|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
เย้า,ประเพณี,พิธีกรรม,ปีใหม่,พะเยา |
Author |
จุไรรัตน์ นิ่มนวล, พงศ์กฤษฎิ์ พละเลิศ, วิเชียร คชาอนันต์ |
Title |
ปีใหม่เย้า |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
อิ้วเมี่ยน เมี่ยน,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
|
Total Pages |
23 |
Year |
2537 |
Source |
สถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานละสวัสดิการสังคม |
Abstract |
เทศกาลปีใหม่หรือเทศกาล "เจี่ย เซียง เหียง" เป็นเทศกาลสำคัญอย่างหนึ่งในรอบปี ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามระบบปฏิทินจันทรคติของจีนโดยมีกำหนด 3 วันคือวันที่ 1-3 ของเดือนที่ 1 ของปี มีความสำคัญต่อเย้า คือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตความเป็นอยู่ เป็นโอกาสเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษเพื่อแสดงความกตัญญูซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานโดยมีหมอผีเป็นผู้ประกอบพิธี และต้องทำพิธีให้เสร็จภายในช่วงเช้าวันที่ 1 ของปีใหม่ นอกจากนี้ ยังถือเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนาน และพักผ่อนหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดปี มีการเสี่ยงทายชะตาชีวิตของครอบครัวและขอพรจากผีบรรพบุรุษ เช่น การนำกระดูกและหัวไก่ที่เป็นเครื่องเซ่นมาดูเปรียบเทียบกันเพื่อทำนายชะตาชีวิตของครอบครัวในปีใหม่ หรือ พิธีชั่งน้ำ "อ้วมเอี้ยม" เพื่อเสี่ยงทายว่าจะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ โดยการเปรียบเทียบน้ำปีเก่าและปีใหม่ พิธีจะทำระหว่าง 6 โมงถึง 1 ทุ่ม เอาน้ำมาใส่ถ้วยแล้วเอาตาชั่งฝิ่นชั่ง พอรุ่งเช้าประมาณ 6 โมง นำภาชนะใบเดิมใส่น้ำแล้วนำไปชั่งเทียบกับเมื่อวาน ถ้าหนักกว่าแสดงว่าปีใหม่นี้จะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ ถ้าเบากว่าแสดงว่าปีใหม่นี้น้ำไม่ค่อยดีแต่ถ้าน้ำหนักเท่ากันแสดงว่าเหมือนปีที่ผ่านมา เย้ายังนิยมทำกิจกรรมอันเป็นมงคลเพื่อเอาฤกษ์หรือเพื่อเป็นสิริมงคลในปีใหม่ เช่น การตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อพาสมาชิกในครอบครัวเตรียมเครื่องมือการเกษตรชนิดต่างๆ ไปฟันป่า ถางไร่ พอเป็นพิธี เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนเป็นคนขยันและได้สอนวิธีการเกษตรให้แก่บุตรหลาน หลังจากนั้นมีการเก็บดอกไม้ชนิดต่างๆ มาประดับหิ้งผีและเก็บหินมากองไว้ใต้หิ้งผีอันหมายถึงการเก็บเงินเก็บทองเข้าบ้านเพื่อให้ครอบครัวมีความร่ำรวยตลอดปี นอกจากนี้ บางหมู่บ้านอาจจัด พิธี "โข่วโต่ว" หรือ "อาบไฟ" ซึ่งเป็นพิธีเฉพาะครอบครัวหรือตระกูลที่นับถือผีบรรพบุรุษคนเดียวกัน เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังทหารและพลังอำนาจแก่ผีบรรพบุรุษอีกด้วย
|
|
Focus |
ศึกษาประเพณีและพิธีกรรมในพิธีปีใหม่ (เจี่ยเซียงเหียง) ของเย้า กรณีศึกษา บ้านเย้าปางค่า ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา
|
|
Ethnic Group in the Focus |
เย้า เย้าในประเทศไทยเรียกตัวเองว่า "เมี่ยน" หรือ "อิวเมี่ยน" แปลว่า คน
|
|
Language and Linguistic Affiliations |
เย้ามีภาษาพูดจัดอยู่ในตระกูลภาษาออสโตร-ไต สาขาแม้ว เย้า (หน้า 1)
|
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
เย้ามีถิ่นฐานเดิมอยู่ตอนกลางของประเทศจีน บริเวณมณฑลยูนนานในปัจจุบัน ต่อมาได้เคลื่อนตัวลงมาทางใต้ จากนั้นได้กระจายตัวไปตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย เวียดนาม พม่าและลาว นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีเย้าอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและฝรั่งเศสอีกด้วย (หน้า 1)
|
|
Demography |
เย้า มีประชากรรวมประมาณ 36,140 คน กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน สุโขทัย ตาก กำแพงเพชรและเพชรบูรณ์ (หน้า 2)
|
|
Belief System |
เทศกาลปีใหม่ หรือเทศกาล "เจี่ย เซียง เหียง" เป็นเทศกาลสำคัญอย่างหนึ่งในรอบปี ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามระบบปฏิทินจันทรคติของจีน มีความสำคัญต่อเย้าคือ เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตความเป็นอยู่ เป็นโอกาสเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษเพื่อแสดงความกตัญญูซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน นอกจากนี้ ยังถือเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานและพักผ่อนหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดปี มีการเสี่ยงทายชะตาชีวิตของครอบครัวและขอพรจากผีบรรพบุรุษ โดยมีกำหนด 3 วัน คือวันที่ 1-3 ของเดือนที่ 1 ของปี แต่ในวันสิ้นปีของเดือน 12 เย้าเรียกวันสุดท้ายของปีเก่าว่า "ต้มเฮียงฮอย" หรือ "วันปีใหญ่" ทุกครัวเรือนจะต้องเตรียมสิ่งของที่ใช้ในพิธี เช่น ขนมข้าวปุก เงินกระดาษ ธูปเทียน ตลอดจนทำความสะอาด "เมี้ยนป้าย" หรือหิ้งผี ไก่ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นต้องเป็นไก่ตัวผู้สีดำและสีอื่นๆ ยกเว้นสีขาว ในตอนเช้าของวันใหม่จะมีการนึ่งข้าวเพื่อทำขนมข้าวปุก (หน้า 4-6) การประกอบพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพบุรุษต้องทำให้เสร็จภายในช่วงเช้าวันที่ 1 ของปีใหม่โดยมีหมอผีเป็นผู้ประกอบพิธีเชิญผีบรรพบุรุษ (จ๋วงเมี้ยน) และทำพิธี "บอกปี" หรือ "บัวเหียง" คือบอกบรรพบุรุษว่าถึงปีใหม่แล้ว ลูกหลานจะขอบคุณบรรพบุรุษที่คุ้มครองและเชิญมาสถิตที่เมี้ยนป้ายเพื่อรับเครื่องเซ่นสังเวยจากบุตรหลาน เมื่อหมอผีทำพิธีใกล้เสร็จจะมีการบอกให้เจ้าบ้านยิงปืนออกไปทางประตูใหญ่ 4 นัดเพื่อบอกกล่าวผีบรรพบุรุษให้รู้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อหมอผีเชิญบรรพบุรุษมาสถิตที่หิ้งผีแล้ว หมอผีจะให้ทุกคนมาคารวะผีบรรพบุรุษที่หน้าหิ้งผี เป็นอันเสร็จพิธี (หน้า 7- 8) หลังจากเลี้ยงผีบรรพบุรุษตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 3 ของปีใหม่ ในวันนี้ทุกครัวเรือนจะทำพิธีเชิญผีบรรพบุรุษให้กลับไปอยู่ที่เดิมเรียกว่า "พิธีถุยจ๋วง" ซึ่งโดยทั่วไปนิยมทำหลังอาหารมื้อเช้าโดยเชิญหมอผีมาประกอบพิธี โดยของที่ใช้ในพิธีคล้ายกับพิธี "จ๋วงเมี้ยน" เพียงแต่ไม่มีขนมข้าวปุก(ขนมปีใหญ่) และผลผลิตในไร่เท่านั้น หลังจากนั้นหมอผีก็จะทำพิธีถอนเชิญหรือ "ถุยจวง" เมื่อทำพิธีถุยจวงเสร็จ เจ้าบ้านนำไก่ที่เป็นเครื่องเซ่นมาเลี้ยงหมอผีและแขกที่เชิญมาขณะรับประทานอาหารและจะนำกระดูกขาของไก่และหัวไก่ทั้งสองมาดูเปรียบเทียบกันเพื่อทำนายชะตาชีวิตของครอบครัวในปีใหม่นี้ พิธีชั่งน้ำ "อ้วมเอี้ยม" จะประกอบพิธีในวันสิ้นปีเพื่อเสี่ยงทายว่าจะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ โดยการเปรียบเทียบน้ำปีเก่าและปีใหม่ พิธีจะทำระหว่าง 6 โมงถึง 1 ทุ่ม เอาน้ำมาใส่ถ้วยแล้วเอาตาชั่งฝิ่นชั่ง พอรุ่งเช้าประมาณ 6 โมง นำภาชนะใบเดิมใส่น้ำแล้วนำไปชั่งเทียบกับเมื่อวาน ถ้าหนักกว่าแสดงว่าปีใหม่นี้จะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ ถ้าเบากว่าแสดงว่าปีใหม่นี้น้ำไม่ค่อยดีแต่ถ้าน้ำหนักเท่ากันแสดงว่าเหมือนปีที่ผ่านมา (หน้า 9-11) วันปีใหม่เย้าจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อเป็นการเอาฤกษ์ของการเริ่มชีวิตใหม่ มีการยิงปืน (ปัจจุบันนิยมจุดพลุและประทัด) โดยเชื่อว่าเพื่อความรื่นเริงให้แก่ผีบรรพบุรุษ แต่ละครัวเรือนจะพาสมาชิกในครอบครัวเตรียมเครื่องมือการเกษตรชนิดต่างๆ ไปฟันป่า ถางไร่ พอเป็นพิธี เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนเป็นคนขยันและได้สอนวิธีการเกษตรให้แก่บุตรหลาน หลังจากนั้นมีการเก็บดอกไม้ชนิดต่างๆมาประดับหิ้งผีและเก็บหินมากองไว้ใต้หิ้งผีอันหมายถึงการเก็บเงินเก็บทองเข้าบ้านเพื่อให้ครอบครัวมีความร่ำรวยตลอดปี ถ้าครอบครัวใดมีหิ้งผีใหญ่ (เมี้ยนเตี้ยหลง) ก็มักจะเอาน้ำที่ถวายผีบรรพบุรุษบนหิ้งผีใหญ่มาให้เด็กดื่มเพราะเชื่อว่าจะทำให้ผู้ดื่มมีความจำดี วันปีใหม่เย้า แต่ละครัวเรือนจะต้มไข่แล้วย้อมสีแดงแจกให้แก่สมาชิกในครอบครัว และบุคคลที่มีความเคารพรักใคร่ เพราะมีความเชื่อว่ามีความหมายเป็นสัญลักษณ์ของ "ขวัญ" หรือ "เวิ่น" ประจำตัวคน หากขวัญหายหรือถูกกระทบกระเทือนจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ พิธี "ปายเหียง" เป็นพิธีที่คนในชุมชนพากันไปไหว้ผีบรรพบุรุษของครอบครัวเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกันโดยไม่จำกัดเพศและวัย การทำพิธีโดยมากเริ่มที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านหรือหมอผีใหญ่เป็นหลังแรก (หน้า 13-18) พิธี "โข่วโต่ว" หรือ "อาบไฟ" เป็นพิธีเฉพาะครอบครัวหรือตระกูลที่นับถือผีบรรพบุรุษคนเดียวกัน พิธีนี้จะทำในเวลาค่ำโดยมีหมอผีเป็นผู้ประกอบพิธี ในพิธีจะมีการนำถ่านติดไฟมากองหน้าหิ้งผี จากนั้นจะเชิญวิญญาณผีบรรพบุรุษให้มาสิงอยู่ในร่างทรง จากนั้นหมอผีจะทำพิธีต่างๆ จากนั้นร่างทรงที่มีวิญญาณผีบรรพบุรุษสิงอยู่จะกระโดดเอาตัวคลุกกับกองถ่านไฟจนครบทุกคน จากนั้นหมอผีจะเชิญวิญญาณบรรพบุรุษออกจากร่างทรง เป็นอันเสร็จพิธี การประกอบพิธีนี้ มีความสำคัญคือเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังทหารและพลังอำนาจแก่ผีบรรพบุรุษ เพราะเย้าเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเมื่อตายแล้วจะมีทหารจำนวนอย่างน้อย 36 คนเป็นผู้คอยรับใช้ (หน้า 21-23)
|
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
การทำกระดาษเงิน "เต้กอง" นำกระดาษฟางมาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 4 x 8 นิ้ว ตรอกตราประทับแสดงว่าเป็นเงิน 5 บาท ตราประทับทำด้วยเหล็ก ตรงปลายเป็นรูปวงกลมมีความคมพอประมาณ การตอกตราจะตอกเป็นแถวจากบนลงล่างจำนวน 5 แถวและจากซ้ายไปขวาจำนวน 15 แถว (หน้า 6)
|
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
ปัจจุบัน พิธี "ปายเหียง" ซึ่งเป็นพิธีที่คนในชุมชนพากันไปไหว้ผีบรรพบุรุษของครอบครัวเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกัน ไม่ค่อยมีการถือปฏิบัติเหมือนสมัยก่อน แต่มีบางหมู่บ้านได้พยายามรื้อฟื้นและได้ทำให้มีความหมายของการแสดงความคาราวะผู้อาวุโสของชุมชน (หน้า 18)
|
|
Map/Illustration |
ภาพหิ้งผี "เมี้ยนเตี้ยหลง" (หน้า 3) ภาพทำความสะอาดหิ้งผี "เมี้ยนเตี้ยหลง" (หน้า 4) ภาพการทำเงินกระดาษ (หน้า 6) ภาพหมอผีทำพิธีเผาเงินกระดาษส่งให้ผีบรรพบุรุษ (หน้า 8)
|
|
|