สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ม้ง,ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ กะเหรี่ยง,ภาวะเจริญพันธุ์,ภาคเหนือ
Author Rossarin Gray, Chai Podhisita, Patama Vapattanawong, Anchalee Varangrat
Title Fertility Decline among the Karen and the Hmong, Hill Tribe Minorities in Northern Thailand
Document Type บทความ Original Language of Text ภาษาอังกฤษ
Ethnic Identity ม้ง, ปกาเกอะญอ, Language and Linguistic Affiliations ม้ง-เมี่ยน
Location of
Documents
htpp://issup2005.princeton.edu/download.aspx?submissionId=S1166 Total Pages 28 Year 2548
Source htpp://issup2005.princeton.edu/download.aspx?submissionId=S1166
Abstract

อัตราเจริญเติบโตของประชากรในประเทศไทยในปัจจุบันอัตราการเกิดลดลงน้อยกว่าอัตราการตายในปี ค.ศ. 2000 (National Statistical Office (NSO) 2003) ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราการเจริญเติบโตลดลงคือการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจและสังคมและการยอมรับใช้การวางแผนครอบครัวเพิ่มมากขึ้น การมีอำนาจสูงสุดของวัฒนธรรมเดียวในประเทศไทยเป็นทิศทางสำคัญในการจัดการสร้างแนวคิดใหม่ได้ง่ายขึ้น (Knodel, Chamratrithrirong และ Debavalaya 1987) (หน้า 1) สำหรับอัตราการเจริญเติบโตของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและกลุ่มชาติพันธุ์ม้งซึ่งอาศัยบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทย จากข้อมูลประชากรในปี ค.ศ.1990 และ ค.ศ. 2000 ในช่วงระยะเวลา 10 ปีมี อัตราการเจริญเติบโตประชากรทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์ลดลง อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของระดับการพัฒนาเศรษฐกิจแสะสังคมของทั้งสองกลุ่มไม่สอดคล้องกับการลดลงของอัตรา การเจริญเติบโต กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมช้ากว่ากลุ่มชาติพันธุ์ม้งแต่ อัตราการเจริญเติบโตลดลงมากกว่า ในขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์ม้งเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับสังคมไทยมากกว่ากลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับแนวคิดและนโยบายของไทยในเรื่องของการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด จากข้อมูลพบว่าการเปลี่ยนแปลงการศึกษา งานที่ทำ และระดับฐานะที่ดีขึ้นมีนัยต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราการเจริญเติบโต ม้งที่อาศัยในเมืองมีลูกมากกว่าม้งที่อาศัยในชนบท ข้อมูลนี้ไม่น่าประหลาดใจเนื่องจากพบว่าม้งนิยมมีลูกมากถ้าพวกเขาสามารถเลี้ยงดูได้และรวมถึงม้งมีแนวคิดเกี่ยวกับความต้องการมีลูกชายค่อนข้างมากซึ่งมีผลต่ออัตราการเจริญเติบโตของประชากรในกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง (หน้า 24)

Focus

ศึกษาอัตราลดของภาวะเจริญพันธุ์ในกลุ่มชาติพันธุ์ม้งและกะเหรี่ยงทางภาคเหนือของประเทศไทย (หน้า 1)

