สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject เย้า,ประเพณี,พิธีกรรม,ปีใหม่,พะเยา
Author จุไรรัตน์ นิ่มนวล, พงศ์กฤษฎิ์ พละเลิศ, วิเชียร คชาอนันต์
Title ปีใหม่เย้า
Document Type บทความ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity อิ้วเมี่ยน เมี่ยน, Language and Linguistic Affiliations ม้ง-เมี่ยน
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
 
Total Pages 23 Year 2537
Source สถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานละสวัสดิการสังคม
Abstract

เทศกาลปีใหม่หรือเทศกาล "เจี่ย เซียง เหียง" เป็นเทศกาลสำคัญอย่างหนึ่งในรอบปี ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามระบบปฏิทินจันทรคติของจีนโดยมีกำหนด 3 วันคือวันที่ 1-3 ของเดือนที่ 1 ของปี มีความสำคัญต่อเย้า คือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตความเป็นอยู่ เป็นโอกาสเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษเพื่อแสดงความกตัญญูซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานโดยมีหมอผีเป็นผู้ประกอบพิธี และต้องทำพิธีให้เสร็จภายในช่วงเช้าวันที่ 1 ของปีใหม่ นอกจากนี้ ยังถือเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนาน และพักผ่อนหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดปี มีการเสี่ยงทายชะตาชีวิตของครอบครัวและขอพรจากผีบรรพบุรุษ เช่น การนำกระดูกและหัวไก่ที่เป็นเครื่องเซ่นมาดูเปรียบเทียบกันเพื่อทำนายชะตาชีวิตของครอบครัวในปีใหม่ หรือ พิธีชั่งน้ำ "อ้วมเอี้ยม" เพื่อเสี่ยงทายว่าจะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ โดยการเปรียบเทียบน้ำปีเก่าและปีใหม่ พิธีจะทำระหว่าง 6 โมงถึง 1 ทุ่ม เอาน้ำมาใส่ถ้วยแล้วเอาตาชั่งฝิ่นชั่ง พอรุ่งเช้าประมาณ 6 โมง นำภาชนะใบเดิมใส่น้ำแล้วนำไปชั่งเทียบกับเมื่อวาน ถ้าหนักกว่าแสดงว่าปีใหม่นี้จะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ ถ้าเบากว่าแสดงว่าปีใหม่นี้น้ำไม่ค่อยดีแต่ถ้าน้ำหนักเท่ากันแสดงว่าเหมือนปีที่ผ่านมา เย้ายังนิยมทำกิจกรรมอันเป็นมงคลเพื่อเอาฤกษ์หรือเพื่อเป็นสิริมงคลในปีใหม่ เช่น การตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อพาสมาชิกในครอบครัวเตรียมเครื่องมือการเกษตรชนิดต่างๆ ไปฟันป่า ถางไร่ พอเป็นพิธี เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนเป็นคนขยันและได้สอนวิธีการเกษตรให้แก่บุตรหลาน หลังจากนั้นมีการเก็บดอกไม้ชนิดต่างๆ มาประดับหิ้งผีและเก็บหินมากองไว้ใต้หิ้งผีอันหมายถึงการเก็บเงินเก็บทองเข้าบ้านเพื่อให้ครอบครัวมีความร่ำรวยตลอดปี นอกจากนี้ บางหมู่บ้านอาจจัด พิธี "โข่วโต่ว" หรือ "อาบไฟ" ซึ่งเป็นพิธีเฉพาะครอบครัวหรือตระกูลที่นับถือผีบรรพบุรุษคนเดียวกัน เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังทหารและพลังอำนาจแก่ผีบรรพบุรุษอีกด้วย

 

Focus

ศึกษาประเพณีและพิธีกรรมในพิธีปีใหม่ (เจี่ยเซียงเหียง) ของเย้า กรณีศึกษา บ้านเย้าปางค่า ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา

 

Theoretical Issues

ไม่มี

 

Ethnic Group in the Focus

เย้า เย้าในประเทศไทยเรียกตัวเองว่า "เมี่ยน" หรือ "อิวเมี่ยน" แปลว่า คน

 

Language and Linguistic Affiliations

เย้ามีภาษาพูดจัดอยู่ในตระกูลภาษาออสโตร-ไต สาขาแม้ว เย้า (หน้า 1)

 

Study Period (Data Collection)

พ.ศ. 2537

 

History of the Group and Community

เย้ามีถิ่นฐานเดิมอยู่ตอนกลางของประเทศจีน บริเวณมณฑลยูนนานในปัจจุบัน ต่อมาได้เคลื่อนตัวลงมาทางใต้ จากนั้นได้กระจายตัวไปตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย เวียดนาม พม่าและลาว นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีเย้าอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและฝรั่งเศสอีกด้วย (หน้า 1)

 

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

 

Demography

เย้า มีประชากรรวมประมาณ 36,140 คน กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน สุโขทัย ตาก กำแพงเพชรและเพชรบูรณ์ (หน้า 2)

 

Economy

ไม่มีข้อมูล

 

