|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ผู้ย้อย ย้อย ลาวย้อย ไทย้อย โย่ย,สังคม,วัฒนธรรม,สกลนคร |
Author |
ลัดดา พนัสนอก |
Title |
วัฒนธรรมชาวไทโย้ยบ้านอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ไทโย้ย โย่ย โย้ย ไทยโย้ย ไทย้อย ผู้ย้อย ย้อย ลาวย้อย,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
101 |
Year |
2538 |
Source |
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ |
Abstract |
วัฒนธรรมทางด้านคติธรรมของไทโย้ย มีการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษโดยมีบิดา มารดาเป็นผู้อบรม วัฒนธรรมทางด้านเนติธรรม มีการปฏิบัติตามจารีตประเพณี มีความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ เช่น การนับถือผี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเรื่องขวัญและยึดระบบอาวุโส เมื่อเกิดการขัดแย้งกันผู้อาวุโสจะเป็นที่พึ่ง วัฒนธรรมทางวัตถุธรรม ไทโย้ยสร้างเรือนอยู่เองโดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วย ลักษณะทางสถาปัตยกรรมปัจจุบันยังเป็นแบบดั้งเดิมมาก การปลูกเรือนนิยมหันหน้าเรือนออกสู่ถนน วัฒนธรรมทางสหธรรม ไทโย้ยยึดมั่นในระบบผัวเดียวเมียเดียว ไม่นิยมจดทะเบียนเนื่องจากไม่เห็นความสำคัญ บิดามารดามีหน้าที่เลี้ยงดูและสั่งสอนบุตรธิดา การแต่งงานสามารถแต่งกับคนในกลุ่มหรือนอกกลุ่มก็ได้ไม่มีการห้าม ไทโย้ยมีเจ้าโคตรของแต่ละตระกูลเป็นผู้ควบคุมพฤติกรรมของคนในกลุ่มของตน ส่วนในด้านการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมพบว่า วัฒนธรรมหลักของประเทศได้เข้าไปมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมดั้งเดิมมากขึ้น ตามแนวคิดทฤษฎีการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรม เช่น การเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นของคนในชาติโดยการจัดการศึกษาแก่เยาวชนในท้องถิ่น |
|
Focus |
ศึกษาลักษณะวัฒนธรรมของไทโย้ยบ้านอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ในแง่คติธรรม เนติธรรม วัตถุธรรมและสหธรรม ตลอดจนการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรม |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไทโย้ยพูดภาษาไทโย้ยเฉพาะในกลุ่มของตนแต่เมื่อสื่อสารกับคนนอกกลุ่มจะใช้สำเนียงไทยลาวหรือไทยกลาง (หน้า 26) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ไทโย้ยบ้านอากาศ โย้ย หมายถึง คนไทกลุ่มหนึ่งซึ่งอพยพมาจากทางซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในภาคอีสานบริเวณอำเภอวานรนิวาสและอำเภออากาศอำนวย ไทโย้ยมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับคนไทยต่างเพียงสำเนียงพูดเท่านั้น ไทโย้ยอพยพ จากทางซ้ายของแม่น้ำโขงเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้งโดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งที่ยกกองทัพเข้าตีเมืองเวียงจันทน์และหัวเมืองบริวารเมื่อ พ.