|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,การเกษตรกรรม,การรับของใหม่,เชียงใหม่ |
Author |
วิพัฒน์ ดวงโภชน์ |
Title |
การยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่นของชาวเขาเผ่าม้ง หมู่บ้านหนองหอยเก่า ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
69 |
Year |
2541 |
Source |
หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
ศึกษาลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรชาวเขาเผ่าม้งหมู่บ้านหนองหอยเก่า ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น และศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคของชาวเขาเผ่าม้งในการปลูกพืชทดแทนฝิ่น โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนผู้ปลูกพืชทดแทนฝิ่นจำนวนทั้งสิ้น 118 ครัวเรือน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 40.06 ปี ร้อยละ 52.5 ไม่ได้เรียนหนังสือ ส่วนใหญ่จึงอ่านภาษาไทยไม่ได้เลย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีประสบการณ์จากการปลูกพืชทดแทนฝิ่นมากกว่า 5 ปี รายได้ของครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 64,168 บาทต่อปี พื้นที่ถือครองเพื่อทำการเกษตรเฉลี่ย 3.2 ไร่ การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ โดยส่วนใหญ่แล้วติดต่อกับเจ้าหน้าที่โครงการหลวง และได้รับข้อมูลข่าวสารจากเจ้าหน้าที่โครงการหลวงมากที่สุด มีแรงงานในครัวเรือนเฉลี่ย 3.62 คน เกษตรกรพอใจราคาพืชผลทดแทนฝิ่นน้อย เพราะราคาทดแทนฝิ่นไม่ค่อยแน่นอน เกษตรกรร้อยละ 45.8 ไม่เคยเข้ารับการฝึกอบรมเรื่องการเกษตร และหัวหน้าครัวเรือนส่วนใหญ่ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นผู้นำใด ๆ ในหมู่บ้าน ส่วนปัจจัยที่สัมพันธ์กับการยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่นของเกษตรกรคือ อายุ ระดับการอ่านภาษาไทย ความพอใจในราคาพืชทดแทนฝิ่น ประสบการณ์การฝึกอบรมด้านการเกษตร การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ส่วนปัญหาของเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างกับการปลูกพืชทดแทนฝิ่นที่พบคือ (1) ปัจจัยการผลิตมีราคาแพง (2) ปัญหาการตลาด เช่น ราคา การขาย (3) ขาดเงินทุนในการดำเนินการ (4) แรงงานในการเกษตรไม่เพียงพอ (5) ขาดน้ำเพื่อใช้เพาะปลูกในฤดูแล้ง (หน้า ข-ค) |
|
Focus |
ศึกษาลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรชาวเขาเผ่าม้งหมู่บ้านหนองหอยเก่า เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น และศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคของชาวเขาเผ่าม้งในการปลูกพืชทดแทนฝิ่น (หน้า ข , 3) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ศึกษาม้งบ้านหนองหอยเก่า ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 118 ครัวเรือน โดยผู้ให้ข้อมูลเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร (หน้า ข, 27, 61) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Demography |
จำนวนประชากรชาวเขาทั้งหมดจากการสำรวจโดยกรมประชาสงเคราะห์ในปี พ.ศ.2528 พบว่า มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 504,520 คน จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2529 ชาวเขามีอัตราเพิ่มของประชากรร้อยละ 3.5 มีอัตราการเกิด 55.5 ต่อ 1,000 อัตราการตาย 20 ต่อ 1,000 อัตราการตายของทารกสูงถึง 81.8 ต่อ 1,000 ในขณะที่ ม้งมีจำนวนประชากรประมาณร้อยละ 15 ของจำนวนประชากรชาวเขาทั้งหมด หมู่บ้านหนองหอยเก่ามีจำนวน 161 ครอบครัว จำนวนประชากรทั้งสิ้น 680 คน ประกอบด้วยชาวเขาเผ่าม้ง ลีซอ จีนฮ่อ เย้า (หน้า 1-3, 8) กลุ่มตัวอย่างที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรบ้านหนองหอยเก่าเป็นชาย 106 คน (ร้อยละ 89.8) หญิง 12 คน (ร้อยละ 10.2) มีอายุเฉลี่ย 40.06 ปี อายุต่ำที่สุด 19 ปี สูงที่สุด 71 ปี (หน้า 30-31, 61) |