Theoretical Issues

ชาวเขาในประเทศไทยกำลังอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากการติดต่อกับโลกภายนอก โดยเฉพาะจากกิจกรรมที่รัฐส่งเสริม เนื่องจากรัฐบาลไทยใช้นโยบายที่มุ่งให้ชาวเขาผสมกลมกลืนเข้าสู่สังคมไทย จากการนับถือศาสนาพุทธและระบบการศึกษาที่ใช้ภาษาไทยสำหรับการเรียนการสอนในโรงเรียน พฤติกรรมการให้กำเนิดบุตรของกะเหรี่ยงและม้ง ได้รับอิทธิพลจากการติดต่อกับโลกภายนอกมากขึ้นทุกขณะ แนวทางโครงการทั้งของรัฐและเอกชนที่นำไปส่งเสริมในหมู่ชาวเขา โดยเฉพาะนโยบายด้านการศึกษาและศาสนาพุทธ นอกจากนี้อิทธิพลของโลกภายนอกที่มาจากระบบการคมนาคมขนส่งที่สะดวกขึ้น การส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยว ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด และการจำกัดด้านการใช้ที่ดิน ทำให้ชาวเขาบางส่วนต้องเปลี่ยนอาชีพ จากการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม มาเป็นการทำงานที่ได้รับค่าจ้างตอบแทน ข้อค้นพบจากการวิจัยเชิงประจักษ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการลดลงของภาวะการเจริญพันธุ์ก็คือการเพิ่มขึ้นของระดับการศึกษาในประชากรหญิงวัยผู้ใหญ่ มีเหตุผลอยู่สองประการที่มักถูกนำมาใช้ในการอธิบายเรื่องนี้ ประการแรก การที่ผู้หญิงมีการศึกษาระดับสูงขึ้นส่งผลให้ผู้หญิงแต่งงานช้าลงและมีลูกคนแรกช้าลง ประการที่สอง การศึกษาทำให้สถานภาพของผู้หญิงสูงขึ้น แต่บทบาทของการศึกษาต่อการลดลงของภาวะการเจริญพันธุ์ อาจจะแตกต่างออกไปในสังคมที่มีความหลากหลาย ระบบโรงเรียนเป็นเครื่องมือของรัฐในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติ ด้วยการเสริมสร้างภาษาของชาติ ดังนั้นภาษาจึงมิใช่เพียงสื่อการเรียนการสอนในโรงเรียนเท่านั้น ส่วนคำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางภาวะเจริญพันธุ์ก็คือการแพร่กระจายแนวคิดใหม่ๆ ด้านบรรทัดฐานครอบครัว หรือเทคนิคการคุมกำเนิดระบบใหม่ให้เข้าสู่กลุ่มผู้คนที่พูดภาษาเดียวกัน สิ่งที่พบดูเหมือนว่ากลุ่มที่ผสมผสานกลมกลืนเข้ากับเครือข่ายสังคมเหล่านี้ได้มากกว่า ก็โน้มเอียงที่จะควบคุมภาวะการเจริญพันธุ์ในทางที่นำไปสู่การลดลงของระดับการเจริญพันธุ์ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับสถานภาพของชนกลุ่มน้อยคือ ชนกลุ่มน้อยที่ขาดความมั่นคงในชีวิต โน้มเอียงที่จะจำกัดขนาดครอบครัว (จำนวนบุตร) เพื่อให้สามารถเลื่อนฐานะทางสังคมได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็พยายามผสมกลมกลืนเข้ากับคนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าชนกลุ่มน้อยเหล่านั้นต้องไม่ได้มีอุดมการณ์นิยมการมีบุตรมากหรือไม่มีทัศนคติที่เป็นอุปสรรคต่อการควบคุมการเกิด ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมกับคนส่วนใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการอีกแล้วชนกลุ่มน้อยยังรู้สึกเสียเปรียบในทางเศรษฐกิจและการเมือง กลุ่มเหล่านี้ก็จะส่งเสริมภาวะการเจริญพันธุ์สูง เพื่อเป็นหลักประกันการคงอยู่และความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้านจำนวนของพวกเขา ดังนั้น บทบาทของรัฐจึงมิใช่เพียงการส่งเสริมการติดต่อสัมพันธ์ทางสังคมหรือการแพร่กระจายทางสังคมผ่านทางการใช้ภาษาเดียวกันเท่านั้น หากแต่สามารถผ่านทางการรวมตัวเข้าสู่ระบบตลาดเดียวกันด้วยทั้งนี้เพื่อเป็นตัวกำหนดหลักที่นำไปสู่การลดลงของภาวะเจริญพันธุ์ การรวมตัวสู่ระบบตลาดเดียวกันได้มากขึ้น สามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ ในแนวทางเศรษฐกิจของชุมชน ปกติแล้วคือเปลี่ยนจากพื้นฐานทางภาคเกษตรกรรมไปสู่พื้นฐานทางเศรษฐกิจนอกภาคเกษตรกรรม ภาวะเจริญพันธุ์มีแนวโน้มลดลงเมื่ออาชีพนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้อธิบายได้ด้วยเหตุผลสองประการคือ ประการแรก บุตรมีส่วนช่วยเป็นแรงงานนอกภาคเกษตรกรรมน้อยกว่าในภาคเกษตรกรรม พ่อแม่จึงมีแรงจูงใจที่จะมีบุตรมากลดน้อยลง ประการที่สองงานนอกภาคเกษตรกรรมได้เคลื่อนย้ายผู้คนออกจากครอบครัว และยังเปิดโอกาสให้ผู้คนได้รับรู้แนวคิดและคุณค่าใหม่ๆ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความชอบธรรมในการจำกัดขนาดครอบครัวหรือสร้างจุดมุ่งหมายในลักษณะใหม่ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับการมีครอบครัวใหญ่ (หน้า 2-6)