ศ. 2321 กองทัพไทยได้กวาดต้อนผู้คนจำนวนมากมาตั้งบ้านเรือนในเมืองต่างๆ เช่นกรุงธนบุรี หลัง พ.ศ. 2380 ท้าวศรีสุราช ท้าวจันทนาม ท้าวนามโคตร พร้อมไพร่พลจำนวนกว่าสองพันเศษอพยพข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาในประเทศไทยเพื่อหาที่ตั้งบ้านเรือนทำกิน โดยเลือกแหล่งที่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งน้ำเป็นสำคัญ ในเวลาต่อมาพบว่าลำน้ำยามซึ่งเป็นลำน้ำย่อยของแม่น้ำสงครารมมีความเหมาะสม จึงทำการถางป่าและขุดแหล่ง น้ำเพิ่มแล้วสร้างบ้านเรือนขึ้น เรียกว่า"บ้านม่วงริมน้ำยาม" (หน้า 17-21) เพราะมีลำน้ำยามไหลผ่าน ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านม่วงริมยามเป็นเมืองชื่อ "เมืองอากาศอำนวย" โดยแต่งตั้งท้าวศรีสุราชเป็นผู้ครองเมือง จึงมีฐานะเป็นเมืองขึ้นกับจังหวัดนครพนม ต่อมา พ.ศ. 2428 ได้มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองใหม่ได้ยุบอำเภออากาศอำนวยเป็นตำบลขึ้นอยู่ในเขตของอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ต่อมา พ.ศ.2506 จอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ ได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ขึ้นกับอำเภอวานรนิวาส และต่อมาได้ยกฐานะจากกิ่งอำเภอเป็นอำเภออากาศอำนวยเมื่อ วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2508 จนถึงปัจจุบัน (หน้า 12-13) |
|
Settlement Pattern |
บ้านอากาศจัดว่าเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีแม่น้ำขามไหลผ่าน เป็นหมู่บ้านในเขตสุขาภิบาล (หน้า 16-17) การปลูกเรือนนิยมหันหน้าเรือนออกสู่ถนน สมัยก่อนไม่นิยมทำรั้ว ปัจจุบันนิยมทำรั้วรอบบ้านเพราะป้องกันสัตว์เลี้ยงกินพืชผักสวนครัวในบ้าน เพื่อกั้นขอบเขตและป้องกันการลักขโมย เดิมรั้วทำด้วยไม้ไผ่เป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันนิยมแต่รั้วที่ทำด้วยคอนกรีตและลวดหนาม บ้านแบบเก่ามีลักษณะใต้ถุนสูง หลังคาสามเหลี่ยมหน้าจั่วมีน้อย ส่วนแบบที่สร้างใหม่มีทั้งแบบที่สร้างด้วยไม้และก่ออิฐถือปูนชั้นล่าง บ้านโดยมากมี 1-2 ห้องนอน ห้องที่สำคัญคือ ห้องพระ ห้องนอนและห้องลูกสาว (หน้า 37, 40-41) |
|
Demography |
อำเภออากาศอำนวยมีประชากรทั้งสิ้น 55,398 คน ความหนาแน่นโดยเฉลี่ย 84.7 คนต่อตารางกิโลเมตร บ้านอากาศ มีประชากร 9,066 คนจำแนกเป็นชาย 4,242 คน หญิง 4,824 คน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทโย้ยทั้งสิ้น (หน้า 15-16) บ้านม่วงริมน้ำยามเมื่อแรกตั้งเมืองมีประชากรทั้งหมด 2,339 คน มีพระสงฆ์ สามเณร คนชราและคนพิการ 109 คน ท้าวเพีย 109 คน ฉกรรจ์ 240 คน (หน้า 22) |
|
Economy |