Social Organization

ไม่มีข้อมูล

 

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

 

Belief System

เทศกาลปีใหม่ หรือเทศกาล "เจี่ย เซียง เหียง" เป็นเทศกาลสำคัญอย่างหนึ่งในรอบปี ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามระบบปฏิทินจันทรคติของจีน มีความสำคัญต่อเย้าคือ เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตความเป็นอยู่ เป็นโอกาสเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษเพื่อแสดงความกตัญญูซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน นอกจากนี้ ยังถือเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานและพักผ่อนหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดปี มีการเสี่ยงทายชะตาชีวิตของครอบครัวและขอพรจากผีบรรพบุรุษ โดยมีกำหนด 3 วัน คือวันที่ 1-3 ของเดือนที่ 1 ของปี แต่ในวันสิ้นปีของเดือน 12 เย้าเรียกวันสุดท้ายของปีเก่าว่า "ต้มเฮียงฮอย" หรือ "วันปีใหญ่" ทุกครัวเรือนจะต้องเตรียมสิ่งของที่ใช้ในพิธี เช่น ขนมข้าวปุก เงินกระดาษ ธูปเทียน ตลอดจนทำความสะอาด "เมี้ยนป้าย" หรือหิ้งผี ไก่ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นต้องเป็นไก่ตัวผู้สีดำและสีอื่นๆ ยกเว้นสีขาว ในตอนเช้าของวันใหม่จะมีการนึ่งข้าวเพื่อทำขนมข้าวปุก (หน้า 4-6) การประกอบพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพบุรุษต้องทำให้เสร็จภายในช่วงเช้าวันที่ 1 ของปีใหม่โดยมีหมอผีเป็นผู้ประกอบพิธีเชิญผีบรรพบุรุษ (จ๋วงเมี้ยน) และทำพิธี "บอกปี" หรือ "บัวเหียง" คือบอกบรรพบุรุษว่าถึงปีใหม่แล้ว ลูกหลานจะขอบคุณบรรพบุรุษที่คุ้มครองและเชิญมาสถิตที่เมี้ยนป้ายเพื่อรับเครื่องเซ่นสังเวยจากบุตรหลาน เมื่อหมอผีทำพิธีใกล้เสร็จจะมีการบอกให้เจ้าบ้านยิงปืนออกไปทางประตูใหญ่ 4 นัดเพื่อบอกกล่าวผีบรรพบุรุษให้รู้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อหมอผีเชิญบรรพบุรุษมาสถิตที่หิ้งผีแล้ว หมอผีจะให้ทุกคนมาคารวะผีบรรพบุรุษที่หน้าหิ้งผี เป็นอันเสร็จพิธี (หน้า 7- 8) หลังจากเลี้ยงผีบรรพบุรุษตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 3 ของปีใหม่ ในวันนี้ทุกครัวเรือนจะทำพิธีเชิญผีบรรพบุรุษให้กลับไปอยู่ที่เดิมเรียกว่า "พิธีถุยจ๋วง" ซึ่งโดยทั่วไปนิยมทำหลังอาหารมื้อเช้าโดยเชิญหมอผีมาประกอบพิธี โดยของที่ใช้ในพิธีคล้ายกับพิธี "จ๋วงเมี้ยน" เพียงแต่ไม่มีขนมข้าวปุก(ขนมปีใหญ่) และผลผลิตในไร่เท่านั้น หลังจากนั้นหมอผีก็จะทำพิธีถอนเชิญหรือ "ถุยจวง" เมื่อทำพิธีถุยจวงเสร็จ เจ้าบ้านนำไก่ที่เป็นเครื่องเซ่นมาเลี้ยงหมอผีและแขกที่เชิญมาขณะรับประทานอาหารและจะนำกระดูกขาของไก่และหัวไก่ทั้งสองมาดูเปรียบเทียบกันเพื่อทำนายชะตาชีวิตของครอบครัวในปีใหม่นี้ พิธีชั่งน้ำ "อ้วมเอี้ยม" จะประกอบพิธีในวันสิ้นปีเพื่อเสี่ยงทายว่าจะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ โดยการเปรียบเทียบน้ำปีเก่าและปีใหม่ พิธีจะทำระหว่าง 6 โมงถึง 1 ทุ่ม เอาน้ำมาใส่ถ้วยแล้วเอาตาชั่งฝิ่นชั่ง พอรุ่งเช้าประมาณ 6 โมง นำภาชนะใบเดิมใส่น้ำแล้วนำไปชั่งเทียบกับเมื่อวาน ถ้าหนักกว่าแสดงว่าปีใหม่นี้จะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ ถ้าเบากว่าแสดงว่าปีใหม่นี้น้ำไม่ค่อยดีแต่ถ้าน้ำหนักเท่ากันแสดงว่าเหมือนปีที่ผ่านมา (หน้า 9-11) วันปีใหม่เย้าจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อเป็นการเอาฤกษ์ของการเริ่มชีวิตใหม่ มีการยิงปืน (ปัจจุบันนิยมจุดพลุและประทัด) โดยเชื่อว่าเพื่อความรื่นเริงให้แก่ผีบรรพบุรุษ แต่ละครัวเรือนจะพาสมาชิกในครอบครัวเตรียมเครื่องมือการเกษตรชนิดต่างๆ ไปฟันป่า ถางไร่ พอเป็นพิธี เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนเป็นคนขยันและได้สอนวิธีการเกษตรให้แก่บุตรหลาน หลังจากนั้นมีการเก็บดอกไม้ชนิดต่างๆมาประดับหิ้งผีและเก็บหินมากองไว้ใต้หิ้งผีอันหมายถึงการเก็บเงินเก็บทองเข้าบ้านเพื่อให้ครอบครัวมีความร่ำรวยตลอดปี ถ้าครอบครัวใดมีหิ้งผีใหญ่ (เมี้ยนเตี้ยหลง) ก็มักจะเอาน้ำที่ถวายผีบรรพบุรุษบนหิ้งผีใหญ่มาให้เด็กดื่มเพราะเชื่อว่าจะทำให้ผู้ดื่มมีความจำดี วันปีใหม่เย้า แต่ละครัวเรือนจะต้มไข่แล้วย้อมสีแดงแจกให้แก่สมาชิกในครอบครัว และบุคคลที่มีความเคารพรักใคร่ เพราะมีความเชื่อว่ามีความหมายเป็นสัญลักษณ์ของ "ขวัญ" หรือ "เวิ่น" ประจำตัวคน หากขวัญหายหรือถูกกระทบกระเทือนจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ พิธี "ปายเหียง" เป็นพิธีที่คนในชุมชนพากันไปไหว้ผีบรรพบุรุษของครอบครัวเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกันโดยไม่จำกัดเพศและวัย การทำพิธีโดยมากเริ่มที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านหรือหมอผีใหญ่เป็นหลังแรก (หน้า 13-18) พิธี "โข่วโต่ว" หรือ "อาบไฟ" เป็นพิธีเฉพาะครอบครัวหรือตระกูลที่นับถือผีบรรพบุรุษคนเดียวกัน พิธีนี้จะทำในเวลาค่ำโดยมีหมอผีเป็นผู้ประกอบพิธี ในพิธีจะมีการนำถ่านติดไฟมากองหน้าหิ้งผี จากนั้นจะเชิญวิญญาณผีบรรพบุรุษให้มาสิงอยู่ในร่างทรง จากนั้นหมอผีจะทำพิธีต่างๆ จากนั้นร่างทรงที่มีวิญญาณผีบรรพบุรุษสิงอยู่จะกระโดดเอาตัวคลุกกับกองถ่านไฟจนครบทุกคน จากนั้นหมอผีจะเชิญวิญญาณบรรพบุรุษออกจากร่างทรง เป็นอันเสร็จพิธี การประกอบพิธีนี้ มีความสำคัญคือเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังทหารและพลังอำนาจแก่ผีบรรพบุรุษ เพราะเย้าเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเมื่อตายแล้วจะมีทหารจำนวนอย่างน้อย 36 คนเป็นผู้คอยรับใช้ (หน้า 21-23)

