|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู,มุสลิม,สตรี,การตั้งครรภ์,การคลอด,ยะลา |
Author |
วรรณา บุรี |
Title |
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้บริการฝากครรภ์และการใช้บริการคลอดของมารดาไทยมุสลิม กรณีศึกษาอำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเนเชี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
171 |
Year |
2546 |
Source |
หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันราชภัฏยะลา |
Abstract |
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้บริการฝากครรภ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ สตรีที่มีการศึกษาสายศาสนาในระดับต้น มีอาชีพงานบ้าน มีความเชื่อตามวัฒนธรรมท้องถิ่นด้านการฝากครรภ์และการคลอดต่ำ มีภาวะความเจ็บป่วยก่อนตั้งครรภ์ สามีและตนเองมีอำนาจในการตัดสินใจการฝากครรภ์ มีโอกาสที่จะใช้บริการฝากครรภ์กับบุคคลสาธารณสุขมากกว่าสตรีที่ไม่ได้ศึกษาสายศาสนา มีอาชีพรับจ้าง ค้าขายและธุรกิจส่วนตัว ความเชื่อตามวัฒนธรรมท้องถิ่นด้านการฝากครรภ์และการคลอดสูง และสามี พ่อแม่สามี พ่อแม่ของตนและอื่น ๆ มีอำนาจในการตัดสินใจการฝากครรภ์ โดยภาวะความเจ็บป่วยก่อนตั้งครรภ์จะใช้บริการฝากครรภ์น้อยว่าสตรีที่ไม่มีภาวะความเจ็บป่วยก่อนตั้งครรภ์ ส่วนปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้บริการคลอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ สตรีที่มีการศึกษาสายสามัญระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีการฝากครรภ์ครบ 4 ครั้งตามเกณฑ์ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการคลอด มีความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดสูง มีแรงจูงใจด้านการฝากครรภ์และการคลอดสูง มีภาวะผิดปกติระหว่างคลอด มีลักษณะครอบครัวเดี่ยว มีการสนับสนุนจากสามี พ่อแม่ของตน พ่อแม่สามีและญาติด้านการแนะนำคลอด มีโอกาสที่จะใช้บริการคลอดกับบุคลากรสาธารณะสุขมากกว่าสตรีที่ฝากครรภ์ไม่ครบ 4 ครั้งตามเกณฑ์ มีค่าใช้จ่ายในการคลอด มีความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดต่ำ มีแรงจูงใจด้านการฝากครรภ์และการคลอดต่ำ มีภาวะปกติระหว่างคลอด ได้รับการสนับสนุนแนะนำด้านการคลอดจากบุคคลอื่น ๆ โดยสตรีที่มีการศึกษาสายสามัญระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจะใช้บริการฝากครรภ์น้อยว่าสตรีที่มีลักษณะครอบครัวขยาย |
|
Focus |
ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการใช้บริการฝากครรภ์และการใช้บริการคลอดของมารดาไทยมุสลิมในอำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ภาษาไทยและมุสลิม แต่กล่าวถึง "ภาษาอาหรับ" ว่าเป็นภาษาที่ใช้ในพิธีอาซานและอิกอมะฮ (หน้า 19) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Demography |
จากการสำรวจของสถานบริการสาธารณสุข ในอำเภอยะหาจำนวน 11 แห่ง ใน 7 ตำบล 45 หมู่บ้านพบว่าประชากรมารดาที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 1 ปี มีจำนวน 1,023 คน โดยการวิจัยครั้งนี้จะทำการสุ่มตัวอย่างในการศึกษาจำนวน 300 คน โดยยึดหลักความน่าจะเป็นของสัดส่วนขนาดประชากร (หน้า 60) ตำบลยะหา ม.3 บ้านพงลูกา ม.4 บ้านลากอ ม.6 บ้านอาเส็น มีจำนวนประชากรมารดาจำนวน 22,43 และ 41 คนตามลำดับ ตำบลบาโร๊ะ ม.1 บ้านปูแล ม.3 บ้านลีตอ ม.5 บ้านซีเซะ มีจำนวนประชากรมารดาจำนวน 34,28 และ 27 คนตามลำดับ ตำบลบาโงยซิแง ม.1 บ้านเจาะปูแน ม.3 บ้านลีมาปูโร๊ะและหมู่ 6 บ้านลูรงค์ มีจำนวนประชากรมารดาจำนวน 28,18 และ 20 คนตามลำดับ ตำบลละแอ ม.4 บ้านกูแบรายอ มีจำนวนประชากรมารดาจำนวน 24 คน ตำบลปะแต ม.1 บ้านบายอ ม.4 บ้านฆอรอราแม ม.6 บ้านปะแตและ ม.7 บ้านกาโต๊ะ มีจำนวนประชากรมารดาจำนวน 24,64,40และ 27 คนตามลำดับ ตำบลกาตอง ม.1 บ้านปาแดรู ม.2 บ้านกาตอง ม.4 บ้านเจาะตาแมและ ม.6 บ้านปอเนาะ มีจำนวนประชากรมารดาจำนวน 27,53,38 และ 15 คนตามลำดับ จำนวนประชากรมารดา 678 คน (หน้า 61) |
|
Economy |
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 41.0 รายได้ของครอบครัวเกือบร้อยละ 60 อยู่ระหว่าง 2,800 - 5,000 บาทต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4,425 บาท (หน้า 72) |
|
Social Organization |
ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ลักษณะของครอบครัวที่มีสามีคนเดียวภรรยาหลายคนจะอยู่ในกลุ่มผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะผู้นำศาสนาหรือผู้ที่มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี ชายมุสลิมที่รู้และเข้าใจในหลักศาสนาและรู้จักตนเองดี ส่วนใหญ่จึงมีภรรยาคนเดียว (หน้า 22) ผู้ชายจะเป็นผู้นำครอบครัวและมีอำนาจการตัดสินใจภายในครอบครัว กลุ่มบุคคลที่มีผลต่อการตัดสินใจในการฝากครรภ์ การคลอดและการดูแลหลังคลอดคือผู้ใหญ่ในบ้าน (หน้า 49) ครอบครัวของสตรี 2 ใน 3 เป็นครอบครัวเดี่ยว จำนวนสมาชิกโดยเฉลี่ย 6 คนต่อครอบครัว และกว่าร้อยละ 80 มีความสัมพันธ์กับหัวหน้าครอบครัวโดยเป็นภรรยา(หน้า 79) |
|
Political Organization |
อำเภอยะหา จังหวัดยะลา มีการแบ่งการปกครองเป็นตำบลและหมู่บ้าน ตามแบบแผนการปกครองส่วนท้องถิ่น (หน้า 61) |
|
Belief System |
จังหวัดยะลา ส่วนใหญ่ประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามจะอยู่ในเขตชนบท และนับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 83.6 (หน้า 2) การฝากครรภ์ (ฆีเร็ง) เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ไปฝากกับผดุงครรภ์โบราณ โดยการจัดเครื่องบูชาหมอซึ่งประกอบด้วย หมาก พลู ปูน ยาเส้นและเงินตามสมควรใส่จานมอบให้ผดุงครรภ์โบราณตามความเชื่อแต่มิใช่เป็นการฝากครรภ์ตามความหมายการแพทย์สมัยใหม่ เมื่อมารดาตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน จะมีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทางศาสนาและผดุงครรภ์โบราณมาทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลและทารกในครรภ์ โดยเลือกจัดพิธีในวันข้างขึ้นตามจันทรคติเพราะเชื่อว่าจะทำให้ทารกมีอนาคตที่สว่างสดใสเหมือนพระจันทร์ข้างขึ้น ในพิธีจะมีการสวดขอพรให้แก่ทารก จากนั้นผดุงครรภ์โบราณจะทำพิธีลูบไล้ครรภ์เพื่อเป็นสิริมงคลเพื่อทำลายอาถรรพ์และปัดเป่าอุปสรรค์ที่ทำให้คลอดยาก ของที่ใช้ในพิธี เช่น มะพร้าว 2-3 ผลไม่ปลอกเปลือกแล้วนำมาผูกติดกันเป็นคู่ใช้ทำลายอาถรรพ์อีก 1 ผล ปลอกเปลือกขูดผิวกะลาให้เรียบใช้สำหรับลูบไล้ครรภ์ เป็นต้น การทำคลอด (วาเนาะ) การคลอดที่บ้าน จะเตรียมสถานที่มุมหนึ่งของห้อง มีฉากหรือม่านกั้น ส่วนผดุงครรภ์จะนำกระเป๋าบรรจุเครื่องมือที่ได้แจกจากกระทรวงสาธารณสุขและยาที่จำเป็นมาที่บ้านผู้คลอด ผู้คลอดจะมอบเครื่องบูชาหมอ ประกอบด้วย จานหรือถ้วยบรรจุข้าวสาร บนข้าวสารมีหมาก 1 ผล พลู 3 ใบ เหรียญเงินหรือทอง 1 เหรียญ และเทียนขาว 1 เล่มปักอยู่ เป็นต้น พิธีอาซานและอิกอมะฮ ทารกแรกเกิดเมื่ออาบน้ำทำความสะอาดเสร็จ จะทำพิธีอาซานที่หูขวา อิกอมะฮ ที่หูซ้ายของทารกเพศชาย ส่วนทารกเพศหญิงจะอิกอมะฮที่หูซ้ายเพียงอย่างเดียว คำพูดที่กรอกหูจะเป็นภาษาอาหรับเพื่อเป็นการปลูกฝังความเป็นมุสลิมตั้งแต่แรกเกิด (หน้า 17 - 19) |