Ethnic Group in the Focus

ม้งและกะเหรี่ยง ในภาคเหนือของประเทศไทย

Language and Linguistic Affiliations

ไม่มีข้อมูล

Study Period (Data Collection)

การศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลสถิติประชากรประเทศไทยในปี ค.ศ. 1990 และ ค.ศ.2000

History of the Group and Community

กะเหรี่ยงอาศัยอยู่ในเชียงใหม่มาแล้วตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 18 เป็นอย่างน้อย ส่วนม้งย้ายเข้ามาในประเทศไทยระหว่างปี ค.ศ. 1980-1990 แต่ม้งในจังหวัดตากพบอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 ส่วนการกระจายตัวของกะเหรี่ยงและม้งในประเทศไทย จากข้อมูลสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 2000 แสดงในแผนที่ 1 หน้า 5

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

ข้อมูลเกี่ยวกับประชากรของการศึกษาครั้งนี้อาศัยข้อมูลตัวอย่างระดับจุลภาคของสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 1990 และ 2000 จำนวนประชากรตัวอย่างที่เป็นชนกลุ่มน้อยใช้ขนาดตัวอย่างร้อยละ 20 ส่วนคนไทยทั้งประเทศและคนไทยภาคเหนือใช้ขนาดตัวอย่างร้อยละ 1 และ 1.2 จากสำมะโนประชากรของทั้งสองครั้งดังกล่าว ผลการศึกษา พบว่าม้งมีการเจริญพันธุ์สูงที่สุดในภาพรวมภาวะเจริญพันธุ์ลดลงในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ม้งลดลงช้าที่สุด ในต้นทศวรรษที่ 1990 ผู้หญิงม้งมีจำนวนบุตรเฉลี่ยมากกว่ากะเหรี่ยงเกือบ 3 คน และมากกว่าคนไทยประมาณ 4 คน ปัจจุบันหลักที่อธิบายระดับการเจริญพันธุ์สูงในกลุ่มม้งและกะเหรี่ยงเมื่อเปรียบเทียบกับคนไทย ได้แก่ การแต่งงานแล้ว การใช้ วิธีการคุมกำเนิดน้อย สถานภาพทางเศรษฐกิจต่ำและลักษณะโครงสร้างครัวเรือน แม้ว่าทั้งกะเหรี่ยงและม้งมีมาตรฐานการครองชีพต่ำกว่าคนไทยมากแต่สถานการณ์ของทั้งสองกลุ่มดีขึ้นมากในช่วงกว่า 10 ปีทีผ่านมา การปรับปรุงด้านสุขอนามัย โดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการลดลงของภาวะการตาย ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การลดลงของภาวะเจริญพันธุ์ ดังที่ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงด้านภาวะเจริญพันธุ์ได้อธิบายไว้แต่ผลการศึกษาที่ผ่านมา คำอธิบายนี้เป็นความจริงสำหรับกะเหรี่ยง แต่ไม่จริงสำหรับม้ง เมื่อเปรียบเทียบกับระดับม้งกับกะเหรี่ยงพบว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและมาตรฐานการครองชีพในกลุ่มม้งเป็นไประดับที่สูงกว่ากะเหรี่ยงแต่ระดับภาวะเจริญพันธุ์ของม้งลดลงช้ากว่ากะเหรี่ยง คุณลักษณะของม้งที่ทำให้ภาวะการเจริญพันธุ์สูงที่สุดอาจจะเกี่ยวข้องกับการเป็นสังคมที่สืบทอดเชื้อสายทางและความพึงพอใจสูงต่อการมีบุตรชายและการเป็นสังคมครอบครัวขยาย ในระว่างปี 1990 และ 2000 ม้งผสมกลมกลืนเข้าสู่สังคมไทยมากกว่ากะเหรี่ยงเมื่อคิดเกณฑ์การศึกษา การพูดภาษาไทยและการนับถือศาสนาพุทธ อย่างไรก็ตาม ระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจสังคมของทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์ไม่สอดคล้องกับระดับการลดลงของภาวะเจริญพันธุ์ ผลการศึกษาครั้งนี้ให้ข้อเสนอแนะว่า การลดลงของภาวะการเจริญพันธุ์ในกลุ่มกะเหรี่ยง ในที่สุดจะบรรลุสู่การมีครอบครัวขนาดเล็กและการคุมกำเนิดได้ สำหรับม้งเกือบเข้าสู่จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางการเจริญพันธุ์แล้ว อัตราการลดลงของภาวะเจริญพันธุ์ในกลุ่มม้งอยู่ในระดับที่ช้ามาก แม้ว่าระบบการศึกษาในโรงเรียนบรรรลุเป้าหมายในหมู่ม้งและการติดต่อสัมพันธ์กับคนไทยก็เป็นไปได้สะดวก ข้อค้นพบของการศึกษาครั้งนี้เสนอแนะว่า นโยบายระดับชาติของไทย ไม่ประสบความสำเร็จในระดับจุลภาค บทบาทของระบบโรงเรียนที่ยืนยันการใช้ภาษาไทยและการเรียนการสอนเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมของชนกลุ่มน้อยไม่ปรากฏชัดเจน ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษากับการลดลงของภาวะเจริญพันธุ์เกี่ยวข้องกับสถานะภาพที่สูงขึ้นของผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงม้ง มากกว่าที่จะเกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารกับสังคมไทยโดยรวมผ่านการใช้ภาษาไทยร่วมกัน ภาวะการเจริญพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลงช้ามากในกลุ่มม้งดูเหมือนสอดคล้องกับสมมติฐานสถานภาพของชนกลุ่มน้อยที่ว่าปัจจัยด้านอุดมการนิยมบุตรมาก ไม่ปรารถนาที่จะผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมและความรู้สึกเสียเปรียบทางการเมือง ส่งอิทธิพลให้ภาวะการเจริญพันธุ์ของม้งอยู่ในระดับสูง (หน้า 11-19)

Economy

จากการติดต่อกับกลุ่มภายนอกเพิ่มมากขึ้นและการได้รับการศึกษาที่ดีขึ้นของกลุ่มผู้หญิงกะเหรี่ยงและม้งทำให้เกิดการขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจของพวกเขาออกไปนอกบ้าน กราฟที่ 4 และ 5 แสดงให้เห็นว่ากะเหรี่ยงและม้งออกไปไกลจากบ้านมากขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1990-2000 และปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นกับทุกกลุ่มช่วงอายุในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ผู้หญิงม้งที่ไม่ทำงานเกี่ยวกับการเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นเร็วและมากกว่าผู้หญิงกะเหรี่ยง ส่วนใหญ่งานที่ผู้หญิงทั้งสองกลุ่มทำคือ เป็นลูกจ้าง ทอผ้า งานโรงงาน งานบริการส่วนตัวและการขายสินค้าหัตถกรรมของกลุ่มของตนเอง (หน้า 21)

Social Organization

ลักษณะครอบครัวแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ ครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวขยาย กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเป็นครอบครัวเดี่ยว ส่วนกลุ่มชาติพันธุ์ม้งเป็นครอบครัวขยาย สืบสายตระกูลทางบิดา และมีความต้องการลูกชายสูง (หน้า 3)