อาชีพหลักของไทโย้ย คือ การทำนา ส่วนอาชีพเสริมได้แก่ การหาปลา การจักสาน การทอผ้าและตัดเย็บเสื้อผ้า (หน้า 26) |
|
Social Organization |
ครอบครัวไทโย้ยนิยมแต่งงานผัวเดียวเมียเดียว พ่อบ้านมีหน้าที่รับผิดชอบในครอบครัว แม่บ้านมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องภายในบ้าน โดยทั้งสามีหรือภรรยาจะเป็นผู้อบรมบุตรธิดาในเรื่องต่างๆ (หน้า 35-36) ไทโย้ยในวัยเด็กจะได้รับการอบรมสั่งสอนให้รู้จักช่วยครอบครัว เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะได้รับการฝึกอาชีพจากหัวหน้าครอบครัว เมื่อมีครอบครัวก็จะทำอาชีพเช่นเดียวกับที่บรรพบุรุษของตนเคยปฏิบัติ (หน้า 49) |
|
Political Organization |
อำเภออากาศอำนวยแบ่งการปกครองออกเป็น 8 ตำบล 68 หมู่บ้าน มีสุขาภิบาล 1 แห่งคือ สุขาภิบาลอากาศอำนวย ส่วนบ้านอากาศ เป็นหมู่บ้านหนึ่งในเขตสุขาภิบาลตำบลอากาศอำนวย ประกอบด้วย 11 หมู่บ้าน มี 2,030 ครัวเรือน (หน้า 15-16) |
|
Belief System |
ประเพณีที่สำคัญของชนกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงคือ พิธีลอยเรือไฟ (หน้า 20) ไทโย้ยนับถือพุทธศาสนาตามบรรพบุรุษควบคู่กับการนับถือผี ผีที่ไทโย้ยนับถือได้แก่ ผีบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นผีประจำตระกูล ผีเรือน เป็นผีประจำครอบครัว ผีปู่ตา เป็นผีประจำหมู่บ้าน และผีตาแฮก ซึ่งเป็นผีที่ดูแลไร่นาไม่ให้เสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ จะต้องมีการเซ่นสรวงหรือทำพิธีเลี้ยงผีเหล่านี้เสมอ ไทโย้ยยึดฮีตสิบสองเป็นประเพณีเช่นเดียวกับคนไทยอีสาน ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับชีวิต เริ่มจากประเพณีการเกิด จะมีการผูกแขน การบวชจะมีการทำขวัญ การแต่งงานจะมีพิธีบายศรีและการตายจะมีการสวดทำบุญอุทิศส่วนกุศล ประเพณีโดยมากทำ เพื่อความสบายใจและเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต ไทโย้ยมีความเชื่อเรื่องขวัญ เชื่อว่าถ้าขวัญอยู่กับตัวย่อมทำให้ปราศจาก โรคภัย ส่วนการทำขวัญจะนิยมทำเมื่อเกิดเหตุร้าย เช่น ได้รับอุบัติเหตุต่างๆ การสะเดาะเคราะห์ เป็นความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์จัดพิธี ในกรณีที่เจ็บป่วย มีลางร้ายหรือฝันร้ายนอกจากความเชื่อดังกล่าวแล้วไทโย้ยยังมีความเชื่อในเรื่องฤกษ์ยามอีกด้วย (หน้า29,32) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
ไม่ปรากฏชัดเจน กล่าวเพียงว่า มีการสะเดาะเคราะห์ในกรณีที่เจ็บป่วยหรือมีลางร้ายและนิยมทำพิธีเรียกขวัญในกรณีเมื่อเกิดเหตุร้าย เช่น ได้รับอุบัติเหตุต่างๆ (หน้า 32) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