|
Education and Socialization |
กลุ่มตัวอย่างจบการศึกษาสายสามัญระดับประถมศึกษา 2 ใน 3 และสายศาสนาจบหลักสูตรระดับต้นกว่าร้อยละ 40 มีความสามารถในการฟัง ได้ดีกว่าร้อยละ 60 และสามารถพูด อ่านได้ดีเกือบร้อยละ 60 (หน้า 72) |
|
Health and Medicine |
หญิงตั้งครรภ์ในภาพรวมของจังหวัดยะลา ในเขตชนบทจะคลอดบุตรที่บ้านโดยผดุงครรภ์โบราณถึงร้อยละ 53.9,49.7และ 44.8 ตามลำดับ หญิงตั้งครรภ์ได้รับการดูแลก่อนคลอดครบ 4 ครั้งตามเกณฑ์ ร้อยละ 90.0,84.7,และ 89.3 ตามลำดับ (หน้า 2) การใช้บริการฝากครรภ์และผู้ทำคลอดพบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 71.1 ฝากครรภ์กับบุคคลากรสาธารณสุขควบคู่กับผดุงครรภ์โบราณ รองลงมา ร้อยละ 28.3 ฝากครรภ์กับบุคคลากรสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว (หน้า 72) ความสัมพันธ์ต่อการใช้บริการคลอดกับบุคลากรสาธารณสุขอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ได้แก่ ปัจจัยด้านการศึกษา ปัจจัยด้านการฝากครรภ์ครบ 4 ครั้งตามเกณฑ์ ปัจจัยด้านค่าใช้จ่ายในการคลอด ปัจจัยด้านความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด ปัจจัยด้านแรงจูงใจด้านการฝากครรภ์และการคลอด ปัจจัยด้านความเจ็บป่วย ปัจจัยด้านลักษณะของครอบครัวและปัจจัยด้านการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมด้านการแนะนำคลอดของสตรีไทยมุสลิม ส่วนปัจจัยอื่น ๆ เช่น ปัจจัยด้านอายุเมื่อตั้งครรภ์ครั้งแรก การศึกษาสายศาสนา อาชีพของสตรี รายได้ของครอบครัว เจตคติด้านการตั้งครรภ์และคลอดตลอดจนความเชื่อตามวัฒนธรรมด้านการตั้งครรภ์และคลอด (หน้า 103 -104) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
ตาราง - ตำบล หมู่บ้านและจำนวนกลุ่มตัวอย่าง(หน้า 60) - ร้อยละข้อมูลพื้นฐานของสตรี(หน้า 70) - ร้อยละของข้อมูลการได้รับบริการขณะตั้งครรภ์และคลอด(หน้า 72) - ร้อยละระดับความรู้ด้านการฝากครรภ์/คลอดของสตรี(หน้า 74) - ร้อยละระดับเจตคติ ด้านการฝากครรภ์/คลอด(หน้า 74) - ร้อยละระดับความเชื่อตามวัฒนธรรมท้องถิ่นฯด้านการฝากครรภ์/คลอด(หน้า 75) - ร้อยละระดับแรงจูงใจด้านการฝากครรภ์/คลอด(หน้า 75) - ร้อยละของความเจ็บป่วยของสตรี(หน้า 76) - ร้อยละของลักษณะครอบครัว(หน้า 77) - ผลการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของการใช้บริการฝากครรภ์ตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องของสตรี(หน้า 79) - ผลการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของการใช้บริการคลอดตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องของสตรี(หน้า 87) ภาพ - กรอบแนวคิดในการศึกษาวิจัย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้บริการฝากครรภ์(หน้า 52) - กรอบแนวคิดในการศึกษาวิจัย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้บริการคลอด(หน้า 53) - ภาพประกอบกิจกรรมการศึกษา(หน้า 162) |
|
|