|
Economy |
ในอดีตม้งปลูกฝิ่นเป็นอาชีพหลัก เช่น ม้งที่บ้านแม่โถ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ปลูกข้าวไร่เพียงร้อยละ 17 ขณะที่ปลูกฝิ่นถึงร้อยละ 83 ต่อมามีโครงการหลวงพัฒนาชาวเขาก่อตั้งในปี พ.ศ.2512 ให้ชาวเขาลดการปลูกฝิ่นด้วยการปลูกพืชทดแทน สำหรับหมู่บ้านหนองหอยเก่า จากการสำรวจเมื่อต้นปี พ.ศ.2527 พบว่าใช้พื้นที่ปลูกฝิ่นประมาณ 250 ไร่ ต่อมามีโครงการหลวงเข้าไปดำเนินการในพื้นที่พบว่าพื้นที่เดิมที่เคยใช้ปลูกฝิ่นเปลี่ยนเป็นปลูกพืชผัก ไม้ผลเมืองหนาวและไม้ดอก ปี พ.ศ.2535 ชาวเขามีรายได้จากการส่งพืชผัก ไม้ผลและไม้ดอกผ่านโครงการหลวงเป็นมูลค่า 5,085,753 บาท (หน้า 2-3, 27) จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนหมู่บ้านหนองหอยเก่าพบว่ามีจำนวนสมาชิกในครัวเรือนที่เป็นแรงงานเกษตรเฉลี่ย 3.62 คน ครัวเรือนที่มีแรงงานทำเกษตรสูงสุดคือ 11 คน ต่ำที่สุดคือ 1 คน (หน้า 35, 62) กลุ่มตัวอย่างหัวหน้าครัวเรือนมีพื้นที่ทำการเกษตร 3.2 ไร่ มีพื้นที่สูงที่สุด 35 ไร่ ต่ำที่สุด 2 ไร่ โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 96.6 มีรายได้จากอาชีพการเกษตร ส่วนร้อยละ 3.4 มีรายได้จากการรับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างเป็นแรงงานเกษตรในหมู่บ้านหรือเป็นคนงานให้กับหน่วยงานต่างๆ เช่น ป่าไม้ โครงการหลวง รายได้ทั้งหมดของครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 64,168 บาทต่อปี สูงที่สุดคือ 250,000 บาทต่อปี ต่ำที่สุดคือ 15,000 บาทต่อปี หัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 64.4 เลิกปลูกฝิ่นมามากกว่า 5 ปี รองลงมาร้อยละ 28.8 เลิกปลูกฝิ่นมา 1 ปี และร้อยละ 6.8 เลิกปลูกฝิ่นมาจำนวน 2-5 ปี หัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 57.6 ปลูกผักทดแทนฝิ่น รองลงมาร้อยละ 35.6 ปลูกไม้ทดแทนฝิ่น ร้อยละ 3.4 ปลูกไม้ดอก และร้อยละ 3.4 ปลูกพืชไร่ โดยที่ความคิดเห็นของเกษตรกรร้อยละ 64.4 เห็นว่า การปลูกพืชเสริมมีรายได้มากกว่าการปลูกฝิ่น รองลงมาร้อยละ 25.4 เห็นว่า ปลูกฝิ่นมีรายได้ดีกว่า และร้อยละ 10.2 เห็นว่าการรับจ้างแรงงานเกษตรมีรายได้ดีกว่าการปลูกฝิ่น เกษตรกรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 83 พอใจในราคาขายผลผลิต และร้อยละ 17 ไม่พอใจในราคาขายผลผลิต (หน้า 37-43, 62) |
|
Social Organization |
หัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 96.6 แต่งงานแล้ว และร้อยละ 3.4 เป็นหม้าย มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 6.35 คน จำนวนสมาชิกครัวเรือนสูงที่สุด 18 คน จำนวนสมาชิกในครัวเรือนต่ำที่สุด 2 คน (หน้า 32, 34, 61) กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 89.8 ไม่มีตำแหน่งใดๆ ในหมู่บ้าน รองลงมาร้อยละ 8.5 เป็นผู้นำเยาวชน ขณะที่ร้อยละ 1.7 เป็นผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน (หน้า 36, 62) |
|
Education and Socialization |
จากการสำรวจประชากรชาวเขาของสำนักงานสถิติแห่งชาติเรื่องการศึกษาในจังหวัดตาก เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา พบว่าประชากรชาวเขาไม่ได้รับการศึกษาประมาณร้อยละ 85.9 , 79 , 80.5 และ 75.5 ตามลำดับ (หน้า 8) หัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรม้งกลุ่มตัวอย่างไม่ได้เรียนหนังสือถึง 62 คน (ร้อยละ 52.5) รองลงมาศึกษาถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 32 คน (ร้อยละ 27.1) และศึกษาระดับต่ำกว่าประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 16 คน (ร้อยละ 13.6) กลุ่มตัวอย่างอ่านหนังสือไม่ได้เลย 64 คน (ร้อยละ 54.2) อ่านได้ดี 28 คน (ร้อยละ 23.7) อ่านได้ปานกลาง 26 คน (ร้อยละ 22) (หน้า 33, 61) เกษตรกรหัวหน้าครัวเรือนที่ปลูกพืชทดแทนฝิ่นเคยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งโครงการหลวงหนองหอยและหน่วยงานอื่น ๆ พบว่าร้อยละ 68.7 เคยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 11-20 ครั้ง ร้อยละ 31.4 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 1-10 ครั้ง หัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61 ได้รับฟังข่าวสารเกี่ยวกับการเกษตร ร้อยละ 39 ไม่เคยรับฟังข่าวสารการเกษตร กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 45.8 ไม่เคยเข้ารับการฝึกอบรมด้านการเกษตร รองลงมาร้อยละ 35.6 ได้รับการฝึกอบรมแต่น้อยครั้ง และร้อยละ 18.7 ได้รับการฝึกอบรมบ่อยครั้ง (หน้า 44-45, 62) |
|
Health and Medicine |
ปัญหาทางสาธารณสุขของชาวเขาคือ ความเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหารและมาลาเรีย ปัญหาด้านโภชนาการและการติดฝิ่น (หน้า 8) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
การยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่นของม้งบ้านหนองหอยเก่า เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยโดยรวมพบว่าหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น (หน้า 46-48, 63) ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น โดยนำตัวแปรอิสระต่าง ๆ คือ อายุ ระดับการอ่านภาษาไทย รายได้ทั้งหมดของครัวเรือน ขนาดพื้นที่ที่ถือครองเพื่อทำการเกษตร แรงงานเกษตรในครัวเรือน ความพอใจในราคาของพืชทดแทนฝิ่น การติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ การได้รับข่าวสารการเกษตร พบว่า มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่เป็นปัจจัยการยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น 5 ตัวคือ อายุ (มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่น) ระดับการอ่านภาษาไทย (เกษตรกรที่อ่านภาษาไทยได้จะสามารถอ่านเอกสารคำแนะนำทางการเกษตรได้ดีกว่าคนอื่น) การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ (ยิ่งพบปะเจ้าหน้าที่บ่อยครั้ง ยิ่งได้รับความรู้วิชาการใหม่ ๆ ทำให้ตัดสินใจยอมรับการปลูกพืชทดแทนฝิ่นมากขึ้น) ความพอใจในราคาพืชทดแทนฝิ่น (ยิ่งเกษตรกรพอใจราคาพืชทดแทนฝิ่นมากเท่าใด ก็จะยอมรับพืชทดแทนฝิ่นมากเท่านั้น) ประสบการณ์การฝึกอบรมด้านการเกษตร (ยิ่งบ่อยครั้ง ยิ่งเกิดความรู้ ความเข้าใจในวิธีการต่าง ๆ ในการปลูกพืชทดแทนฝิ่นมากยิ่งขึ้น) (หน้า 49-59, 63, 66-67) ปัญหาและอุปสรรคของหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรในการปลูกพืชทดแทนฝิ่น (1) มีปัญหาและอุปสรรคมาก คือ ปัญหาเกี่ยวกับน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก ปัญหาเรื่องขาดเงินทุนในการดำเนินงาน ปัจจัยการผลิต เช่น ผลิตภัณฑ์ ปุ๋ย ยา มีราคาแพง ปัญหาการตลาด เช่น ราคา การขาย ขนส่ง แรงงานไม่เพียงพอ (2) มีปัญหาและอุปสรรคปานกลาง พื้นที่เพาะปลูกไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำและไม่ติดตามงานเพียงพอ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้ามาทำงานโดยไม่มีการประสานงาน ทำให้เกิดความสับสน (3) มีปัญหาและอุปสรรคน้อย พื้นที่ไม่เหมาะสม (หน้า 60, 63-65) |
|
Map/Illustration |
งานวิจัยชิ้นนี้มีตารางประกอบเพื่อนำเสนอข้อมูลค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เช่น ตารางแสดงระดับความพอใจในราคาที่ขายผลผลิตของเกษตรกร (ตารางที่ 15 หน้า 43) ตารางแสดงปัญหาและอุปสรรคของหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรในการปลูกพืชทดแทนฝิ่น (ตารางที่ 30 หน้า 65) |
|
|