ไทโย้ยสมัยโบราณแต่งกายด้วยเสื้อผ้าฝ้ายย้อมครามทอมือ เย็บมือ สีกรมท่าเข้มออกดำ เสื้อแขนทรงกระบอก กางเกงขาทรงกระบอก มีผ้าขาวม้าผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมผูกเอว ส่วนผู้หญิงใส่เสื้อแขนทรงกระบอก นุ่งผ้าถุงมัดหมี่มีหัวซิ่นและตีนซิ่น มีผ้าสไบลวดลายต่างๆ พาดไหล่ สามารถแต่งได้ทุกเวลา - เด็กหญิง จะสวมเสื้อคอกลม มีจีบรูดถี่ๆ สวมหัว ไม่มีแขนตัดด้วยผ้าฝ้าย นุ่งซิ่น ต่างๆ (ผ้าถุง) ทรงผมนิยมตัดสั้นแค่ใบหู - หญิงสาว ขณะอยู่บ้านจะสวมเสื้อต่องผ่าหน้าติดกระดุมหรือผ้าเคียนอกซึ่งเป็นผ้าขาวม้าฝ้ายย้อมคราม เมื่อไปทำบุญที่วัดจะใส่เสื้อแขนกระบอกบางครั้งจะห่มผ้าเบี่ยงทับตัวเสื้อ นุ่งซิ่นต่ง แบบเหน็บชายพก ไม่คาดเข็มขัด นิยมไว้ผมทรงซิงเกิ้ล ทรงดอกกระทุ่ม ทรงบ๊อบ และผมยาวเกล้ามวยสูงก็มี - สำหรับหญิงที่แต่งงานมีบุตรแล้วนิยมเปลือยอก ส่วนหญิงที่มีฐานะจะสวมเสื้อทับเสื้ออ้องอีกชั้นหนึ่ง หญิงมีอายุ สวมเสื้อต่อง หรือเสื้ออ้อง บางครั้งใช้เพียงผ้าขาวม้ามาห่มพาดเบี่ยงพาดอก นุ่งซิ่นหมี่ลาดหรือหมี่คั่น ไว้ผมทรง ซิงเกิ้ลและผมยาวเกล้ามวยสูง - เด็กชาย เดิมไม่ค่อยให้สวมเสื้อเมื่อไปโรงเรียงจึงจะสวมเสื้อ นุ่งซ่งหรือกางเกง ผมตัดสั้น - ชายหนุ่ม โดยทั่วไปไม่นิยมสวมเสื้อยกเว้นตอนไปงานทำบุญจะสวมเสื้อคอกลมผ่าหน้าแขนสั้น แต่เดิมนุ่งผ้าขาวม้าแบบนุ่งผ้าเตี่ยวเมื่ออกทำงานจะนุ่งผ้าโสร่ง เมื่อไปทำบุญหรืองานเทศกาลจะมีผ้าขาวม้าพาดไหล่ ระยะต่อมานิยมสวมกางเกงที่เรียกว่า ซ่งอุดร (ทรงอุดร) เป็นกางเกงขาสั้นคล้ายกางเกงนักเรียน และยังมีกางเกงอีกประเภทหนึ่งเป็นกางเกงขาสั้นหูรูด เรียกว่าทรงหูฮูด ภายหลังใช้เป็นกางเกงชั้นในต่อมามีกางเกงทรงฮั่งหรือกางเกงขาก๊วย ทรงผมไว้ทรงปีก (หวีผมแสกกลาง) - ส่วนชายมีอายุ ถ้าอยู่บ้านจะนุ่งผ้าขาวม้าหรือนุ่งซ่งหูรูดไม่สวมเสื้อยกเว้นไปวัด ไปงานบุญจะแต่งกายเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ แต่ปัจจุบันจะแต่งเฉพาะในเทศกาลเท่านั้น ในชีวิตประจำวันจะแต่งชุดธรรมดาเหมือนคนกลุ่มอื่นๆ ถ้าเป็นงานศพจะแต่งกายไว้ทุกข์สีขาว สีดำหรือสีสุภาพ (หน้า 41-44) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
- แม่น้ำยาม เส้นเลือดชีวิตของไทโย้ยบ้านอากาศ (หน้า 82) - อีกมุมหนึ่งของแม่น้ำยาม (หน้า 83) - สิม(โบสถ์)เก่าแต่บูรณะใหม่ที่วัดกลาง (หน้า 84) - ศาลาการเปรียญวัดกลางที่ประดิษฐานพระแก้ว (หน้า 85) - ส่วนหนึ่งของครัวไฟในบ้านไทโย้ย (หน้า 86) - ใต้ถุนบ้านของไทโย้ยเก็บกองฟืนไว้สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง (หน้า 87) - ยามว่างของแม่บ้านไทโย้ย (หน้า 88) - แม่บ้านไทโย้ยกำลังทอผ้า (หน้า 89) - ไทโย้ยร่วมกันทำบุญในงานเทศกาลเข้าพรรษา (หน้า 90) - ไทโย้ยร่วมกันทำบุญในงานเทศกาลบุญกฐิน (หน้า 91) - บายศรีสู่ขวัญงานมงคล (หน้า 92,93) - การแต่งกายของไทโย้ยสูงอายุ (หน้า 95,96,97) - การแต่งกายของไทโย้ยชาย- หญิงอีกลักษณะหนึ่ง (หน้า 98) - แผนที่แสดงเขตการปกครองอำเภออากาศอำนวย (หน้า 100) - แผนที่จังหวัดสกลนคร (หน้า 101) |
|
|