 

Education and Socialization

ไม่มีข้อมูล

 

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

 

Art and Crafts (including Clothing Costume)

การทำกระดาษเงิน "เต้กอง" นำกระดาษฟางมาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 4 x 8 นิ้ว ตรอกตราประทับแสดงว่าเป็นเงิน 5 บาท ตราประทับทำด้วยเหล็ก ตรงปลายเป็นรูปวงกลมมีความคมพอประมาณ การตอกตราจะตอกเป็นแถวจากบนลงล่างจำนวน 5 แถวและจากซ้ายไปขวาจำนวน 15 แถว (หน้า 6)

 

Folklore

ไม่มีข้อมูล

 

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มีข้อมูล

 

Social Cultural and Identity Change

ปัจจุบัน พิธี "ปายเหียง" ซึ่งเป็นพิธีที่คนในชุมชนพากันไปไหว้ผีบรรพบุรุษของครอบครัวเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกัน ไม่ค่อยมีการถือปฏิบัติเหมือนสมัยก่อน แต่มีบางหมู่บ้านได้พยายามรื้อฟื้นและได้ทำให้มีความหมายของการแสดงความคาราวะผู้อาวุโสของชุมชน (หน้า 18)

 

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

 

Other Issues

ไม่มี

 

Map/Illustration

ภาพหิ้งผี "เมี้ยนเตี้ยหลง" (หน้า 3) ภาพทำความสะอาดหิ้งผี "เมี้ยนเตี้ยหลง" (หน้า 4) ภาพการทำเงินกระดาษ (หน้า 6) ภาพหมอผีทำพิธีเผาเงินกระดาษส่งให้ผีบรรพบุรุษ (หน้า 8)

 

Text Analyst สุวิทย์ เลิศวิมลศักดิ์ Date of Report 26 ก.ย. 2567
TAG เย้า, ประเพณี, พิธีกรรม, ปีใหม่, พะเยา, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง