ว ขณะที่ใครทำบาปก็ต้องตกนรก การกลับมาเกิดใหม่ของกีชาเป็นสิ่งที่พวกเขารอคอย ซึ่งละหู่เชื่อว่ากีชาที่จะมาเกิดใหม่ในลักษณะครึ่งมนุษย์ครึ่งพระเจ้านี้ จะมีอาวุธพิเศษประจำตัวที่ช่วยให้กีชาเอาชนะศัตรูรอบข้างได้ โดยสำหรับละหู่ที่นับถือคริสต์นั้น กีชาถูกตีความว่าเป็นองค์เดียวกับพระเจ้าของคริสตศาสนา (หน้า 111) แม้เหล่ามิชชันนารีจะได้ทำงานเพื่อจูงใจให้ชาวเขาหันมานับถือคริสต์ และพยายามธำรงคำสอนเดิมของพระเยซูเอาไว้ แต่กระนั้นก็ดี การตีความคำสอนของศาสนาคริสต์โดยชาวเขาก็ทำให้สาระได้ผิดเพี้ยนเปลี่ยนไป แม้คำสอนในเรื่องสันติภาพของพระเยซูก็กลายเป็นความเข้าใจไปในทางตรงกันข้าม(หน้า 112) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Folklore |
ความเชื่อพื้นฐานทางศาสนาอย่างหนึ่งของชาวเขาก็คือ ความเชื่อที่ว่าจักรวาลแบ่งออกเป็นสามภพ คือ สวรรค์ โลก และนรก นอกจากนั้นยังมีความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณบรรพบุรุษ เจ้าป่าเจ้าเขา และพระเจ้าผู้สร้างโลก พวกเขาเชื่อว่าชีวิตของมนุษย์ ข้าว และสรรพสิ่งล้วนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตย์อยู่ โดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย และการตาย ซึ่งหมอผีจะเป็นผู้ที่สามารถเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลับมาคุ้มครองรักษาผู้ป่วยได้ เรื่องเล่านิยายต่าง ๆ จะถูกเล่าโดยกวีเร่ร่อนและผู้มีความรู้ อย่างเช่น เรื่องเกี่ยวกับน้ำท่วมโลกนั้น กล่าวว่า มีพี่น้องชายหญิง 2 คน รอดตายจากเหตุน้ำท่วม จากนั้นทั้งสองได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากัน หลังจากมีการตั้งครรภ์แล้ว สิ่งที่คลอดออกมาไม่ใช่เด็กทารก แต่กลับเป็นน้ำเต้า เมื่อทั้งสองเจาะน้ำเต้าดูแล้ว จึงมีไอน้ำพุ่งออกมา กลายเป็นบรรพบุรุษของชาติพันธุ์ต่าง ๆ นั่นเอง (หน้า 115) สาระสำคัญของเรื่องเล่าหลังจากเกิดชาติพันธุ์ต่าง ๆ มาแล้วก็คือ การอธิบายความแตกต่าง หรือความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ การรู้หนังสือ ฯลฯ ของแต่ละชาติพันธุ์ว่าเป็นเพราะเหตุใด เช่น การที่คนผิวขาวรู้หนังสือ และรวยกว่ากะเหรี่ยงก็เพราะว่า พวกเขาได้ขโมยคัมภีร์ทอง ซึ่งซ่อนเคล็ดลับเกี่ยวกับความรวย และความรู้เอาไว้ (หน้า 115) อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ทุกชาติพันธุ์ล้วนเป็นเครือญาติกันทั้งสิ้น ทุกคนจึงมีสิทธิที่จะเรียกร้องเพื่อแบ่งผลประโยชน์กันระหว่างเครือญาติ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่านิยายเหล่านี้ได้อธิบายทั้งความเป็นจริงในปัจจุบัน วิถีปฏิบัติ ตลอดจนการกระทำในอนาคตด้วย (หน้า 115) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
การจัดแบ่งประเภทของชาวเขา และคำที่ใช้เรียกชาวเขาโดยคนเมืองหรือรัฐนั้นแตกต่างจากกลุ่มประเภทที่ชาวเขาจัดแบ่งพวกเขาเอง อย่างเช่น แม้วพอใจมากกว่าที่จะเรียกตนเองว่า "ม้ง" ส่วนเย้าก็ชอบที่จะเรียกตนเองว่า "เมี่ยน" (Mien) ทั้งนี้ ประเภทต่าง ๆ ของชาวเขาที่มีอยู่ก็แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม และภาษาของพวกเขา นอกจากนั้น ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ก็แบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ อีก โดยอาจใช้สีเป็นตัวแบ่งแยก เช่น พวกละหู่ (Lahu) แยกออกได้เป็น ละหู่ดำ ละหู่ ละหู่แดง และละหู่เหลือง (หน้า 107) การเข้ามาของมิชชันนารีอเมริกันในต้นศตวรรษที่ 19 เป็นไปตามคำทำนายที่ว่าจะมีคนต่างชาติผิวขาวเข้ามาพร้อมหนังสือซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้กะเหรี่ยงพบทางสว่างขึ้นมาได้ โดยผู้นำกะเหรี่ยงเองอ้างว่าเขาจะสามารถล้มล้างการถูกครอบงำโดยพม่าได้ (หน้า 111) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายหลังจากทางการไทยมีนโยบายด้านต่าง ๆ ที่นำมาปฏิบัติกับชาวเขา ทำให้วัฒนธรรมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เพราะความคิด และค่านิยมใหม่ ๆ ที่ทางการนำเข้ามานั้นค่อนข้างขัดแย้งกับวัฒนธรรมเดิม อย่างไรก็ตาม ชาวเขาพยายามปรับตัวปรับใช้วัฒนธรรมใหม่ที่เข้ามาให้เป็นเนื้อเดียวกันกับวัฒนธรรมเดิม ผลที่เกิดจากกระบวนการนี้ทำให้เกิดวัฒนธรรม รูปแบบใหม่ขึ้นมา ซึ่งค่อนข้างจะแปลกประหลาดหากมองด้วยสายตาของคนนอก (หน้า 108) |
|
Other Issues |
แนวคิดเกี่ยวกับ millennium มาจากคัมภีร์ไบเบิ้ลซึ่งกล่าวถึงอาณาจักร messianic ที่มีอายุเป็นพันปี อันเป็นอาณาจักรที่จะเกิดขึ้นภายหลังการประสูติครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ในนามของ messiah การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ millenarian ได้เกิดขึ้นท่ามกลางสังคมแห่งช่วงเวลาที่ชนกลุ่มน้อยถูกกดขี่ข่มเหง ซึ่งผู้รับสารจากพระผู้เป็นเจ้าพยากรณ์ไว้ถึงวินาทีที่พระเยซูคริสต์จะกลับมา และเสรีภาพภายหลังภาวการณ์กดขี่ข่มเหงดังกล่าว (หน้า 104) การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ messianic และ millenarian ดูเหมือนจะขึ้นในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจและการเมืองอยู่ในลักษณะที่ไม่เท่าเทียมกัน ผู้คนมากมายต่างรู้สึกว่าตนเองถูกแบ่งแยก ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และสถานการณ์ก็ไม่อยู่ในทิศทางที่จะเปลี่ยนแปลงไปได้เลย ดังนั้นสาระสำคัญของ millenarian ก็คือ ความต้องการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง กล่าวคือ หวังว่าโลกอย่างที่เป็นอยู่จะสิ้นสุดลง และมีโลกใหม่ที่ดีกว่าเกิดขึ้นมา (หน้า 112) แม้กระทั่งอาณาบริเวณที่ไม่ใช่ผู้คนมิได้นับถือศาสนาคริสต์หลาย ๆ แห่งก็ยังมีการเคลื่อนไหว millenarian เกิดขึ้นเช่นกัน เช่น ปรากฎการณ์ผีเต้นระบำ (Ghost Dance) ในอเมริกาเหนือ หรือลัทธิ Cargo ในเมลานีเซีย (หน้า 105) อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้อ้างอิงความ ชอบธรรมในการใช้อำนาจเพื่อการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง บางครั้งถึงกับมีการสร้างสาระทางประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ในลักษณะที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนการใช้อำนาจ (หน้า 114) เนื่องด้วยชาวเขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่รวมกันในลักษณะที่ไม่เป็นรัฐ ภาพของประวัติศาสตร์ก็จะแตกต่างกันไป อีกทั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขาไม่มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และยังไม่สิ้นสุดลง มีแต่การบอกเล่าจากปากต่อปาก ลักษณะสังคมที่ไม่มีความเป็นรัฐ หรือทำอะไรเหมือน ๆ กันไปหมดเช่นนี้ ดังจะเห็นว่าไม่มีศาสนาหลักประจำชาติพันธุ์ที่กำหนดขึ้นมา และพิธีกรรมต่าง ๆ ก็แตกต่างหลากหลายไปตามความคิดของผู้นำเผ่า หรือหมอผีประจำเผ่า ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหว เกี่ยวกับ millenarian หรือการเคลื่อนไหวอื่น ๆ ก็มีลักษณะของการเริ่มต้นขึ้นที่แตกต่างกันไป (หน้า 114) |
|
Text Analyst |
เกรียงกมล ธีระศักดิ์โสภณ |
Date of Report |
06 ม.ค. 2566 |
TAG |
ม้ง, เมี่ยน, ลีซู, ลาหู่, ลเวือะ, ลัวะ, ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), โพล่ง โผล่ง โพล่ว ซู (กะเหรี่ยง), ชาวเขา, จักรวาลวิทยา, กระบวนการเคลื่อนไหวทางศาสนา, ศาสนาคริสต์, จิตสำนึกชาติพันธุ์, ภาคเหนือ, |
Translator |
- |
|