Political Organization

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 รัฐไทยเข้ามาในพื้นที่สูงทางภาคเหนือของประเทศและมีนโยบายในการทำให้กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มน้อยบนพื้นที่สูงกลายเป็นไทยและเข้ารวมในสังคมไทยผ่านนโยบายการให้การศึกษาแบบใหม่โดยการสร้างโรงเรียนในพื้นที่สูง การสนับสนุนการเผยแพร่ศาสนาพุทธ รวมถึงรัฐได้ออกกฎหมายห้ามการทำไร่หมุนเวียนในพื้นที่ป่าไม้ และส่งเสริมการให้บริการการวางแผนครอบครัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา (หน้า 6)

Belief System

กลุ่มชาติพันธุ์ม้งและกะเหรี่ยงนับถือผี อำนาจเหนือธรรมชาติ และมีบางส่วนเปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ การเผยแพร่ศาสนาพุทธในพื้นที่สูงเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1955 เป็นต้นมา สำหรับศาสนาคริสต์กลุ่มมิชชันนารีได้เข้ามาในพื้นที่สูงก่อนองค์กรอื่นๆ กลุ่มมิชชันนารี นิกายโปแตสแตนท์ กลุ่มแรกเข้ามาในปี ค.ศ. 1867 (หน้า 6)

Education and Socialization

รัฐบาลไทยได้สร้างโรงเรียนในพื้นที่สูงในช่วงปี ค.ศ. 1950 มีเพียงหนึ่งในห้าของหญิงที่แต่งงานในกลุ่มกะเหรี่ยงและม้งมีการศึกษาเพิ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2000 ส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาขั้นประถมศึกษา อย่างไรก็ตาม จากกราฟที่ 2 แสดงให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นของการศึกษาในทุกกลุ่มอายุของผู้หญิงกะเหรี่ยงและม้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่ได้รับการศึกษามากขึ้นยังอยู่ในกลุ่มผู้หญิงที่อายุน้อย (หน้า 19)

Health and Medicine

รัฐบาลไทยเข้ามาส่งเสริมและให้บริการการวางแผนครอบครัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา

Art and Crafts (including Clothing Costume)

ไม่มีข้อมูล

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1990 และ ค.ศ. 2000 ม้งเข้ามามีปฎิสัมพันธ์ในสังคมไทยมากกว่ากะเหรี่ยง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเข้ารับการศึกษา ความสามารถในการพูดภาษาไทย และการเปลี่ยนเป็นพุทธศาสนิกชนซึ่งมีนัยยะของการเป็นไทยมากขึ้น (หน้า 6, 14 )

Social Cultural and Identity Change

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 รัฐไทยเข้ามาในพื้นที่สูงทางภาคเหนือของประเทศและมีนโยบายในการทำให้กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มน้อยบนพื้นที่สูงกลายเป็นไทยและเข้ารวมในสังคมไทยผ่านนโยบายการให้การศึกษาแบบใหม่โดยการสร้างโรงเรียนในพื้นที่สูง การสนับสนุนการเผยแพร่ศาสนาพุทธ รวมถึงรัฐได้ออกกฎหมายห้ามการทำไร่หมุนเวียนในพื้นที่ป่าไม้ และส่งเสริมการให้บริการการวางแผนครอบครัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา การติดต่อปฏิสังคมกับกลุ่มคนภายนอกส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมแบบใหม่เพิ่มขึ้น(หน้า 6)

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

ไม่มี

Map/Illustration

แผนที่ 1 แสดงการอยู่อาศัยและจำนวนประชากรของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและม้ง บนพื้นที่สูงทางภาคเหนือของประเทศไทย (จากข้อมูลสำมะโนประชากรและเคหะ ค.ศ. 2000 หน้า 5)

Text Analyst ชัชฎาวรรณ แก้วทะพยา Date of Report 04 ต.ค. 2567
TAG ม้ง, ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ กะเหรี่ยง, ภาวะเจริญพันธุ์, ภาคเหนือ, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง